ESCAPE THE ORDINARY

จุดหมายการเดินทางแห่งใหม่ของเราอยู่ที่ “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” ห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย
บนชั้น 76 และ 77 ของ “คิง เพาเวอร์ ​มหานคร” ตึกที่มีเอกลักษณ์ลายพิกเซลและทางเดินสกายวอล์กพื้นกระจกลอยฟ้า 

CONCEPT AND STYLE
EKARIN YUSUKSOMBOON

PHOTOGRAPHY
PIPAT CHAMRAT

STORY
NOPPAWAN CHERDSUKJAI

การออกแบบตกแต่งของห้องอาหารที่เรียงร้อยเรื่องราวริมโค้งน้ำเจ้าพระยา จึงเป็นความวิจิตรตระการตาแบบไทย ผสานกับความสง่างามแบบฝรั่งเศส เมื่อลิฟต์เปิดออก โค้งไม้เหมือนอุโมงค์ต้อนรับเราด้วยโทนสีที่สื่อถึงความอบอุ่น ทางเดินเรียงรายด้วยของสะสมจากการเดินทางในหลายๆ ประเทศ จัดวางให้เราได้ชื่นชม ทั้งเครื่องปั้นดินเผาแฮนด์เมดจากญี่ปุ่น หนังสือโบราณจากฝรั่งเศส ไม้แกะสลักของชนเผ่า บอกเล่าเรื่องราวของการเดินทาง เชื่อมถึงโซนพื้นที่ภายใน โดดเด่นด้วยหัวกระทิงที่ตั้งอยู่กลางโถง บาร์หินอ่อนสีขาว โต๊ะกลมแฮนด์เมดที่ท็อปด้านบนโต๊ะทำจากเปลือกไข่ ของตกแต่งงานจักสาน วัสดุไม้เน้นความเป็นธรรมชาติ แต่เพิ่มความหรูหราด้วยโคมไฟสีทอง กระจกบานใหญ่ เพดานสูงโล่ง ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบเมืองที่เป็นมหานครแบบพาโนรามาได้สุดสายตา ดีไซน์ความโค้งของที่นั่งเบาะหนังสีน้ำตาลขนาดใหญ่ รับกันกับโค้งแม่น้ำภายนอก ส่วนโซนที่เป็นเอาต์ดอร์ตกแต่งด้วยไม้พุ่มสีเขียว เหมือนได้เข้าไปอยู่ในสวนลอยบนท้องฟ้าที่แสนรื่นรมย์ และยังมีเลานจ์วีไอพีที่ให้เราจินตนาการเหมือนลอยอยู่ในอากาศ ผลงานการออกแบบของ Tristan Auer จาก Wilson Associates ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายราวกับได้หลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอก แม้จะอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ก็ตาม

นอกเหนือจากบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้แล้ว สิ่งที่เป็นไฮไลต์ คือการได้ลิ้มรสอาหารจากฝีมือของ Joshua Cameron เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟของมหานคร แบงค็อก สกายบาร์​ ที่เชื่อมโยงผสมผสานอาหารจากตะวันออกและตะวันตกได้อย่างพิถีพิถัน ทั้งวัตถุดิบ เทคนิคการปรุง สร้างสรรค์เป็นอาหารในแบบฉบับที่เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนตัวตนความเป็นนักเดินทาง ผสานกับคอนเซ็ปต์ของสถานที่แห่งนี้ได้อย่างลงตัว

เริ่มด้วยสตาร์ตเตอร์จานแรกที่เชฟแนะนำให้เรา คือ Hokkaido Uni Panna Cotta โดยเชฟได้เล่าเรื่องราวที่มาถึงแรงบันดาลใจจากเงาของพระจันทร์เต็มดวงที่สะท้อนจากท้องฟ้าลงบนผิวน้ำทะเล มาเป็นแพนนาคอตต้าทรงกลมที่ผสมรสชาติเข้มข้นของอูนิหรือไข่หอยเม่นสด ครีม และความหอมจากคอนยัค ท็อปด้วยฮอกไกโดอูนิ วัตถุดิบล้ำค่าจากท้องทะเลที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มหวาน ไข่ปลาอิคุระรสชาติเค็มอ่อนๆ สีส้มสดมันวาว สาหร่ายวากาเมะทอดกรอบที่แทนความสดชื่น เสิร์ฟกับซอสยูซุพอนซึสื่อรสชาติถึงความเป็นญี่ปุ่น โรยผงสีทองเป็นเกลียวคลื่นที่สะท้อนความระยิบระยับของแสงดวงดาว เพียงเท่านี้ก็เหมือนได้หลบลี้ไปในยามค่ำคืนของท้องทะเลที่อยู่ในจานอาหารของเรา

จานที่ 2 เป็น Sea Bream Crudo ปลาซีบรีมญี่ปุ่นหั่นเป็นชิ้นบางๆ นำไปหมักเกลือ วางลงบนเจลลี่มะนาว เสิร์ฟพร้อมโฟมสีขาวที่ทำจากมะเขือเทศ ซึ่งสร้างความประหลาดใจเมื่อได้สัมผัสกับรสชาติ บนโฟมหยดด้วยน้ำมันกระเทียมสีเขียวอ่อน มีกลิ่นหอมนิดๆ ของผิวเปลือกเลมอน ตกแต่งให้สีสันสวยงามด้วยผักไมโครกรีนและดอกไม้รับประทานได้ 

ส่วนอาหารจานหลักนั้น เชฟพาเราไปสู่อีกขั้นหนึ่งของอาหารไทยที่เราคุ้นเคย แต่เพิ่มความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น Larb Ped — Spicy Grilled Duck Salad เนื้ออกเป็ดสีชมพูที่เห็นด้วยตาก็รู้ว่าผ่านการย่างชาร์โคลด้วยอุณหภูมิที่พอดี อกเป็ดจึงยังคงความนุ่ม เครื่องลาบที่มีครบ ประกอบไปด้วยข้าวคั่ว หอมแดง ผักชี ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น รับประทานพร้อมกับกะหล่ำปลีดอง และข้าวเกรียบทอดกรอบ ให้เนื้อสัมผัสหลากหลายในจานเดียว จึงเรียกได้ว่าถึงแม้เชฟจะย้ายมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นาน แต่ก็มีความตั้งใจที่จะเข้าถึงรสชาติของอาหารไทยและพาเราไปสู่การรับรู้ใหม่

ต่อด้วย Stuffed Whole Free Range Chicken เป็นอาหารอเมริกันในแบบสมัยใหม่ ไก่ที่เลี้ยงมาตามธรรมชาติ ยัดไส้ขนมปังบริยอช กระเทียมดำ และเห็ดดุ๊กเซลส์ นำไปอบให้เนื้อยังคงนุ่ม แต่หนังกรอบ และยังมีซอสเกรวี่ที่ข้นหอมเพิ่มความกลมกล่อมได้อย่างลงตัว

ปิดท้ายมื้ออร่อยด้วยของหวาน Kaffir Lime Cheese Cake ขนมหน้าตาฝรั่งที่ซ่อนความเป็นไทยด้วยรสชาติของใบมะกรูด แต่มาในรูปแบบชีสเค้ก ความนุ่มละมุนครีมมี่ของเนื้อชีส ตัดกับแคร็กเกอร์ครัสต์ เพิ่มความซับซ้อนของรสชาติด้วยเจลด้านบนที่เป็นส้มยูซุและแก้วมังกร ยังมีไอศกรีมซอร์เบต์มะม่วงสุก เจลเสาวรส และมังคุดสดหวานชื่นใจ

มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ เปิดให้บริการมื้อค่ำ เวลา 17.00-01.00 น. ด้วยอาหารที่มีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน สามารถลิ้มรสคู่กับเครื่องดื่มทั้งไวน์และค็อกเทล เหมาะทั้งบิสซิเนสไดนิ่งและสังสรรค์เพื่อการพักผ่อน โดยเชฟโจชัวซึ่งสะสมประสบการณ์ทั้งจากร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในนิวยอร์ก รวมถึงหลายรัฐในสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป เมื่อเชฟมาถึงเมืองไทย จึงนำสิ่งที่เรียนรู้มาเรียงร้อยเป็นอาหารจานใหม่ นอกจากนี้เชฟยังมีแพลนว่าเมื่อเวลาลงตัวมากขึ้นหลังจากนี้จะหลบไปผจญภัยเพื่อเสาะหาวัตถุดิบของไทยมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ให้เราอีกด้วย 

*ขอขอบคุณ “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” ห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย บนชั้น 76 และ 77 ของ “คิง เพาเวอร์ ​มหานคร” เปิดให้บริการมื้อเที่ยงทุกวัน เวลา 11.00-15.00 น. และมื้อค่ำทุกวัน เวลา 17.00-01.00 น. สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่โทร. 0 2677 8722 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mahanakhonbangkokskybar.com.