DestinationLifestyle
อันดามัน สวรรค์ห้วงสีคราม STORY STEVE PHOTOGRAPHY SEAL TEAM 6 ที่นี่คือโลกแห่งทะเลสีคราม หาดทราย ชายทะเล สายลม และแสงแดดเจิดจ้า ซึ่งใครหลายคนมาเยือนแล้วหลงรัก เพราะที่นี่คือ “ทะเลอันดามัน” แหล่งดำน้ำระดับโลกอันเป็นศูนย์รวมของสรรพชีวิตใต้น้ำที่ยังคงแหวกว่ายต่อเติมระบบนิเวศแห่งท้องทะเลให้สมบูรณ์ และเป็นสวรรค์บนพื้นพิภพในฝันของใครบางคน เสียงเพรียกของทะเลอันดามัน ทำให้หัวใจของเราอดทนไม่ไหว ต้องรีบเก็บกระเป๋า บินเหินฟ้าสู่เกาะภูเก็ต หรือที่มีฉายาว่า “ไข่มุกแห่งอันดามัน” อันเป็นเสมือนประตูเปิดสู่การผจญภัยของเราในทริปนี้ ภูเก็ตเป็นเมืองเปี่ยมมนตร์เสน่ห์ ทั้งในส่วนของวิถีชีวิตชาวจีนฮกเกี้ยนที่เข้ามาตั้งรกราก รวมถึงเมืองเก่าสถาปัตยกรรมโคโลเนียลอันมีเอกลักษณ์ และหาดทรายขาวที่รายล้อมอยู่รอบเกาะ เป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เข้ามาสัมผัส ทว่าจะมีสักกี่คนที่มีโอกาสนั่งเรือล่องออกไปจากเกาะภูเก็ตสู่แหล่งดำน้ำซึ่งได้ฉายาเก๋ไก๋ว่า “Little Maldives” แน่นอนนั่นคือ “เกาะไม้ท่อน” สวรรค์ส่วนตัวที่เปิดรับเฉพาะนักท่องเที่ยวผู้เข้าใจและรักในธรรมชาติเท่านั้นเกาะไม้ท่อนเป็นเกาะส่วนตัว มีรีสอร์ตตั้งอยู่แห่งเดียวบนนั้น จึงคงความเงียบสงบและเป็นธรรมชาติมาก ใครที่คิดจะหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่อันสับสนไปเยี่ยมยลเกาะไม้ท่อน แค่วันเดียวก็เหมือนได้ชาร์จพลังงานชีวิตเพิ่มขึ้นแล้ว อาหารทะเลสดอร่อยที่เสิร์ฟบนเกาะ พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ รวมถึงภาพของหาดทรายขาวเนื้อเนียนละเอียดหน้าเกาะเคียงคู่ฟองคลื่น ทำให้ใจเราแทบละลาย แต่ไฮไลต์ของการมาเที่ยวครั้งนี้ คือการนั่งเรือเร็วออกไปหาจุดดำน้ำตื้นเพื่อทักทายหมู่ปลาและปะการังสวยหลากสี โดยเฉพาะในวันที่คลื่นลมสงบ แดดสวย ฟ้าใส โลกใต้น้ำรอบเกาะไม้ท่อนจะมีทัศนวิสัยการมองเห็นได้กว้างไกล มีฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายเข้ามาทักทายเราไม่ขาด เช่นเดียวกับปะการังแข็งต่างๆ ดาวขนนกสีสด และดอกไม้ทะเลที่พลิ้วไหวไปมาตามกระแสน้ำ ช่างเป็นภาพน่าจดจำเสียนี่กระไรเราขับรถข้ามสะพานสารสินมุ่งหน้าขึ้นทิศเหนือสู่จังหวัดพังงา เพื่อเดินทางสู่จุดหมายต่อไป ในที่สุดก็ถึงท่าเรือทับละมุของพังงา ท่าเรือใหญ่ซึ่งนักดำน้ำทุกคนจะต้องมาลงเรือที่นี่เพื่อออกเดินทางสู่ “หมู่เกาะสิมิลัน” ซึ่งมีแหล่งปะการังอ่อนสวยงามที่สุดของไทย อีกทั้งเคยได้รับการโหวตให้เป็นแหล่งดำน้ำสวยที่สุดติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกมาแล้วด้วย ว้าว! แล้วจะรอช้าอยู่ไย รีบลงเรือ Liveaboard กันเลยดีกว่า เพราะเมื่อซื้อแพ็กเกจทัวร์ดำน้ำแล้ว เราก็สามารถใช้ชีวิต กิน นอน ดำน้ำ หรือนั่งชิลล์อยู่บนเรือได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง คล้ายอาณาจักรลอยน้ำของเราแท้ๆ ปัจจุบันหมู่เกาะสิมิลันได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล หรือ Marine National Park เรียบร้อยแล้ว ทรัพยากรใต้น้ำและความหลากหลายทางชีวภาพจึงได้รับการปกป้องไว้อย่างดี เป็นสวรรค์ใต้ห้วงสมุทรสีครามที่อุดมด้วยสรรพชีวิต โดยเฉพาะน้ำทะเลสีครามเข้มปรี๊ด แถมน้ำยังใสปิ๊งราวกับแก้วคริสตัล ส่วนหินใบ (หรือหินเรือใบ) บนเกาะแปดของสิมิลัน ก็ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดไปโดยปริยาย คำว่า “สิมิลัน” เป็นภาษายาวี แปลว่า “เก้า” อันหมายถึงเกาะสำคัญ 9 เกาะ ได้แก่ เกาะหนึ่ง (เกาะยูง), เกาะสอง (เกาะปายัง), เกาะสาม (เกาะปาหยัน), เกาะสี่ (เกาะเมียง), เกาะห้า, เกาะหก (เกาะบายู), เกาะเจ็ด (เกาะปูซาร์), เกาะแปด (เกาะสิมิลัน) และเกาะเก้า (เกาะบางู) หลังจากนั้นได้มีการผนวกพื้นที่บริเวณเกาะตาชัยและเกาะบอน ซึ่งเป็นแหล่งปะการังที่สมบูรณ์ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติอีกด้วยกิจกรรมดำน้ำลึก (Scuba Diving) ของหมู่เกาะสิมิลันถือว่าโดดเด่นที่สุด เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่ามีปะการังอ่อนสวยแจ่มที่สุดในเมืองไทย สร้างความตื่นตาได้ทุกเมื่อ เช่น ที่บริเวณหินสันฉลาม มักพบปลาฉลามครีบเงินและฉลามเสือดาว, หินม้วนเดียว มีปะการังและกัลปังหานานาชนิดหลากสีให้ชม, แฟนตาซีรีฟ เป็นกองหินที่พบสัตว์ทะเลสวยงามแทบทุกชนิดราวกับโอเอซิสใต้น้ำ, คริสต์มาสพอยต์ พบปลาไหลริบบิ้นสีดำ ปลาบู่สีเพลิง, เกาะบอนและเกาะตาชัย มักพบฉลามกบและปลาขนาดใหญ่หลายชนิดแวะเวียนเข้ามาหากิน, สวนปลาไหล มีลักษณะเป็นลานทรายกว้างใต้น้ำใกล้เกาะห้า มีปลาไหลทะเลอาศัยอยู่นับร้อยตัว, เรือนกล้วยไม้ เป็นจุดดำน้ำลึกชมปะการังอ่อนหลากสีที่งามราวสวนสวรรค์ มีถ้ำใต้น้ำหลายแห่งซึ่งมักพบปลาสิงโตและกระเบนธงขนาดใหญ่ และสโตนเฮนจ์ เป็นกองหินขนาดใหญ่ซ้อนทับกัน มักพบปลากระเบนและปลาโรนินได้บ่อยที่สุดในเมืองไทย นี่ถ้าไม่เรียกว่าสิมิลันคือสวรรค์ของนักดำน้ำ แล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก!ในหมู่เกาะสิมิลัน เราแล่นเรือไปที่ “เกาะตาชัย” แล้วใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานเป็นพิเศษ…