Exclusive InterviewFashionNumber 130

Exclusive Interview:
The Travelling Artist

By 9 October 2019 No Comments

นอกจากภาพจำของแฟนๆ ในฐานะนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงชื่อดัง
ที่ครองใจนักฟังเพลงมาได้อย่างยาวนานตั้งแต่ยุค 90s จนถึงทุกวันนี้
“ป๊อด–ธนชัย อุชชิน” ยังมีชีวิตอีกด้านที่คลุกคลีอยู่กับงานศิลปะแขนงอื่นนอกเหนือจากดนตรี

STORY: SURANGRAT KANBUBPHA

นั่นคือการวาดภาพและถ่ายภาพ ซึ่งเขาเพียรสร้างสรรค์ผลงานมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวป๊อปอาร์ตที่ชื่นชอบและถนัด ถึงขนาดที่เคยจัดแสดงนิทรรศการทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่มร่วมกับเหล่าศิลปินชื่อดังมาแล้วหลายครั้ง จนกล่าวได้ว่าชีวิตของผู้ชายคนนี้ถูกหล่อเลี้ยงและขับเคลื่อนด้วยศิลปะอย่างแท้จริง 

แต่การจะเป็นศิลปินที่มีไฟในการสร้างสรรค์ผลงานอยู่เสมอนั้น แรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับป๊อดการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกจึงเป็นเหมือนการเติมเชื้อไฟเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ยิ่งหากได้ไปชื่นชมผลงานของศิลปินแนวป๊อปอาร์ตอย่าง แอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol) หรือ ฌอง-มิเชล บาสเกีย (Jean-Michel Basquiat) ด้วยแล้ว จะยิ่งจุดประกายในการทำงานให้กับเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่แค่การทำงานศิลปะภาพวาดหรือภาพถ่าย แต่ยังรวมไปถึงการสร้างสรรค์งานเพลงด้วย

“ผมเดินทางค่อนข้างบ่อย ถ้าเที่ยวเองก็ประมาณ 4-5 ครั้งต่อปี อย่างปีนี้นับตั้งแต่ต้นปีจนมาถึงกลางปีก็ไปมา 5 ประเทศแล้ว ทั้งอินเดีย ภูฏาน ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อาจจะเป็นเพราะจังหวะชีวิตด้วย” นักร้องผู้มีน้ำเสียงและการแสดงบนเวทีอันเป็นเอกลักษณ์เปิดบทสนทนาด้วยการยกไม้ยกมือขึ้นมานับจำนวนประเทศที่เพิ่งไปเยือนมาในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2562 ก่อนจะเผยถึงสไตล์การเดินทางท่องเที่ยวของตัวเองอย่างอารมณ์ดีว่า 

“สไตล์การเที่ยวของผมค่อนข้างฟรีฟอร์มครับขึ้นอยู่กับคนที่พาไปด้วยว่าเชี่ยวชาญหรือชื่นชอบด้านไหน ส่วนผมก็ปล่อยตัวปล่อยใจให้ไหลไปกับเขาซึ่งพอทำแบบนี้แล้วก็ทำให้ได้เจออะไรแปลกใหม่เยอะเลย คือถ้าเราแพลนเองก็อาจจะเลือกไปแต่ที่คุ้นเคยหรือที่เดิมๆ พอไหลตามน้ำไปกับเพื่อนมักจะได้ไปนั่งในร้านแปลกๆ ได้ไปเห็นไปสัมผัสอะไรที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เจอ คือชอบหรือไม่ชอบเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่แน่ๆ คือการเที่ยวแบบนี้เปิดโอกาสให้เราได้พบเจอกับสิ่งใหม่ ส่วนถ้าหากครั้งไหนผมแพลนไปเที่ยวเอง แน่นอนว่าที่ต้องไม่พลาดเลย คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เพราะผมชอบดูศิลปะที่สุด ดังนั้นพิพิธภัณฑ์ศิลปะจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับเรา และที่ชอบมากอีกอย่างคือบริเวณรอบๆ พิพิธภัณฑ์ที่มักจะมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่เสมอ อย่างร้านเก๋ๆ หรือคาเฟ่ที่น่าสนใจ” 

ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจหากถามถึงเมืองโปรดหรือประเทศที่ชอบแล้วจะได้รับคำตอบจากหนุ่มอาร์ตคนนี้ว่า ทุกเมืองที่มีงานศิลปะให้ไปชม โดยเฉพาะเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยงานอาร์ตอย่างนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่เขาวนเวียนไปเยือนมาหลายครั้งหลายคราในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา 

“ด้วยความที่เราชอบงานศิลปะมาก เป้าหมายของการไปเที่ยวทุกครั้งจึงมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะรวมอยู่ด้วยเสมอ อย่างบางทีไปถึงนิวยอร์กวันแรกก็ไปเดิน Museum of Modern Art แล้วเลยไปดูที่ Met หรือ Metropolitan Museum of Art ต่อ และที่ไปบ่อยมาก คือ Mori Art Museum ที่อยู่บนยอดของรปปงงิฮิลส์ในโตเกียว ล่าสุดก็เมื่อไม่นานมานีพอดูโชว์เสร็จเราก็ออกไปตรงระเบียงด้านนอกดูโปสเตอร์ที่แปะไว้ว่าปีนี้มีโชว์อะไร และที่ผ่านๆ มาโชว์อะไรไปแล้วบ้าง ทำให้รู้ว่าช่วง 5-6 ปีมานี้ผมไปดูโชว์ของ Mori Art Museum แทบจะครบทุกโชว์ซึ่งในบรรดาหลายๆ โชว์ที่ดูมา ผมประทับใจโชว์ของแอนดี้ วอร์ฮอลที่สุด ถึงจะเคยดูมาหลายรอบแล้วแต่ก็ประทับใจกับโชว์ของที่นี่ เพราะครบที่สุดแล้วและอีกครั้งที่ชอบ คือโชว์ของวอร์ฮอลที่นิวยอร์ก เพราะได้ดู Piss Painting หรือภาพวาดที่ทำจากปัสสาวะเหมือนที่เราเคยเห็นในหนังหรือเคยดูในรูปซึ่งพอได้ไปดูของจริงที่วอร์ฮอลให้คนมาปัสสาวะลงบนเฟรมแล้วรู้สึกว่าเป็นงาน Abstract ที่สวยมากจริงๆ แต่ว่าผมไม่ได้เอาจมูกไปดมใกล้ๆ นะ” 

ศิลปินนักเดินทางเล่าปนเสียงหัวเราะอย่างออกรส พร้อมกับเสริมว่าสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวสไตล์เดียวกับเขา นิวยอร์กและโตเกียวคือเมืองที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากนี้ยังมีลอนดอน ประเทศอังกฤษ และปารีส ประเทศฝรั่งเศสเป็นอีก 2 ตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะล้วนเป็นเมืองใหญ่ที่มีงานศิลปะให้ดูแบบมหาศาล ทั้งยังสามารถเลือกได้ว่าอยากจะดูงานคลาสสิกโบราณ อย่างผลงานของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) หรืออยากจะดูงานของศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรงต่างๆ 

“เมืองเหล่านี้มีงานศิลปะให้ดูครบจริงๆ คือเราจะได้ดูจนเหนื่อยกันไปข้างเลยครับ ผมรับรอง” ป๊อดสำทับ

แน่นอนว่าในฐานะอาร์ทิสต์ การได้ไปชื่นชมผลงานศิลปะของศิลปินที่ชอบสร้างความปลื้มปีติยินดีให้แก่เขาได้ทุกครั้ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือแรงบันดาลใจและประกายความคิดที่ได้จากการเดินทางในแต่ละทริป ป๊อดอรรถาธิบายว่า การเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้งของเขาเปรียบเสมือนการไปดูงานของนักธุรกิจหรือคนทำงานด้านอื่น ที่เมื่อได้เห็นผลงานที่ประทับใจก็อยากจะนำสิ่งที่ได้พบเจอหรือไอเดียที่เกิดขึ้นจากการเดินทางมาพัฒนาตัวเองและผลงานให้ดียิ่งขึ้น 

“ทุกครั้งที่ไปเที่ยวจะทำให้เราเกิดไฟจนบางทีรู้สึกอยากจะกลับมาทำงานเดี๋ยวนั้นเลย คือพอได้ไปเห็นการแสดงดีๆ ไฟในการทำงานของเราจากเดิมที่มอดๆ อยู่ หรือรู้สึกเฉื่อยชาทำไปวันๆ ก็จะเริ่มตื่นตัว ยิ่งได้เห็นงานบางงานที่ตัวศิลปินไม่ได้ทำเพื่อหวังผลทางการค้าขายหรืออยากให้คนชอบแต่ทำด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่พุ่งทะยานออกมาก็ยิ่งส่งพลังมาให้เราอยากจะกลับมาลุยงานของเราต่อทันที” 

และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขายังคงออกเดินทางเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจมาเติมเต็มแรงขับเคลื่อนของชีวิตและการทำงาน โดยมีเป้าหมายส่วนตัวที่วาดฝันไว้ว่า สักวันหนึ่งจะนำผลงานของตัวเองออกไปจัดแสดงเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในประเทศอื่นๆ บ้าง

“ผมเพิ่งมีโอกาสไปฮ่องกงเมื่อเร็วๆ นี้ แล้วค้นพบว่าฮ่องกงเป็นเหมือนศูนย์รวมของงานศิลปะในโซนบ้านเรา เพราะเขามีงานศิลปะดีๆ และมีแกลเลอรี่เยอะมาก ดังนั้นหากศิลปินไทยได้ไปร่วมแสดงหรือไปโชว์ที่นั่น จะถือว่าเป็นการก้าวข้ามไปในระดับสากลหรือระดับโลกได้ เมื่อปีที่แล้วผมก็มีโอกาสได้นำผลงานไปร่วมโชว์กับกลุ่มศิลปินไทย ซึ่งก็ดีใจมากแล้ว แต่ก็คิดนะครับว่าหากเราสามารถจัดแสดงผลงานเดี่ยวที่ฮ่องกงได้ คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งกว่า ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะมีโอกาส แต่ต้องพยายามมากขึ้น ขยันมากขึ้น และมีวินัยทำงานให้ออกมาดียิ่งขึ้น” ป๊อดบอกเล่าถึงความฝันของเขาซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำให้เป็นจริงได้ในวันหนึ่งข้างหน้า

สำหรับคนที่อาจจะยังไม่มีความสนใจทางด้านงานอาร์ต นักร้องดังบอกว่าอยากให้ลองเปิดใจ เพราะเชื่อว่าทุกคนล้วนแล้วแต่มีศิลปะอยู่ในหัวใจ เพียงแต่ต้องค้นหาให้เจอ แล้วจะสนุกกับการท่องเที่ยวแบบเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านงานศิลป์ไปด้วยแบบเขา

“ผมว่าถ้าเข้าพิพิธภัณฑ์แล้วมีเพื่อนคุยเรื่องศิลปะให้ฟัง ไม่ว่าใครก็จะรู้สึกสนุกไปด้วยได้ อย่างบางทีผมพาเพื่อนๆ ที่ไม่ได้สนใจงานอาร์ตมาก่อนเข้าไปดู แล้วเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหรือเรื่องราวชีวิตของศิลปินคนนั้นๆ ให้ฟัง ปรากฏเขาอินขึ้นมาเฉยเลย ฉะนั้นผมจึงมองว่าสิ่งสำคัญคือผู้นำพาที่จะเป็นคนถ่ายทอดว่าสิ่งที่เขาดูอยู่น่าสนใจอย่างไร เพราะบางทีคนทั่วไปเข้าไปดูแล้วอาจจะงงว่า เอ๊ะ! แค่เอาสีมาตวัดผ่านแบบนี้ ทำเองก็ได้ ทำไมต้องมาดูที่นี่ หรือบางชิ้นแค่เอาคัตเตอร์มากรีดหนึ่งที ก็แขวนโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ระดับโลกได้ด้วยหรือ คือเหล่านี้ต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้มาอธิบาย แต่ถ้าหากไม่มีเพื่อนที่รู้เรื่องศิลปะเลย ผมว่าลองไปดูเพื่อเปิดหูเปิดตาก็ได้นะครับ จะเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เราได้ไม่มากก็น้อย” ศิลปินผู้มีลมหายใจเข้าออกเป็นเรื่องศิลปะเอ่ยเชิญชวนพร้อมรอยยิ้ม