Flash

ความเลอค่าแห่งผลงานที่มาพร้อมความ ‘แพง’ อย่างยากจะปฏิเสธ ด้วยเครื่องประดับนั้นเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์มนุษยชาติมาโดยตลอด และยังคงมีอิทธิพลอย่างมากมายในปัจจุบัน โดยในสมัยก่อนเครื่องประดับมีไว้เพื่อบ่งบอกถึงสถานะทางสังคม รากเหง้าของครอบครัวและสื่อถึงระดับความสำคัญ ในขณะที่ทุกวันนี้ ผู้คนสวมใส่เครื่องประดับด้วยเหตุผลที่หลากหลาย บางคนใส่เพื่อสื่อถึงกิจกรรมที่กำลังทำหรือชื่นชอบ บางคนเลือกที่จะสวมกำไลและสร้อยคอที่เข้าชุดกัน เพื่อแสดงความเป็นตัวของตัวเอง และแน่นอนว่าอีกหลายๆ คนสวมเครื่องประดับเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรักและความหลงใหล และในวันนี้ Power จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 10 แบรนด์เครื่องประดับสุดหรูระดับโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นที่เลื่องลือในแง่ของคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังเต็มไปด้วยงานดีไซน์ที่หรูหราสง่างาม ที่ผ่านการบรรจงคัดสรรวัตถุดิบล้ำค่าในระดับพรีเมียม เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในการผลิตจากช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ และไม่อาจปฏิเสธได้ในเรื่องของมูลค่าทางจิตใจและการลงทุน ซึ่งจะมีแบรนด์ใดบ้างนั้นไปดูกันเลย 1. HARRY WINSTON แน่นอนว่าผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านเพชรและเครื่องประดับระดับไฮเอนด์จะต้องตระหนักถึง Hope Diamond หนึ่งในอัญมณีล้ำค่าที่สุดของ Harry Winston ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่กำเนิดในอินเดีย จนได้เป็นเครื่องประดับของจักรพรรดิมากมาย ตั้งแต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และจอร์จที่ 4 ไปจนถึงพลเรือนผู้มั่งคั่ง เช่น Thomas Hope, Pierre Cartier, Evalyn Walsh McLean และ Harry Winston ผู้ซึ่งได้บริจาคเพชรเม็ดงามนี้ให้กับสถาบันสมิธโซเนียนในปี 1958 หลังจากเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปี Harry Winston เริ่มธุรกิจในปี 1932 และถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของแบรนด์หรูนับตั้งแต่นั้นมา และอาจยังคงครองโลกของเพชรต่อไปอีกหลายปีนับจากนี้ โดยคอลเลคชั่นของ Harry Winston นั้นจะใช้อัญมณีที่ดีที่สุดและโลหะที่ดีที่สุดเท่านั้น รวมถึงได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับเท่านั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นนอกจากความงามสง่าของเครื่องประดับที่มาพร้อมราคาที่ไม่ธรรมดาแล้ว ยังเปี่ยมไปด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมและความทนทานเหนือกาลเวลาอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะพบว่าในทุกๆ ปี นักแสดงสาวฮอลลีวูดคนดังมักจะปรากฏตัวพร้อมเครื่องประดับหรูจาก Harry Winston เพื่อเป็นการทำเครื่องหมายการปรากฏตัวของพวกเขาที่พรมแดงออสการ์ 2. CARTIER Cartier ก่อตั้งโดย Louis-François Cartier ในปี 1847 เป็นแบรนด์ฝรั่งเศสที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ในด้านเครื่องประดับและนาฬิกา รวมถึง Bestiary ซึ่งเป็นเข็มกลัดรูปเสือดำที่สร้างขึ้นสำหรับ Wallis Simpson ดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ ในทศวรรษที่ 1940 ถือเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ไม่มีวันตกยุคจากประวัติศาสตร์ ซึ่งดัชเชสแห่งวินด์เซอร์นั้นหลงใหลในเสือดำอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เป็นอย่างมาก โดยมีเครื่องประดับชิ้นที่โด่งดังที่สุดคือ สร้อยข้อมือเพชรนิลและมรกต ขนาด 6.5 นิ้ว ที่เพิ่งเคาะราคาประมูลไปเพียง 7 ล้านดอลลาร์ คาร์เทียร์มีประวัติอันยาวนานในการนำเครื่องประดับที่แพงที่สุดในโลกมาประมูล ซึ่งการประมูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันล้ำค่าในประวัติศาสตร์ดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ในโลกของการทำเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ปัจจุบันเครื่องประดับของคาร์เทียร์ยังคงใช้องค์ประกอบอาร์ตเดโคซึ่งดึงดูดรสนิยมที่ทันสมัย นอกเหนือจากการปรับรูปแบบลวดลายของเสือดำอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ 2. CARTIER Cartier ก่อตั้งโดย Louis-François Cartier ในปี 1847 เป็นแบรนด์ฝรั่งเศสที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ในด้านเครื่องประดับและนาฬิกา รวมถึง Bestiary ซึ่งเป็นเข็มกลัดรูปเสือดำที่สร้างขึ้นสำหรับ Wallis Simpson ดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ ในทศวรรษที่ 1940 ถือเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ไม่มีวันตกยุคจากประวัติศาสตร์ ซึ่งดัชเชสแห่งวินด์เซอร์นั้นหลงใหลในเสือดำอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เป็นอย่างมาก โดยมีเครื่องประดับชิ้นที่โด่งดังที่สุดคือ สร้อยข้อมือเพชรนิลและมรกต ขนาด 6.5 นิ้ว ที่เพิ่งเคาะราคาประมูลไปเพียง 7 ล้านดอลลาร์ คาร์เทียร์มีประวัติอันยาวนานในการนำเครื่องประดับที่แพงที่สุดในโลกมาประมูล ซึ่งการประมูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันล้ำค่าในประวัติศาสตร์ดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ในโลกของการทำเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ปัจจุบันเครื่องประดับของคาร์เทียร์ยังคงใช้องค์ประกอบอาร์ตเดโคซึ่งดึงดูดรสนิยมที่ทันสมัย นอกเหนือจากการปรับรูปแบบลวดลายของเสือดำอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ 3. VAN CLEEF ARPELS Van Cleef Arpels…

การคืนชีพสุดยิ่งใหญ่ของวงการบันเทิง หลังจากที่ผู้คนต้องทนอยู่กับความเงียบเหงามานานเกือบ 2 ปี ในที่สุดก็ถึงเวลาฟื้นคืนชีพของวงการบันเทิงเสียที! เมื่อทิศทางของเทรนด์แฟชั่นรับวันฮาโลวีนในปี 2021 นี้ ต่างพุ่งเป้าไปที่การโคฟเป็นเหล่าตัวละครจากหนังหรือซีรีส์ดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก รวมไปถึงบรรดาพ็อปไอดอลตัวพ่อตัวแม่ทั้งหลายที่ล้วนสร้างกระแสถล่มทลายกันมาแล้ว เทรนด์การแต่งตัวสำหรับเทศกาลวันฮาโลวีนในปีนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นที่ล้ำหน้ากว่าที่เราคุ้นเคย ไม่จำเป็นต้องแต่งชุดแม่มด โครงกระดูก แมวผี หรือแวมไพร์ เพราะนี่คือการฟื้นคืนชีพของ Gossip Girl, ซีซันแรกของ Bridgerton, เกือบทุกลุคของ Nicole Kidman จาก The Undoing และลุคสุดร้อนแรงจาก Lisa Blackpink แรงบันดาลใจยอดนิยมที่เหล่าแฟนตัวยงคงไม่พลาดที่จะยกระดับการโคฟในครั้งนี้ให้เป็นที่จดจำกว่าที่เคย และต่อไปนี้คือ หลากลุครับวันฮาโลวีน 2021 ที่คุณสามารถหามาแต่งตามได้ง่ายๆ จากกระแสพ็อปฟีเวอร์ที่พร้อมใจกันคืนชีพให้คืนวันฮาโลวีนนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง The New Gossip Girl ปลุกตำนานซีรีส์ Gossip Girl ความเฟียร์ซระดับโลก ด้วยทีมนักแสดงหน้าใหม่กับบทบาทตัวละครสุดจี๊ดจ๊าดไม่แพ้ต้นฉบับดั้งเดิม ใครที่เติบโตมากับฉบับออริจินัล บอกเลยว่าเวอร์ชันรีบูตนี้เหมือนทำให้คุณได้รีบูตความทรงจำสุดแซ่บอีกครั้ง สำหรับสายเฟียร์ซที่อยากได้ลุคแบบฟาดๆ รับวันฮาโลวีน ลองหยิบยูนิฟอร์มมาจับคู่กับกระโปรงไมโครมินิที่มาพร้อมบูตยาวสีขาว รับรองเลยว่าได้เฟียร์ซสมใจ Cardi B & Megan Thee Stallion จากมิวสิควิดีโอ “WAP” ท้าทายทุกสายตา ด้วยการปลดปล่อยความคลั่งไคล้ในตัวคุณไปกับ Cardi B และ Megan Thee Stallion คืนฮาโลวีนนี้ลองเลือกบอดี้สูทคัตเอาต์สุดเซ็กซี่มาแมตช์เข้ากับกางเกงรัดรูป เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้นในขณะเคลื่อนไหว พร้อมวาดลวดลายได้อย่างไม่มีสะดุด ลุคนี้ใครใจไม่ถึงอาจพึ่งไม่ได้ ข้ามไปลุคอื่นได้เลย Olivia Rodrigo จากมิวสิกวิดีโอ “good 4 u” หลังจากที่ลุคเชียร์ลีดเดอร์สาวสุดแสบจากมิวสิกวิดีโอเพลง good 4 u ของ Olivia Rodrigo พ็อปสตาร์มาแรงแห่งปี 2021 ส่งให้ทั้งซิงเกิลและอัลบั้มขึ้นครองชาร์ตอันดับหนึ่งในประเทศอังกฤษได้อย่างร้อนแรงที่สุดแล้ว การปรากฏตัวในคืนวันฮาโลวีนหากจะขาดลุคเชียร์ลีดเดอร์สาววัยใสก็ดูจะตกเทรนด์อยู่ไม่ใช่น้อย เพราะฉะนั้นควรเตรียมชุดเชียร์ลีดเดอร์สีฟ้าอ่อนพร้อมถุงมือยางรอไว้ให้พร้อม หรือจะเปลี่ยนเป็นกระโปรงมินิลายสก็อตที่มาพร้อมทรงผมยุ่งๆ ก็ฮอตไม่เบา Daphne จาก Bridgerton เบรกความแซ่บด้วยความแรงของหนึ่งในตัวละครที่เป็นที่จดจำมากที่สุดของ Netflix นอกจากความสวยและความสามารถของนักแสดงแล้ว แฟชั่นในยุครีเจนซีของเรื่องนี้คือสิ่งที่แฟนซีรีส์ชื่นชอบเป็นอย่างมาก และวันฮาโลวีนนี้ก็นับว่าเป็นโอกาสเหมาะที่คุณจะคว้าเดรสคอเหลี่ยมเข้ารูปช่วงใต้อก ถุงมือยาว เกล้าผมมวย และสวมเครื่องประดับหรูหรา ออกไปสร้างสีสันในยามราตรีได้อย่างแตกต่าง Nicole Kidman จาก The Undoing ต้องยอมรับว่าตลอดอาชีพการทำงานที่ยาวนานของ นิโคล คิดแมน ได้สอนบทเรียนมากมายให้กับเรา ผ่านตัวละครที่เธอแสดง เช่นเดียวกันกับ The Undoing ที่สามารถถ่ายทอดสังคมคนรวยในนิวยอร์กออกมาได้อย่างน่าสนใจ และตัวนิโคลเองยังคงถ่ายทอดความเป็น เกรซ เฟรเซอร์ ได้แบบปังมากแม่! อีกเช่นเคย เหนือสิ่งอื่นใดเสื้อผ้าเกือบทุกลุคของเธอในมินิซีรีส์เรื่องนี้คือ จอมขโมยซีน! อย่างแท้จริง ไม่ว่าเสื้อโคตหรือแจ็กเกตล้วนเป็นสัญลักษณ์ของเธอในซีรีส์ The Undoing และหากคุณต้องการถ่ายทอดความเป็น เกรซ เฟรเซอร์ ในคืนวันฮาโลวีน เสื้อโคตตัวยาวสีเขียวคือไอเทมสุดร้อนแรงที่พร้อมจะเป็นประเด็นให้คนถกเถียงกันระหว่างความชอบกับไม่ชอบ มากกว่าบทสรุปว่าใครคือฆาตกรในมินิซีรีส์เสียอีก Lisa Blackpink จากผลงานโซโล LALISA & MONEY ส่งท้ายด้วยสาวไทยสุดร้อนแรงแห่งปี 2021 กับ Lisa Blackpink หรือ ลลิษา มโนบาล ไอดอลเกาหลีสายเลือดไทยที่ได้ทุบ 2 สถิติใหม่ของ Guinness…

การกลับมา “เล่นใหญ่” ของเหล่าแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง จบลงไปแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับเดือนแห่งแฟชั่นในกรุงปารีส กับคอลเลคชั่นประจำฤดูกาล Spring/Summer 2022 ที่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่เงียบเหงาและดูเหมือนจะอัดอั้นจากการที่ไม่ได้ทำโชว์มาเกือบสองปี จากสถานการณ์โควิด-19 การกลับมาในครั้งนี้เหล่าแบรนด์แฟชั่นชื่อดังเลยพากันเล่นใหญ่ เราจึงได้เห็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งสตรีตสไตล์ให้ได้ครึกครื้นกันอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่บรรยากาศคอนเสิร์ตไปจนถึงการเปิดตัวในสถานที่ที่ไม่คาดคิด จึงไม่น่าแปลกใจนักถ้าเหล่าคนรักแฟชั่นทั้งหลายจะรู้สึกว่า “นี่คือฤดูกาลแห่งการต่ออายุ” มากกว่าที่เคยเป็นมา ด้วยมีทั้งดีไซเนอร์หน้าใหม่ โมเดลใหม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าใหม่ที่น่าจับตามอง ซึ่ง Power เองก็ไม่ลืมที่จะไปเกาะติดขอบรันเวย์ในครั้งนี้ เพื่อส่องเทรนด์ประจำฤดูใบไม้ผลิปีหน้าที่กำลังจะมาถึง เอามาฝากสาวๆ สายแฟ (ชั่น) กันอีกเช่นเคย และต่อไปนี้คือลุคที่สุดแสนจะโดดเด่นจากคอลเลคชั่นยอดนิยม ของแบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Dior, Saint Laurent ไปจนถึง Chanel Alexander McQueen นี่คือการรวบรวมผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจในการก้าวกลับออกไปสู่โลกที่น่าอึดอัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดย Sarah Burton โชว์นี้ถูกจัดขึ้นในเต็นท์โดมใส ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิก Smiljan Radic ให้ทัศนียภาพกว้างไกลของเมืองที่ Burton เรียกว่าบ้าน แสดงผลงานภาพพิมพ์บนก้อนเมฆ ให้ลุคเท่ในชุดเสื้อคลุมผ้าแพรแข็งและเสื้อคลุมโพลีเฟลลี ที่มาในเฉดสี ท้องฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าที่มีพายุ และยามราตรี ที่พร้อมจะท้าทายทุกสภาพอากาศ ด้วยชุดกระโปรงตาข่ายโปร่งๆ คลุมด้วยแจ็กเกตทรงนักบินและแจ็กเกตแบบสั่งตัด Lacoste ยังคงความสปอร์ตในแบบของ Lacoste ได้อย่างชนิดที่เรียกว่าอยู่ใน DNA กับคอลเลคชั่นใหม่ โดย Louise Trotter ไม่ว่าจะเป็น กางเกงคาร์โก้ เสื้อครอป เสื้อกั๊กทรงหลวมขนาดใหญ่ตาข่ายซีทรูที่ขอบบรา กระโปรงพลีตที่จับเข้าคู่กับแจ็กเกตโอเวอร์ไซซ์ รวมไปถึงสีเด่นของคอลเลคชั่นอย่างเหลืองนีออนที่พร้อมจะตะโกนเรียกทุกสายตา และที่ขาดไม่ได้คือไอเทมเด่นที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดอย่างเสื้อสเวตเตอร์เทนนิสคอวี อันเป็นสัญลักษณ์จากคอลเลคชั่นแรกของเธอสำหรับแบรนด์นี้กับงานปักโลโก้แบรนด์ด้วยมือ Miu Miu ต้องบอกเลยว่า Miu Miu ซีซั่นนี้ซ่าได้ใจสุดๆ กับหลากลุคที่พร้อมจะระเบิดรันเวย์ให้ลุกเป็นไฟ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์เฟมินีนแอบเซ็กซี่ที่มาในคอนเซปต์ Basic Instincts สไตล์ยูนิฟอร์มที่ถูกตีความใหม่ให้ก๋ากั่นมากขึ้นอย่าง เชิ้ตครอปตัวสั้น สเวตเตอร์ และมินิสเกิร์ตตัวจิ๋วเอวต่ำ ที่พาให้เรานึกย้อนไปถึงช่วงเทรนด์ 90s – 00s ยุคสมัยของพ็อปไอดอลอย่าง Britney Spears หรือ Christina Aguilera ที่บอกได้เลยว่าฮอตสุดๆ และไม่ใช่แค่นั้นเพราะ Miuccia ยังคงไม่ทิ้งงานปักที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Miu Miu ด้วยเดรสสายเดี่ยวปักประดับคริสตัลหลากสี และที่สำคัญรองเท้าส้นเตี้ยหัวแหลมงานออกแบบระดับ A คือไอเทมที่ไม่ควรพลาด Chanel คอลเลคชั่นนี้ Virginie Viard พา Chanel ย้อนกลับไปในยุค 90s ด้วยแฟชั่นหรูหราที่ให้กลิ่นอายของความชิลในแบบยุคของ Karl Lagerfeld ซึ่งนอกจากบรรยากาศของโชว์จะชวนให้นึกถึงยุคนั้นได้จริงๆ เสื้อผ้ายังดูใส่ง่ายและใส่ได้จริงๆ ด้วย รวมถึงแอกเซสซอรีของคอลเลคชั่นก็น่าเก็บสะสมอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะรองเท้าส้นแบน ที่น่าจะขายดีเอาเรื่อง แต่ไอเทมที่คิดว่าเด็ดสุด ขอยกให้ขบวนชุดว่ายน้ำสีโมโนโครมที่เปิดมู้ดซัมเมอร์ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่เดรสสั้นในผ้าทวีดสีชมพูหรือม่วง แจ็กเกตที่แต่งด้วยโครเชต์หลากสีหรือเดรสผ้าชีฟองพิมพ์ลายผีเสื้อขนาดใหญ่หลากหลายสีสัน คือกลิ่นอายแห่งความหรูหราในสไตล์ Chanel Givenchy ในที่สุดคอลเลคชั่นนี้ก็ทำให้ Matthew M. Williams สามารถพา Givenchy กลับมาอยู่ในความสนใจได้อีกครั้ง เมื่อเขานำจุดแข็งอย่างกลิ่นอายความเป็นสตรีตมาผสมผสานเข้ากับงานฝีมือระดับโอต์กูตูร์ เกิดเป็นผลงานหรูหราสไตล์เท่ๆ ดิบๆ แบบสายสตรีตที่เบรกด้วยความละมุนของงานปักและเชปแบบเฟมินีน ที่สำคัญงานนี้เขายังดึงศิลปิน Josh Smith มาร่วมคอลแลบลายพิมพ์สีฉูดฉาดที่ช่วยตัดมู้ดเลี่ยนๆ ในโทนซอฟต์ๆ ให้ดูเปรี้ยวขึ้นอีกด้วย…