MEN’S HAIR 101

ไอเดียดีๆ ในการดูแลเส้นผม จัดแต่งทรง และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถูกวิธี เพื่อให้คุณหล่อดูดีตลอด 24 ชั่วโมง

SHAMPOO

เลือกใช้แชมพูสูตรที่เหมาะกับสภาพผม ทำความสะอาดเส้นผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำอุ่น ไม่ใช่น้ำร้อน ถ้าคุณไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์แฮร์สไตลิ่ง ไม่ควรสระผมทุกวัน เพราะจะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้งจนเกินไป หากคุณใส่ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเป็นประจำ ควรใช้แชมพูทำความสะอาดสารเคมีและสิ่งตกค้าง (Clarifying Shampoo) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพราะสารเคมีและสิ่งตกค้างบนเส้นผม คือตัวการสำคัญที่ทำให้เส้นผมลีบแบนและขาดประกายเงางาม

HAIR CONDITIONER 

ผู้ชายหลายคนมองข้ามและไม่เห็นความสำคัญของการใช้ครีมนวดผมหลังสระ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าหลังสระผมทุกครั้งควรบำรุงเคลือบปิดเกล็ดผมด้วยคอนดิชั่นเนอร์ โดยเริ่มชโลมจากปลายผมไปจนถึงกึ่งกลางเส้นผม ไม่ควรใส่คอนดิชั่นเนอร์ที่หนังศีรษะ เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมความมัน ทำให้โคนผมลีบแบน เส้นผมขาดน้ำหนัก เมื่อชโลมทั่วเส้นผมแล้วควรทิ้งไว้อย่างน้อย 3 นาที เพื่อให้คอนดิชั่นเนอร์เข้าบำรุงปิดเกล็ดผม แล้วล้างคอนดิชั่นเนอร์ออกให้สะอาดหมดจด หากทำเป็นประจำทุกวัน คุณจะเห็นความแตกต่างว่าเส้นผมของคุณจัดทรงง่ายกว่าเวลาที่คุณไม่ได้ใช้คอนดิชั่นเนอร์อย่างชัดเจน

HAIR MASK 

ผู้ชายก็ควรมาสก์ผมเช่นกัน ยิ่งถ้าคุณสไตลิ่งเส้นผมด้วยความร้อนเป็นประจำ ก็ควรหาเวลาทำทรีตเมนต์บำรุงเส้นผมอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ถ้าไม่สะดวกหรือไม่มีเวลาไปร้านทำผม ลองใช้มาสก์บำรุงเส้นผมสูตรที่เหมาะกับสภาพผม หมักบำรุงเส้นผมด้วยตัวเอง รับรองเส้นผมนุ่มๆ หลังการมาสก์จะช่วยเพิ่มดีกรีความมีเสน่ห์ให้คุณได้อีกหลายเท่าตัว

HAIR SERUM

แนะนำให้เลือกใช้สูตรที่เป็นออยล์เซรั่มเนื่องจากเนื้อบางเบา ไม่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะมันและลีบแบน เริ่มจากใช้ปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยๆ ลูบไล้ไปจนทั่วเส้นผม หากใช้ปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เส้นผมดูหนัก ลีบแบน และจัดทรงยาก อาจบีบออยล์เซรั่มเล็กน้อย แล้วแตะเนื้อแว็กซ์มาผสมกันที่ฝ่ามือก่อนแล้วจัดแต่งทรง วิธีนี้จะช่วยให้ผมอยู่ทรงและเพิ่มความเงางามในการจัดแต่งทรงผมด้วยแว็กซ์ได้อีกด้วย

ผู้ชายหลายคนมองข้ามและไม่เห็นความสำคัญของการใช้ครีมนวดผมหลังสระ
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าหลังสระผมทุกครั้งควรบำรุงเคลือบปิดเกล็ดผมด้วยคอนดิชั่นเนอร์

HOW TO CHOOSE

HAIR STYLING PRODUCTS

เคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมอย่างมืออาชีพ

HAIR GEL: เหมาะกับการจัดเส้นผมที่ชี้ไปมาให้อยู่ทรงเป๊ะในแนวที่ต้องการ ข้อเสียคือขาดความเป็นธรรมชาติ แต่งทรงเสร็จแล้วไม่สามารถจับ ขยับ ลูบ หรือเล่นกับเส้นผมได้อีก แต่ปัจจุบันมีเจลที่เรียกว่าเจลแว็กซ์ ซึ่งเป็นการนำเจลมาผสมกับแว็กซ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่งทรงเสร็จแล้วยังจัดทรงได้บ่อยตามต้องการโดยไม่แตกเป็นขุย

HAIR MOUSSE: มีหลายประเภท ทั้งเพื่อให้ผมอยู่ทรง เพื่อเพิ่มวอลุ่มและให้ผมดูสปริงตัว หรือเพื่อเพิ่มลอนดัดให้ชัดเจนขึ้น ข้อดีของมูสคือแห้งช้า ช่วยให้เซ็ตทรงง่าย แฮร์สไตลิสต์หลายคนแนะนำว่า มูสเหมาะกับการเป่าดรายผมตรงเพื่อเพิ่มวอลุ่มให้เส้นผมดูสปริงตัว โดยให้ใส่มูสขณะผมยังหมาดๆ ก่อนเป่าดราย

HAIR WAX: เหมาะกับผมสั้นหรือผมหยักศกที่ต้องการเพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้เส้นผมดูมีมิติขึ้น ช่วยให้เส้นผมอยู่ทรง ขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่น จัดแต่งทรงได้บ่อยตามต้องการ ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเจล แต่ข้อเสียคือความมันและความเหนียวที่ล้างออกยากมาก แฮร์สไตลิสต์จากซาลอนชั้นนำทั้งหลายต่างแนะนำว่า ก่อนสระผมให้ชโลมครีมนวดหรือแป้งฝุ่นแล้วนวดให้ทั่วเส้นผม เพื่อชะล้างและดูดซับความมันจากแว็กซ์บนเส้นผมออกก่อน จากนั้นจึงสระผมด้วยแชมพูตามปกติ

EDITOR’S PICK

KÉRASTASE

Elixir Ultime Sublime Cleansing Oil Shampoo (250ml 865 Baht) แชมพูเนื้อออยล์ เพื่อผมนุ่มน่าสัมผัส ผสานคุณค่าจากออยล์ 4 ชนิด ช่วยปกป้องเส้นผม และเติมสารบำรุงแก่เส้นผมอย่างล้ำลึก

AVEDA

Men Pure-Formance™ Conditioner (300ml 935 Baht) คอนดิชั่นเนอร์บำรุงเส้นผมเพื่อคืนความชุ่มชื้นและช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ด้วยส่วนผสมที่มาจาก
สารสกัดธรรมชาติ มอบกลิ่นหอมผ่อนคลายสดชื่นแบบอโรมา

L’Occitane

Aromachologie Repairing Oil (100ml 1,090 Baht) ออยล์สูตรใหม่ผสมผสานคุณค่าจากน้ำมันอัลมอนด์วิตามิน และโอเมก้า 9 รวมถึงเอสเซนเชียลออยล์ ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูสภาพผม ช่วยซ่อมแซม ปกป้อง และทำให้ผมสวยงาม

AVEDA

Men Pure-Formance™ Grooming Clay (75ml 1,065 Baht)  ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเนื้อเบา เพิ่มวอลุ่มให้เส้นผมและจัดแต่งทรงได้ยาวนาน ช่วยให้เส้นผมดูหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ทำให้เส้นผมมัน

*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า