Lifestyle

Lifestyle:
One-Day Trip
เที่ยวครบจบในวันเดียว
ที่ KING POWER
SHOP & HOP WEEKEND MARKET

ไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปมันส์ กินฟิน เช็คอินได้! ไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปมันส์ กินฟิน เช็คอินได้! วันหยุดสุดสัปดาห์ ถือเป็นช่วงเวลาทองแห่งการพักผ่อน หลังจากที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ต้องกรำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งหลายๆ คนก็คงจะมีแพลนกันไว้บ้างแล้วว่าจะใช้เวลาในช่วงวันหยุดสั้นๆ นี้กันอย่างไร ซึ่งจะว่าไปเอาเข้าจริงแล้วจะให้มัวแต่นอนๆ กินๆ อุดอู้อยู่แต่ในบ้านสลับกับดูซีรีส์ ก็ดูจะไร้เอเนอร์จีไปสักหน่อย ใช่แล้ว นี่มันหน้าร้อนเลยนะ อากาศดีๆ ฟ้าสวยใสๆ รอเราอยู่ (ที่อุณหภูมิ 37.5 องศา) และคงจะดีไม่น้อยหากที่ที่เราจะไปนั้น มีทั้งของกินอร่อยๆ มีกิจกรรมเอาต์ดอร์ที่ได้บรรยากาศแบบหน้าร้อน มีห้องแอร์เย็นๆ ให้พักร่างสักนิด ก่อนจะเดินช้อปปิ้งสินค้าในราคาพิเศษ โดยทั้งหมดสามารถทำได้ภายในวันเดียวอีกด้วย เสาร์-อาทิตย์นี้ หากใครกำลังมองหาที่แฮงเอาต์ชิลๆ ลองแวะมาเดินเล่นที่งาน KING POWER SHOP & HOP WEEKEND MARKET ไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปมันส์ กินฟิน เช็คอินได้! ก็น่าสนใจไม่เบา เพราะนี่คือการกลับมาในรูปแบบใหม่ของ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ที่เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ให้ได้เพลิดเพลินกันแบบลืมเหนื่อย เรียกได้ว่าทั้งช้อปและฮ้อปในที่เดียวคิง เพาเวอร์ ศรีวารี อยู่ที่ไหน? คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ตั้งอยู่ย่านบางนา-ลาดกระบัง เมื่อปักหมุดใน Google Maps จะมี 2 เส้นทางให้เลือกตามความสะดวก เส้นทางที่ 1 วิ่งถนนลาดกระบัง เลี้ยวเข้าถนนวัดศรีวารีน้อย และ เส้นทางที่ 2 วิ่งถนนบางนา-ตราด กม.18 (มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ) แล้วเลี้ยวเข้าถนนวัดศรีวารีน้อยเช่นกัน ซึ่งเราสะดวกเส้นทางที่ 2 ขับไปตามแมปไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง คิง เพาเวอร์ ศรีวารี อันเป็นจุดหมายปลายทางราวๆ 11 โมงเช้า ซึ่งงานเปิดให้เข้าได้ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ดูจากจำนวนรถที่ลานจอดก็สัมผัสได้ถึงความคึกคักขึ้นมาทันที พิกัด GPS: https://goo.gl/maps/5fMa4k6WaaiPq7DL9Welcome to King Power Srivaree จากที่จอดรถจะมีบริการรถรับ-ส่ง ที่จะพาเราไปส่งถึงหน้าประตูทางเข้าห้างฯ ซึ่งจะมีทางเข้า 2 ทางคือ ทางเข้าด้านหน้า และทางเข้าด้านข้าง สำหรับใครที่ยังไม่ได้กินมื้อเช้ามา ประตูด้านข้างคือทางเลือกสำหรับคุณ เพราะเพียงคุณก้าวขาลงจากรถ อาหารอร่อยมากมายก็แทบจะมากองอยู่ตรงหน้า แต่ด้วยความที่เราอิ่มหนำยามเช้ากันมาแล้ว เลยขอไปลงที่ประตูทางเข้าด้านหน้า หมายมั่นกับภารกิจแรกของวันด้วยการวอร์มอัพเบาๆ ไปกับการช้อปปิ้ง! ที่บอกได้เลยว่าละลานตาไปด้วยสินค้าราคาพิเศษ ที่สุดแสนจะครบครันและคุ้มค่า เพียงก้าวเท้าเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของการช้อปปิ้งที่แสนคิดถึง โดยจะมีจุดลงทะเบียนสำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เพื่อรับคูปองส่วนลดมูลค่ารวมถึง 7,000 บาท* ส่วนคนที่ยังไม่เป็นสมาชิกก็สามารถสมัครได้ฟรีและรับสิทธิ์ได้เลยเหมือนกัน ว่าแล้วก็เริ่มช้อปได้! บอกเลยว่าโซนนี้ทำเลือดลมสูบฉีดไม่เบา เพราะถนนหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนม ทั้งแว่นตา นาฬิกา น้ำหอม รวมแล้วกว่า 10,000 รายการ ที่จัดเต็มมาพร้อมโปรโมชั่นลดสูงสุด 30%* นอกจากนั้น ภายในงานยังมีร้านค้าดังจากโลกโซเชียลและวิสาหกิจชุมชนมาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าอีกด้วย เรียกได้ว่าช้อปเพลินเดินไปเกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลงทะเบียนเพื่อรับคูปองส่วนลด คลิก http://bit.ly/3bjuSX0 ยังไม่เป็น สมัครสมาชิก ฟรี! รับสิทธิ์ส่วนลดได้ทันที คลิก https://bit.ly/2CbBN73ไม่มีอะไรจะมาหยุดเราได้นอกจากความหิว นักจิตวิทยากล่าวว่า เมื่อใดที่เราเผชิญหน้ากับความท้าทาย ในขณะที่เราก็มีทักษะที่สูงพอจะรับมือ เมื่อนั้นเราจะเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า Flow…
Editor
18 March 2021
Food & DrinksLifestyle

FOOD & DRINKS
อร่อยชื่นใจกับเมนูคลายร้อน

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะเป็นเมืองร้อน (มาก) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสามเดือนต่อจากนี้คือช่วงเวลาทองของการออกไปข้างนอก สนุกสนานไปกับสีสันของชีวิต รวมไปถึงการลิ้มลองรสชาติแห่งคิมหันตฤดูอันเป็นเอกลักษณ์ จากเมนูอาหารที่ไม่เพียงอร่อยชื่นใจคลายร้อน แต่ยังช่วยปรับสมดุลร่างกายจากภายในทำให้รู้สึกสบายเนื้อตัวอีกด้วย อาหารคลายร้อนนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นของหวานหรือเสิร์ฟมาแบบเย็นๆ เสมอไป เพราะอาหารคาว รสจัด และอุ่นร้อนหลายชนิด กลับมีสรรพคุณเย็นที่ช่วยให้ร่างกายเย็นและสดชื่นได้ หลักการง่ายๆ เบื้องต้นก็คือการเลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากๆ เพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับร่างกายที่ต้องเสียเหงื่อ อาหารย่อยง่ายต่างๆ ที่ทำให้ร่างกายไม่ต้องใช้พลังงานในการเผาผลาญมากจนเกินไป รวมถึงอาหารสรรพคุณเย็นต่างๆ นั่นเอง Power จะพาไปทำความรู้จักกับอาหารและเมนูดับร้อน ที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ พร้อมต้อนรับอุณหภูมิร้อนชวนปรอทแตกที่กำลังมาเยือนในเร็ววันนี้ ข้าวแช่ หนึ่งในเมนูอาหารประจำฤดูร้อนที่ขาดไม่ได้ในบ้านเรา แต่เดิมเป็นอาหารที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมขอพรบูชาเทวดาของชาวมอญในช่วงสงกรานต์ จึงไม่แปลกที่จะมีความซับซ้อนและเต็มไปด้วยพิธีรีตองมากมายทั้งขั้นตอนการทำและการรับประทาน กระทั่งในเวลาต่อมากลายเป็นอาหารยอดนิยมของเจ้านายในวัง ก่อนจะแพร่หลายมาสู่ชาวบ้านในที่สุด กระแสข้าวแช่กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยสามารถหารับประทานได้ไม่ยากตามร้านอาหารไทยและภัตตาคารต่างๆ แม้จะนำเสนอสูตรที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่ส่วนประกอบหลักที่เหมือนกันก็คือ ข้าวนึ่งอบเทียน น้ำลอยดอกมะลิ น้ำแข็ง และเครื่องเคียง ซึ่งเครื่องเคียงจะประกอบไปด้วย ลูกกะปิ ที่ทำจากปลาย่างผสมกับสมุนไพร ปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดพอดีคำแล้วนำไปทอด หอมแดงยัดไส้ พริกหยวกสอดไส้ หมูหรือเนื้อฝอย ไชโป๊ผัดไข่ และผักสดอย่างแตงกวา มะม่วงดิบ หรือต้นหอมไว้รับประทานเพื่อตัดรส การรับประทานข้าวแช่ให้อร่อยนั้นมีขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรละเลย นั่นคือ ตักข้าวแต่พอประมาณให้เหลือพื้นที่สำหรับใส่น้ำลอยและน้ำแข็ง ไม่ตักเครื่องเคียงใส่ในจานข้าวเพราะจะทำให้ข้าวแฉะน้ำมัน รับประทานเครื่องเคียงก่อน จากนั้นค่อยตามด้วยข้าว และน้ำลอยหอมเย็นชื่นใจ เพียงเท่านี้ก็จะได้สัมผัสกับรสชาติแห่งฤดูร้อนแบบไทยๆ ที่ใครๆ ก็หลงรักอย่างแน่นอน ปลาแห้งแตงโม เมนูที่มีความเซอร์เรียลนิดๆ จะของหวานก็ไม่ใช่ของคาวก็ไม่เชิงนี้ ถือเป็นเมนูคลายร้อนที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ พระเอกอยู่ที่สัญลักษณ์ประจำหน้าร้อนอย่างแตงโม ผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่ในปริมาณมากจึงมีสรรพคุณเย็น รับประทานสดๆ ให้รสชาติหอมหวาน หรือจะไปปั่นเป็นน้ำแตงโมก็ชื่นใจ นอกจากนั้นยังมีประโยชน์เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักอีกด้วย เนื่องจากมีน้ำตาลและแคลอรี่ต่ำ สามารถป้องกันการสะสมของไขมันที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ในขณะที่ปลาแห้งนั้นหลายคนอาจจะคุ้นเคยมากกว่าเมื่อนำไปรับประทานกับข้าวเหนียวมูน หน้าร้อนนี้ต้องลองรับประทานกับแตงโมดูบ้างแล้ว โดยปลาแห้งนั้นสามารถทำเองได้ไม่ยาก ด้วยการนำปลาช่อนไปย่างจนแห้ง คัดเอาแต่เนื้อไปโขลก จากนั้นนำไปคั่วในกระทะไฟอ่อนกับหอมเจียว ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลทรายแล้วพักให้หายร้อน ไฮไลต์อยู่ที่ตอนเสิร์ฟ โรยปลาแห้งลงบนแตงโมชิ้นพอดีคำที่นำไปแช่จนเย็นจัด รับรองว่าทั้งเก๋ทั้งอร่อยชื่นใจสุดๆ ยูสุ อีกหนึ่งวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความสารพัดประโยชน์บวกกับกลิ่นหอมสดชื่นที่ไม่มีใครเหมือน ยูสุจึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากครัวทั่วโลก เจ้าผลไม้ที่อยู่ระหว่างเมเยอร์เลม่อนและส้มแมนดารินนี้ อาจจะไม่ได้รับบทนำในจานอาหารเสมอไป แต่ก็ไม่เคยบกพร่องในฐานะนักแสดงสมทบอย่างแน่นอน เพราะรสชาติเปรี้ยวอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งสีสันและน้ำมันที่ได้จากเปลือกนั้น สามารถสร้างความหลากหลายให้กับเมนูต่างๆ ได้ทั้งคาวหวาน ไปจนถึงเครื่องดื่มอย่างชา ซอฟต์ดริงก์ หรือค็อกเทล ยูสุนั้นมีวิตามินซีสูง อีกทั้งกรดซิตริกที่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหารและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สำหรับหน้าร้อนอย่างนี้ น้ำยูสุผสมน้ำผึ้งโซดาเย็นๆ สักแก้ว หรือแม้แต่ชาร้อนยูสุ จัดเป็นเครื่องดื่มที่ให้ทั้งความสดชื่นและบำรุงสุขภาพชั้นดีเลยทีเดียว นอกจากนั้น ยูสุยังนิยมนำไปทำเป็นเครื่องปรุงหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ซอส พริกเกลือยูสุ น้ำสลัดยูสุ มัสตาร์ด หรือน้ำส้มปรุงรสสำหรับข้าวซูชิ ไปจนถึงเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงกับอาหารจานหลัก อย่างครีมโฟมยูสุที่รับประทานคู่กับกับสเต็ก ยูสุพอนสึก็อร่อยเข้ากันกับปลาดิบและเนื้อวากิว หรือจะทำเป็นพูเร่ก็ช่วยเพิ่มรสชาติได้อย่างน่าประทับใจ เต้าหู้ เต้าหู้ อาหารมากประโยชน์ที่ทำมาจากถั่วเหลือง มีโปรตีนสูง ไขมันน้อย ย่อยง่ายไม่หนักท้อง จึงเหมาะแก่การรับประทานในหน้าร้อน เพราะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่หนักจนเกินไป โดยโปรตีนจากถั่วเหลืองนั้นนอกจากจะช่วยสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย ชาวญี่ปุ่นมักมีเต้าหู้เป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารอยู่เสมอไม่ว่าฤดูไหนๆ เพราะเต้าหู้สามารถรับประทานได้ทั้งแบบร้อนและเย็น อย่างเมนู Zaru Tofu เต้าหู้อ่อนที่เกิดจากการทิ้งน้ำนมถั่วเหลืองให้จับตัวเป็นก้อนบนกระจาดไม้ไผ่สาน ก็นิยมรับประทานในหน้าร้อนเพื่อความสดชื่น ในขณะที่บ้านเราแม้จะรับประทานเต้าหู้ไม่มากเท่าชาวญี่ปุ่นหรือชาวจีน แต่ความนิยมใน “น้ำเต้าหู้” นั้น ไม่เป็นสองรองใคร หรือจะดื่มเป็นเต้าหู้แบบเย็นก็อร่อยสดชื่นได้ทั้งวัน นอกจากนั้นยังมีการทำเป็นไอศกรีมน้ำเต้าหู้ และไอศกรีมโยเกิร์ต ที่รับประทานกับท็อปปิ้งต่างๆ ให้อารมณ์แบบขนมหวาน คลายร้อนได้แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย สมุนไพรต่างๆ อย่างที่บอกว่า “อาหารคลายร้อน” ไม่จำเป็นต้องหวานหรือเย็นเสมอไป…
Editor
12 March 2021
Lifestyle

Lifestyle
MAHANAKHON X SURFSKATE
“เซิร์ฟสเก็ต” ไลฟ์สไตล์สุดคูลที่กำลังมาแรง

หากคุณเข้าไปในอินสตาแกรมหรือเฟซบุ๊กในช่วงนี้ คุณจะเห็นเลยว่ามีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่กำลังมาแรงมาก นั่นก็คือ เซิร์ฟสเก็ต (Surfskate) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากในหมู่ศิลปินดารา อินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงเพื่อนฝูงหรือคนรอบๆ ตัวเราเอง ต่างก็พากันทรงตัวอยู่บนเจ้ากระดานติดล้อนี้ ทำเอาอาการ Fear of Missing Out ถึงกับกำเริบ จนต้องไปหาซื้อตามกันเลยทีเดียว ว่าแต่...เซิร์ฟสเก็ตคืออะไร? เซิร์ฟสเก็ต (Surfskate) จัดเป็นกีฬาประเภทหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายสเก็ตบอร์ด (Skateboard) ผสมผสานกับกีฬาโต้คลื่น (Surfing) ที่ต้องใช้การทรงตัวและแรงขับเคลื่อนจากการเหวี่ยงตัวของผู้เล่นที่อยู่บนกระดาน บังคับทิศทางโดยการถ่วงน้ำหนักไปด้านใดด้านหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องใช้เท้าออกแรงไถกระดานไปข้างหน้าแบบสเก็ตบอร์ด ให้เสียแรงเปล่า การจะเล่นเซิร์ฟสเก็ต ต้องอาศัยลานกว้างๆ เพื่อให้สามารถวาดลวดลาย โชว์ทักษะ ฝึกการทรงตัว หรือล้มลุกได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นลานจอดรถ ลานกีฬาใต้ทางด่วน สวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งศูนย์การค้าบางแห่ง ที่มีการเปิดพื้นที่ให้คนเมืองที่อยากมีกิจกรรมยามว่างได้มารวมตัวเล่นเซิร์ฟสเก็ตกันอย่างจริงจัง อย่างคิง เพาเวอร์ ศรีวารี ก็กำลังเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ของย่านบางนา-ลาดกระบัง โดยจะเปิดให้เหล่านักเซิร์ฟสเก็ตสามารถเข้ามาโชว์สกิลกันได้ถึงวันที่ 11 เมษายน 2564แล้วอะไรคือเสน่ห์ของเซิร์ฟสเก็ต? นั่นก็เพราะใครๆ ก็สามารถสนุกกับมันได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นมือโปรหรือนักกีฬาเอ็กซ์ตรีม ความสนุกที่ไม่จำกัดเพศ อายุหรือรูปร่าง เรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็สามารถเคลื่อนที่อยู่บนบอร์ดให้ลมตีหน้าได้ทั้งนั้น ซึ่งนอกจากจะสนุกไปกับการเล่นเซิร์ฟสเก็ตแล้ว ยังได้ปลดปล่อยความเครียดไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งยังได้บรรยากาศอบอุ่นจากการรวมตัวเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ของเหล่านักเซิร์ฟสเก็ตอีกด้วย อีกหนึ่งเหตุผลที่เซิร์ฟสเก็ตเข้ามาครองใจคนรุ่นใหม่ ก็เพราะเซิร์ฟสเก็ตเป็นกีฬาที่สามารถบ่งบอกไลฟ์สไตล์และตัวตน ไปพร้อมๆ กันได้ ไล่ตั้งแต่ลายบอร์ดที่เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของเจ้าของ ไปจนถึงเสื้อผ้าหรือแอคเซสซอรีต่างๆ ที่ผ่านการคิดมาแล้วตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้การเล่นเซิร์ฟสเก็ตถูกยกระดับให้น่าหลงใหลขึ้นไปอีก “แบรนด์มหานคร” จึงเอาใจสายสตรีตแฟชั่น ด้วยหมวกทรงบัคเก็ตสุดคูล เสื้อผ้าชุดลำลองสกรีนลายสุดเท่ สะดวกต่อการเคลื่อนไหว รวมไปถึงรองเท้าสนีกเกอร์พื้นแบนสวมใส่สบายแต่สไตล์ก็ยังต้องมี ทั้งหมดนี้หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป อาจทำให้การเล่นเซิร์ฟสเก็ตต้องสะดุด อาจไม่สนุกเหมือนที่เป็นอยู่เลือกช้อปสินค้า Hype street looks แบรนด์มหานครที่เพิ่มความสนุกให้กับทุก Lifestyle ของคุณได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/mahanakhonshopbkk Instagram: https://www.instagram.com/mahanakhonshop_bkk/ Line: @mahanakhonshop_bkk
Editor
11 March 2021
Lifestyle

Travel in Style
Summery Bliss Magical Moments

 PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS  ได้เวลาเผยผิวรับความสดชื่นของหน้าร้อน ด้วยแฟชั่นมิกซ์แอนด์แมทช์ แนวเอิร์ธโทนสบายตา ที่พร้อมจะทำให้ทุกการผจญภัย เต็มไปด้วยเอเนอร์จี  นาฬิกาข้อมือ จาก Omega ต่างหู จาก Burberry  แว่นตา จาก Chanel  เคสโทรศัพท์ จาก Chanel  รองเท้า จาก Gucci  หมวก จาก Prada  กระเป๋าหนัง จาก Burberry  จัมพ์สูท จาก  Burberry  SUMMERY BLISS MAGICAL MOMENTS นาฬิกาข้อมือ จาก Jaeger-Lecoultre  เครื่องประดับ จาก Balenciaga  แว่นตา จาก Bottegaveneta  กางเกงขายาว จาก Gucci  กระเป๋าสะพาย จาก  Bottegaveneta  เคสแอร์พอร์ต จาก Prada  เสื้อโปโล จาก Gucci  รองเท้า จาก Burberry 
Editor
9 March 2021
Lifestyle

Lifestyle:
การมาของ Dispo คือ The New Instagram หรือ The Anti-Instagram กันแน่

Dispo แอปใหม่ที่กำลังมาแรงทั้งในแวดวงหนุ่มสาวเจนเนอเรชัน Z และวงการ Tech ในตอนนี้ เป็นผลงานของ David Dobrik ยูทูบเบอร์ เจ้าของช่อง The Vlog Squad ในฐานะครีเอเตอร์เขาต้องการนำประสบการณ์ในยุคของการถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มกลับมาอีกครั้ง 10 ปีที่ผ่านมา Instagram ครองตลาด Photo App มาตลอดโดยไม่มีวี่แววว่าจะมีใครมาโค่นตำแหน่งแชมป์ไปได้เลย แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักวิจารณ์เห็นแวว Dispo แอปที่มีคนดาวน์โหลดอย่างท้วมท้นเป็นอันดับที่ 4 ของ App Store ด้วยคอนเซ็ปต์ง่ายๆ แต่ไม่เหมือนใครในชั่วโมงนี้นั่นเพราะ Dispo ไม่จำเป็นต้องแต่งรูปใดๆ ไม่มีฟิลเตอร์ ไม่มีสติ๊กเกอร์ ใส่ตัวหนังสือก็ไม่ได้ และที่สำคัญเราจะไม่สามารถเห็นรูปที่ถ่ายไว้จนกว่า Dispo จะ “ล้าง” รูปเสร็จตอน 9 โมงเช้าของวันถัดไป จุดประสงค์ของครีเอเตอร์ในการที่ไม่ให้เราได้แต่งรูปก็เพื่อที่จะให้เราได้สนุกสนานไปกับโมเมนต์นั้นๆ อย่างเต็มที่ ไม่ต้องมัวพะวงวุ่นวายอยู่กับการแต่งรูป หลายคนก็เลยบอกว่า Dispo เป็นแอปที่แอนตี้ Instagram เพราะ Instagram ทำให้ทุกคนกลายเป็นตากล้องทั่วๆ ไป แต่ Dispo ทำให้เราเป็นตากล้องที่มีจุดมุ่งหมาย รูปของ Dispo จะออกมาได้ฟีลเรโทรที่มีความ Raw และความ Real David Dobrik บอกว่า เขาชอบบรรยากาศเวลาไปปาร์ตี้ตามบ้านเพื่อน แล้วในงานมักมีกล้อง Disposable แบบใช้แล้วทิ้ง กระจายไว้หลายๆ จุด พอทุกคนถ่ายรูปแล้วก็เฮฮากับปาร์ตี้ต่อ ไม่มีใครเสียเวลาเช็กรูปแล้วถ่ายใหม่ หรือนั่งแต่งรูปต่อจนกว่าจะได้รูปที่ตัวเองสวยหล่อถูกใจ รุ่งขึ้นหลังปาร์ตี้เลิกค่อยมาดูรูปสนุกๆ ที่อัดออกมา เซเลบอย่าง Gigi Hadid และ Cindy Bruna ก็มีความคิดในแนวเดียวกันนี้ โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่อย่าง Gigi Hadid เจ้าของ @gisposable บน Instagram ที่รวมรูปถ่ายจากกล้อง Disposable ของเธอเอาไว้ล้วนๆ เลยเป็นไอเดียที่ Power ชอบอยู่นะ เพราะเคยไปดูคอนเสิร์ตกับเพื่อน ที่ยกมือถือถ่ายรูปอยู่นั่น จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเลือกรูปแต่งรูปเพื่ออัปโหลดขึ้นโซเชียล ซึ่งบางทีคนเราก็สรรหาความสมบูรณ์แบบให้ภาพบนพื้นที่โซเชียลของเรามากเกินไป จนลืมความสนุกที่อยู่ตรงหน้าเราไปอย่างน่าเสียดาย Dispo อาจจะทำให้เราหงุดหงิดอยู่บ้างตรงที่ต้องรอคนมาเชิญเราเข้าแอป ซึ่งพักหลังๆ มานี้ มีแอปที่ออกมาแบบ Invite Only กันเยอะมาก รวมทั้ง Audio App ที่กำลังฮิตอยู่ในตอนนี้อย่าง Clubhouse ด้วย เดิมที Dispo ก็ไม่ได้จำเป็นต้องมี Invite หรอกนะ แต่หลังจากที่ David Dobrik ออก Beta Version มาให้ทดลองฟีเจอร์ใหม่ ให้เราแชร์รูปใน Camera Rolls ได้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางแอปก็มีการกำหนดให้ต้องมีการ Invite ก่อน ถึงจะเข้าไปใช้แอปได้ Dispo มีแววจะไปได้ไกลอยู่ไม่น้อย เพราะได้เงินสนับสนุนจาก Alexis Ohanian ผู้ก่อตั้ง Reddit รวมทั้ง Venture Capital Firm ชื่อดังหลายบริษัท ไปจนถึงศิลปินอย่าง…
Editor
9 March 2021
Lifestyle

Lifestyle:
จากเรื่องจริงของพลังหญิงที่ขับเคลื่อนสังคม
สู่ภาพยนตร์ที่ครองหัวใจคนทั่วโลก

"วันเพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ถึงความไม่เท่าเทียมของผู้หญิง" จากจุดเริ่มต้นของการลุกฮือของกรรมกรหญิงโรงงานทอผ้า ในสหรัฐอเมริกา ที่มาจากการถูกกดขี่ข่มเหง ใช้แรงงานเยี่ยงทาส จนนำไปสู่การเรียกร้องสิทธิ์ของเหล่ากรรมกรสตรีในโรงงานให้ได้รับความทัดเทียมกับแรงงานชาย รวมถึงเรียกร้องให้มีการคุ้มครองสวัสดิการสตรีและแรงงานเด็ก ตามมาซึ่งบทสรุปแห่งความสำเร็จหลังการต่อสู้อันยาวนาน ด้วยการได้รับการรับรองในข้อเรียกร้องอันเป็นธรรมจากที่ประชุมสมัชชาสตรีสังคมนิยม ณ เมืองโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1910 พร้อมผลักดันให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี เป็น “วันเพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ถึงความไม่เท่าเทียมของผู้หญิง” อันเป็นจุดเริ่มต้นของวันสตรีสากลในเวลาต่อมา วันสตรีสากล หรือ International Woman’s Day ในปีนี้ ครบรอบปีที่ 110 แล้ว เพื่อเป็นการระลึกถึงและให้ความสำคัญกับผู้หญิงทุกคนบนโลกที่มีต่อความสำเร็จในหลายๆ ภาคส่วน Power ขอหยิบยกบางเรื่องราวชีวิตของเหล่านักสู้หัวใจแกร่ง “ผู้หญิง” นักขับเคลื่อนสังคม ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการแสวงหาความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าในตัวเอง ที่ทำอะไรได้มากกว่าที่ใครเคยขีดเส้นกำหนดไว้ ผ่านการบอกเล่าในรูปแบบของภาพยนตร์ Based on True Story ที่คว้ารางวัลมาแล้วนักต่อนักจนเป็นกระแสไปทั่วโลก ให้เราได้หาโอกาสไปทำความรู้จักพวกเธอเหล่านั้นกันอีกสักครั้ง “ฉันอยากให้คนฟังร้องไห้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจ ที่ฉันร้องเลยก็ตาม” - Édith Piaf - “ฉันอยากให้คนฟังร้องไห้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจ ที่ฉันร้องเลยก็ตาม” - Édith Piaf - Édith Piaf จากภาพยนตร์เรื่อง La Vie En Rose (2007) “ฉันอยากให้คนฟังร้องไห้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจที่ฉันร้องเลยก็ตาม” - Édith Piaf ครั้งหนึ่งศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติฌอร์ฌ ปงปีดู หรือ (Centre Pompidou) ได้ทำการคัดเลือกผลงานโมเดิร์นอาร์ตที่สร้างขึ้นในฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 1906 – 1977 ปีละหนึ่งชิ้นไปจัดแสดง ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่ปี 1945 ผลงานเพียงชิ้นเดียวในนิทรรศการที่ไม่ใช่ทัศนศิลป์ ทว่าเป็นเสียงเพลง La Vie En Rose ของศิลปิน Édith Piaf ที่เปิดคลออยู่เบาๆ โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า ไม่มีผลงานศิลปะใดในปี 1945 ของฝรั่งเศสจะน่าจดจำไปกว่า Soundtrack ของปารีสเพลงนี้อีกแล้ว วัยเด็กของ Édith Piaf นั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างลำบาก แม่ทิ้งเธอไปตั้งแต่ยังเล็กนัก ส่วนพ่อต้องไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงฝากเธอไว้กับย่าที่ดูแลสถานบริการย่านนอร์มังดี เธอถูกเลี้ยงดูโดยหญิงขายบริการที่นั่น ตอนอายุ 3 ปี เธอมีอาการดวงตามืดบอดไปชั่วขณะ จากภาวะแทรกซ้อนของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ก่อนจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง หลังจากย่าและหญิงขายบริการที่เลี้ยงดูเธอพาเธอไปขอพรจาก Saint Therese de Lisieux ไม่กี่ปีหลังจากนั้น พ่อมารับเธอไปอยู่ด้วยกันในคณะละครเร่  ทั้งคู่ตระเวนแสดงไปทั่ว และที่ริมถนนในกรุงปารีสนั่นเองคือเวทีแรกที่เธอได้ร้องเพลงให้คนฟัง ชีวิตอันเข้มข้นของ Édith Piaf ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง La Vie En Rose นำแสดงโดย Marion Cotillard ทั้งการแปลงโฉมและการแสดงอันน่าอัศจรรย์ ทำให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ในปีนั้น มีการแซวกันเล่นๆ ว่า เธอน่าจะได้ “เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม” เพิ่มอีกรางวัล เพราะใครที่ไหนจะเล่นเป็นคนอื่นได้ดีขนาดนั้น อันที่จริงเพลงรักอันโด่งดังเพลงนี้ ออกจะดูขัดกับคาแรกเตอร์ของ Édith Piaf…
Editor
8 March 2021
Lifestyle

Lifestyle:
เทรนด์คนรักสุขภาพ 2021

สถานการณ์ต่างๆ ทั้งฝุ่น PM 2.5 และโควิด-19 ที่เกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ล้วนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและสภาพจิตใจของเราเป็นอย่างยิ่ง หากจะพูดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนตระหนัก และหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพความเป็นอยู่กันมากที่สุดในรอบหลายปีก็คงจะไม่ผิดนัก แน่นอนว่าการมีร่างกายที่แข็งแรงยังคงเป็นนิยามพื้นฐานของการดูแลสุขภาพ ทว่าเทรนด์ที่มาแรงสุดๆ ในปีนี้ เห็นจะเป็นการใช้ชีวิตอย่างไรให้ปลอดภัยจากมลพิษและเชื้อโรค ตลอดจนการมีสภาวะจิตที่ผ่อนคลายจากความวิตกกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นเอง ไม่รอช้า Power จะพาไปรู้จักกับเทรนด์สุขภาพที่น่าสนใจในปี 2021 นี้ Respiratory Wellness ฝุ่น PM 2.5 และ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรงนั้น ทำให้เทรนด์ “คนรักปอด” มาแรงแซงทุกโค้ง ผู้คนเริ่มระมัดระวังในเรื่องของการสูดดมอะไรก็ตามที่มองไม่เห็นเข้าไปในร่างกายกันมากขึ้น การสวมหน้ากากอนามัยกลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่ไม่จำเป็นต้องบอกกันอีกต่อไป ต้นไม้และเครื่องฟอกอากาศเป็นดั่งของขวัญแทนความรักความห่วงใยที่มีให้กัน รวมไปถึงพฤติกรรมการกินที่เน้นไปที่อาหารร้อนอย่างซุปหรือชามากขึ้น เพื่อเคลียร์คอให้โล่งและช่วยละลายเสมหะ การจิบน้ำอุ่นตลอดทั้งวันยังมีส่วนช่วยทำให้โพรงจมูกโล่งขึ้น ช่วยลดโอกาสการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียต่างๆ ถือเป็นวิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายที่ทำได้ไม่ยากและกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ Home Wellness ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาที่หลายคนต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น การล็อกดาวน์ทำให้เกิดการปรับตัวในหลากหลายมิติ บ้านแทบจะกลายเป็นศูนย์รวมทุกกิจกรรมไปโดยปริยาย ไม่เว้นแม้แต่การออกกำลังกาย ในวันที่การออกไปฟิตเนสกลายเป็นความเสี่ยง หรือการไปสวนสุขภาพที่เคยไปเป็นประจำ อาจทำให้ไม่รู้สึกปลอดภัยเหมือนเช่นเคย สายสุขภาพย่อมจะไม่ทนกับเรื่องนี้ ลู่วิ่งไม่ใช่ราวตากผ้าฉันใด การออกกำลังกายก็ไม่ใช่เรื่องยากฉันนั้น เราจึงได้เห็นบรรดาเครื่องออกกำลังกายที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน เทียบเท่าการไปฟิตเนส เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศให้สมจริงที่สุด แอปพลิเคชันฟิตเนสออนไลน์เร่งพัฒนา เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่กำลังเปลี่ยนไป มีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่าง Virtual Run ต่างๆ ให้เข้าร่วม มี Virtual Class เทรนเนอร์ส่วนตัวบนแพลตฟอร์มออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย จะเห็นได้ว่า “บ้าน” ได้ยกระดับขึ้นมากกว่าการเป็นแค่ที่อยู่อาศัยไปแล้ว เพราะไม่เพียง ‘อยู่ได้’ เท่านั้น แต่จะต้อง ‘อยู่ได้ดี’ และมีส่วนช่วยทำให้ชีวิตปลอดภัยและยืนยาวอีกด้วย Emotional Wellness จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเราต่างได้รับผลกระทบทางอารมณ์กันถ้วนหน้า หลายคนต้องเผชิญกับความวิตกกังวล ต้องใช้ชีวิตบนความเครียดและความหวาดกลัว ซึ่งเมื่อสะสมมากเข้า ย่อมส่งผลต่อสุขภาพ ภูมิต้านทาน รวมไปถึงระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย อาจก่อให้เกิดความเจ็บป่วยที่รุนแรงอย่างโรคหัวใจหรือโรคซึมเศร้าได้ เทรนด์สุขภาพในปีนี้จึงมุ่งไปที่การแสวงหา “ความมั่นคงทางอารมณ์” ซึ่งในเบื้องต้นก็คือการตั้ง Mindset ไว้ก่อนว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอเพียงให้เราได้ลองสู้กับปัญหา พยายามทำความเข้าใจ เรียนรู้ และแสดงศักยภาพในตัวเองออกมา นอกจากนั้นเรื่องร้ายๆ ยังทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวปลดล็อกพื้นที่ชีวิตของเราอีกด้วย เพราะในช่วงเวลานี้เองที่ทำให้เรามองเห็นว่า รอบๆ ตัวยังมีคนที่เรารัก ซึ่งถือเป็นกำลังของหัวใจที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ที่ทั้งสะดวกสบายและดีต่อใจ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันที่ให้คำปรึกษาด้านปัญหาสุขภาพจิต หรือการปรึกษาแพทย์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น อย่าลืมหาเวลาสปาอารมณ์ของตัวเอง ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพร่างกายกันด้วย Intuitive Eating สูตรการกินเพื่อสุขภาพนั้นมีอยู่มากมาย ทว่าในช่วงเวลาของการกักตัวนี้ เทรนด์การกินอย่างหนึ่งได้กลับมาฮิตอีกครั้ง นั่นก็คือ Intuitive Eating หรือ “การกินได้ตามใจอยาก” ซึ่งฟังดูแล้วตรงข้ามกับการมีสุขภาพดีเหลือเกิน เพราะ Intuitive Eating กำลังบอกให้เราลืมเรื่องแคลอรี่ ตารางการกิน อาหารคลีน หรืออาหารขยะไปก่อน แล้วหันมาฟังเสียงของร่างกายตัวเอง การที่ร่างกายส่งสัญญาณว่าอยากกินอะไร อาจเป็นไปได้ว่าร่างกายกำลังขาดสารอาหารประเภทนั้นอยู่ แน่นอนว่ามันไม่ได้โฟกัสไปที่การลดน้ำหนัก แต่เน้นในเรื่องของการมีสติ เรียนรู้ที่จะให้เกียรติความหิว นักโภชนาการที่ทำการวิจัยบอกว่า คุณสามารถกินอะไรก็ได้ที่อยากจะกิน จะกินตอนไหนก็ได้ ตราบใดที่คุณยังคงเงี่ยหูฟังร่างกายของคุณ โดยหลักการง่ายๆ สามารถสรุปได้ดังนี้ หิวก็กิน เพราะร่างกายและระบบทางชีววิทยาอยากให้คุณรับรู้ รวมถึงอยากให้คุณเชื่อด้วย อาหารขยะไม่ได้อร่อยและอาหารคลีนไม่ได้สูงส่งขนาดนั้น เลิกตัดสินพฤติกรรมการกินของตัวเอง อิ่มคืออิ่ม ไม่ต้องกินจนหมดก็ได้ (ข้อนี้ฟังดูง่ายแต่ไม่ง่าย) เคารพในร่างกายของตัวเอง อย่างที่คนเท้าใหญ่ไม่ใส่รองเท้าไซซ์เล็ก…
Editor
25 February 2021
Lifestyle

Lifestyle:
เมื่อความคิดสร้างสรรค์
มีส่วนช่วยทำให้ชีวิตปลอดภัย

หลายต่อหลายครั้งที่ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นจิตรกรรม บทเพลง บทกวี รวมถึงงานดีไซน์ต่างๆ สามารถเป็นกระบอกเสียงอันทรงพลังจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ครั้งนี้ก็เช่นกัน โควิด-19 บังคับให้พวกเราใช้เวลาอยู่กับบ้าน หลีกเลี่ยงการพบเจอผู้คนให้ได้มากที่สุด ซึ่งทำให้เกิด “ผลข้างเคียง” ในเชิงบวกอย่างหนึ่ง นั่นคือมีคนมากมายต่างลุกขึ้นมาทำสิ่งที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ระหว่างการกักตัว เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สถานการณ์ที่เป็นดั่งฝันร้ายนี้สิ้นสุดในเร็ววัน The Spoiler Billboard ในฐานะประชาชนทั่วไป แม้ไม่ใช่บุคลการทางการแพทย์ก็สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้เช่นกัน ทั้งจากการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หรือง่ายที่สุด ไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น แต่ขนาดว่าง่ายแล้ว หลายคนก็ยังละเลยอยู่ดี เพราะคิดแต่เพียงว่า แค่ออกไปเดินเล่นชิลๆ เองไม่เห็นเป็นอะไร ไวรัสหรือจะน่ากลัวเท่าจิตใจที่เหี่ยวเฉา นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ครีเอทีฟชาวไทย 2 คน ต้องใช้ยาแรงมาจัดการกับเรื่องนี้ แซนด์-ภัคณิชา กองเรืองกิจ และ เบรฟ–มติธร ประจวบเหมาะ ชัยมังคโล สองนักศึกษาจาก Miami Ad School เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ซึ่งได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยเมื่อช่วงกลางปีที่แล้วพบว่าหลายคนยังไม่ตระหนักถึงการปฏิบัติตามมาตรการกักตัวอยู่บ้านมากเท่าที่ควร จึงเกิดไอเดียที่สุดแสนจะเรียบง่าย แต่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ โดยทั้งคู่มองว่ากลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาต้องการจะสื่อสารด้วยเป็นพิเศษนั้นคือหนุ่มสาวยุค Millennial เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์และความคิดที่ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง ตลอดจนมีความเชื่อว่าร่างกายที่แข็งแรงกว่าเด็กเล็กๆ และผู้สูงอายุของพวกเขาจะไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตอย่างแน่นอน จากไอเดียเริ่มต้น ค่อยๆ พัฒนาต่อยอดจนกลายเป็น Spec Ads หรือ โฆษณาที่สร้างขึ้นเองโดยไม่ได้รับการว่าจ้างจากแบรนด์ ในกรณีนี้คือ เมื่อใดที่ก้าวออกจากบ้าน คุณจะเจอกับข้อความสปอยล์หนังและซีรีส์เรื่องดังของ NETFLIX อย่าง Stranger Things, Love is Blind, Narcos รวมถึง Kingdom ไม่กี่วันต่อมาแคมเปญสุดโหดร้ายนี้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก แพร่กระจายเร็วกว่าไวรัสโคโรนาเสียอีก หลายคนเชื่อจริงๆ ว่านี่เป็นโฆษณาของ NETFLIX จนกระทั่งทางแบรนด์ต้องออกมาชี้แจงว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มันเป็นงานของนักศึกษากลุ่มหนึ่งเท่านั้น ซึ่งแซนด์และเบรฟก็ได้นำไอเดียนี้ไปขายกับทาง NETFLIX สิงคโปร์จริงๆ ด้วย เพียงแต่มันยังไม่ผ่าน เนื่องจากทาง NETFLIX ไม่มีนโยบายสปอยล์ซีรีส์ของตัวเอง อย่างไรก็ตามแซนด์และเบรฟยังคงเดินหน้าพัฒนาไอเดียนี้ต่อไป โดยลึกๆ แล้วเบรฟเชื่อว่า ถ้า NETFLIX กลับลำนโยบายหลักของแบรนด์ แล้วหันมา “สปอยล์เพื่อช่วยโลก” ผู้คนจะชื่นชมและให้การสนับสนุนมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน สุดท้ายทั้งคู่อยากขอโทษทุกคนที่ถูกผลงานของพวกเขาเฉลยตอนจบของซีรีส์ พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายจิตใจใครเลยจริงๆ Art of Quarantine แคมเปญนี้สร้างสรรค์ขึ้นโดย Looma ครีเอทีฟโปรดักชั่นเอเจนซี่แห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรมฯ แห่งยูเครน (Ministry of Culture and Information Policy of Ukraine) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อย้ำเตือนให้ผู้คนตระหนักว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรท่ามกลางสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสทุกวันนี้ Looma เชื่อว่า การใช้ชีวิตในช่วงการกักตัวเพื่อควบคุมโรคถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง นั่นจึงเป็นที่มาของแคมเปญ “Art of Quarantine” ที่นำผลงานมาสเตอร์พีซระดับโลกมาปรับโฉมใหม่ เพื่อแนะนำวิธีที่จะช่วยหยุดการระบาดของโควิด-19 เพราะถึงแม้ว่าจะมีคำแนะนำหรือการรณรงค์ให้เห็นอยู่ทั่วไป แต่ก็ดูเหมือนว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง ดังนั้น เพื่อที่จะเป็นจุดสนใจ เพื่อที่จะให้ง่ายต่อการจดจำ ศิลปะที่หลายคนคุ้นตาจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ งานจิตรกรรมสุดคลาสสิกจากหลากหลายศิลปินหลากหลายยุคทั้ง 9 ภาพ ถูกนำมาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ ฉาบเคลือบด้วยอารมณ์ขันบางๆ ให้เข้าถึงง่าย อย่างเช่น “SOCIAL DISTANCING” ซึ่งต้นฉบับเป็นผลงานของ Leonardo da Vinci จิตรกรเอกของโลกจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) ที่มีชื่อว่า The…
Editor
15 February 2021
Food & DrinksLifestyle

FOOD & DRINKS
เมนูเติมหวานเทศกาลแห่งความรัก

วันวาเลนไทน์ หรือ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าบรรยากาศโดยรอบจะอบอวลไปด้วยมวลแห่งความสุข ความห่วงใย และความปรารถนาดีที่ใครต่อใครต่างส่งให้กันในนามของ “ความรัก” หนึ่งในสิ่งที่นามธรรมที่สุดในโลกที่แม้แต่นักปรัชญาก็หานิยามไม่ได้ แต่เราทุกคนก็ยินดีที่จะใช้โอกาสนี้มอบช่วงเวลาสุดพิเศษให้กับคนที่เรารัก ที่มาที่ไปของวันวาเลนไทน์ไม่มีบันทึกไว้อย่างแน่ชัดว่าเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ไหน หรือ เพราะอะไร บ้างก็เชื่อว่าเกิดจากนักบุญวาเลนไทน์ นักบวชในคริสต์ศาสนาที่ยอมฝืนคำสั่งของจักรพรรดิแห่งโรมันที่ประกาศห้ามให้มีการจัดงานแต่งงานในช่วงสงคราม แต่ท่านก็แอบจัดพิธีให้กับคู่รักมากมาย บ้างก็เชื่อว่าเป็นเรื่องราวของนายแพทย์ที่ไปมีความรักต้องห้ามกับหญิงสาวตาบอดจนต้องโทษประหาร โดยที่ก่อนตายได้ทำการอธิษฐานและเขียนโน้ตถึงนาง กระทั่งเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นทำให้นางมองเห็นและได้อ่านข้อความสุดท้ายจากเขาว่า “From your Valentine” อย่างไรก็ตามวันวาเลนไทน์ได้กลายมาเป็นวันที่เราจะมอบของขวัญให้กับคนสำคัญข้างกาย นอกเหนือไปจากความรู้สึกดีๆ ที่ให้อยู่แล้วทุกวัน เพื่อให้วันนี้กลายเป็นวันพิเศษขึ้นกว่าเดิม อาจจะเป็นดอกกุหลาบสักดอก การ์ดน่ารักๆ สักใบ หรือ อาหารอร่อยๆ ที่มาพร้อมกับบรรยากาศแสนพิเศษสักมื้อ Power จึงไม่รอช้าที่จะพาไปทำความรู้จักกับขนมและอาหารที่ จะช่วยเติมความหวานให้กับความสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์นี้ของคุณ The Happiness That You Can Eat ทำไมช็อกโกแลตถึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของวันแห่งความรัก ตอบง่ายๆ ว่า มันอร่อย เพราะฉะนั้นการมอบของอร่อยๆ ให้กับคนรักมันก็สมเหตุสมผลดี นอกจากนั้นการรับประทานช็อกโกแลตแบบเข้มข้นยังมีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยลดความเครียด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ มีธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด รวมไปถึงฟลาโวนอยด์ที่ช่วยบำรุง “หัวใจ” ว่ากันว่ารสชาติดุจดั่งสวรรค์และสัมผัสของช็อกโกแลตชั้นดี ไม่เพียงแต่จะละลายในปากเท่านั้น แต่ยังละลายไปถึงหัวใจ อย่างที่ใครหลายคนเชื่อว่า ช็อกโกแลต ไม่ต่างอะไรจากความสุขที่มาในรูปของกิน The Language of Flowers ราวปลายศตวรรษที่ 17 ความนิยมเรื่องแนวคิดของ “ภาษาดอกไม้” หรือการใช้ดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึกกำลังเป็นที่นิยมไปทั่วทั้งยุโรป อย่างที่ดอกคาร์เนชั่นสีเหลืองแสดงถึงความผิดหวัง ดอกผักตบสีม่วงนั้นร้องขอการให้อภัย และแน่นอนดอกกุหลาบสีแดงแทนความรักจากหัวใจ ดอกกุหลาบนั้นเกี่ยวข้องกับวีนัส เทพีแห่งความรักของชาวโรมัน ตามตำนานเล่าว่าเมื่ออดอนิสคนรักของวีนัสตาย เลือดของเขาเมื่อรวมเข้ากับหยดน้ำตาอันเกิดจากความเสียใจของนาง ที่บริเวณนั้นได้เกิดเป็นพุ่มดอกไม้สีแดงเข้มขึ้นมา นั่นคือดอกกุหลาบ หรืออย่างของไทยก็มี มัทนะพาธา บทละครพูดคำฉันท์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตำนานดอกกุหลาบกับความรักอันเจ็บปวดนั่นเอง นอกจากความสวยงามแล้ว กลีบกุหลาบก็ยังนำมารับประทานได้ แถมยังมีประโยชน์มากเสียด้วย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินบี วิตามินเค แคลเซียม โพแทสเซียม รวมไปถึงแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่างๆ สามารถนำมาทำเป็นอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลาย เช่น ชาดอกกุหลาบ สลัดดอกกุหลาบ เค้กกุหลาบ หรือจะจิ้มกินกับน้ำพริกแบบไทยๆ ก็เก๋ไปอีกแบบ The Fruit of Love สตรอว์เบอร์รี ผลไม้ที่โดดเด่นที่สุดในวันแห่งความรัก เจ้าผลไม้สีแดงรูปหัวใจนี้มีความเกี่ยวข้องกับเทพีวีนัส ตามตำนานถือเป็นญาติห่างๆ ของดอกกุหลาบ และด้วยรูปร่างหน้าตารวมไปถึงรสชาติของมัน หลายคนจึงเปรียบเปรยเอาไว้ว่า หากถามว่าความรักรสชาติเป็นอย่างไร ก็ให้สตรอว์เบอร์รีแทนคำตอบนั้นได้เลย นอกจากนั้นมันยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า ถ้าคุณเจอผลสตรอว์เบอร์รีแฝด แล้วได้ทำการแบ่งมันให้ใครสักคนกิน ทั้งสองก็จะตกหลุมรักซึ่งกันและกัน สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าผลไม้อย่างส้ม องุ่น และกีวีหลายเท่า มีวิตามิน เส้นใยอาหาร และกรดโฟลิกที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็ง นิยมรับประทานสดๆ หรือจะนำไปจับคู่กับของหวานอย่างช็อกโกแลตก็อร่อย รวมไปถึงนำไปเป็นส่วนผสมตัดรสชาติกับอาหารคาวอย่างฟัวกราส์ย่างก็ช่วยชูรสให้ความรู้สึกสดชื่นเข้ากันลงตัว I Herb You เมื่อพูดถึงสมุนไพรก็มักจะชวนให้นึกถึงยา จริงอยู่ที่สรรพคุณทางการรักษาเหล่านั้น ดูจะห่างไกลจากคำว่าโรแมนติกอยู่พอสมควร แต่ถึงอย่างไรสมุนไพรก็ยังส่งผลดีต่ออารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ใจอุ่น เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่รับประทานร่วมกับคนรักในวันวาเลนไทน์นี้ โรสแมรี่ ในสมัยโบราณใช้เป็นสัญลักษณ์ของความรู้เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยให้ความจำดี เป็นสมุนไพรที่มีความโดดเด่นเรื่องกลิ่นและน้ำมันในตัว นิยมนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย มีสารที่มีประโยชน์ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง เสริมสร้างการผลิตคอลลาเจนช่วยให้ผิวกระชับ ที่สำคัญโรสแมรี่ยังเป็นสมุนไพรที่เชฟขาดไม่ได้ อันที่จริงแค่นึกถึงสเต็กเนื้อหรือปลาที่มีกลิ่นของโรสแมรี่บางๆ ก็สุขใจแล้ว ลาเวนเดอร์ กลิ่นที่เหมือนน้ำหอมจากธรรมชาติของลาเวนเดอร์ช่วยได้เสมอในเรื่องความโรแมนติก หนึ่งในน้ำมันหอมระเหยที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดที่จะช่วยสะกิดความรู้สึกของความสุขให้เคลิบเคลิ้มในอารมณ์แห่งเดือนกุมภาพันธ์…
Editor
12 February 2021
HighlightLifestyle

Travel in Style:
Alfresco Date Night

PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS จับมิกซ์แอนด์แมทช์ ไลฟ์สไตล์เก๋ไก๋ได้ลุคสบายตา แล้วพากันไปสร้างบรรยากาศโรแมนติก ให้การเดตในวันวาเลนไทน์นี้พิเศษกว่าใคร ด้วยดินเนอร์แบบเอาต์ดอร์ คลอเคล้าสายลมและเสียงเพลง พร้อมเติมเต็มความอิ่มเอมด้วยทิวทัศน์ ตระการตาในยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร  นาฬิกาข้อมือ จาก Omega ต่างหูรูปหัวใจ จาก Balenciaga เครื่องประดับ จาก Prada เครื่องประดับ จาก Bottega Veneta กระเป๋าหนัง จาก Burberry เสื้อเชิ้ต จาก Gucci รองเท้า จาก Gucci เข็มขัด จาก Gucci กางเกงขายาว จาก Gucci นาฬิกาข้อมือ จาก Panerai หมวก จาก Balenciaga เครื่องประดับ จาก  Bottega Veneta เครื่องประดับ จาก Prada กระเป๋าสะพาย จาก  Gucci กางเกงขายาว จาก Burberry รองเท้า จาก Valentino เสื้อยืด จาก Burberry
Editor
12 February 2021