พื้นที่ส่วนหนึ่งบนชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ คือโซน Thai Lifestyle Collection ที่รวบรวมสินค้าแบรนด์ไทยคุณภาพระดับโลก ตลอดจนสินค้าจากโครงการ Royal Projects และโครงการ Community Power ซึ่งอยู่ภายใต้ “KING POWER THAI POWER พลัง คนไทย” ที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้เข้าไปให้องค์ความรู้กับผู้ผลิตในชุมชน เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังให้คำแนะนำในการพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ทั้งในส่วนของสินค้า OTOP และสินค้าชุมชนที่ผลิตโดยคนไทยในหมวดหมู่ต่างๆ อาทิ สินค้าหัตถกรรม อาหาร และของที่ระลึก และได้นำสินค้าเหล่านี้มาจัดจำหน่ายในโซน Thai Lifestyle Collection ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งแบบไทยๆ ที่ผสมผสานไว้ด้วยความทันสมัย ที่สำคัญ สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าป้ายสีฟ้า ซึ่งลูกค้าทุกท่านสามารถซื้อแล้วนำกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องมีไฟลต์เดินทาง

ต่อจากนี้คือ หลากหลายแบรนด์ไทยคุณภาพที่พร้อมเชิญชวนให้ทุกท่านได้รู้จักและมาสัมผัสกับเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าแบบไทยๆ

DoiTung แบรนด์ที่ชูเสน่ห์ของภูมิปัญญาชนเผ่าด้วยลวดลายที่เรียบง่าย แต่ทรงคุณค่าด้วยความประณีตของงานฝีมือที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ยิ่งเมื่อนำมาตีความผ่านสายตานักออกแบบ ยิ่งทำให้ผลงานที่ออกมากลายเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีความร่วมสมัย แต่ยังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ DoiTung ได้อย่างไร้ที่ติ สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ได้กับทุกลุค เข้ากับทุกรูปร่าง ใส่ได้ตลอดโดยไม่รู้สึกล้าสมัย ที่สำคัญ ยังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตชาวเขาบนดอยตุงให้มีรายได้ที่มั่นคงอีกด้วย

จากเสื้อผ้ามาสู่ผลงานหัตถศิลป์อันประณีตงดงามฝีมือของชาวบ้านจากศูนย์ส่งเสริมฝีมือจักสานด้วยไม้ไผ่อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2521 โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่ออนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านงานจักสานไม้ไผ่ ที่มีความประณีตสวยงามให้คงอยู่ มีการถ่ายทอดสู่เยาวชนรุ่นหลังช่วยดูแลรายได้ของช่างฝีมือทั้งหลายให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

อีกหนึ่งภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าสนับสนุน คือผลงานเซรามิคจากโครงการเซรามิค สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ที่ชูเอกลักษณ์ด้วยการเลียนแบบธรรมชาติ เช่น การใช้ใบไม้ ดอกไม้ และสัตว์ชนิดต่างๆ เป็นต้นแบบ จนทำให้ผลงานมีความแปลกตาและเป็นที่ถูกใจลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถือกำเนิดขึ้นจากพระดำริของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ใน พ.ศ. 2536 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงานให้กับราษฎรในจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังประสบเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2531

ที่สำคัญ สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าป้ายสีฟ้า ซึ่งลูกค้าทุกท่านสามารถซื้อแล้วนำกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องมีไฟลต์เดินทาง

ต่อด้วยผลงานจากกลุ่มอาชีพสตรีจักสานป่านศรนารายณ์ ARAYA ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของชาวบ้านหุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี ที่ทำงานหัตถกรรมจากเส้นใยป่านศรนารายณ์ สร้างสรรค์เป็นแอคเซสซอรีน่าใช้อย่างหมวก เข็มขัด กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ และรองเท้า ที่ออกแบบให้มีรูปแบบหลากหลาย สีสันทันสมัย การันตีความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพด้วยการคว้ารางวัลผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว ใน พ.ศ. 2553, 2555 และ 2557

อีกหนึ่งแบรนด์ที่ไอเดียน่าสนใจไม่แพ้กัน คือผลิตภัณฑ์สิ่งทอแฮนด์เมดจากเส้นใยกัญชง ผลงานของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเย็บปักถักร้อยบ้านห้วยทราย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นำเสน่ห์ของเส้นใยสีเหลืองนวล ที่มีความเหนียว ยืดหยุ่น และทนทาน เนื้อผ้ามีน้ำหนักทิ้งตัว เมื่อรีดจะเรียบและมันวาวเล็กน้อย มาพัฒนาเส้นใยให้สวมใส่สบาย ไม่คัน พร้อมปรับปรุงดีไซน์ให้ทันสมัยหลากหลายรูปแบบ สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้เหมาะสม จนกลายเป็นอีกสินค้าเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ เพราะสวมใส่สบาย ไม่ร้อน เหมาะกับอากาศบ้านเรา แถมยังให้ความอบอุ่นได้ดีในฤดูหนาว

ถัดมาคือ แบรนด์ Yan Li Pao เป็นการสร้างมูลค่าให้ย่านลิเภา ของดีที่คนไทยคุ้นเคย โดยนำคุณสมบัติเด่นของย่านลิเภา ที่เหนียว ทนทาน มาบวกกับความชำนาญและภูมิปัญญาที่สั่งสมกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อจักสานเป็นกระเป๋าแฮนด์เมด ตลอดจนเครื่องใช้ต่างๆ โดยมีการตกแต่งและปรับรูปทรงเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและน่าใช้

อีกหนึ่งแบรนด์เก๋ที่แค่ชื่อก็สะดุดหู ชวนให้ค้นหาความหมายนั่นคือ LONG GOY ซึ่งเป็นคำเชื้อเชิญภาษาเหนือแปลว่า ลองดูส่วนคำว่า Long ในภาษาอังกฤษแปลว่า ยาว สะท้อนถึงประวัติศาสตร์เรื่องราวความเป็นมาของล้านนาที่มีอายุและเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง “ลองกอย” เลือกนำเรื่องราวและเสน่ห์ของล้านนามาเล่าใหม่ให้มีความร่วมสมัย ผ่านเครื่องแต่งกายบุรุษ ตลอดจนการสร้างสรรค์ลวดลายต่างๆ ในแบบสตรีตแวร์ แต่ยังได้กลิ่นอายของล้านนาผ่านการผสมผสานวัตถุดิบของล้านนา เช่น ผ้าคราม ผ้าม่อฮ่อม เป็นต้น

ต่อด้วยแบรนด์ “ฝ้ายดอกเปลือย” ซึ่งเป็นแบรนด์ผ้าฝ้ายย้อมครามธรรมชาติทอมือ ที่สกัดตะกอนครามบนเส้นใยผ้าออกทั้งหมด แล้วนำน้ำยางไม้ธรรมชาติที่ได้จากการเคี่ยวจากเปลือกไม้ มาสกัดเคลือบเส้นใยบนผืนผ้า เพื่อให้ผ้านุ่ม ลื่นและสีครามติดทน แล้วจึงนำมาแปรรูปเป็นเสื้อผ้า กางเกงผ้าคลุมไหล่ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของภาคอีสาน

ปิดท้ายด้วย Vaniche แบรนด์ตุ๊กตาแฮนด์เมดสำหรับเด็กที่เน้นการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ มั่นใจว่าได้มาตรฐานระดับส่งออกสากลและปลอดภัยสำหรับเด็ก สินค้าของ Vaniche โดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์ตุ๊กตารูปทรงสัตว์ต่างๆ โดยเน้นการตัดต่อแพ็ทช์เวิร์กด้วยผ้าหลายชนิด ใช้เทคนิคการเดินเส้นลายปักด้วยลวดลายต่างๆ พร้อมปักหัวใจสีแดงซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ลงไปในชิ้นงาน เพื่อสะท้อนว่าสัตว์ทุกชนิดก็มีหัวใจ นอกจากนี้ยังชวนช้อปแบบอิ่มบุญด้วยการนำรายได้ส่วนหนึ่งของบริษัทและสินค้าที่เกี่ยวข้องไปบริจาคให้กับมูลนิธิเพื่อนช้าง “Friends of the Asian Elephant” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลช้างแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย