LifestyleLifestyle 119My WorldNumber 119

MY WORLD
Meaningful Destination

บทบาทบรรณาธิการแฟชั่นนิตยสาร Vogue Thailand อันเด่นชัดของ “ปุ๊ก--จงกล พลาฤทธิ์” ทำให้หลายคนอาจคิดว่า เธอชอบท่องเที่ยวไปในหัวเมืองแฟชั่นทั่วโลก แต่แท้จริงแล้วจุดหมายปลายทางของเธอกลับเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบที่ใครคาดไม่ถึง COPENHAGEN, DENMARK “สิ่งที่ประทับใจมากที่สุด คือ วิถีชีวิตของคนในเมืองนี้ที่ต่างจากประเทศอื่นๆ ในยุโรปอย่างมาก คนในโคเปนเฮเกนมีความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสาธารณะสูงมาก ทั้งช่วยกันรักษาความสะอาด การใช้ถนนหนทางต่างๆ ซึ่งแสดงออกมาจนเรารู้สึกได้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือเป็นระเบียบแบบแผนจนเกินไป อีกอย่างหนึ่งคือ เป็นเมืองที่อยู่สบาย เพราะที่นั่นอากาศจะหนาวเกือบทั้งปี เขาเลยออกแบบที่อยู่อาศัยต่างๆ ให้ดูอบอุ่นแล้วก็น่าอยู่ เลยเป็นที่มาของสไตล์การดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ คือเน้นประโยชน์ใช้สอยจริงๆ อย่างงานออกแบบอาคารสวยๆ ผลงานสถาปนิกเก่งๆ ส่วนมากก็จะเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่คนอาศัยอยู่จริงๆ มากกว่าสถานที่ราชการ หรือสำนักงานใหญ่โต รวมถึงพวกเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ด้วย จำได้ว่าตอนที่ไปนั้นเป็นช่วงหน้าร้อนพอดี คนในเมืองก็จะออกมารับบรรยากาศนี้เต็มที่ คือทุกคนจะปั่นจักรยานเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะรวยหรือจน ปั่นไปทำงานบ้าง ปั่นไปส่งลูกที่โรงเรียนบ้าง พอวันหยุดก็จะออกมาปิกนิกกันในสวน หรือไปพิพิธภัณฑ์ สังเกตได้ว่าพิพิธภัณฑ์ในเดนมาร์กจะไม่ใช่ที่ดูงานอาร์ตหรือหาความรู้อย่างเดียว แต่ยังเป็นพื้นที่สาธารณะให้คนได้มาพักผ่อนแล้วก็ทำกิจกรรมร่วมกันด้วย อีกอย่างคือ อาหารอร่อย เมื่อสิบปีที่แล้วไม่มีวัฒนธรรมอาหารแบบนี้นะคะ คือยังเป็นแค่แซนด์วิชหน้าต่างๆ ให้กินอยู่เลย แต่ตอนนี้ร้านอาหารของคนรุ่นใหม่เปิดกันเยอะมาก เพื่อนำเสนออาหารการกินที่ดีกับคนในชุมชน ทั้งอร่อย สร้างสรรค์ แล้วบรรยากาศก็ชิลล์ๆ ดีด้วยค่ะ" INLE LAKE, MYANMAR “ปุ๊กไม่เคยคาดหวังหรือนึกว่าพม่าจะเป็นยังไง เพราะไม่เคยไปหรือหาข้อมูลมาก่อน แต่กลับกลายเป็นว่า ทริปพม่าครั้งนี้ประทับใจมาก คนพม่ายังใสบริสุทธิ์อยู่มาก เขานับถือศาสนาพุทธได้เคร่งครัด ด้วยจิตใจ ด้วยศรัทธาความรู้สึก ไม่ใช่ด้วยรูปหรือวัตถุนิยมใดๆ ตอนไปเที่ยวย่างกุ้งก็เห็นคนเข้าวัดไหว้พระกันอย่างจริงจัง แล้วก็สงบนอบน้อม พอไปอินเลก็ใช้รถไฟไป ไม่ได้สะดวกสบายมาก แต่เราก็ได้รับน้ำจิตน้ำใจ ความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง พอไปถึงอินเลก็จะเห็นวิถีการใช้ชีวิตในทะเลสาบ ที่เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ประดิษฐ์หรือเซ็ตขึ้นมา บ้านก็อยู่ในน้ำ ชาวประมงก็จับปลาจริงๆ เหมือนภาพที่เคยเห็นในโปสการ์ด ตอนที่ไปนั้นเป็นช่วงปีใหม่ อากาศดีมาก ท้องฟ้าใส ลมเย็น วันๆ เราไม่ต้องทำอะไร นั่งเรือดูผู้คนไปเรื่อยๆ คือบริสุทธิ์มาก แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวอยู่เลย จนเรารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของที่ตรงนั้นโดยไม่แปลกแยก” BUDAPEST, HUNGARY “ที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวแต่ไม่เหมือนเมืองท่องเที่ยว คือที่นี่ไม่ได้มีจุดท่องเที่ยวใหญ่ๆ ให้คนมารุมดูกัน บูดาเปสต์มีอายุเป็นพันปีแล้ว อารยธรรมต่างๆ เลยผสมกันหลายอย่างมาก ทั้งโรมัน เตอร์กิช ยูโรเปี้ยน ตัวเมืองก็ไม่ใหญ่มาก นั่งรถแผล็บเดียวก็ทั่ว ตรงกลางเมืองมีแม่น้ำดานูบไหลผ่าน ซึ่งทำให้สองฝั่งแม่น้ำมีอารมณ์ที่ต่างกัน ฟากหนึ่งเต็มไปด้วยเนินเขา มีปราสาทเก่าอายุหลายร้อยปี มีถ้ำ มีอะไรโบราณต่างๆ แต่พอข้ามแม่น้ำมาปุ๊บก็จะมีความเป็นเมืองมากขึ้น มีชีวิตชีวา มีสถานที่ราชการ มีโอเปราเฮาส์หลายที่ ให้คนได้ชมการแสดง ตอนนั้นมีโอกาสได้เข้าไปดูโอเปราด้วย อีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ คือที่อาบน้ำสาธารณะ มีทั้งแบบรวม แบบแยก แบบกลางแจ้ง หรือแบบในอาคารโบราณก็มี เป็นวัฒนธรรมการอาบน้ำแบบโรมันแล้วก็กรีกโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ เมืองอื่นอย่างในอิตาลีเองก็แทบจะไม่มีแล้ว เวลาเข้าไปแช่น้ำ นอกจากจะรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นการใช้ชีวิตร่วมกับคนท้องถิ่นจริงๆ ด้วย”
Editor
8 January 2018
DestinationLifestyleLifestyle 116Number 116POWER Mag

Destination: Down To The Amazon River

TWILIGHT SKY ท้องฟ้ายามพลบค่ำของแม่น้ำแอมะซอนสวยงามเป็นที่เลื่องลือ ท้องฟ้าจะเป็นสีชมพูและเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสีแดงปนแสงสีทอง สุดท้ายอาบไปทั่วทั่งผืนฟ้าและแผ่นน้ำ ในภาพนี้จึงดูเหมือนเรืออาเรีย แอมะซอนกำลังล่องอยู่ในอวกาศ DOWN TO THE AMAZON RIVER การได้ล่องเรือไปตามแม่น้ำแอมะซอน อาจจะเป็นความฝันครั้งหนึ่งในชีวิตของใครหลายๆ คน STORY & PHOTOGRAPHY SETHAPONG PAWWATTANA ริมฝั่งแม่น้ำแอมะซอนไม่ได้มีแต่สีเขียวของต้นไม้ แต่มีสีสันจากนกนานาชนิด ดอกไม้ป่า และสัตว์ป่าทั้งหลาย ซึ่งจะมาหาอาหารริมแม่น้ำ แม้แอมะซอนจะไม่ได้ครองอันดับหนึ่งในการเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งอันดับหนึ่งนั้นเป็นของแม่น้ำไนล์ แต่ถ้ารวมแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขาเข้าด้วยกันแล้ว แม่น้ำแอมะซอนจะมีความยาวที่โอบพันโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตรได้ถึง 2 รอบ และที่แน่ๆ ลุ่มน้ำแอมะซอนที่ไหลผ่านประเทศต่างๆ ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นป่าดงดิบที่เป็นเสมือนปอดของโลก คนที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำแอมะซอน ใช้แม่น้ำเป็นเส้นทางสัญจรเหมือนเราใช้ถนน การเดินทางโดยเรือล่องไปตามแม่น้ำสู่เมืองต่างๆ คือประสบการณ์ที่นักเดินทางที่มีจิตวิญญาณของนักผจญภัยต้องการมีประสบการณ์สักครั้ง การได้เห็นสัตว์ป่า ฝูงนกนานาชนิด และงูยักษ์อนาคอนด้า เร้าจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย COLOURS OF AMAZON 1. แม้บางครั้งไม่เห็นตัว แต่เราจะได้ยินเสียงนกแก้วมาคอว์ร้องเซ็งแซ่อยู่ในป่าริมแม่น้ำ 2.ดาดฟ้าเรืออาเรีย แอมะซอนที่ทำเป็นห้องนั่งเล่น มีบาร์เครื่องดื่มอยู่ด้านหนึ่ง กระจกใสโดยรอบทำให้เราเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำอย่างอิ่มตา 3. เฮลิโคเนียที่ขึ้นอยู่เกลื่อนในป่า มีฝูงมดตอมหาน้ำหวานเสมอ4.ความชุ่มเขียวริมแม่น้ำ ยามฤดูน้ำหลาก น้ำจะท่วมสูงขึ้นไปถึงหนึ่งในสามของต้นไม้ใหญ่ที่เห็น 5. คุ้งน้ำนี้มีโลมาสีชมพูที่ขึ้นชื่อของแอมะซอน ซึ่งไม่ขี้เล่นเหมือนโลมาในทะเล แต่ก็โผล่มาหายใจให้เห็นตัวเป็นระยะๆ 6. ลำตัวของปลาปิรันยามีสีสวยจนไม่ชวนให้คิดว่านี่คือเพชฌฆาตแห่งลุ่มน้ำแอมะซอน CLOSE TO NATURE 7. ลิงคาปูชินตัวเล็กๆ หางยาว ซุกซน อยากรู้อยากเห็น ชอบมาเกาะตามพุ่มไม้ริมแม่น้ำดูเรือที่ผ่านไปมา 8. ท้องฟ้ายามรุ่งอรุณของแม่น้ำแอมะซอนที่คล้ายยามพลบค่ำ แต่ไม่เป็นสีแดงเข้มเหมือนในยามพลบค่ำ WIDE WILD SCENARIO 9. เรืออาเรีย แอมะซอนที่ออกแบบให้คนโดยสารสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำได้เต็มตา ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเรือ GOLDEN SUNSET 10. แดดสีทองยามเย็นสาดไปทั่วห้องนั่งเล่นของเรือ ในภาพนี้จะมองเห็นบางช่วงของแม่น้ำที่เวิ้งว้างกว้างไกลเหมือนทะเลที่มองไม่เห็นฝั่งแต่สิ่งที่คิดไว้จากการได้รับชมรายการสารคดีทางโทรทัศน์ กับสิ่งที่เป็นจริงนั้นแตกต่างกันมาก การเดินทางด้วยเรือโดยสารไปตามลำน้ำแอมะซอน ไม่ว่าจะจากเมืองใด ส่วนใหญ่จะเป็นเรือ 3 ชั้น ที่ไม่มีห้องพักแยกต่างหากสำหรับคนโดยสาร เรือบางลำอาจจะมีแต่ก็ไม่มาก คนโดยสารจะต้องมีเปลญวนของตัวเอง ไปรอที่ท่าเรือ 5-8 ชั่วโมงก่อนเรือออก เพื่อรอว่าเมื่อใดที่อนุญาตให้คนโดยสารขึ้นเรือได้ จะได้ไปจองที่แขวนเปล ที่จะกลายเป็นทั้งที่นั่งและที่นอนตลอดการเดินทาง 3-5 วัน ซึ่งจะมีคนมาแขวนเปลข้างๆ เรียงกันแน่นขนัดบนเรืออาจจะมีบริการน้ำและอาหาร แต่ควรมีผลไม้อย่างกล้วย หรือของขบเคี้ยวให้พลังงาน รวมทั้งน้ำติดตัวไปเอง ถ้าเรือแวะตามท่าต่างๆ อาจหาซื้ออาหารได้แต่ก็อาจจะไม่ตรงเวลามื้ออาหาร พื้นที่บนดาดฟ้าเรือ คือลานอเนกประสงค์ที่จะมีเสียงเพลงเปิดดังลั่นเสมอ เรือบางลำอาจจะฝากของในห้องเก็บสัมภาระสำคัญกับกัปตันได้ แต่จะเจอสัมภาระนี้อีกครั้งก็ต่อเมื่อถึงปลายทางแล้วเท่านั้นทุกวันที่รอนแรมไปตามสายน้ำแอมะซอน เราจะได้ยินเสียงฝูงนกในป่าริมแม่น้ำ แต่ยากที่จะเห็นสัตว์ป่าใดๆ เห็นแต่ริมฝั่งน้ำที่ดูเผินๆ ก็เหมือนแม่น้ำในบ้านเรา ช่วงที่ไม่มีเมืองหรือหมู่บ้านนั่นเอง หลายคนจะกลับจากทริปล่องแม่น้ำแอมะซอนด้วยเรือโดยสารที่แวะไปตามท่าต่างๆ เพื่อรับส่งสินค้าและคนโดยสาร นักเดินทางจะเห็นแต่ทิวทัศน์เดิมๆ ซ้ำๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นดังนั้น การจะล่องแม่น้ำแอมะซอนเพื่อการผจญภัย จึงไม่ใช่การใช้เรือโดยสารที่ล่องไปตามแม่น้ำที่คนท้องถิ่น ใช้เดินทางเชื่อมโยงเมืองต่างๆ แต่ควรไปกับทัวร์ ที่จัดล่องแม่น้ำแอมะซอนด้วยเรือที่จัดขึ้นมาโดยเฉพาะ ความหรูหราสะดวกสบายนั้นไม่ได้ทำให้การผจญภัยของคุณลดน้อยลง แต่จะทำให้คุณได้เก็บความประทับใจต่างๆ ไว้มากขึ้นผู้เขียนมีโอกาสล่องแม่น้ำแอมะซอนด้วยเรืออาเรีย แอมะซอน (Aria Amazon) โดย Aqua Expeditions โดยล่องไปในแม่น้ำแอมะซอนของประเทศเปรู ลัดเลาะไปตามแม่น้ำสาขาต่างๆ อย่างอูคายาลี (Ucayali) และมาราน็อง (Marañón) แล้วก็วกเข้าแม่น้ำแอมะซอนอีกมีจุดเริ่มต้นที่เมืองอิกีโตส (Iquitos) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของพื้นที่ป่าแอมะซอนของเปรู คำว่าเมืองใหญ่นี้หมายถึงในเมืองนั้นมีจำนวนพลเมืองมาก ไม่ใช่ตึกสูงๆ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ต่างๆ บนคบไม้สูงๆ เราจะเห็นสับปะรดสี (Bromeliad) ดอกสวยแปลก อันเป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดที่นี่ ถ้าเป็นการเดินทางจากประเทศไทย จะใช้เส้นทางบินใดก็ได้ แต่ให้ไปเริ่มต้นที่ประเทศเปรู ต่อเครื่องด้วยสายการบินในประเทศไปยังอิกีโตส ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 20 นาทีก็ถึง ระหว่างอยู่บนเครื่อง สังเกตเห็นทิวทัศน์ด้านล่างเป็นเทือกเขาที่แห้งแล้ง แต่ก็มีสัญญานของชุมชนอยู่เป็นหย่อมๆ ตรงบริเวณที่มีทะเลสาบบนเขาสูง ฉับพลันเราก็เข้าสู่พื้นที่สีเขียวเข้มของผืนป่าดงดิบ มีเส้นสีเงินเหลือบดำพาดพันเสมือนงูตัวใหญ่ที่มีแม่น้ำสาขาแยกย่อยไปมากมาย นี่เองคือแม่น้ำแอมะซอนที่เราจะได้สัมผัส มีรายงานว่า แต่ละวันพื้นที่ของผืนป่าแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้แหว่งหายไปด้วยการตัดไม้ทำลายป่าถึง 5 สนามฟุตบอลต่อวัน แต่เราก็ยังเห็นสีเขียวเข้ม ของป่าดงดิบสุดลูกหูลูกตา…
Editor
25 December 2017
LifestyleLifestyle 116Number 116POWER Mag

Remarkable Journey: Architectural Love

ARCHITECTURAL LOVE STORY CHALISA VIRAVAN ทุกเมืองบนโลกต่างก็มีศิลปะและสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แต่สำหรับหนุ่มๆ เซเลบริตี้สายเลือดไทยแล้ว แต่ละคนจะประทับใจที่เมืองไหนเป็นพิเศษกันบ้าง ตามไปชมกัน พงษ์มนัส สวัสดิชัย ผมชอบเมืองปารีสตรงแม่น้ำแซน เพราะรอบๆ นั้นมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย พร้อมๆ กับได้มองเห็นผู้คนในสมัยใหม่ กลายเป็นวิถีชีวิตที่ ดูคอนทราสต์และน่าทึ่ง เพราะมีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเก่าและใหม่ ไม่ไกลจากแม่น้ำแซนก็มีมหาวิหารน็อทร์-ดามและพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ซึ่งเป็นแหล่งของ “สถาปัตยกรรมซ้อนสถาปัตยกรรม” อย่างเมื่อ 2 ปีก่อนมีแฟชั่นโชว์ของ Dior มาตั้งกลางพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เขาสร้างเป็นอาคารเทียมขึ้นมาเลยโดยเฉพาะ เหมือนเป็นการสร้างสิ่งใหม่ในสิ่งเก่าที่มีอยู่แล้วและสะท้อนวัฒนธรรมกันไปมา พิพิธภัณฑ์นี้นอกจากสถาปัตยกรรมจะงดงามแล้ว ก็เป็นสถานที่สำคัญที่เมื่อมีศิลปะกระเด็นเข้าไปเมื่อไหร่ มันจะสามารถแสดงตัวตนออกมาได้เลยอย่างชัดเจน คณาพจน์ อุ่นศร ต้องลอนดอนครับ โดยเฉพาะบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเก่าแก่ผสมผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัวในเมืองๆ เดียว บริเวณที่เราชอบสถาปัตยกรรมมากที่สุดก็คือตรง Westminster Bridge ไม่ไกลจาก London Eye เป็นที่ๆ ทำให้รู้สึกว่านี่คือเมืองเก่าที่ยังมีชีวิตชีวา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ยังอยู่ในเมืองเก่า ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ ถ้าได้ไปลอนดอนอีกครั้ง ก็จะแวะไปที่ Westminster Bridge อีกแน่นอน เพราะที่นี่ยังมีอะไรรอให้เราไปค้นพบอีกมากมาย กฤษณ์ มนูญศิริกุล ตั้งแต่เดินทางมา ชอบอัมสเตอร์ดัมที่สุด เพราะทุกครั้งที่ไปจะรู้สึกว่าที่นี่มีบรรยากาศน่ารักมาก โดยเฉพาะตรงบ้านทรงสูงของคนที่นั่น เขาจะอยู่ติดกับคลองเลย แล้วแต่ละหลังจะมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ทำให้นึกถึงวินโดว์ดิสเพลย์ (หัวเราะ) ซึ่งบางครั้งเวลาเดินผ่านก็สามารถมองทะลุเข้าไปเห็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือคนในบ้านได้ กลายเป็นได้ปฏิสัมพันธ์แบบใหม่ที่ไม่ได้พบเจอกันง่ายๆ ถึงผมจะเป็นคนที่ได้ไปต่างประเทศบ่อย และรักการท่องเที่ยวในที่ใหม่ๆ แต่ที่นี่ก็ยังทำให้ผมอยากกลับไปอีกครั้งได้เสมอ ภาณุพงษ์ ภักดีล้น อิตาลีคือคำตอบ เพราะที่นี่เป็นเหมือนศูนย์รวบรวมแหล่งศิลปะและการออกแบบระดับโลก อาคารที่ชอบที่สุดคือ Florence Baptistery ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา ที่นี่มีลายเส้นและกลิ่นอายด้านสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ที่ทำให้เรานึกถึง Fornasetti แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติอิตาลีที่ผมชอบมากๆ ถึงเอกลักษณ์จะเป็นความเซอร์เรียล แต่พวกลายเส้นและดีเทลกลับมีความคล้ายคลึงกับการตกแต่งของอาคารนี้ ถ้าใครเคยเห็นเครื่องเซรามิกของ Fornasetti จะรู้ว่าเขาทำลายอาคารที่หน้าตาคล้ายๆ Florence Baptistery นี้ด้วย ทำให้ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ ชัย เจียมกิตติกุล ผมชอบเมืองอัมสเตอร์ดัม โดยเฉพาะตรงโบสถ์กลางเมืองอย่าง The Old Church หรือ Oude Kerk มองข้างนอกที่นี่ก็ไม่ได้ดูพิเศษอะไร แต่พอเข้าไปข้างในจะได้กลิ่นอายโบราณ เพราะที่นี่เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในอัมสเตอร์ดัม ใช้เป็นที่ฝังศพคนมีชื่อเสียงของประเทศ และสร้างได้ประมาณ 800 ปีแล้ว โครงสร้างเพดานและฝ้าแทบทั้งหมดของที่นี่จะแกะสลักบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความตาย ทำให้ยิ่งรู้สึกดิบและขลังเข้าไปใหญ่ บรรยากาศจึงต่างจากโบสถ์อื่นๆ ในยุโรป ถึงจะไม่ได้สวยหมดจด แต่ก็ดิบและมีความงดงามที่พื้นผิวการตกแต่ง ถ้าได้กลับไปอีกครั้ง อยากจะแวะไปนั่งพักผ่อนที่คาเฟ่ข้างโบสถ์ เป็นมุมสงบเล็กๆ ที่น่านั่งจนอยากบอกต่อ ปนุ สมบัติยานุชิต ของผมเป็นที่เมืองไจเปอร์ ประเทศอินเดีย ไม่ว่าจะตึกรามบ้านช่อง สีสันส่าหรีของผู้คน หรือบรรยากาศ ต่างก็ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์และความลึกลับ แตกต่างจากเมืองอื่นๆ อย่างนิวยอร์กหรือโรม ที่เวลาดูในภาพถ่ายกับตอนที่ได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรกันมาก แต่ถ้าเป็นไจเปอร์ ที่นี่ทำให้เรารู้สึกขลัง เหมือนมีมนตราอะไรบางอย่างที่ทำให้มีเสน่ห์มากกว่าในภาพถ่ายหลายเท่า อีกไม่นานคงได้กลับไปอีกครั้ง และคราวนี้จะกลับไปค้นหา “ความเป็นไจเปอร์” ให้ลึกซึ้งกว่าเดิม ศุภกาญจน์ ปลอดภัย สำหรับผมแล้วไม่ได้ชอบแค่ที่ใดที่หนึ่งมากที่สุด อย่างหลายๆ จังหวัดในประเทศไทยผมก็ชอบ เพราะมีสถาปัตยกรรมที่หลากหลายรูปแบบมากๆ ส่วนต่างประเทศที่ชอบ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นฝั่งยุโรป ซึ่งแต่ละประเทศก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว อย่างที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ผมประทับใจ Red Light…
Editor
25 December 2017
LifestyleLifestyle 116My WorldNumber 116POWER Mag

MY WORLD
Sentimental Memory

SENTIMENTAL MEMORY หลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นผลงานแฟชั่นสวยๆ ของ “เบียร์--สุดเขต จิ้วพานิช” ใน Vogue Thailand ที่เขาขึ้นชื่อเรื่องการถ่าย Portrait ที่ดึงเอาอารมณ์ของแบบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง PHOTOGRAPHY:  SOOTKET JIWPANIT STORY:  CHALISA VIRAVAN “ผมชอบถ่ายภาพคนมากกว่าวิว ถึงถ่ายวิวก็ยังต้องมีคนอยู่ในนั้นอยู่ดี” เขาเล่าอย่างอารมณ์ดี ในโลกส่วนตัวของเบียร์ เขามีภาพถ่ายที่ Snap ไว้มากมาย และวันนี้เบียร์ได้นำภาพที่มีความหมายน่ารักๆ กับเขา มาบอกเล่าเรื่องราวข้างหลังภาพในเราฟัง PARIS “ปารีสเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติก และผมก็รู้สึกถึงมันได้ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ตอนนั้นเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับผม เวลาเห็นคู่รักชายหญิงแสดงความรักอย่างการจูบกันในที่สาธารณะ ยุคนั้นผมชอบพกกล้องฟิล์มติดตัวไปด้วย เลยถ่ายภาพนี้เก็บไว้เพราะประทับใจกับการแสดงออกอย่างเปิดเผยของชาวปารีเซียง ในวันเดียวกัน ผมได้เดินเตร็ดเตร่มานั่งพักในสวนแถว Le Marais และได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังพยายามกล่อมลูกให้นอนด้วยการฮัมเพลงเบาๆ ผมเดินผ่านและสัมผัสได้ถึงความรักที่เขามีต่อลูก เลยแอบเก็บภาพของพวกเขา รวมไปถึงคู่รักคุณลุงและคุณป้า ทั้งสองคนนั่งคุยกันอยู่นานพักใหญ่ จนคุณป้าลุกขึ้นและกำลังจะเดินไป ส่วนคุณลุงนั้นพยายามจะลุกตาม แต่ช้ากว่าป้า ผมเลยได้ภาพที่ทำให้ผมนึกถึงตัวเองตอนแก่ ว่าผมคงจะช้ากว่าคู่ชีวิตผมและคงเดินตามเธอไม่ทัน (หัวเราะ) ผมชอบหยุดดูคู่ผู้สูงอายุที่ยังดูแลกันและกัน มันให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งและแสดงถึงความรักที่ยาวนานมั่นคง มันซาบซึ้งทุกครั้งเวลาผมเห็นพวกเขาจูงมือกัน เวลาทำงานผมมักจะต้องถ่ายภาพให้ออกมาในแง่ของแฟชั่น ฉะนั้นเวลาว่างผมเลยชอบหยุดดูช่วงเวลาเหล่านี้ มันเรียบง่ายและจริงใจดี” GUANAJUATO “ผมได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวประเทศเม็กซิโก และแวะไปที่ Museo Soumaya เป็นมิวเซียมที่แสดงผลงานของ Salvador Dali ไว้เยอะมาก ซึ่งเป็นศิลปินที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคนหนึ่ง ระหว่างที่ผมกำลังเดินอยู่นั้น สายตามาสะดุดกับประติมากรรม 2 ชิ้นนี้ที่ถูกจัดวางโดยชิ้นหนึ่งอยู่ในตู้กระจกดิสเพลย์ ส่วนชิ้นที่ห่างออกไปนั้นอยู่ด้านนอก โดยทั้งคู่ให้อารมณ์ที่เหมือนโหยหาซึ่งกันและกัน ผมไม่ค่อยเห็นผลงานในมิวเซียมถูกจัดวางให้มีอารมณ์ต่อเนื่องกันแบบนี้ ส่วนใหญ่มักจะจบในตัวและมีเรื่องราวต่างๆ กันไป ถึงผมจะจำชื่อผลงาน 2 ชิ้นนี้ไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองชิ้นสร้างความประทับใจจนทุกครั้งที่ผมเห็นภาพนี้ ก็จะนึกถึงอารมณ์โหยหานั้นไม่ลืม มันเป็นโมเมนต์ที่ประทับใจมาก ส่วนอีกภาพที่ผมชอบมากคือ คู่รักชาวเม็กซิกันใส่เสื้อสีแดงเหมือนกันที่ผมเจอในร้านอาหาร เขาทั้งสอง รวมทั้งผม พวกเรา ต่างนั่งกันตรงบริเวณหน้าร้าน พวกเขานั่งคุยกันไม่หยุด ขนาดพนักงานบอกว่าจะเก็บร้านแล้ว แถมมายกโต๊ะออกไปก็แล้ว พวกเขาก็ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ 2 ตัวคุยกันต่อ จนกระทั่งพร้อมใจกันลุกออกไป ให้ความรู้สึกไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นรอบตัว ก็ไม่มีอะไรหยุดความรักของทั้งสองได้” BROOKLYN, NEW YORK CITY “ผมมีความคุ้นเคยกับเมืองนี้ และชอบเสน่ห์ของความเรียบง่ายในบรูคลิน ผู้คนจะมีทัศนคติแบบสบายๆ และมีเอกลักษณ์บางอย่างที่สุดแสนจะอเมริกัน สิ่งที่ผมเห็นบ่อยคือ การที่สุนัขเดินผ่านและเข้าไปดมทักทายกัน ถ้าเป็นเมืองอื่น เจ้าของมักจะยิ้มเบาๆ และเดินผ่านไป หรือไม่ก็ดึงเชือกจูงไม่ให้สุนัขของตัวเองเข้าไปยุ่งกับสุนัขของคนแปลกหน้านานๆ แต่ที่อเมริกา ผมว่าเป็นประเทศที่ทุกคนได้เพื่อนใหม่จากการที่สัตว์เลี้ยงของตัวเองเข้าไปคุยกับตัวอื่น และ 2 คนในภาพนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ผมเห็นสุนัข 2 ตัว ซึ่งน่าจะต่างเพศ ดมกันไปมาจนเจ้าของเริ่มคุยกันนานจนผมเริ่มจินตนาการไปว่า เดี๋ยวคงแลกเบอร์กันแน่ๆ ก่อนแอบเก็บภาพพวกเขาเหมือนอย่างที่เคยชิน”
Editor
25 December 2017
DestinationLifestyleLifestyle 117Number 117POWER Mag

Destination: Family Holiday

GLORIOUS BLUE ในวันฟ้าสดใส ฟูจิซังจะเผยโฉมให้คนเห็นความงามแบบไร้เมฆหมอกมาบดบัง บางคนไปญี่ปุ่นหลายครั้งอาจจะไม่เคยเห็นฟูจิซังเลย เพราะทัศนวิสัยไม่อำนวย จริงๆ ถ้าเราอยู่บนตึกสูงที่โตเกียว ก็มองเห็นฟูจิซังได้ถ้าฟ้าเปิด ซึ่งไม่ค่อยมีบ่อยนัก FAMILY HOLIDAYS คงไม่มีประเทศไหนที่จะตอบโจทย์การท่องเที่ยวแบบครอบครัว ทั้งพ่อแม่พาลูกไปเที่ยว หรือลูกๆ พาพ่อแม่ไปเที่ยว ได้เท่ากับประเทศญี่ปุ่น STORY & PHOTOGRAPHY SETHAPONG PAWWATTANA หลายคนอาจจะเคยไปมาหลายครั้ง แต่จุดหมายที่เราจะแนะนำนี้ เชื่อว่าหลายคนอาจเคยมองข้าม อย่างการพาลูกๆ ไปเที่ยวโตเกียว ทุกคนก็จะต้องนึกถึงโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท ที่มีทั้งดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซี ถ้านอกเหนือจากนี้ล่ะ ซึ่งเรามีมาแนะนำ แล้วคุณจะทึ่งว่า โตเกียวมีอย่างนี้ด้วยหรือ ส่วนจุดหมายที่ลูกๆ จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นด้วยนั้น เป็นการพาไปเที่ยวออนเซ็นหรือแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่จะได้พักผ่อนในรีสอร์ทดีๆ ชมวิวธรรมชาติสวยๆ ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องไปแค่ฤดูร้อนอย่างเดือนสิงหาคม เดือนธันวาคมก็ไปได้ แถมยังได้วิวและบรรยากาศของหิมะที่สวยงามและแปลกตา TRAVEL WITH MY KIDS ทำไมถึงเลือกโตเกียวเป็นจุดหมายของการเดินทางแบบครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ก็เพราะเมืองนี้ได้รับการออกแบบให้อำนวยความสะดวกต่อการใช้รถเข็นเด็ก และการเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะใช้บริการแท็กซี่ที่ราคาอาจจะสูง แต่คุ้มค่าถ้าไปกันหลายคนและมีสัมภาระส่วนตัวของเด็กๆ อย่างรถเข็นและเป้สะพายต่างๆ หรือจะใช้บริการรถไฟใต้ดินก็สะดวกดี เหมาะกับเด็กที่โตหน่อย เพราะจะต้องเดินกันค่อนข้างมากในสถานี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกก้าวของการเดินทาง คือการที่เด็กๆ จะได้เรียนรู้ สำหรับเด็กๆ ถ้าไปโตเกียว อยากแนะนำให้ไปย่าน Ueno ซึ่งมีสวนสาธารณะใหญ่ ในนั้นมีมิวเซียมมากมายหลายแห่ง ทั้งสำหรับผู้รักศิลปะ หรือสำหรับเด็กๆ อย่าง National Museum of Nature and Science (Kahaku) เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ที่มีการจัดแสดงอย่างน่าสนใจมาก ตัวอาคารตั้งอยู่ด้านหลังหอศิลปะตะวันตก ไม่ไกลจากสถานีรถไฟอูเอโนะมากนัก เดินได้สบายๆ ภายในแบ่งการจัดแสดงเป็นส่วนต่างๆ ทั้งส่วนธรรมชาติวิทยา มีโครงกระดูกสัตว์โบราณและสัตว์สตัฟฟ์ให้ได้ชมและศึกษา เด็กๆ จะชอบและพ่อแม่จะได้อธิบายให้ลูกฟังได้ โดยจะเน้นที่เรื่องราวของธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ในญี่ปุ่น ทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยมีโรงภาพยนตร์แบบ 360 องศาให้ได้รับชมกันด้วย เด็กๆ จะตื่นตาตื่นใจกับจอภาพยนตร์นี้ นอกจากนั้นยังมี Global Gallery ที่แยกออกไปเป็นเรื่องของโลก และมีส่วนที่จัดเป็นเครื่องเล่นของเด็กที่อายุ 4-6 ขวบ สอดแทรกอยู่ในนิทรรศการนั้น เด็กจะไม่เบื่อเหมือนการดูงานวิชาการ การพาเด็กๆ ไปเที่ยว อย่ากำหนดว่า วันหนึ่งๆ ต้องเที่ยวไปหลายแห่ง ถ้าที่ไหนที่พวกเขาสนใจและสนุก ก็ให้ใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานๆ จะได้เก็บความทรงจำนั้นไว้ VIBRANT IN ALL SEASONS 1. ช่วงเริ่มฤดูใบไม้ร่วงราวเดือนตุลาคม ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี เป็นช่วงเวลาที่น่าจะพาพ่อแม่ไปเที่ยว 2. รถไฟวินเทจ Kyushu Odan Tokkyu สีแดงสดขบวนนี้วิ่งระหว่างเบปปุและคุมาโมโต้ 3. ทะเลสาบคาวากูจิมีเรือที่ตกแต่งให้เป็นเรือกลไฟวิ่งรับส่งตามจุดต่างๆ4. เมื่อเราไปเที่ยวตามเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่น เราจะเห็นสถาปัตยกรรมและธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน 5. แมวนางกวักตัวนี้ชอบตกปลา เราจะเห็นการนำสัญลักษณ์เกี่ยวกับโชคลางมาปรับโฉมให้แปลกตาตอบโจทย์การใช้สอย 6. แมวจากการปั้นกระดาษทาสี วางประดับเพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาชมบ้านโบราณที่เมืองโอโมริ ในจังหวัดชิมาเนะหลังการชมมิวเซียมแห่งนี้ ถ้ายังไม่เหนื่อย ให้พาเด็กๆ ไปชมสวนสัตว์อูเอโนะที่อยู่ใกล้ๆ กัน ไม่ใช่แค่เด็กๆ ที่จะชอบ ผู้ใหญ่ก็ชอบ เพราะเขาจัดให้สัตว์ต่างๆ อยู่ในภูมิประเทศที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติจริงๆ และไม่ได้กั้นด้วยลูกกรงเหล็ก แต่เป็นกระจกใสแน่นหนา มีทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก รวมถึงแมลง และไฮไลต์ก็คงเป็นแพนด้ายักษ์ที่ชื่อ ริริ และ ชินชิน นั่นเอง ในวันหยุดมีคนมาเที่ยวสวนสัตว์ค่อนข้างมาก อาจจะมีคิวซื้อบัตรเข้าชมค่อนข้างยาว…
Editor
21 December 2017
LifestyleLifestyle 117Number 117POWER Mag

Remarkable Journal: Unconditional Love

UNCONDITIONAL LOVE ในโอกาสวันแม่ เราได้สอบถามคุณแม่ 8 ท่านถึงทริปในฝันที่อยากจะไปกับลูกสุดที่รักสักครั้ง มาดูกันว่าคุณแม่ทั้ง 8 มีจินตนาการและความตั้งใจที่แตกต่างกันอย่างไร STORY CHALISA VIRAVAN วิชชุกร โชคดีทวีอนันต์ ก่อนหน้านี้เพิ่งไปญี่ปุ่นกับลูกมา ซึ่งมีสถานที่แห่งหนึ่งที่ลูกอยากไปมาก คือจิบลิ มิวเซียม (Ghibli Museum) แต่จองไม่ทัน เลยอดไปกัน ซึ่งที่นี่ลูกคนเล็กอยากไปมาก เพราะเขาชอบ Totoro สำหรับเราก็ชื่นชอบที่นี่ เพราะไม่ใช่แค่เป็นที่สำหรับสร้างสรรค์จินตนาการให้กับเด็กๆ เท่านั้น แต่ด้วยการตกแต่งแบบในหนัง บรรยากาศแฟนตาซี อีกทั้งยังมีสาระความรู้จากเบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนแต่ละเรื่อง รวมทั้งกิจกรรมหลายๆ อย่างที่จัดไว้ จึงทำให้ผู้ใหญ่ก็ยังชอบเข้าไป สำหรับเรา ทริปในฝันกับลูกคงเป็นที่นี่ แต่อาจต้องเป็นปีหน้า ปีนี้ขอพาลูกๆ และคุณแม่ไปรับประทานอาหารด้วยกันในกรุงเทพฯ แทน สิรินทร์ พงษารัตน์ ทริปในฝันกับลูกปีนี้คงไปลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านี้เคยไปด้วยกันมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นได้ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ด้วยกันถึง 4-5 แห่ง แล้วทั้งเราและลูกก็ประทับใจ ความจริงแล้วลูกสาวชอบอากาศ สภาพแวดล้อม และพิพิธภัณฑ์ที่มีอยู่มากมายในลอนดอนมาก เลยคิดว่าจะกลับไปเที่ยวชมให้ทั่วด้วยกันอีกครั้ง ไม่แน่อาจมีแพลนให้ลูกสาวไปเรียนต่อที่นั่นด้วย เปรมฤดี พันธุ์รัตน์ ถ้าพูดถึงทริปในฝันที่อยากไปกับลูกๆ แต่ไม่ได้ไปด้วยกันสักที คงเป็นที่มัลดีฟส์ เพราะถ้าอยู่ที่นั่นคงเหมือนติดเกาะ จะได้มี Quality Time ด้วยกัน แถมยังน่าจะได้พักผ่อนเต็มที่ แต่ตอนนี้ลูกอยู่ต่างประเทศ ต่างคนต่างเดินทางอยู่บ่อยๆ ถ้าเมื่อไหร่เขากลับมา คงจะลงไปทางใต้ด้วยกันก่อน อาจไปพักผ่อนด้วยกันในที่ที่ไม่ไกลมาก อย่างภูเก็ต เรากับลูกชอบทำกิจกรรมเอาต์ดอร์ อย่างดำน้ำ ชิมอาหารท้องถิ่น หรือออกไปเดินเล่น เรียกว่าทำได้ทุกกิจกรรม นันทมาลี ภิรมย์ภักดี ตอนนี้ลูกอายุ 11 ขวบแล้ว และเขาเรียกร้องอยากไปดิสนีย์เวิลด์ที่ฟลอริด้ามาก แถมเมื่อปีที่แล้วตอนเราไปประชุมที่นั่น ด้วยบรรยากาศสนุกๆ แบบดิสนีย์ ก็คิดถึงลูกขึ้นมา ทริปวันแม่ในฝันก็คงเป็นที่ดิสนีย์เวิลด์นี่แหละ แต่ปีนี้คงพาไปยูนิเวอร์แซลสตูดิโอที่สิงคโปร์ทดแทนไปก่อน เพราะถ้าจะพาไปอเมริกา ต้องใช้เวลานานจนอาจต้องหยุดเรียนหลายวัน แต่ทริปที่สิงคโปร์ก็แพลนไว้แล้วว่า จะจองห้อง Ocean Suite ที่ Equarius Hotel ซึ่งจากหน้าต่างห้องนอนสามารถมองเห็นฉลามในอะควาเรียมได้เลย ลูกน่าจะประทับใจและตื่นเต้น ดวงมณี ยันตวัฒนา เพิ่งกลับมาจากบาหลี ถ้าพูดถึงทริปในฝันก็คงอยากจะพาลูกไปที่นี่ ไปเล่นเซิร์ฟด้วยกันทั้งครอบครัว แต่ลูกเพิ่ง 2 ขวบเอง คงต้องรออีกนาน แต่ถ้าเป็นทริปที่ไม่ต้องรอนานขนาดนั้น คงพาไปเที่ยวหัวหินใกล้ๆ ก่อน เพราะลูกชอบทะเล ชอบเล่นน้ำ แถมคุณย่าของเขาก็อยู่ที่นั่นด้วย คงพาไปเรียนรู้ขนบธรรมเนียมกับญาติผู้ใหญ่ อีกอย่างคือ ก่อนหน้านี้เคยพาลูกขี่ม้าเล่นๆ แล้วเขาทรงตัวได้ พอดีกับที่หัวหินก็มีโรงเรียนฝึกขี่ม้าอย่าง Hua Hin Horse Club ด้วย คงให้เขาไปหัดเรียนขี่ม้าที่นี่สักครั้ง พิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธ์ุ ปกติแล้วเราเป็นคนชอบไปเที่ยวภูเขา ไม่ได้ชอบทะเลเท่าไหร่ แต่พอมีลูก ก็อยากพาลูกไปทะเล ให้ได้เล่นน้ำสนุกๆ ผ่อนคลาย ทริปในฝันของเราก็เลยเป็นที่เกาะยาวน้อย ตั้งใจจะไปพักที่โรงแรม Cape Kudu ของรุ่นน้อง แล้วไปทำกิจกรรมด้วยกัน อย่างดูปลาดาว แมงกระพรุน และสัตว์น้ำต่างๆ ซึ่งจะทำให้ได้ความรู้ด้วย จริงๆ อยากพาลูกไปโบราโบร่าเหมือนกัน แต่คงลำบาก เพราะไม่มีเส้นทางบินตรง บวกกับต้องใช้เวลาเดินทางนาน คงไปใกล้ๆ แบบนี้ไปก่อน…
Editor
21 December 2017
LifestyleLifestyle 117Number 117POWER Mag

MY WORLD
Tiny Wisdom

ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งจากบันทึกของ “ชาลิสา วีรวรรณ” บอกเล่าถึงประสบการณ์ การเดินรอบเขาไกรลาสในประเทศทิเบต ที่ซึ่งศาสนา 4 ศาสนามีความเชื่อตรงกันว่าเป็นจุดศูนย์กลางแห่งจักรวาล หลายครั้งที่ใครต่อใครมักจะถามฉันว่า ที่ฉันเดินทางไปหลายแห่งหน ซึ่งลำบากลำบนเหลือเกินนั้นทำไปทำไม และฉันก็ต้องคอยตอบว่า ไม่มีเหตุผลอะไรซับซ้อนเลยจริงๆ ที่ทำไปก็เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง แค่นั้นตั้งแต่อายุ 14 ปีที่จากบ้านไปเรียนต่อ การเดินทางเป็นสิ่งที่ฉันคุ้นเคย ประกอบกับการย้ายโรงเรียนบ่อย เลยทำให้ฉันชอบการได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ สังคมมักตั้งข้อสงสัยว่าคนที่ชอบเดินทางไปเมืองแปลกๆ หรือถิ่นทุรกันดาร คงเป็นคนที่ไม่มีความสุขหรือไม่ก็ต้องมีปัญหาบางอย่างในชีวิต นี่อาจเป็นเพราะละครไทยชอบนำเสนอเรื่องราวของพระเอกนางเอกที่หนีปัญหา ปลอมตัวไปอยู่ที่อื่น หรือบางคนก็มองว่าอยู่บ้านสบายๆ อยู่ดีๆ จะไปลำบากเพื่ออะไร ลึกๆ แล้วฉันเป็นคนสุดโต่งชอบความเป็นที่สุด และเขาไกรลาสก็คือดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดในสามโลก ที่ฉันได้ยินมาตั้งแต่สมัยเรียน อย่างเช่น ป่าหิมพานต์ และนางกินรีในวรรณคดีไตรภูมิพระร่วง เมื่อโตขึ้น ฉันก็เริ่มสนใจและศึกษาความเป็นไปในจักรวาลและโลกแห่งจิตวิญญาณ จนฉันอยากเห็นของจริง และรู้ว่าเราสามารถเดินทางไปที่เขาไกรลาสในเทือกเขาหิมาลัยนี้ได้ แต่ประเด็นคือ ใครจะพาไป นั่นสิ ต่อมาฉันได้ยินมาว่า รศ. ดร. กฤษดาวรรณ เมธาวิกุล ผู้ก่อตั้งมูลนิธิพันดารา เคยพาคนไปที่เขาไกรลาส ฉันไม่รู้จักอาจารย์เป็นการส่วนตัว ฉันเลยจะลากเพื่อนอีก 2-3 คนไปด้วย แต่เจ้ากรรมดันไปได้แค่ 1 คนเท่านั้น เลยกลายเป็นว่าฉันต้องเดินทางไปคนเดียว เขาไกรลาสเต็มไปด้วยตำนานเล่าขาน เป็นทั้งที่ประทับของพระศิวะ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู และเชื่อว่าเขาไกรลาส คือ แห่งเดียวกันกับ “เขาพระสุเมรุ” ภูเขาที่ตั้งอยู่กึ่งกลางจักรวาล มียอดเป็นที่ตั้งแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระอินทร์ มีปลาอานนท์หนุนอยู่รอบตามความเชื่อเรื่องจักรวาลของศาสนาพุทธ มีทะเลสาบล้อมรอบถึง 7 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ “ทะเลสาบมานัสโรวาร” หรือสระอโนดาต สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในไตรภูมิที่เชื่อกันว่า น้ำในสระนี้สามารถรักษาโรคได้ นี่ยังไม่รวมถึงสารพันเรื่องราวสุดลี้ลับ ทั้งทางพุทธทิเบต ฮินดู บอน และเชน อีกจำนวนมาก และฉันเชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้ทำให้ใครต่อใครอยากมาเยือนเขาไกรลาสครั้งหนึ่งในชีวิต ฉันเองก็เหมือนกันและในปีค.ศ. 2016 ฉันก็ได้ไปเดินรอบเขาไกรลาสอย่างที่ตั้งใจ ถึงทิวทัศน์จะสวยขลัง แต่ก็เป็นป่าทั่วไป ไม่ได้มีสัตว์ในเทพนิยายมาวิ่งเล่นให้เห็น อาหารก็รสชาติแค่พอประทังชีวิต ตลอด 15 วัน ฉันมีโอกาสอาบน้ำแค่ 2 ครั้ง ทั้งวันต้องสู้กับอากาศแสนบางที่ทำให้รู้สึกอึ้งเหมือนโดนค้อนทุบหัวตลอดเวลาเพื่อนร่วมทางก็เพิ่งรู้จัก ไม่ได้เป็นเพื่อนที่รู้ใจมาแต่ไหนแต่ไร แต่กลับช่วยเหลือกันอย่างอบอุ่น ตลอดการเดินทางครั้งนั้น ฉันเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น ผ่านประสบการณ์ยากลำบากรอบด้าน อย่าว่าแต่ไม่มีห้องน้ำสะอาด แม้แต่อากาศที่เราหายใจทิ้งไปวันๆ เวลาอยู่บ้าน มันมีค่ามหาศาลที่นั่น ฉันมองเห็นค่าของทุกลมหายใจมากขึ้น หรือแม้แต่ขนมปังก้อนเดียวที่พวกเราแบ่งกัน ตอนเช้า ก็มีรสชาติอร่อยน้ำตาไหลเวลาหิวตอนบ่าย หรือมิตรภาพดีๆ ที่ได้จากการเป็นผู้รับ และที่สำคัญกว่า คือการเป็นผู้ให้ สามารถที่จะแบ่งปันของจำเป็น ที่มีน้อยนิดของฉันให้กับคนอื่นด้วยความเต็มใจ ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ อาจเทียบกับความพิสดารที่มีอยู่ในตำนานไม่ได้ แต่ฉันว่าฉันได้สิ่งที่มีค่าที่สุดกลับมา นั่นคือปัญญา และฉันก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมเขาถึงว่ากันว่า จักรวาลของเขาไกรลาส และความพิเศษเหล่านั้น ความจริงอยู่ในใจของเราทุกคน
Editor
21 December 2017
Food & DrinksLifestyleLifestyle 117Number 117POWER Mag

Food & Drinks: Quality Meal

POWER PACK เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจาก The Junction At Pullman เริ่มต้นที่ Ophelia เครื่องดื่มเหมาะสำหรับการดีท็อกซ์ Goji Frizz เครื่องดื่มสำหรับต้านอนุมูลอิสระ และ Fruity Break เครื่องดื่มสำหรับเสริมสร้างพลังงาน QUALITY MEAL เติมเต็มช่วงเวลาที่มีคุณค่าในช่วงวันแม่ กับเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพกาย และส่งผลต่อความรู้สึกพิเศษทางใจ STORY AND STYLE EKARIN YUSUKSOMBOON PHOTOGRAPHY PIPAT JAMRAT ASSISTANT STYLIST NOPPARAT THORNSRI THE SIGNATURE สเต็กปลาหิมะเสิร์ฟพร้อมถั่วลันเตาและซอสเนยกับซีอิ๊ว อาหารจานหลักที่ขึ้นชื่อของไวน์ผับ สำหรับผู้ที่ชอบรสสัมผัสที่นุ่มลิ้นของปลาหิมะ จานนี้ห้ามพลาดที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ นอกจากจะให้ความสำคัญในการสร้างสรรค์ห้องอาหารทุกเอาต์เล็ตให้มีคาแร็กเตอร์และโดดเด่นด้วยรสชาติแล้ว เชฟทั้งหลายยังคงสรรหาเครื่องปรุงใหม่ๆ สำหรับเมนูรสชาติใหม่ ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศของอาหารการกินที่ไม่หยุดนิ่ง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นเครื่องปรุงแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย ที่สามารถพัฒนาข้าวชนิดนี้ จากการข้ามสายพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลและข้าวขาวดอกมะลิ 105 ได้ข้าวที่มีคุณสมบัติเด่น ทางโภชนาการ คือมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี แทนนิน สังกะสี อีกทั้งมีโฟเลตสูง และมีดัชนีน้ำตาลต่ำถึงปานกลาง นอกจากนี้ในข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ยังมีเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์ในปริมาณมาก ซึ่งช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยควบคุมน้ำหนัก และช่วยระบบขับถ่าย FRESH START เมนูสลัดเพื่อสุขภาพ จากห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย วัตถุดิบจากโครงการหลวง ใช้ส่วนผสมง่ายๆ อย่างข้าวไรซ์เบอร์รี่ ใบมินต์สับ แตงกวา มะเขือเทศเชอร์รี่ เกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก MODERN SUSHI แคลิฟอร์เนียโรลข้าวไรซ์เบอร์รี่ไส้ลาบไก่ จากเกล็นบาร์ อีกหนึ่งเมนูครีเอชั่นที่น่าสนใจ หน้าตาแบบญี่ปุ่น ทว่ารสชาติแซบถูกปากคนไทยนอกจากคุณประโยชน์อันมากมายแล้ว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังมีรสสัมผัสหรือ Texture ในแบบของตัวเอง ทั้งยังมีสีเข้มสวยงาม จึงเป็นเรื่องไม่ยากและนับเป็นสิ่งท้าทายในการสร้างสรรค์เมนูพิเศษจากสุดยอดเครื่องปรุงแห่งสุขภาพนี้ อย่างเช่นเมนูแรกที่น่าสนใจ คือ ซูชิสไตล์แคลิฟอร์เนีย ที่ใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่แทนข้าวญี่ปุ่น ทว่าปรุงรสชาติใหม่ให้แซบถูกปากคนไทยมากขึ้น ด้วยการปรุงลาบไก่ใส่ลงไปในโรล ขนาดอร่อยพอดีคำ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังนำมาทำเป็นสลัด คล้ายเวลาที่ทำสลัดแล้วใส่ธัญพืชลงไป เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารและรสสัมผัสที่กรุบๆ สำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง เพียงราดน้ำมันมะกอกคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน สามารถเพิ่มความสดชื่นได้ทันที นอกจากนี้เพียงแค่เสิร์ฟแทนข้าวขาวที่คุณเคยรับประทาน อย่างเช่นข้าวไรซ์เบอร์รี่ราดปลากะพงทอดราดซอสแกงเขียวหวานไข่เค็ม และที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือครัวซองต์ที่ใช้แป้งซึ่งทำจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปิดท้ายมื้อพิเศษด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของไวน์ผับ อย่างสเต็กปลาหิมะ ที่ย่างกำลังดี เสิร์ฟพร้อมซอสรสชาติกลมกล่อมและเข้ากันกับเนื้อปลา ส่วนเครื่องดื่มรสชาติใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อต้อนรับวันแม่นั้น รับรองว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเดือนที่มีความหมายนี้ได้เป็นอย่างดี THAI FAVOURITE สำหรับผู้ที่ชอบรับประทานอาหารไทย อยากให้ลองแกงเขียวหวานของห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก ที่ถึงเครื่องแกงแบบไทยแท้ เพิ่มโปรตีนด้วยเนื้อปลากะพงทอดและไข่เค็ม รับประทานพร้อมข้าวไรซ์เบอร์รี่ FRENCH CONNECTION ครัวซองต์ที่ The Junction At Pullman ใช้แป้งที่ทำจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดื่มร้อนๆ สักแก้ว รับรองว่าทั้งอิ่มท้องและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ*ขอขอบคุณ The Junction At Pullman โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ โทร. 0 2680 9999 www.pullmanbangkokkingpower.com
Editor
21 December 2017