DestinationLifestyleLifestyle 126Number 126

Destination:
In Beautiful Balloons

By 8 February 2019 No Comments

IN BEAUTIFUL BALLOONS

The world’s a nicer place in my beautiful balloon
It wears a nicer face in my beautiful balloon
We can sing a song and sail along the silver sky
For we can fly, we can fly–Jimmy Webb

STORY

NISARAT SITASUWAN

PHOTOGRAPHY

NISARAT SITASUWAN / CHATON CHOKPATTARA / SWISS-IMAGES.CH

แม้ใน 80 วันรอบโลก หนังสือคลาสสิกของจูลส์ เวิร์น จะกล่าวถึงบอลลูนเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่การเดินทางโดยบอลลูนลมร้อนกลับกลายเป็นอมตะและเป็นสุดยอดแห่งการเดินทางท่องเที่ยวจากการตีความและนำเสนอโดยเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของ 80 วันรอบโลก ทั้งใน ค.ศ. 1956 และ ค.ศ. 2004

บอลลูนลมร้อนถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ที่ฝรั่งเศส เคยถูกนำไปใช้เพื่อการดูลาดเลาของฝ่ายตรงข้ามในสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา ต่อมาก็ใช้เพื่อความเพลิดเพลินและการเดินทางแบบท้าทายสถิติ บอลลูนลมร้อนเป็นเหมือนภาพในเทพนิยายยามค่อยๆ ลอยตัวขึ้นจากพื้นดินและล่องลอยอย่างเงียบๆ ผ่านภูมิประเทศเบื้องล่าง ขณะเดียวกันก็เป็นการผจญภัยด้วย เพราะบอลลูนนั้นบังคับขึ้นลงได้ แต่เรื่องทิศทางกลับกำหนดได้ยาก ด้วยปัจจัยของลมและสภาพอากาศ นักบินต้องมีความสามารถและการตัดสินใจที่ดียิ่งยามจะหาที่ลงจอด ในยุคปัจจุบันจึงใช้เพื่อการท่องเที่ยวในระยะทางสั้นๆ และเป็นการแข่งขันเชิงกีฬามากกว่า 

การได้ขึ้นบอลลูนลมร้อนอาจจะเป็นความฝันของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะเมื่อได้ขึ้นบอลลูนในสถานที่ซึ่งมีทิวทัศน์งดงามกว้างไกลนั้น นอกจากจะได้ขึ้นไปอยู่สูงเหนือพื้นโลกและลอยเลื่อนจนคล้ายกับบินได้แล้ว ยังให้ความรู้สึกเปี่ยมสุขผสมกับอะดรีนาลีนรัชในเวลาเดียวกันอีกด้วย จนถ้าใครได้ลองขึ้นสักครั้งจะติดใจ ต้องมีครั้งต่อๆ ไปตามมา

และนี่คือสถานที่ขึ้นท่องเที่ยวชมวิวด้วยบอลลูนยอดนิยมระดับโลก ซึ่งเป็น A Must และ Bucket List ระดับท็อปออฟเดอะเวิลด์ที่ผู้ชื่นชอบบอลลูนต้องไปลองกันให้ได้สักครั้ง

SEA OF PAGODAS IN BAGAN

พุกาม ประเทศพม่า มีชื่อเสียงด้วยเจดีย์นับพันๆ องค์และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าพันปี ความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในรัชสมัยของพระเจ้าอโนรธามังช่อ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พุกาม (ค.ศ. 1044-1077) ทำให้เกิดความนิยมในการสร้างเจดีย์เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างมากมายในสมัยต่อๆ มา โดยกษัตริย์จะสร้างเจดีย์องค์ใหญ่สุด รายล้อมด้วยเจดีย์ที่มีขนาดลดหลั่นกันมาของราชวงศ์ ข้าราชการ และคหบดีในรัชสมัยนั้นๆ สร้างกันมาจนอาณาจักรพุกามล่มสลายในปี ค.ศ. 1309 ในยุครุ่งเรืองถึงขีดสุด พุกามมีเจดีย์ถึงกว่า 4,000 องค์ กระทั่งภัยธรรมชาติต่างๆ รวมทั้งแผ่นดินไหวหลายครั้ง ล่าสุดคือเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี่เอง ทำให้เจดีย์พังไปเกือบครึ่ง เหลือราว 2,000 องค์ในปัจจุบัน

การเที่ยวชมวัด เจดีย์ และวิหารในเมืองเก่าพุกามให้ครบถ้วนเป็นเรื่องที่จะต้องใช้เวลามากทีเดียว และหลังจากมีการห้ามไม่ให้ปีนเจดีย์ใหญ่ๆ หลายองค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตก ซึ่งในช่วงที่มีหมอกปกคลุมยามเช้าและใกล้พลบค่ำ จะดูราวกับอยู่ในทะเลที่มีเจดีย์ผุดขึ้นเหมือนเกาะแก่งเหนือน้ำ การชมทะเลเจดีย์แห่งพุกามโดยการขึ้นบอลลูนลมร้อนจึงกลายมาเป็นทางเลือกยอดนิยมที่สุดในปัจจุบัน

การขึ้นบอลลูนที่พุกามนิยมทำกันในช่วงเช้ามืด เพื่อให้ผู้โดยสารได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างทางนักบินจะเป็นเหมือนไกด์กลายๆ ชี้ชวนชมและเล่าเรื่องของเจดีย์องค์สำคัญๆ ให้ทราบ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการบิน โดยนอกจากทะเลเจดีย์แล้วจะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพม่าริมสายน้ำอิรวดีอีกด้วย ค่าโดยสารบอลลูนราวคนละ 350 เหรียญสหรัฐฯ กระเช้าหนึ่งโดยสารได้ 8-16 คน ช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคม

LUXOR FLIGHTS

อียิปต์นับเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชมวิวด้วยบอลลูนลมร้อนแห่งแรกๆ ของโลก จากความนิยมท่องเที่ยวอียิปต์ของชาวยุโรปมาเนิ่นนาน โดยบริเวณที่ขึ้นบินชมภูมิประเทศ คือลักซอร์ ซึ่งมีกลุ่มวิหารคาร์นักอันใหญ่โตกินอาณาเขตกว้างใหญ่ริมแม่น้ำไนล์ และไกลออกไปในทะเลทรายคือหุบผากษัตริย์ ซึ่งมีหลุมฝังศพฟาโรห์ พระราชวงศ์ รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซ่อนตัวอยู่ตามหน้าผา และวิหารของพระนางฮัตเชปสุต ฟาโรห์หญิงแห่งอาณาจักรไอยคุปต์ผู้ทำให้อียิปต์โบราณเจริญก้าวหน้าที่สุด

ด้วยพื้นที่ของลักซอร์ที่กว้างขวางครอบคลุมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำไนล์ การจะเห็นภาพกว้างทั้งหมดได้นั้น วิธีที่ดีที่สุด คือการขึ้นบอลลูนชมในช่วงเช้านั่นเอง การไปขึ้นบอลลูนที่นี่จะเริ่มกันตั้งแต่เช้ามืดด้วยการนั่งเรือข้ามแม่น้ำไนล์สู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ ต่อรถไปยังลานกว้างที่ใช้เป็นสนามบิน เมื่อเจ้าหน้าที่เป่าลมร้อนเข้าไปจนตัวบอลลูนตั้งตรงแล้ว ก็ได้เวลาที่ผู้โดยสารจะปีนขึ้นไปในตะกร้าและเตรียมพร้อมให้บอลลูนเทคออฟขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมๆ กับที่พระอาทิตย์โผล่ขึ้นพ้นทิวไม้

กระเช้าบอลลูนที่ลักซอร์มีขนาดใหญ่ บรรทุกผู้โดยสารได้เต็มที่ 20-24 คน ในช่วงเช้าที่กระแสลมสงบ บอลลูนจะค่อยๆ ลอยเหนือบริเวณหุบผากษัตริย์ (ซึ่งอาจจะสังเกตยากสักหน่อยว่าช่องไหนคือหลุมฝังศพใคร) ผ่านวิหารฮัตเชปสุตที่เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นถึงความโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทะเลทรายที่เวิ้งว้าง และส่วนที่เป็นไฮไลต์สำคัญคือการได้ชมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอียิปต์ถึงในห้องนอน เมื่อบอลลูนลอยเรี่ยเฉียดหลังคาบ้านไป

ระยะเวลาในการล่องลอยอยู่บนบอลลูน คือหนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ราคาต่อคนราว 100-180 เหรียญสหรัฐฯ

อียิปต์นับเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชมวิวด้วยบอลลูนลมร้อนแห่งแรกๆ ของโลก

กระเช้าบอลลูนที่ลักซอร์มีขนาดใหญ่ บรรทุกผู้โดยสารได้เต็มที่ 20-24 คน

FAIRY-TALE CAPPADOCIA

ที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวขณะนี้ คือการขึ้นบอลลูนชมวิวที่คัปปาโดเกีย ดินแดนตอนกลางของประเทศตุรกี

เขตคัปปาโดเกียมีเอกลักษณ์อยู่ที่ภูมิประเทศอันเป็นหินรูปทรงแปลกตา เคยเป็นที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาลจนถึงยุคไบแซนไทน์ โดยการขุดเป็นโพรงใต้ดินหรือตามหินทรงสูงคล้ายปล่องไฟ จนได้ชื่อว่าปล่องไฟนางฟ้า หรือ Fairy Chimneys ซึ่งภูมิทัศน์เช่นนี้นี่เองที่เมื่อมองจากมุมสูงจะคล้ายกับเมืองของเอลฟ์ในเทพนิยาย

เมืองที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบอลลูน คือเกอเรเม (Göreme) ซึ่งสามารถจองล่วงหน้าได้ 1-2 วัน เนื่องจากต้องพิจารณาการนำบอลลูนขึ้นวันต่อวัน แล้วแต่สภาพอากาศ โดยจะเริ่มกันตั้งแต่เช้ามืด รับประทานอาหารเบาๆ ก่อนไปขึ้นบอลลูน แล้วใช้เวลาล่องลอยชมวิวอยู่หนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และเมื่อลงจอดเรียบร้อยแล้ว จะเปิดแชมเปญแจกจ่ายฉลองกัน พร้อมแจกประกาศนียบัตรว่าผ่านการโดยสารบอลลูนมาแล้ว

การเที่ยวชมคัปปาโดเกียโดยบอลลูนจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกแต่งแต้มตามยอดแท่งหิน กระเช้าบอลลูนจุผู้โดยสารได้ราว 8-20 คน ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนคนในกระเช้า ระหว่างคนละ 180-300 เหรียญสหรัฐฯ

BALLOON SAFARI IN KENYA

อีกหนึ่งตำนานการท่องเที่ยวชมวิวด้วยบอลลูน ที่ถ้าใครไปซาฟารีถึงเคนยาแล้ว หากไม่ได้ขึ้นบอลลูนชมสัตว์ก็เหมือนมาไม่ถึงที่นี่

มาไซมารามีภูมิประเทศเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่สรรพสัตว์น้อยใหญ่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยและหากิน โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวจะท่องซาฟารีด้วยรถหรือเกมไดรฟ์ รอบเช้า เย็น และค่ำ ซึ่งก็จะได้เห็นสัตว์หลากหลายชนิดที่ออกหากินในเวลาต่างๆ กัน ทว่าช่วงเวลาที่เป็นไฮไลต์ที่สุด คือฤดูอพยพของวิลเดอบีสต์ ที่จะมารวมตัวกันนับหมื่นๆ ตัว และเดินวิ่งมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน ซึ่งดูแล้วน่าตื่นตาที่สุด

และเช่นเดียวกับทุกๆ ที่ซึ่งมีบอลลูนให้ขึ้นชมวิว คือจะต้องเริ่มออกเดินทางไปที่ลานบินบอลลูนตั้งแต่ยังไม่สว่าง และเมื่อฟ้าเริ่มเรื่อเรือง บอลลูนก็จะลอยขึ้นฟ้าพร้อมๆ กับที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นมา

ในช่วงเช้ามืด สัตว์กินหญ้าจะเริ่มตื่นและออกเดินหากิน ในขณะที่สัตว์กินเนื้ออย่างสิงโตกำลังเฝ้ารอเหยื่อ และเสือดาวที่ออกล่าในยามกลางคืนจะนำเหยื่อของมันที่ล่าได้ขึ้นไปไว้บนคาคบ การลอยบอลลูนอย่างเงียบเชียบบนท้องฟ้าก็อาจทำให้ได้เห็นภาพสำคัญๆ เหล่านั้น

สิ่งที่เพิ่มพิเศษขึ้นมาของการไปบอลลูนซาฟารีที่เคนยา คือเมื่อลงจอด นอกจากจะเสิร์ฟแชมเปญแล้ว ยังเสิร์ฟอาหารเช้าแบบมีกุ๊กมาย่างไส้กรอกทอดไข่ดาว ตั้งโต๊ะรับประทานกันกลางทุ่งหญ้าอีกด้วย ดังนั้นค่าโดยสารจึงค่อนข้างสูง ราวคนละ 400 เหรียญสหรัฐฯ ใช้เวลาลอยชมสัตว์หนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ในกระเช้าขนาดบรรทุก  4-16 คน

มาไซมารามีภูมิประเทศเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่สรรพสัตว์น้อยใหญ่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย

ในช่วงเช้ามืด สัตว์กินหญ้าจะเริ่มตื่น
และออกเดินหากิน 

ROLLING SOUTH MORAVIA

เนินทุ่งสลับสล้างของเซาธ์โมราเวียในสาธารณรัฐเชก ติดอันดับหนึ่งในสิบทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในโลกมาหลายปี ไม่ว่าจะในฤดูร้อนที่เขียวขจีไปด้วยพืชพันธุ์ทางการเกษตรต่างๆ จนช่วงหลังเก็บเกี่ยวที่เนินจะกลายเป็นสีน้ำตาลหลายเฉดเมื่อมีการเก็บฟางเป็นม้วนกลม ก่อนแพ็กเก็บไว้ใช้ในฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามา

นอกจากเนินทุ่งที่งดงาม เซาธ์โมราเวียยังมีหมู่บ้านเล็กๆ เมืองเก่าแก่ และปราสาทประจำเมือง ซึ่งเมื่อขึ้นบอลลูนชมวิวจะทำให้รู้สึกเหมือนกับได้ลอยย้อนเข้าไปในอดีตสมัยยุคกลางนั่นเอง

เมืองศูนย์กลางของการให้บริการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนของเซาธ์โมราเวีย คือเบรโน ใช้กระเช้าขนาดเล็ก-กลาง บรรทุกผู้โดยสารได้ 4-6 คน จนถึงสูงสุด 16  คน ลอยชมวิวหนึ่งชั่วโมง ราคาคนละ 100-150 เหรียญสหรัฐฯ

เมืองศูนย์กลางของการให้บริการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนของเซาธ์โมราเวีย คือเบรโน 

WINTER IN CHÂTEAU-D’OEX

กล่าวกันว่า ชาโตเดซ์ คือเมืองหลวงแห่งบอลลูนลมร้อนของโลก เพราะในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 41 แล้ว โดยจะมีนักบินบอลลูนฝีมือระดับโลก 90-100 คน นำบอลลูนรูปทรงต่างๆ มาชุมนุมกันเพื่อการโชว์ การแข่งขัน และให้บริการคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์การขึ้นบอลลูนสุดท้าทาย

ในส่วนของสถานที่ ชาโตเดซ์เป็นหมู่บ้านในแคนตอนโวด์ของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและที่ราบเชิงเขา จึงมีวิวที่สวยงามมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุม ทำให้หมู่บ้านต่างๆ ดูราวกับเมืองตุ๊กตา

ช่วงเทศกาลมีบอลลูนให้บริการวันละ 2 รอบ คือเวลา 9.30 น. และ 14.00 น. ใช้ระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ราคาคนละ 390 ฟรังก์สวิส ผู้จะขึ้นบอลลูนต้องมีสุขภาพดี เนื่องจากบอลลูนอาจขึ้นสูงถึงระดับ 3,500 ฟุตทีเดียว

HOW TO PREPARE FOR YOUR BALLOON FLIGHT

1. บอลลูนลมร้อนจะขึ้นบินได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ การจองล่วงหน้าไม่ได้การันตีว่าจะได้ขึ้น แต่ผู้ประกอบการจะคืนเงินถ้าขึ้นบินไม่ได้จริงๆ และผู้โดยสารไม่สามารถรอขึ้นวันถัดไปได้ 

2. แต่งกายให้อบอุ่นและรัดกุม แม้จะเป็นช่วงหน้าร้อน เพราะเมื่อลอยขึ้นสูง อุณหภูมิจะลดลงมาก

3. สวมรองเท้าพื้นแบนและหุ้มเท้าทั้งหมด เพราะบอลลูนอาจลงจอดในพื้นที่ที่ต้องเดินลุยออกมา

4. ผู้ให้บริการจะห้ามไม่ให้นำกระเป๋า เป้ ถุง ฯลฯ ขึ้นไปด้วย นอกจากกระเป๋าคาดเอวหรือห้อยคอติดตัว

5. กล้องและโทรศัพท์ควรห้อยคล้องคอไว้เสมอ ถ้าหากร่วงหล่น บอลลูนไม่สามารถลงจอดแวะเก็บให้ได้

6. เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนขึ้นบอลลูน เพราะบอลลูนไม่สามารถลงจอดแวะให้เข้าห้องน้ำได้เช่นกัน

DESTINATION