FlashWhat's New

THE WATCH GUIDE 2021
OMEGA แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิส
ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการ
ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020

ในขณะที่นักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลกกำลังลงสนามแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 กันอย่างดุเดือด ผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของงานมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง OMEGA แบรนด์ที่เต็มไปด้วยการสร้างสรรค์เทคโนโลยีล้ำสมัยและประสบการณ์การจับเวลามาหลายทศวรรษ ก็กำลังจัดการแสดงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อบันทึกความทรงจำแห่งประวัติศาสตร์บนข้อมือของคุณ กับ OMEGA Seamaster คอลเลคชั่นพิเศษ 4 คอลเลคชั่นในคราวเดียว ความพิเศษแห่งการเฉลิมฉลองที่สมบูรณ์แบบของ โอลิมปิก โตเกียว 2020SEAMASTER DIVER “TOKYO 2020” จากแรงบันดาลใจในกีฬากระโดดน้ำสู่ Seamaster Diver 300m Tokyo 2020 ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 42 มิลลิเมตร ติดตั้งวงแหวนขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินพร้อมสเกลดำน้ำอีนาเมลสีขาว เข้ากันได้อย่างลงตัวกับหน้าปัดเซรามิกสีขาวขัดมันที่ให้มิติความลึกด้วยริ้วคลื่นที่สลักด้วยเลเซอร์ มีหน้าต่างแสดงวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เข็มนาฬิกาสีน้ำเงินช่วยเติมเต็มการออกแบบ พร้อมคุณสมบัติเพื่อการมองเห็นในที่มืดด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาว และเพื่อเป็นการรำลึกถึงการแข่งขัน ฝาหลัง NAIAD Lock เผยให้เห็นสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 บนกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ มาพร้อมกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer Caliber 8800 เพื่อความแม่นยำและประสิทธิภาพที่โดดเด่น ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานอย่างเป็นทางการจาก Swiss Federal Institute of Metrology (METAS)SEAMASTER AQUA TERRA “TOKYO 2020” LIMITED EDITION Seamaster Aqua Terra คือตัวแทนแห่งแรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว 2020 สะท้อนผ่านตัวเรือนสแตนเลสขนาด 41 มิลลิเมตร ที่มาพร้อมหน้าปัดเซรามิกสีน้ำเงินขัดเงา ลงตัวด้วยลวดลายสัญลักษณ์ Tokyo 2020 สลักเลเซอร์ เสริมด้วยเข็มนาฬิกาชุบโรเดียม ถือเป็นครั้งแรกที่โอเมก้าได้นำหน้าปัดเซรามิกมาใช้ในคอลเลคชั่นนี้ รุ่นนี้มีจำนวนจำกัดเพียง 2,020 เรือน โดยมีการระบุแต่ละหมายเลขรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นอยู่ที่ฝาหลัง พร้อมด้วยสัญลักษณ์โอลิมปิกเกมส์โตเกียว 2020 บนกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ มาพร้อมกลไก OMEGA Master Chronometer caliber 8900 ซึ่งนาฬิกาจะมาพร้อมสายยางสีน้ำเงินและสายสแตนเลส ในกล่องแบบพิเศษSEAMASTER PLANET OCEAN “TOKYO 2020” LIMITED EDITION สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและไหวพริบ ผ่านเรือนเวลารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น Seamaster Planet Ocean ที่มาในตัวเรือนสแตนเลสขนาด 39.5 มิลลิเมตร หน้าปัดเซรามิกสีขาวขัดเงา เสมือนเป็นตัวแทนของธงชาติญี่ปุ่น ประดับด้วยเข็มวินาทีตรงกลางทรงโลลิป๊อปปลายเข็มดอตสีแดง ติดตั้งวงแหวนขอบตัวเรือนเซรามิกสีขาวและสเกลดำน้ำ OMEGA Liquidmetal™ เพื่อเป็นการระลึกถึง Tokyo 2020 ตัวเลข 20 บนขอบตัวเรือนจึงถูกบรรจุด้วยลิควิดเซรามิกสีแดง รุ่นนี้ผลิตเพียง 2,020 เรือนเช่นเดียวกัน มาพร้อมกลไก Omega Master Chronometer Calibre 8800 ที่ผ่านการรับรอง Master Chronometer กระจกแซฟไฟร์คริสตัลที่ฝาหลังมีสัญลักษณ์ โอลิมปิกเกมส์โตเกียว 2020 โดยนาฬิกาจะมาคู่กับสายสแตนเลสและสาย NATO ภายในกล่องแบบพิเศษTHE GOLD EDITIONS คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะเลิศในกีฬาโอลิมปิกก็สามารถรับเหรียญทองได้ ด้วย Seamaster Aqua…
Editor
30 July 2021
BeautyBeauty TrendTrend

BEAUTY TREND
 เทรนด์การทาลิปสติกที่คาดว่าอาจอยู่ยาว…

PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS ในยุคที่เศรษฐกิจกำลังถดถอยเช่นนี้ คงไม่มีผลิตภัณฑ์เสริมความงามใดที่จะมีความยืดหยุ่น และช่วยเสริมความมั่นใจได้เท่ากับลิปสติกอีกแล้ว ด้วยเป็นไอเทมที่ผู้ซื้อเต็มใจที่จะจ่าย แบบไม่กระทบกับสถานะทางการเงินของตนเองมากนัก  แล้วยิ่งมีเรื่องให้ต้องใส่มาสก์แทบจะตลอดเวลา ในยามที่ต้องออกนอกบ้านเข้ามาด้วย แม้ว่าอาจจะทำให้สาวๆ ลดเลเวลในการแต่งหน้าลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงไม่เว้นว่างในเรื่องของการทาลิป เชื่อสิ! เมื่อพูดถึงลิปสติกแล้ว ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่เคยเป็นที่นิยมมาอย่างสม่ำเสมอ อาจต้องเบาลงไปบ้างในช่วงนี้ เพราะผู้คนต่างหันมาใช้สูตรที่เป็นมิตรกับริมฝีปากภายใต้มาสก์กันมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ไฮบริดอย่างพวกลิปออยล์ ที่ดูแลถนอมริมฝีปากไปพร้อมๆ กับการเติมสีสัน จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพื่อลดความซับซ้อนของขั้นตอนการดูแลผิวและการแต่งหน้าในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 รวมไปถึงลิปสติกสีสันสดใสเนื้อแน่นติดทนไม่เลอะติดมาสก์ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมมัสต์แฮฟที่สาวๆ ต่างเช็กลิสต์ให้มีติดกระเป๋าไว้ในยุคมาสก์ปาร์ตี้ ถ้าให้พูดถึงเทรนด์ของลิปสติกในปีนี้ จริงๆ แล้วต้องบอกว่าลิปสติกแนวมันวาวกำลังมาเลยทีเดียว แต่ก็มีอันให้หยุดนิ่งไปชั่วขณะ ด้วยเพราะอุปกรณ์เสริมอย่างมาสก์ที่เข้ามาสกัดดาวรุ่ง จึงทำให้ลิปกลอสที่ไม่เหนียวเหนอะหนะกลายเป็นไอเทมที่เป็นที่ต้องการมากในช่วงปลายปีก่อนเข้ามาแทนที่ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะสลัดมาสก์ทิ้งไปได้ ผู้คนเริ่มโหยหาลิปสติกหลากสีสันที่เคยแต่งแต้มอยู่บนเรียวปาก อย่างหนึ่งก็เพื่อฮีลหัวใจตัวเองให้กลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง และต่อไปนี้คือเทรนด์ของลิปสติกที่พร้อมจะช่วยเยียวยาหัวใจของคุณไปตลอดทั้งปีนี้ และคาดว่าจะอยู่กันไปยาวๆ ถึงปีหน้ากันเลยทีเดียว STAINED LIPS ลิปสเตนเป็นลิปสติกที่เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ยุคนี้อย่างที่สุดแล้ว ด้วยนอกจากจะให้สีสวยสดใสถูกใจ พิกเมนต์และเนื้อสัมผัสที่ได้ยังค่อนข้างติดทนนาน แห้งไวใช้ง่าย ไม่จำเป็นต้องเติมลิปบ่อยๆ ไม่ทิ้งรอยเปื้อนไว้บนมาสก์ให้รำคาญใจ นอกจากนี้ยังใช้เป็นลิควิดบลัชออนได้อีกด้วย สียอดนิยมก็จะเป็นแนวโรสวู้ด เฉดสีกลางๆ ให้โทนเย็นๆ แต่ถ้าชอบสีเข้มๆ สีอินเทรนด์ก็ต้อง สีม่วง ชมพูร้อนแรง และแดงเข้ม DIOR Dior Addict Lip Tattoo SHOP NOW CLARINS Water Lip Stain Trio SHOP NOW YVES SAINT LAURENT Rouge Pur Couture Vernis A Levres Glossy Stain SHOP NOW GIORGIO ARMANI Lip Magnet SHOP NOW YVES SAINT LAURENT Vernis A Levres Water Stain SHOP NOW TINTED BALM สำหรับคนที่อยากได้ลุคใสๆ แค่พอซอฟต์ๆ ชอบสไตล์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และริมฝีปากไม่แห้งแตกเป็นขุย ทินต์บาล์มถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สาวๆ หรือแม้กระทั่งหนุ่มๆ ส่วนใหญ่นิยมใช้  เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นอวบอิ่มแล้วยังช่วยเติมสีสันให้ริมฝีปากดูมีชีวิตชีวาขึ้นได้ เรียกได้ว่าสวยได้แบบ 2-in-1 เป็นทั้งลิปบาล์มและลิปสติกในแท่งเดียวกัน เหมาะสำหรับเติมได้ตลอดทั้งวัน DIOR Dior Addict Lip Glow SHOP NOW ESTÉE LAUDER Pure Color Envy Color Replenish Lip Balm SHOP NOW BOBBI BROWN Extra Lip Tint SHOP NOW DEAR DAHLIA Blooming Edition Paradise Tinted Blooming Balm SHOP NOW…
Editor
29 July 2021
Lifestyle

Lifestyle
มหกรรมกีฬารักษ์โลก โอลิมปิก โตเกียว 2020

ในที่สุดมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก โตเกียว 2020 ก็ได้เปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 กรกฎาคม ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในบทความนี้ Power จะพาคุณไปทำความรู้จักกับสิ่งละอันพันละน้อย แต่เต็มไปด้วยความใส่ใจอันมหาศาล ที่ทางเจ้าภาพได้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักสากลโลก ภายใต้แนวคิด “Be better, together – for the planet and the people” เหรียญรางวัล ต้องบอกว่าน่าประทับใจทั้งในเรื่องของดีไซน์และแนวคิด กับไอเดียสุดสร้างสรรค์ ด้วยการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาแปรรูปเป็นเหรียญรางวัลอันทรงเกียรติ ที่เหล่านักกีฬาต่างตั้งใจไขว่คว้า เพื่อสร้างชื่อให้กับตนเองและประเทศชาติ นอกเหนือจากการได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้  โดยเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง จำนวนกว่า 5,000 เหรียญนั้น ถูกทำขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือเก่าๆ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กอื่นๆ จากการบริจาคของประชาชน กว่า 1,621 ชุมชน หรือคิดเป็น 90% ของชุมชนทั้งหมดของญี่ปุ่น ได้วัสดุเกือบ 79,000 ตัน และโทรศัพท์มือถือใช้แล้วจำนวน 6.21 ล้านเครื่อง โดยใช้เวลารวบรวมกว่า 2 ปี เมื่อนำมารีไซเคิลได้เหรียทองประมาณ 32 กิโลกรัม เงิน 3,500 กิโลกรัม และทองแดง 2,200 กิโลกรัม ทั้งนี้เหรียญรางวัลเป็นผลงานการออกแบบของ Junichi Kawanishi ผู้ชนะการประกวดจากทั้งหมด 400 แบบ ซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยเน้นที่ความเรียบง่าย มีรูปแกะสลัก Nike – เทพีแห่งชัยชนะของกรีก ยืนอยู่หน้าสนามกีฬาพานาธิไนกอส และสัญลักษณ์วงแหวนโอลิมปิก 5 ห่วง พร้อมชื่อการแข่งขัน โตเกียว 2020 ส่วนของริบบิ้นได้รับการออกแบบให้สะท้อนถึงตัวตนของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีในความหลากหลาย ด้วยลวดลายทันสมัยของลายตาหมากรุก “อิชิมัทสึ โมโย” ดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทำขึ้นจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลทางเคมี ซึ่งผลิต CO2 น้อยกว่าวัสดุโพลีเอสเตอร์อื่นๆ ในระหว่างกระบวนการผลิต และแต่งสีกราฟิกหลักของโตเกียว 2020 ทั้งหมดถูกบรรจุอยู่ในกล่องที่ออกแบบโดย Shinya Yoshida ทำขึ้นจากไม้แอชญี่ปุ่นย้อม โดยช่างฝีมือชาวญี่ปุ่น Yamagami Mokko ที่ใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่มาผสมผสานกัน ทำให้แต่ละเหรียญมีลวดลายที่แตกต่างกันไป โพเดียมรับรางวัล อีกหนึ่งผลงานจากการรีไซเคิลขยะพลาสติกจำนวน 24.5 ตัน ที่ได้จากการรวบรวมขยะพลาสติกจากบ้านเรือน ร้านค้า โรงเรียน องค์กรต่างๆ รวมถึงขยะในท้องทะเล โดยบริษัท P&G ได้ให้การสนับสนุนในการเก็บรวบรวมตลอดระยะเวลา 9 เดือน จากการบริจาคของประชาชนชาวญี่ปุ่น เพื่อนำมาทำโพเดียมรับเหรียญรางวัลกว่า 98 แท่น  โดยโพเดียมรับรางวัลนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Asao Tokolo ศิลปินชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ออกแบบตราสัญลักษณ์โอลิมปิก 2020  ที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมต่อกันเป็นฟอร์มวงกลม และการเชื่อมโยงกันของทรงลูกบาศก์เหล่านั้นได้แฝงความหมายถึงความสามัคคี โพเดียมรับรางวัลจึงเกิดจากการนำลูกบาศก์ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลหลายลูกมาเรียงต่อกัน โดยแต่ละลูกรับน้ำหนักได้ 1.5 กิโลกรัม ในส่วนของด้านข้างของแท่นโพเดียมจะเป็นรูปคล้ายตาหมากรุกสีคราม จัดเรียงแบบสามมิติสไตล์เรขาคณิต ส่วนสัญลักษณ์โอลิมปิก 5 ห่วง ทำมาจากขยะอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของบ้านพักชั่วคราว จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของประเทศเมื่อปี 2011 นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งเป้าหมายที่จะนำขยะกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ร้อยละ 65…
Editor
29 July 2021
Lifestyle

Lifestyle
5 เคล็ดลับการจัดดอกไม้
สร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่

ขอบคุณรูปภาพจาก instagram.com/mossandstonefloraldesign ดอกไม้ เป็นอีกหนึ่งตัวแทนของภาษาที่ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด ไม่ว่าจะเป็นความโรแมนติก หรือสื่อถึงอารมณ์ในโอกาสต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งช่วงสภาวะตึงเครียดแบบนี้ Power ชวนคุณมาสร้างบรรยากาศให้บ้านของคุณดูรื่นรมย์ มีชีวิตชีวาในช่วงเวลาที่ต้องกักตัว ด้วยกิจกรรมที่ช่วยบำบัดจิตใจให้แจ่มใสอย่าง “การจัดดอกไม้” ซึ่งเรามีทริกง่ายๆ ในการจัดมาบอกกัน รับรองผลลัพธ์อย่างน่าอัศจรรย์ 1. การเลือกดอกไม้ตามฤดูกาล การที่เราเลือกใช้ดอกไม้ตามฤดูกาลจะทำให้เราได้ดอกไม้ที่ทั้งสวยและสดที่สุด สามารถอยู่ในแจกันได้นานขึ้น แถมราคายังถูกกว่าดอกไม้นอกฤดูกาลหรือดอกไม้หายากนานาชนิด ช่วยให้เราประหยัดงบไปได้เยอะ ดอกไม้ที่แนะนำอยากให้เป็นดอกไม้ที่หาได้ตลอดทั้งปี เช่น กุหลาบ เยอบีร่า คาร์เนชั่น ยิบโซ หน้าวัว ส่วนไฮเดรนเยียร์ที่กำลังเป็นที่นิยมนั้น ปัจจุบันก็มีแพร่หลายในไทย ออกดอกมากในช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบลิลลี่ก็คงต้องรอนานกันหน่อย เพราะจะมาในช่วงฤดูหนาว ขอบคุณรูปภาพจาก instagram.com/wonderland_botanicals 2. จับดอกไม้มามิกซ์แอนด์แมตช์กับใบไม้ การจัดดอกไม้แบบเดิมๆ ดูแล้วคงจะน่าเบื่อเกินไป การนำดอกไม้มามิกซ์แอนด์แมตช์กับสารพันใบไม้น้อยใหญ่ จะให้ความเก๋ไก๋ได้มากขึ้น อีกทั้งใบไม้ยังอยู่ได้คงทนกว่าเพราะโดยปกติดอกไม้ที่ตกแต่งในแจกันส่วนมากจะอยู่ได้ประมาณ 5 - 7 วัน เราก็ต้องทิ้งแล้ว แต่ใบไม้ที่เอามาแซมนั้นยังคงใช้ชีวิตต่อไปได้แบบเขียวๆ ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ จะย้ายไปตกแต่งบนโต๊ะเครื่องแป้ง หรือเคาน์เตอร์ในครัวก็ไม่เสียหาย ให้ความคลาสสิกอยู่ไม่น้อย ขอบคุณรูปภาพจาก instagram.com/wonderland_botanicals 3. เลือกจุดจัดวางดอกไม้ให้เหมาะสม การจัดดอกไม้ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ไม่จำเป็นต้องจัดตามแพตเทิร์นทุกครั้งไป และใช่ว่าจะต้องเป็นเฉพาะห้องรับแขกเท่านั้นที่จะได้รับความสดชื่น การสร้างบรรยากาศให้รื่นรมย์นั้น เราเริ่มได้ตั้งแต่โถงทางเดินในบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือแม้แต่ห้องครัว ตลอดจนพื้นที่บนโต๊ะรับประทานอาหาร การสลับสับเปลี่ยนจุดการจัดวางดอกไม้จะช่วยลดความจำเจ เพิ่มสีสันให้สดใส แถมยังได้โชว์ผลงานอย่างไม่กำจัดสไตล์ ในแบบที่คุณชอบได้อีกด้วย ขอบคุณรูปภาพจาก instagram.com/wonderland_botanicals/ 4. เลือกแจกันดี มีชัยไปกว่าครึ่ง การสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้สวยงามและมีสีสันสดใส ส่วนหนึ่งอาจมาจากแจกันที่เราเลือกใช้ ยิ่งเพิ่มการจัดตกแต่งด้วยดอกไม้แล้วนั้น จะช่วยเติมเต็มความสดชื่นให้บ้านของเราได้อย่างมีชีวิตชีวา น่าอยู่อาศัยมากยิ่งขื้น ซึ่งการจะเลือกซื้อแจกันสักใบนั้น เราต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ก่อนว่าจะนำไปวางตกแต่งในบริเวณใดของบ้าน ส่วนวัสดุหลักของแจกันก็ลองเลือกเอาตามแบบที่ชอบ ซึ่งก็มีค่อนข้างหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ดินเผา เชื่อว่าเราน่าจะคุ้นเคยกับพวกเครื่องปั้นดินเผากันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัวหรือแจกันที่ทำมาจากดินเผา ซึ่งส่วนมากเครื่องปั้นดินเผามักจะเหมาะสำหรับพื้นที่กว้างๆ อย่างการจัดสวนมากกว่า และด้วยมีตัวเลือกสีน้อย ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางสีธรรมชาติ จึงอาจไม่เหมาะนักสำหรับคนที่ชื่นชอบสีสันสดใส อีกทั้งยังมีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก ทำความสะอาดก็ยาก และเสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย เซรามิก นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกของใครหลายๆ คน ด้วยเพราะสีสันและลวดลายที่น่าดึงดูดมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นแบบขึ้นเงา เคลือบด้าน หรือเมทัลลิก ซึ่งความหลากหลายนี้ก็โดนใจสาวกนักจัดดอกไม้ให้ได้ใช้เป็นตัวเลือกกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะนำไปแมตช์กับเครื่องประดับ หรืออยู่โดดๆ ก็ยังคงความคลาสสิก อีกทั้งคุณสมบัติยังแข็งแรงทนทาน ทำความสะอาดง่าย เพียงใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดเบาๆ ก็กลับมาสวยงามดังเดิมแล้ว พลาสติก แจกันลักษณะนี้หาซื้อง่ายแถมมีราคาถูก ใครที่เป็นคนขี้เบื่อ วัสดุจากพลาสติกก็เป็นช้อยส์ที่เหมาะสม เพราะสามารถเปลี่ยนได้บ่อยตามต้องการ น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายเปลี่ยนสถานที่จัดวางได้ง่ายสะดวก ทนทานไม่แตกหักง่ายอย่างแน่นอน แต่มีข้อควรระวังคือ เนื่องจากแจกันมีน้ำหนักเบา หากเราใส่ดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่เกินไป จะทำให้แจกันคว่ำตกหกเลอะเทอะพื้นได้ และหากล้างทำความสะอาดไม่ดี อาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา นำมาซึ่งความสกปรก ไม่น่าชมเอาเสียเลย แก้ว ความใสและความแวววาวของแก้ว สามารถนำมาตกแต่งได้ทุกส่วนทุกห้องของบริเวณบ้าน มิหนำซ้ำไอเดียของหลายๆ คนก็บรรเจิด อาจนำเม็ดคริสตัลหรือเม็ดมุกมาใส่ให้แจกันแก้วใสแบบนี้ก็ช่วยให้ดูสะดุดตา ไม่จำเจซ้ำแบบของใคร หรือใครที่ชอบแนวธรรมชาติก็อาจจะใช้ก้อนกรวดหรือกิ่งไม้มาใช้ตกแต่งได้เช่นกัน อีกทั้งแจกันแก้วยังหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง มีหลายสีให้เลือกใช้แต่อย่าลืมทำความสะอาดแจกันให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นจากที่จะช่วยเพิ่มลูกเล่นให้บ้านน่าอยู่ กลับจะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ยิ่งเวลามีตะไคร่น้ำ และสิ่งสกปรกเกาะอยู่ภายในคงเป็นภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่ ขอบคุณรูปภาพจาก instagram.com/wonderland_botanicals/ 5. การยืดอายุดอกไม้ให้อยู่ในแจกันได้นานขึ้น ก่อนอื่นเราควรล้างทำความสะอาดภาชนะที่เราจะนำมาจัดดอกไม้ให้สะอาดเสียก่อน เด็ดใบส่วนล่างทิ้งออกให้หมด จากนั้นตัดก้านด้วยกรรไกรคมๆ เพื่อลดการบอบช้ำโดยทำมุมเฉียง 45 องศาเสมอ เติมน้ำตาลและพาราเซตามอลช่วยเพิ่มอายุของดอกไม้ได้อย่างดี และไม่ลืมเปลี่ยนน้ำในแจกันอยู่เสมอ…
Editor
28 July 2021
BeautyBeauty InsiderFeature

BEAUTY INSIDER
ทำไมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากเห็ด
จึงเป็นเทรนด์ความงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด?

หลังจากมีกระแสผลิตภัณฑ์มากมายจากเห็ดออกมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเห็ด เสื้อโค้ตปักเห็ด หรือหลอดไฟเห็ดมูราโนที่เข้าครอบครองฟีดใน Instagram ของผู้มีอิทธิพลหลายสิบคน ทำให้เกิดกระแสความคลั่งไคล้เชื้อราที่ร้านของตกแต่งบ้าน มีแม้กระทั่งนิทรรศการฟรีที่ Somerset House ในลอนดอน ซึ่งอุทิศให้กับงานศิลปะและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเชื้อราเห็ด และร้านค้าที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์เกี่ยวโยงกับเห็ด แต่ไม่มีสิ่งไหนที่จะถ่ายทอดความรุ่งเรืองของเห็ดให้เกิดแรงสั่นสะทือนได้มากไปกว่าในอุตสาหกรรมความงามอีกแล้วเมื่อแนวโน้มด้านสุขภาพกำลังหวนคืนอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ตั้งแต่เซรั่มต่อต้านวัยไปจนถึงอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ด้วย “เห็ด” หนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมตะวันออก โดยเฉพาะเห็ดหลินจือที่มีคุณสมบัติพิเศษในการทำยาจีนโบราณ ให้สรรพคุณสูงในการรักษามายาวนานหลายศตวรรษ จึงเป็นหนึ่งในการเรียกความเชื่อมั่นในคุณสมบัติของเห็ดได้เป็นอย่างดี ดังที่ Gabe Kennedy ผู้ก่อตั้ง Plant People ได้อธิบายถึงคุณสมบัตินานับปการของเห็ดไว้ว่า “เห็ดมีพลังทั้งภายในและภายนอก จึงสนับสนุนทั้งภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติและการปรับตัวเมื่อกลืนกิน และเมื่อทาเฉพาะที่ สารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากที่มาพร้อมคุณสมบัติต้านการอักเสบจะสามารถช่วยในการต่อต้านริ้วรอยของผิวได้" หรือ Michael Ahmad ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการศึกษาระดับโลกของ Herbivore ก็กล่าวไว้ว่า “เห็ดหลายชนิดจัดเป็น adaptogens ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ใช้ในการรักษาสมุนไพรเพื่อฟื้นฟูสภาวะสมดุลในร่างกาย พูดง่ายๆ ก็คือ เห็ดสามารถช่วยปกป้องผิวจากการรุกรานของสิ่งแวดล้อม มลภาวะต่างๆ และช่วยฟื้นฟูผิวที่มีปัญหาให้กลับมาเป็นผิวสุขภาพดีได้อีกครั้ง” นอกจากนี้ยังมีเสียงสนับสนุนจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และการทดลองทางคลินิกจำนวนหนึ่งในการศึกษาปี 2016 ซึ่งแพทย์พบว่าเห็ดช่วยต่อต้านความชรา ลดความรุนแรงของโรคผิวหนังอักเสบและแก้ไขรอยดำ ส่วนการศึกษาอื่นที่ตีพิมพ์ในปี 2019 แพทย์ค้นพบว่าเบต้ากลูแคนที่พบในเห็ดช่วยปรับปรุงเกราะป้องกันผิวหนัง ทำให้เป็นที่หลงรักของคนที่มีผิวแพ้ง่าย ปัจจุบันมีเห็ดมากกว่า 14,000 สายพันธุ์ แต่ไม่ทั้งหมดที่จะปลอดภัยสำหรับการบริโภคหรือการใช้เฉพาะที่ เห็ดบางชนิดเป็นอันตรายถึงชีวิต ในขณะที่เห็ดบางชนิดรักษาและบำรุงร่างกาย ด้วยความหลากหลายทางพันธุกรรม และสารสกัดต่างๆ ก็มีความเป็นเลิศในคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป บางส่วนให้ความชุ่มชื้น บางส่วนช่วยปรับสภาพผิวให้สว่างกระจ่างใส และบางส่วนช่วยบรรเทาอาการอักเสบหรือลดเลือนริ้วรอย จึงเกิดการนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพผิวที่เกิดปัญหา เพื่อคลายความกังวลได้อย่างตรงจุด หลังจากหลายปีของการวิจัยและการศึกษาทางคลินิก นักวิทยาศาสตร์สามารถกำหนดประเภทที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผิวของเรา และประโยชน์หลักที่ได้จากสิ่งเหล่านั้น ดังที่แพทย์ผิวหนังผู้มีชื่อเสียงอย่าง ดร.เดนนิส กรอสส์ ได้กล่าวไว้ว่า “สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ควรมองหาในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้เห็ดเป็นส่วนผสมคือระบบการจัดส่ง หมายความว่า เห็ดจะต้องสร้างสูตรที่สามารถเจาะหรือซึมซาบลงสู่ผิวหนังได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ถูเห็ดไมตาเกะบนใบหน้าแล้วจะได้รับการบำรุง  แต่ต้องอาศัยกระบวนการห่อหุ้มเพื่อเพิ่มการแทรกซึมเข้าไปในชั้นลึกของผิวหนังและการดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ จึงจะได้ผลลัพธ์ของสกินแคร์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” และต่อไปนี้คือเห็ด 6 สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภูมิใจนำเสนอ พร้อมประโยชน์ด้านความงามอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อมอบผิวสวยสุขภาพดีให้กับทุกคน เห็ดชากา เป็นหนึ่งในพันธุ์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในอุตสาหกรรมความงามในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ดีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผลอาซาอิถึง 3 เท่า เชื้อราที่มีศักยภาพเหล่านี้ เป็นหนึ่งในอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดในโลกและอยู่ในระดับสูง จึงทำให้ได้สารอนุมูลอิสระเป็นกลางและมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและเพิ่มการส่งสารอาหารไปยังผิว เห็ดถั่งเช่า เห็ดโบราณที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระเมื่อทาเฉพาะที่เรียกได้ว่าเป็นเห็ดเอนกประสงค์ที่ส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน โดยการต่อสู้กับความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ด้วยเหตุนี้จึงถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายชนิดในปัจจุบัน โดยเฉพาะเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เพิ่มการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน และบรรเทาสภาพผิวที่อักเสบ เห็ดหลินจือ เห็ดหลินจือเป็นราชินีแห่งเห็ด ในอดีตมีการใช้เพื่อส่งเสริมการมีอายุยืนยาว แต่เมื่อทาเฉพาะที่จะช่วยลดการอักเสบและรอยแดงด้วยคุณสมบัติต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอยที่แข็งแกร่งอีกด้วย ดังนั้นใครก็ตามที่มีภาวะความเครียดและผิวแพ้ง่าย คุณประโยชน์จากเห็ดหลินจือสามารถตอบโจทย์คุณได้ เห็ดหอม เป็นหนึ่งในเห็ดที่รับประทานได้ง่ายที่สุด มีประโยชน์ด้านความงามมากมาย ประกอบด้วยกรดโคจิกระดับสูง จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการปรับสภาพผิว จึงมักใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ช่วยให้ผิวกระจ่างใส รักษาจุดด่างดำและรอยแผลเป็นจากสิวให้จางลง เห็ดหูหนู หรือรู้จักกันในนาม “เห็ดหิมะ” และ “เห็ดหูเงินทรีเมลล่า” มีคุณประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยเห็ดหูหนูเงินสามารถดึงดูดและกักเก็บน้ำไว้ในผิวหนัง โดยสร้างเกราะป้องกันเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ เพราะโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็กจึงทำให้สามารถซึมลึกสู่ผิวได้ โดยให้ความชุ่มชื้นยาวนานและให้ผิวที่อวบอิ่ม เราจึงใช้เห็ดหูเงินในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเฉพาะและสูตรเสริม เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นและลดริ้วรอย เห็ดหลากสี หรือที่เรียกกันว่า “หางไก่งวง” เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในแวดวงสุขภาพแบบองค์รวม ว่าเป็นสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ใช้บ่อยในผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม แต่ก็กระตุ้นความน่าสนใจได้ดีมาก ด้วยยาวิเศษอย่างสารประกอบ polysaccharide K (PSK) ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รวมถึง DNA ของเซลล์ที่ดีขึ้นจึงทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย…
Editor
27 July 2021
HighlightLifestyle

Lifestyle
10 สนีกเกอร์กันน้ำที่ดีที่สุด!
สำหรับสายลุย ในปี 2021

PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS และแล้วก็มาถึงคิวของ ‘สนีกเกอร์กันน้ำ’ ไอเทมเด็ดสำหรับหนุ่มสาวสายลุย ที่ต้องบอกเลยว่าต่อให้ฝนจะตกอย่างบ้าคลั่ง หรือต้องบุกป่าลุยน้ำอย่างไร ก็ไม่อาจทำให้เท้าของคุณเปียกปอนได้อีกต่อไป และต่อไปนี้คือสนีกเกอร์กันน้ำที่ดีที่สุด ที่ควรมีติดไว้เป็นไอเทมเด็ดช่วยให้เท้าแห้งสบาย กันน้ำได้ 100% ปลอดกลิ่น ปลอดแบคทีเรีย และบางแบรนด์ยังมีการผลิตแบบยั่งยืน โดยเน้นใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติอีกด้วย Loom Waterproof Sneaker M/W (Vegan) สนีกเกอร์กันน้ำที่เหมาะกับคนเมือง เท่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง Sketchers (Leather) สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้ชาย เหมาะที่จะใช้ในสนามกอล์ฟ Columbia Outdry Mid Shoe สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้ชาย ตัวช่วยยอดเยี่ยมในการเดินป่า Merrell Icepack Guide Moc Polar Waterproof สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้หญิง ใช้ได้ทุกสถานการณ์ แม้ในวันที่มีหิมะตก Forsake Range Low M/W สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้ชาย ซัพพอร์ตได้ในทุกสภาพอากาศ On Cloud Waterproof สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้หญิง เหมาะกับทุกกิจกรรมและทุกสภาพอากาศ Under Armour Men’sVerge 2.0 Low GORE-TEX สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้ชาย มาพร้อมการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม Adidas Terrex Skychaser LT GORE-TEX สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้ชาย ที่ชื่นชอบการผจญภัยกลางแจ้ง Salomon Men’s XA Pro 3D CS Waterproof สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้ชาย ทนทานทุกการเดินป่าและการปีนเขา Brooks Ghost 12 GTX สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับผู้ชาย สวมใส่นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี Tips สำหรับการเลือกสนีกเกอร์กันน้ำที่ใช่ วัสดุที่ดีที่สุดสำหรับสนีกเกอร์กันน้ำก็คือ GORE-TEX เพราะนอกจากจะกันน้ำได้อย่างใจแล้วยังช่วยระบายอากาศได้ดีอีกด้วย ความสบายในขณะสวมใส่ เลือกสนีกเกอร์ที่กระชับกำลังดี มีกันกระแทกที่ปลายเท้า ส้นเท้าและหุ้มข้อ น้ำหนักเบากำลังดี สนีกกอร์ที่กันน้ำได้จะช่วยไม่ให้ความชื้นเพิ่มน้ำหนักให้กับรองเท้า ความทนทานต้องดีเยี่ยม มองหาพื้นรองเท้าชั้นนอกที่ทำจาก PU หรือยางคาร์บอน จะช่วยให้สวมใส่สบายแม้เดินบนพื้นผิวที่ขรุขระ รวมไปถึงผลิตจากผ้าตาข่ายที่ทนทานต่อการขีดข่วน เพื่อช่วยปกป้องเท้าและทำให้รองเท้าไม่เก่าง่าย สไตล์ที่ใช่ หากคุณต้องการใช้สนีกเกอร์กันน้ำสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวัน ให้มองหาดีไซน์ที่เรียบง่าย รองเท้าที่มีสีเดียวหรือสองสีจะง่ายต่อการแต่งกายในทุกประเภท ราคาที่สูงไม่ได้การันตีความสบายหรือทนทานเสมอไป สนีกเกอร์กันน้ำระดับไฮเอนด์บางรุ่นแม้จะเป็นไอคอนแฟชั่น แต่กลับไม่ขึ้นชื่อในเรื่องของความคงทน เพราะฉะนั้นคุณสมบัติที่สนีกเกอร์ของคุณพึงมีก็คือ ความยืดหยุ่น ความทนทาน และความสบาย นั่นเอง KEEN M-Newport H2 SHOP NOW TEVA Hurricane Verge SHOP NOW KEEN M-Uneek SHOP NOW TEVA Hurricane Drift SHOP NOW ADIDAS Stan Smith J SHOP NOW ADIDAS X9000L2 M Shoes SHOP NOW สามารถช้อปออนไลน์ได้ที่ www.kingpower.com หรือ…
Editor
27 July 2021
Lifestyle

Lifestyle
Reading Therapy
ชุบชูใจในช่วงกักตัวด้วยนานาหนังสือน่าอ่าน

จากสถานการณ์ที่ทำให้เราออกไปพบเจอผู้คนได้เท่าที่จำเป็น และการปรับวิถีชีวิตให้ต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น อาจทำให้ใครหลายคนตกอยู่ในภาวะเครียดและไม่สดใสร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน กิจกรรมที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจมากมายต่างพากันตบเท้าเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรา มองๆ ไปอาจจะเห็นแป้งโดและอุปกรณ์ทำอาหารชุดใหม่กวักมือเรียก เสื่อโยคะที่ไม่เปื้อนเหงื่อมาสักพัก หรือรายชื่อกลุ่มเพื่อนตัวแสบที่เมาท์กันจนแสบคอเมื่อวันก่อน อย่างไรก็ตามในช่วงที่เวลาเดินช้าแบบนี้ อีกกิจกรรมที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายและลดความตึงเครียดได้ดีไม่แพ้อย่างอื่น นั่นก็คือการอ่านหนังสือ กิจกรรมสุดคลาสสิกที่ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะยุ่งจนไม่มีเวลาหยิบเล่มโปรดจาก “กองดอง” ขึ้นมาอ่าน แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีเล่มไหนเล็งไว้เป็นพิเศษ วันนี้ Power จะมาแนะนำหนังสือน่าอ่านที่ทั้งสนุกและมีประโยชน์ ให้คุณผ่อนคลายรวมถึงสามารถนำข้อคิดไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย Quiet: The Power of Introverts in a World That Can't Stop Talking โดย Susan Cain ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณจะมีบุคลิกค่อนไปทาง Introvert หรือ Extrovert ก็ไม่ใช่ปัญหาอย่างที่มันเคยเป็นเมื่อหลายปีก่อนอีกต่อไป ในอดีตเรื่องบุคลิกภาพเคยเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงกันอย่างกว้างขวางว่าแบบไหนดีกว่ากัน แต่ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายที่ออกมายืนยันแล้วว่า นิสัยชอบเก็บตัว ชอบทำอะไรคนเดียว ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จหรือการมีภาวะผู้นำแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามอาจจะพูดได้ว่า สถานการณ์ตอนนี้คล้ายๆ จะบีบให้เราทุกคนเป็นคน Introvert ก็ไม่ผิดนัก ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณใช้เวลาเงียบๆ เหงาๆ ได้อย่างมีประโยชน์มากทีเดียว Quiet: The Power of Introverts in a World That Can't Stop Talking ได้รับยกย่องจาก The Guardian ให้เป็นหนังสือ 1 ใน 10 เล่มที่ดีต่อสมองแห่งทศวรรษ เมื่อปี ค.ศ. 2018 มันทำให้เรามองเห็นความแตกต่างของผู้คน รวมไปถึงเข้าใจและยอมรับที่จะเป็น “ตัวเอง” โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเองมากเช่นนี้ คนเราไม่ว่าจะชอบอยู่กับคนอื่นหรือไม่ แต่ในยามที่ต้องอยู่คนเดียวก็มักที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดี ได้โฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างมีสมาธิ อีกทั้งยังเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะคล้อยตามความคิดของคนอื่นโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย ซึ่งไอเดียบรรเจิดทั้งหลายก็มักจะมาในช่วงเวลาแบบนี้นี่เอง ข้อดีของการอยู่คนเดียวอีกอย่างคือคุณไม่จำเป็นต้องตะโกนเพื่อให้ได้อะไรดีๆ รวมไปถึงมีเวลามากพอให้กับสิ่งที่ควรจะให้เวลา อย่างที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า “ผมไม่ใช่คนฉลาดหรอก ผมแค่อยู่กับปัญหานั้นนานพอ” Eat That Frog! โดย Brian Tracy สำหรับใครที่กำลังไม่แน่ใจว่า Work from Home ทั้งที นี่ไม่ได้ทำให้มีงานน้อยลงเลยหรือ ก็ต้องบอกว่า “ใช่” ซึ่งในความเป็นจริงไม่ว่าจะทำงานที่ไหน คุณก็มักจะพบว่าปริมาณงานนั้นดูเหมือนจะมากกว่าเวลาที่มีเสมอ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สามารถทำได้และควรจะทำคือการตั้งธงของความคิดเสียใหม่ และรับมือกับงานกองพะเนินนั้นด้วยการโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน Eat That Frog! ได้เปรียบเทียบ “กบ” ว่าเป็นเสมือนงานที่ต้องทำ โดยเฉพาะงานที่คุณรู้สึกขยาดที่จะทำมันจนเสร็จได้นั่นเอง ยิ่งถ้ามีงานที่เข้าข่ายแนวนี้มากกว่า 1 งาน ก็ให้เริ่มต้นลงมือจัดการกับงานที่ยากและสำคัญกว่าก่อนเลย โดยจะต้องทำในทันทีอย่างไม่มีอิดออด เพราะมันไม่มีประโยชน์ถ้าจะต้องนั่งจ้องกบตัวนั้นนานๆ จริงไหม? เลือกกบให้ดีก่อนจะกิน การวางแผนนั้นสำคัญเสมอ หลายคนขยันปีนบันไดแทบขาดใจ โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าบันไดนั้นพาดไปถูกที่หรือเปล่า หนังสือเล่มนี้จะช่วยย้ำเตือนในเรื่องการลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ในชีวิต โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน ที่ที่เป็นเซฟโซนจนบางครั้งเผลอใจไปกับความสบายนั้น เพราะยิ่งสบาย ยิ่งต้องมีวินัย ซึ่งนั่นหมายถึงความสามารถที่จะลงมือทำในสิ่งที่ควรทำ ในเวลาที่สมควร ไม่ว่าตอนนั้นจะรู้สึกอยากทำหรือไม่ก็ตามนั่นเอง Daring Greatly โดย Brené Brown อีกหนึ่งหนังสือขายดีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ที่ยังคงนำข้อคิดมาปรับใช้ได้ดีในสถานการณ์ปัจจุบัน ท่ามกลางปัจจัยหลายๆ อย่างที่ส่งผลให้เราต่างเกิดความรู้สึกว่าตัวเองนั้นกำลังไม่มีความสุข Dr. Brené Brown ผู้เขียน…
Editor
26 July 2021
BeautyBeauty InsiderFeature

BEAUTY INSIDER
การดูแลผิวแบบ Step by Step
หมดปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์ผิดลำดับ

PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS นับเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับผู้ใช้สกินแคร์ในเรื่องของลำดับการใช้ก่อนหลัง ด้วยแต่ก่อนขั้นตอนการดูแลบำรุงที่สำคัญอย่างมากก็ไม่เกิน 4 ขั้นตอน แต่ในยุคที่เทคโนโลยีล้ำหน้าในการดูแลเช่นนี้ บรรดาแบรนด์ต่างๆ ได้คิดค้นนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์และแก้ปัญหาผิวพรรณมาอย่างหลากหลาย มีการลงรายละเอียดในการดูแลไปตามสภาพผิว เราจึงได้เห็นทั้ง Essence, Serum, Lotion, Emulsion และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น POWER จึงจัดลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวแบบ Step by Step เรียกว่าง่ายแสนง่าย ให้คุณๆ ได้หายข้องใจกัน หมดปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์ผิดลำดับ ช่วงเช้า ในช่วงเช้าหลังจากที่เราตื่นนอน ให้ใช้ผลิตภัณฑ์เรียงไปตามลำดับดังนี้ 1. Cleanser 2. Toner 3. Essence 4. Serum 5. Lotion 6. Sunscreen ORIGINS Origins Mega-Mushroom Face Cleanser (150 มล. 1,570 บาท) SHOP NOW FRESH Rose Deep Hydration Facial Toner (250 มล. 1,490 บาท) SHOP NOW 111SKIN Antioxidant Energising Essence (100 มล. 2,295 บาท) SHOP NOW EVIDENS DE BEAUTÉ The Serum (30 มล. 10,880 บาท) SHOP NOW CLÉ DE PEAU BEAUTÉ Hydro-Softening Lotion (170 มล. 3,250 บาท) SHOP NOW ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++ (90 มล. 995 บาท) SHOP NOW แต่ถ้าวันไหนคุณไม่ต้องออกจากบ้าน อาจจะใช้เพียงน้ำเปล่าในการล้างหน้า เพื่อรักษาน้ำมันธรรมชาติใต้ผิวก็สามารถทำได้ หรืออาจลดขั้นตอนบางอย่าง เหลือเพียงเซรั่มบางเบาเพื่อลดการอุดตัน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ Sunscreen หรือครีมกันแดด ขั้นตอนนี้ถือว่าจำเป็นที่สุด อาจจะเลือกครีมกันแดดที่มีสารป้องกันแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อย่าง คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน พร้อมป้องกันรังสี UVA UVB ที่สะท้อนมาได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการดูแลผิวในวันที่ต้องอยู่บ้านช่วงกลางคืน ก่อนเข้านอนทุกคืนต้องไม่ละเลยการดูแลผิวหน้า  โดยเริ่มจากขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ 1. Makeup Remover 2. Cleanser 3. Toner 4. Essence 5. Acne Spot 6. Serum 7. Sheet Mask 8. Eye Cream…
Editor
23 July 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
9 Adrenaline-Pumping Activities
To Quench Your Thirst of Adventure

We are still not leaving Phuket – the pearl of Andaman Sea – where there is no shortage of things to do and see. Fresh off the heels of giving you a lowdown on beach hopping and local eats on the island, we now present you with some outdoor activities to get your heart thumping. Whether you come here alone, with your partner or in big group of family/friends, read on for an edit of awesome things to do for thrill seekers. Photography Courtesy of facebook.com/amazingthaitay Photography Courtesy of facebook.com/amazingthaitay 1. Go snorkelling and discover the beauty of the underwater world Phuket is definitely home to pristine pearlescent sandy beaches surrounded by azure blue waters but not all are ideal for snorkelling to catch a close up glimpse of rich marine life that populate the reefs. We recommend these secluded havens of peace that are simply a snorkeller’s dream –…
Editor
23 July 2021
Lifestyle

Lifestyle
7 แอปพลิเคชันสุดล้ำ
ไร้กังวลหากต้อง WORK FROM HOME

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในปัจจุบัน ยังคงทวีความรุนแรงขึ้น หลายๆ องค์กรจึงมีนโยบายให้พนักงานในสังกัดทำงานจากที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อต้องพบปะผู้คนหมู่มาก รวมไปถึงความแออัดระหว่างการเดินทาง Power จึงขอนำเสนอแอปพลิเคชันสุดล้ำที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ TEAMVIEWER ไม่ว่าตัวจะอยู่ไกลกันแค่ไหน แต่แอปพลิเคชันนี้จะช่วยให้เราเสมือนอยู่ใกล้กัน เพราะสามารถที่จะแชร์ไฟล์จากเครื่องหนึ่งไปสู่อีกเครื่องหนึ่งได้อย่างง่ายดายแบบเรียลไทม์ผ่านอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญยังป้องกันการแฮกได้ด้วยระบบเข้ารหัส AES-256-Bit Encryption ทำให้หมดกังวลว่าจะมีบุคคลที่สามขโมยข้อมูลสำคัญของเราได้ และความพิเศษไปกว่านั้นยังสามารถใช้ข้าม OS ได้อีกด้วย เช่น แชร์ไฟล์จาก Windows ไปสู่ Mac เทคโนโลยีก้าวล้ำขนาดนี้ ไม่โหลดไม่ได้แล้ว สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android ใช้งานฟรีสำหรับใช้งานส่วนบุคคล BONUSLY เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงานทำความดีตามข้อกำหนดต่างๆ ที่องค์กรตั้งไว้ แอปพลิเคชันนี้จะช่วยสะสมคะแนนที่ทำความดีมาตลอดทั้งเดือน เพื่อนำไปแลกของขวัญจาก HR ในช่วงปลายเดือน ช่วยกระตุ้นความอยากทำดีให้แก่พนักงาน อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งเสริมให้คนในองค์กร ผูกพัน รักใคร่ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แสดงน้ำใจต่อกันมากยิ่งขึ้น และคะแนนของทุกคนจะโชว์ในแอปพลิเคชัน เพื่อให้ทราบว่าตอนนี้เราได้คะแนนเท่าไหร่กันแล้ว สามารถดาวน์โหลดฟรี ใช้ได้ทั้ง ระบบ iOS และ Android LASTPASS PASSWORD MANAGER หมดปัญหาการลืมพาสเวิร์ดอีกต่อไป! เพราะนี่คือแอปพลิเคชันสำหรับจัดการรหัสผ่าน และช่วยสร้างรหัสที่เป็นข้อมูลลับส่วนตัว เพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และบัญชีอื่นๆ ของคุณทั้งหมด เพราะส่วนมากเรามักจะตั้งรหัสผ่านเหมือนกันทุกบัญชีเพื่อให้จดจำได้ง่าย แต่กลับกลายเป็นว่าอาจจะเป็นช่องว่างที่ทำให้ข้อมูลสำคัญๆ ขององค์กร หรือข้อมูลส่วนตัวของเราถูกขโมยโดยแฮกเกอร์ได้ แต่หลังจากใช้แอปพลิเคชันนี้ข้อมูลต่างๆ จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะข้อมูลเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัย ตัวแอปพลิเคชันเองยังสามารถสร้างรหัสผ่านเป็นร้อยๆ รหัสให้คุณเลือกได้ เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดเมื่อดาวน์โหลดแบบพรีเมียมในราคา $36 ต่อปี และแบบ family เพียง $48 ต่อปี นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อรหัสผ่านข้ามแพลตฟอร์มได้อีกด้วย ZENDESK เพื่อเตรียมความพร้อมและรักษาธุรกิจของคุณให้ประสบความสำเร็จและทันเกมการแข่งขันอยู่เสมอ แอปพลิเคชันนี้จะช่วยจัดการเรื่องของ Customer Support ช่วยทำให้การบริการลูกค้าดียิ่งขึ้น โดยการสร้างซอฟต์แวร์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ช่วยรวบรวมคำถามและข้อความที่ลูกค้าส่งเข้ามาจากทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะ Facebook, Twitter, E-mail, Live Chat หรือทาง Call Centre เพื่อให้ทราบถึงปัญหารวมถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด คำถามไหนพบเจอบ่อยก็สามารถสร้างเทมเพลตเอาไว้ให้กดตอบอัตโนมัติเพื่อความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นได้ และยังทำสรุปได้ด้วยว่าเราใช้เวลาในการตอบกลับลูกค้าเฉลี่ยกี่ชั่วโมง กี่นาที ต่อการตอบคำถามแก่ลูกค้าหนึ่งท่าน เพื่อนำมาพัฒนาและแก้ไขปัญหาการทำงานให้ดีขึ้นได้อีกด้วย สามารถดาวน์โหลดฟรีได้ทั้ง ระบบ iOS และ Android KLIPFOLIO ในยุคที่ข้อมูลราคาแพงกว่าทอง แอปพลิเคชันนี้จะช่วยให้ข้อมูลสำคัญที่ผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ SME ต้องใช้ในการตัดสินใจนโยบายทางการตลาด มอนิเตอร์และรีพอร์ตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่ยอด Follower ยอด Like, ยอด Order, ยอดเงินที่เข้าบัญชี รวมไปถึงรายงาน Income Statement และ Balance Sheet ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่าจะต้องจัดตั้งงบประมาณประจำปีจำนวนเท่าใด และเรายังสามารถเปรียบเทียบยอดขายหรือรายได้ ได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องรอขอข้อมูลจากแผนกบัญชีในช่วงสิ้นเดือนเท่านั้น เพราะการที่เรารู้ข้อมูลดังกล่าวแบบเรียลไทม์ ช่วยให้เราสามารถพลิกสถานการณ์ที่เลวร้ายได้อย่างทันท่วงที หรือกอบโกยช่วงเวลาขาขึ้นได้ทันก่อนที่ตลาดจะวายเสียก่อน นอกจากนี้ยังสามารถใช่ร่วมกับ Web App อย่าง SurveyMonkey, Google Analytics, Google Adwords, Dropbox, Salesforce, HubSpot…
Editor
22 July 2021