HappeningHappening 130King Power MahanakhonNumber 130

Lifestyle Update:
The Newest Iconic Dining Destination

By 9 October 2019 No Comments

“มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” เดสทิเนชั่นแห่งใหม่ล่าสุดของกรุงเทพมหานคร
พร้อมมอบประสบการณ์สุดประทับใจกับดินเนอร์มื้อพิเศษด้วยบรรยากาศสุดหรูหรา
ผสานด้วยกลิ่นอายของความรักในการเดินทาง และทัศนียภาพจากมุมสูงอันตราตรึง

บนชั้น 76 และ 77 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร อาคารรูปทรงพิกเซลอันเป็นเอกลักษณ์ คือที่ตั้งของ “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” ห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่ในทุกตารางนิ้วโดดเด่นด้วยฝีมือการตกแต่งของมัณฑนากรชื่อดังชาวฝรั่งเศส Tristan Auer จาก Wilson Associates ผู้มีชื่อเสียงจากสไตล์การออกแบบที่บ่งบอกถึงความหรูหรา เปี่ยมด้วยสุนทรียะแห่งการผสมผสานศิลปะจากยุคต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยมีผลงานอันลือลั่น เช่น การออกแบบตกแต่งให้กับโรงแรมระดับตำนานอย่าง Carlton Hotel Cannes และ Le Scribe Hotel Paris และยังคว้ารางวัลนักออกแบบแห่งปีจากงาน Maison&Objet 2017 และ The European Hotel Design of the Year 2015 มาแล้ว

Tristan นำเเรงบันดาลใจจากมนต์เสน่ห์ของสายน้ำเจ้าพระยามาผสานเรื่องราวแห่งการเดินทางที่พร้อมพาทุกคนหลีกหนีจากความเร่งรีบและวุ่นวายของกรุงเทพฯ ผ่านการออกแบบพื้นที่อันประณีตบรรจง ตั้งแต่บริเวณโถงต้อนรับผู้มาเยือนนับจากก้าวแรกที่ออกจากประตูลิฟต์ ผ่านทางเดินโค้งผนังกรุไม้ที่สร้างความรู้สึกอบอุ่น เชิญชวนให้ก้าวเข้าสู่พื้นที่ภายในห้องอาหารที่มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางตัวไปตามแนวกระจกของตัวอาคารที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและทิวทัศน์กว้างไกลสุดสายตาของกรุงเทพมหานครในแบบพาโนรามาได้อย่างชัดเจนและเต็มอิ่มจากทุกมุม

ทุกรายละเอียดภายในมหานคร แบงค็อก สกายบาร์ คือความโก้หรูร่วมสมัยที่คำนึงถึงความสมดุล ทั้งในแง่ของความงดงามทรงพลัง แต่ยังคงไว้ซึ่งความอบอุ่นเป็นมิตร ผ่านการเลือกใช้สีเอิร์ธโทนอย่างสีน้ำตาล ครีม และเขียว เป็นความหรูหราสง่างามแบบฝรั่งเศสผสมผสานกับความวิจิตรตระการตาแบบไทย เพื่อนำเสนอเรื่องราวแห่งการเดินทางออกจากเมืองใหญ่สู่โลกของการผจญภัยไม่รู้จบ โดยกล่าวขานผ่านประติมากรรมรูปหัววัวกระทิงซึ่งตั้งตระหง่านรอต้อนรับทุกคนอยู่ที่กลางห้องอาหาร หน้าปกหนังสือโบราณจากฝรั่งเศส เครื่องปั้นดินเผาชั้นดีจากญี่ปุ่น และลายเส้นอันพลิ้วไหวบนโถกระเบื้อง 

พื้นที่ด้านในห้องอาหารแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก คือบนชั้น 76 จะเป็นโซนรับประทานอาหารส่วนอินดอร์ที่มีการผสมผสานของเฟอร์นิเจอร์แนวโมเดิร์นโต๊ะและเก้าอี้ถูกจัดให้หันหน้าเข้าหากันเป็นคู่สำหรับ 2 ท่าน และโซฟาสำหรับแขกที่มาเป็นกลุ่ม ในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร แม้จะเป็นทรงกลมดีไซน์เรียบๆ แต่มีความน่าสนใจซ่อนอยู่บนส่วนท็อปของโต๊ะ ซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดจากเปลือกไข่ที่ศิลปินต้องใช้ทั้งจินตนาการ เวลา และความอดทนในการค่อยๆ บรรจงฝังเปลือกไข่ทีละชิ้นๆ เพื่อให้เกิดเป็นลวดลายของดวงดาวบนท้องฟ้าอันเป็นรูปแบบของงานศิลปะที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมอย่างสูงในฝรั่งเศส ขณะที่โซนเอาต์ดอร์มีบรรยากาศแบบป่าดงดิบในคอนเซ็ปต์ Oasis in the Sky โดยนำความเขียวชอุ่มร่มรื่นของพืชพรรณนานามาช่วยสร้างบรรยากาศของป่าลอยฟ้า เชื่อมต่อไปยังโซนเอาต์ดอร์อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่ของระเบียงเปิดโล่งให้ได้รับอากาศสดชื่นพร้อมวิวสวยๆ จากพื้นที่สีเขียวของบางกระเจ้าได้เต็มตาแบบไม่มีสิ่งใดมากั้นกลาง

บนชั้น 77 จัดให้เป็นวีไอพีเลานจ์ เหมาะสำหรับการสังสรรค์แบบเป็นส่วนตัวด้วยโต๊ะรับประทานอาหารและโซฟาที่จัดวางโดยให้มีระยะห่างพอที่แขกแต่ละโต๊ะจะได้เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาสุดพิเศษ พร้อมๆ กับการชมวิวกว้างไกลของกรุงเทพมหานครได้อย่างเต็มที่

มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ยังมีอาหารที่ถือเป็นหนึ่งในที่สุดแห่งความรื่นรมย์ เมนูอาหารทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของเชฟโจชัว คาเมรอน (Joshua Cameron) เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟผู้เปี่ยมด้วยประสบการณ์ด้านการทำอาหารมายาวนานกว่า 20 ปี และยังผ่านประสบการณ์และมีบทบาทสำคัญในห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ในนิวยอร์ก เช่น Eleven Madison Park, Aska และ Betony รวมทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลเรื่องอาหารสำหรับการจัดงานเลี้ยงส่วนตัวให้กับบุคคลสำคัญและเหล่าเซเลบริตี้ของสหรัฐอเมริกามาแล้ว เชฟโจชัวนำแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในการเดินทางเพื่อค้นหารสชาติและวัตถุดิบจากทั่วทุกมุมโลก มาคิดค้นเมนูใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ บ่งบอกถึงความเข้าใจในศาสตร์ของอาหารอย่างแท้จริง 

เชฟโจชัวสร้างสรรค์เมนูซิกเนเจอร์ให้กับมหานคร แบงค็อก สกายบาร์ มากมาย เช่น Hokkaido Uni Panna Cotta ซึ่งเกิดจากการผสมผสานวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมของญี่ปุ่นเข้ากับเทคนิคการปรุงอาหารที่ประณีตบรรจงของฝรั่งเศส, Mr. Jean-Paul, Normandy Oysters หอยนางรมสดตัวโตจากแคว้นนอร์มังดี นำมาจัดเสิร์ฟ 2 แบบ 2 สไตล์ คือแบบ Hot มาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติแบบไทยๆ และแบบ Cold รับประทานพร้อมซอสมัลเบอร์รี่ดองรสเปรี้ยวเบาๆ ให้ความสดชื่น, Stuffed Whole Free Range Chicken เมนูไก่อบที่เหมือนจะเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยลูกเล่นที่ไม่ธรรมดา และ 48-Hour Australian Short Ribs เนื้อซี่โครงชั้นเลิศจากออสเตรเลียที่เชฟนำไปพรีคุกแบบ Sous Vide นานถึง 48 ชั่วโมง จนได้เนื้อที่นุ่มและยังคงชุ่มฉ่ำ ก่อนจะนำไปกริลล์ให้เนื้อด้านนอกเกรียมนิดๆ และกลิ่นหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมคูสคูส มะเขือม่วง และองุ่นที่ช่วยชูรสชาติของเนื้อให้โดดเด่นขึ้นไปอีก   

ส่วนเมนูของหวานที่ได้รับคำชื่นชม เช่น Kaffir Lime Cheese Cake ที่เชฟนำความหลงใหลในผลไม้ไทยมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ได้อย่างมีสีสัน และ Chocolate Tart ที่ลงตัวด้วยรสชาติสุดเข้มข้นและหวานกำลังเหมาะ

ไม่เพียงครบเครื่องทั้งรสชาติอาหาร บรรยากาศ และวิวอลังการ แต่ยังมีเครื่องดื่มชั้นเลิศทั้งค็อกเทลและไวน์ที่พร้อมมอบความเพลิดเพลินอีกมากมาย มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ จึงขึ้นแท่นเป็นไฮไลต์เเห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เปิดให้บริการมื้อเที่ยงทุกวัน เวลา 11.00-15.00 น. และมื้อค่ำทุกวัน เวลา 17.00-01.00 น. สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่โทร. 0 2677 8722 หรือ www.mahanakhonbangkokskybar.com