Happening

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้
กับประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ในการย้ายศูนย์ฝึกซ้อมระดับเวิลด์คลาสไปที่ ‘ซีเกรฟ’

By 23 December 2020 No Comments

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ จะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ เมื่อสโมสรฯ เตรียมย้ายไปยังสนามฝึกซ้อมแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเลสเตอร์เชียร์ ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

สนามฝึกซ้อมสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้แห่งใหม่ที่ ‘ซีเกรฟ’ ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019 ซึ่งจากเดิมเป็นที่ตั้งของ สนามกอล์ฟพาร์ค ฮิลล์ โดยนับเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของสโมสรฯ และครอบครัวศรีวัฒนประภา ตั้งแต่ เข้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2010 เนรมิตให้สนามซ้อมแห่งใหม่นี้ กลายเป็นสนามฝึกซ้อมระดับ เวิลด์คลาส ศูนย์กีฬาที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บนพื้นที่กว่า 180 เอเคอร์ หรือ 455 ไร่

โดยทีมชุดใหญ่จะฝึกซ้อมที่สนามบีเวอร์ ไดร์ฟ ในวันพุธที่ 23 ธันวาคมเป็นวันสุดท้าย และจะเข้าฝึกซ้อมครั้งแรกที่ สนามซ้อมแห่งใหม่ที่ ซีเกรฟ ในวันคริสต์มาสอีฟ 24 ธันวาคมนี้ ก่อนหน้าที่ เลสเตอร์ ซิตี้ จะมีเกมเปิดบ้านต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ในวันบ็อกซิ่งเดย์ 26 ธันวาคมนี้

สนามฝึกซ้อมแห่งใหม่นี้ ประกอบไปด้วย

  • อาคาร วิชัย ศรีวัฒนประภา อาคารแห่งนี้เป็นศูนย์กลางหลักของศูนย์ฝึกซ้อม ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับอดีต ประธานสโมสร ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สุดของสโมสร ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่สำคัญของ วิชัย ที่มีต่อสโมสร ซึ่งปัจจุบันได้รับ การสานต่อโดย อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ภายในอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ ทีมฟุตบอลชาย สำนักงาน ที่พัก ห้องอาหารและสันทนาการของทีมชุดใหญ่ ซึ่งมีระเบียงที่สามารถมองเห็น สนามฝึกซ้อมด้านนอกของทีม
  • คิง เพาเวอร์ เซ็นเตอร์ เป็นศูนย์ที่มีสถาปัตยกรรมรูปโดมที่โดดเด่นที่สุดตัดกับภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีสนามหญ้าเทียม ในอาคาร รวมถึงศูนย์ฝึกซ้อมสำหรับเยาวชนตามระดับอายุที่เหมาะสม รวมถึงศูนย์อำนวยการสื่อมวลชน ห้องแถลงข่าว ห้องถ่ายทอดสด และพื้นที่สำหรับสันทนาการต่าง ๆ
  • สนามแข่ง 1 สนามแข่งขันย่อยที่จุผู้ชมได้ถึง 499 ที่นั่ง ใช้สำหรับการแข่งขัน เอฟเอ ยูธ คัพ, พรีเมียร์ลีก 2 และฟุตบอล หญิงเลสเตอร์ ซิตี้
  • สนามฝึกซ้อม 21 สนาม แบ่งเป็นสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน 14 สนาม
  • สนามกอล์ฟส่วนตัว แบบ 9 หลุม
  • ระบบวิทยาศาสตร์การกีฬาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย
  • ศูนย์ฟิตเนสและระบบวารีบำบัดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย (Hydrotherapy)
  • สปอร์ต เทิร์ฟ อะคาเดมี่ Sports Turf Academy (STA) ศูนย์กลางวิจัยอะคาเดมี่แห่งแรก สำหรับการเรียนรู้และ ศึกษาพัฒนานวัตกรรม ในการจัดการสนามหญ้าในการแข่งขัน ให้กับทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สนามกีฬามืออาชีพ จากทั่วโลก

สนามฝึกซ้อมของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ แห่งใหม่ ซีเกรฟ จะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของนักเตะทีมชายทั้งหมด รวมถึงอะคาเดมี่ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนสนามซ้อมเดิมที่ บีเวอร์ ไดรฟ์ ซึ่งเป็นสนามฝึกซ้อมของสโมสรฯ มาเกือบ 60 ปี จะกลายเป็นบ้านของทีมฟุตบอลหญิง เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเข้ามาอยู่กับสโมสรเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นทีม ฟุตบอลหญิงอาชีพเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ปัจจุบันทีมฟุตบอลหญิงเลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นเป็นผู้นำในการแข่งขันเอฟเอ วีเม่นส์ แชมเปี้ยนชิพ (FA Women’s Championship) โดยจะย้ายไปยังสนามบีเวอร์ ไดร์ฟ ก่อนสิ้นปี

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “สนามซ้อมแห่งใหม่นี้ ถือเป็นโครงการที่ใหญ่ ที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาของสโมสรฯ

“สนามฝึกซ้อมแห่งใหม่ ซีเกรฟ ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เราได้สร้างความฝันของพวกเราให้เป็นความจริงในวันนี้  ซีเกรฟ จะเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินงานของสโมสรฯ สำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

“การสร้างสนามซ้อมนี้ ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญ เพราะถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของนักเตะของเรา ทั้งในวันนี้และ ในอนาคต เพราะเราเลือกใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ดีและทันสมัยที่สุด ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการสร้างสภาวะ แวดล้อมในการฝึกซ้อมและสร้างบรรยากาศให้กับการฝึกซ้อมในทุกๆ วัน ทั้งหมดนี้ถือเป็นการยกระดับให้กับนักเตะและ ทีมงานของสโมสรฯ อย่างยั่งยืน

“ส่วนสนามซ้อมที่บีเวอร์ ไดร์ฟ ซึ่งเป็นเหมือนจิตวิญญาณของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ มาหลายชั่วอายุคนนั้น จะกลายเป็นบ้าน ของทีมฟุตบอลหญิงเลสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นการสืบทอดประวัติศาสตร์ที่สำคัญของทีม”

สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้เปิดเผยแผนการสร้างสนามฝึกซ้อมแห่งใหม่ในช่วงปี 2018 เป็นเวลาสองปีหลังจากทีมได้คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับสโมสรฯ ของเรา โครงการนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของช่วงเวลาที่ ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรฯ เพื่อเป็นการตอกย้ำและสานฝันของ วิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรฯ ในการขับเคลื่อนทีมให้เป็นสโมสรฯ ชั้นนำของวงการฟุตบอลอังกฤษ