Lifestyle

LIFESTYLE
ในวันที่โลกภาพยนตร์กลับมาหมุนอีกครั้ง
และแล้วเราจะได้ดูหนังที่รอมานาน (เสียที)

ในวันนี้การดูหนังผ่านสตรีมมิงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไปแล้ว เพราะไม่เพียงเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามามีบทบาทจนส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค แต่โควิด-19 ก็เป็นดั่งตัวเร่งให้วันที่โรงหนังไม่ใช่สถานที่เดียวสำหรับการชมภาพยนตร์เรื่องโปรดมาถึงเร็วขึ้น เราจึงเห็นสตูดิโอมากมาย “ตั้งใจ” สร้างและส่งหนังของพวกเขาลงสตรีมมิงโดยตรง โดยเฉพาะในช่วงที่การออกนอกบ้านยังไม่ค่อยสะดวกนัก แต่ก็อย่างที่หลายคนบอก “โรงหนังไม่มีวันตาย” ทำให้พอสถานการณ์ในหลายๆ ประเทศเริ่มดีขึ้น กิจกรรมต่างๆ สามารถกลับมาจัดได้บ้าง บรรยากาศที่ห่างหายไปในช่วงที่โลกราวกับจะหยุดหมุนเมื่อปีก่อน อย่าง “เทศกาลภาพยนตร์” จึงทยอยกลับมาจัดกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Cannes Film Festival, Venice International Film Festival หรือ Toronto International Film Festival โดยหนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ประจำเทศกาลภาพยนตร์ก็คือการฉายเปิดตัวเป็นครั้งแรก ซึ่งก็มีหนังหลายเรื่องที่เราควรจะได้ดูไปตั้งนานแล้ว แต่กลับถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ให้เรารอแล้วรออีกมาจนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตามถือเป็นสัญญาณที่ดีที่การรอคอยทำท่าว่าจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า และเราน่าจะได้ดูหนังหลายเรื่องที่เฝ้ารอมานานเหล่านี้กันเสียที Dune ภาพยนตร์มหากาพย์ไซ-ไฟฟอร์มยักษ์ที่สร้างมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อเดียวกันนี้ เพิ่งจะได้ฤกษ์ฉายเป็นครั้งแรกในงาน Venice International Film Festival ครั้งที่ 78 เมื่อต้นเดือนกันยายน 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งเลื่อนจากกำหนดเดิมเกือบ 1 ปีเต็ม โดยก่อนหน้านี้ Dune เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 1984 และในเวอร์ชันล่าสุดด้วยทุนสร้างมหาศาลพร้อมกับการประกาศรายชื่อนักแสดงชั้นนำที่ขนกันมาเกือบทั้งฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น Timothée Chalamet, Rebecca Ferguson, Oscar Isaac, Zendaya, Javier Bardem ฯลฯ ทำให้ Dune กลายเป็นหนังอีกเรื่องที่ผู้คนต่างรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ด้านงานภาพก็หายห่วงเพราะผู้กำกับ Denis Villeneuve นั้น เคยทำให้เราตื่นตาตื่นใจมาแล้วทั้งใน Sicario (2015), Arrival (2016) และ Blade Runner 2049 (2017) ในส่วนของเนื้อหานั้นเป็นเรื่องของการตั้งรกรากใหม่ของมนุษย์ในโลกอนาคต ที่มีการต่อสู้แย่งชิงดวงดาวและดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งแม้นิยายต้นฉบับจะแต่งไว้ตั้งแต่ปี 1965 แต่ก็ยังเต็มไปด้วยแง่มุมที่ทันสมัย จับต้องได้ จนทำให้ขึ้นหิ้งนิยายไซ-ไฟคลาสสิกทรงคุณค่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างที่ Arthur C. Clarke นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อก้องเคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าจะมีสักเรื่องที่พอจะสูสีกับ Dune ก็คงจะเป็น Lord of the Rings” House of Gucci Lady Gaga ไม่เพียงเป็นศิลปินนักร้องที่มีคาแรกเตอร์จัดจ้านที่สุดคนหนึ่งในวงการ เพราะที่ผ่านมาเธอยังได้พิสูจน์ให้เห็นฝีมือและความเป็นเลิศทางการแสดงหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังเคยเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง A Star Is Born (2018) มาแล้ว ว่ากันว่านี่เป็นอีกครั้งที่เธออาจจะคว้ารางวัลอันทรงเกียรติไปครอบครอง จากการรับบทสำคัญในภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า House of Gucci House of Gucci ดัดแปลงมาจากหนังสือ The House of Gucci: A Sensational Story of Murder, Madness, Glamour and Greed ที่เล่าถึงเรื่องราวคดีฆาตกรรมสะเทือนโลกแฟชั่นในปี 1995 เมื่อ Maurizio Gucci ทายาทรุ่นที่ 3 ของแบรนด์ Gucci ถูกยิงเสียชีวิต…
Editor
28 September 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
เมื่อปอดร่าเริง ร่างกายก็สดใส
ด้วยหลากหลายอาหารบำรุงปอดเพื่อสุขภาพที่ดีจากภายใน

เพราะ “ปอด” เปรียบเสมือนเครื่องกรองอากาศที่มาพร้อมฟิลเตอร์ป้องกันฝุ่นละอองต่างๆ ทำหน้าที่ในการช่วยแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน ขับสารพิษ และดักจับเชื้อโรค เพื่อไม่ให้เข้าไปสร้างความเสียหายให้กับร่างกายได้  ปอดจึงเป็นอวัยวะสำคัญที่เราควรต้องหมั่นดูแลให้แข็งแรงอยู่เสมอ ยิ่งในยุคของโรคระบาดโควิด-19 ที่มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรงด้วยแล้ว รวมไปถึงฝุ่นละออง PM 2.5 หรือสารพิษสารเคมีต่างๆ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในแต่ละวัน ไม่เว้นแม้แต่การสูบบุหรี่  ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจทำให้ปอดของเราเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ เมื่อเราไม่อยากเจ็บไข้ได้ป่วย การให้ความใส่ใจกับเรื่องของสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกิน ที่พร้อมจะช่วยให้เราแข็งแรงขึ้นได้จากภายในสู่ภายนอก และเพื่อให้ปอดแข็งแรงทางเดินหายใจโล่ง Power จึงได้รวบรวมหลากหลายอาหารที่ช่วยบำรุงปอด ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพงมากนักมาแนะนำกัน จะมีอะไรบ้างนั้นลองไปดูกันเลยดีกว่า1. พืชผักสีเขียว เช่น บรอกโคลี คะน้า ผักโขม รวมไปถึงใบตำลึงที่ขึ้นอยู่ตามริมรั้วบ้านของเราล้วนช่วยได้ เนื่องจากผักสีเขียวจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และยังเป็นแหล่งของวิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย รวมไปถึงโฟเลต และไรโบฟลาวิน ที่มีส่วนช่วยให้ปอดของเราแข็งแรงนั่นเอง2. ผลไม้ที่มีวิตามินซีเยอะๆ ซึ่งไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นผลไม้รสเปรี้ยวเท่านั้น แต่ผลไม้ไทยๆ อย่าง ฝรั่ง มะละกอ สับปะรด นี่แหละคือแหล่งของวิตามินซีสูงที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ชอบสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ในแต่ละมวนนั้น คือการดึงเอาวิตามินซีในปอดออกไปในปริมาณที่เท่ากับส้มหนึ่งผลเลยทีเดียว คนที่สูบบุหรี่จึงยิ่งต้องได้รับการเติมวิตามินซีให้กับปอดให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่ปอดดีขึ้น 3. ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีฟลาโวนอยด์ที่เรียกว่าแอนโทไซยานิน อย่างตระกูลเบอร์รี ไม่ว่าจะเป็นเชอร์รี สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี รวมไปถึงแอปเปิลแดง - เขียว โดยมีเทคนิคในการเลือกรับประทานคือ เลือกลูกที่มีผิวสีเข้มจะดีกว่า และควรรับประทานทั้งเปลือก เนื่องจากมีแอนโทไซยานินที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอื่นๆ ถึงสองเท่า ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบและต่อต้านเชื้อไวรัสได้4. ผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยให้เยื่อบุต่างๆ ในร่างกายแข็งแรง ช่วยลดการติดเชื้อ และผลิตสารเมือกเพื่อปกป้องปอดของเรา ได้แก่ แคร์รอต ฟักทอง และมะม่วงสุก เหล่านี้จะมีเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะพบได้มากในผักและผลไม้สีเหลืองและสีส้ม5. โอเมก้า 3 ที่หาได้ง่ายในอาหารจำพวกปลา เช่น ปลาทูหรือปลาทูน่า ที่มีผลการวิจัยว่าเป็นสารต้านการอักเสบ ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง6. พืชผักสมุนไพร จำพวกกระเทียมและขิง ด้วยมีสารอัลลิซิน ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของวัณโรค แต่ควรรับประทานพร้อมมื้ออาหาร หรือหลังอาหาร เพื่อป้องกันการเกิดการระคายเคืองที่กระเพาะอาหาร เนื่องจากกระเทียมมีคุณสมบัติร้อน รสเผ็ด7. ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อย เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ข้างฟ่าง ถั่ว งา ที่มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงปอด เพราะเป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง มีซีลีเนียมและกรดไขมันจำเป็น ซึ่งดีต่อสุขภาพปอดและช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายอีกด้วย เพราะสุขภาพที่ดีโดยพื้นฐานถือเป็นเกราะป้องกันชั้นเลิศในยุคนี้ ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ จะช่วยให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์จากภายใน พร้อมต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เกราะนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จึงควรหมั่นออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่กันไป เช่น การเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ หรือแม้แต่การเต้นแอโรบิก ก็จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อปอดของเราให้แข็งแรง  อีกทั้งยังช่วยเผาผลาญพลังงานจากการรับประทานอาหารที่เป็นส่วนเกินในแต่ละวันได้อีกด้วยขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก ผศ.ดร. เอกราช บำรุงพืชน์ นพ. กฤษดา ศิรามพุช จากรายการ รู้สู้โรค https://www.thaihealth.or.th/
Editor
27 September 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
Sailor Moon การ์ตูนพลังหญิงผู้มาก่อนกาล
ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ที่อยู่ในดวงใจเสมอมา

หากพูดถึงการ์ตูนที่มีตัวละครเอกเป็นผู้หญิง เชื่อว่า “Sailor Moon” จะต้องผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับต้นๆ อยู่เสมอ เพราะนับตั้งแต่ที่มังงะเรื่องนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1992 ก็เกิดกระแสความนิยมอย่างท่วมท้น จนแตกแขนงไปเป็นอนิเมะ เกม และภาพยนตร์ กระจายไปทั่วโลกมาถึงปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะมอบความสนุกสนานให้กับเด็กๆ (ทั้งเด็กในวันนี้และ 30 ปีก่อน) แล้ว เมื่อมองให้ลึกลงไปอีกหน่อย เราจะพบว่านี่คือการ์ตูนที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจอันยอดเยี่ยม และให้มุมมองที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ฉันคือนักสู้สาวน้อยน่ารักในชุดกะลาสีผู้พิทักษ์ความรักและยุติธรรม..เซเลอร์มูน ด้วยโครงเรื่องที่แสนจะเรียบง่าย “เด็กสาวอายุ 14 ปี ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ได้พลังวิเศษ สามารถแปลงร่างเป็นอัศวินเซเลอร์ต่อสู้กับผู้ร้ายที่คิดจะทำลายโลก โดยมีการแท็กทีมกับอัศวินเซเลอร์คนอื่นๆ ซึ่งมีคาแรกเตอร์แตกต่างกันไป” ประกอบกับการเป็นการ์ตูนมีตัวละครเอกเป็นแก๊งเด็กสาววัยมัธยม ก็เรียกได้ว่าครบองค์ประกอบที่จะทำให้โด่งดังเป็นพลุแตกได้แล้ว ไม่เชื่อลองนึกถึงช่วงเวลาที่คุณกับเพื่อนแย่งกันเป็นเซเลอร์ตัวโปรดหรือใครเลียนแบบท่าแปลงร่างได้เป๊ะกว่าชนะดูสิ ดีไม่ดีคุณอาจเป็นคนหนึ่งที่รู้จักชื่อดาวเคราะห์ต่างๆ จากพวกเธอก็ได้ (ยอมรับมาเสียดีๆ) เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงยุค 90 เราแทบจะไม่เห็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวพิทักษ์โลกที่ไม่ใช่ผู้ชายมาก่อนเลย แต่แล้ว นาโอโกะ ทาเกอูจิ ก็ได้เนรมิตจักรวาลของเหล่าอัศวินเซเลอร์ขึ้นมาได้สำเร็จ ซึ่งไม่เพียงเต็มไปด้วยตัวละครหญิง (ตัวละครผู้ชายน้อยมากๆ) แต่ยังพ่วงมาด้วยคทาวิเศษ รัดเกล้า เสื้อผ้า แฟชั่น และความวิบวับตลอดทั้งเรื่องซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกใหม่อย่างมากในขณะนั้น รวมไปถึงภาพลักษณ์ของพวกเธอที่ “เฟียร์ซ” มิใช่น้อยผิดวิสัยสาวญี่ปุ่นทั่วๆ ไป ตาโต ผมหลากสี กระโปรงสั้น และขายาวมาก ที่สำคัญถึงจะสวยเซ็กซี่อย่างไร แต่พวกเธอก็ไม่ยอมให้ผู้ชายหรือใครที่ไหนมารังควานได้ง่ายๆ ใช่ ฉันสวย และเก่งด้วย มันสำคัญด้วยเหรอถ้าฉันจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงน่ะ? นอกจากการแสดงออกถึงพลังหญิงแล้ว การ์ตูน Sailor Moon ยังไปไกลกว่านั้น ด้วยการสอดแทรกประเด็นความหลากหลายทางเพศ หรือที่ทุกวันนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่า LGBTQ+ เข้าไป เพราะตัวละครอย่าง เทนโอ ฮารุกะ หรือ Sailor Uranus นั้น ที่แม้จะเป็น 1 ในอัศวินเซเลอร์ประจำดาวเคราะห์วงนอกที่ปรากฏตัวในภายหลัง แต่ก็สามารถครองใจแฟนๆ ไปได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยพลังที่สุดแสนจะแข็งแกร่ง บวกกับภาพลักษณ์และคาแรกเตอร์ที่สาวๆ ต่างหลงรัก โดยที่ก่อนแปลงร่างมักจะแต่งตัวในลุคมาดแมนสุดหล่อ แต่เมื่อแปลงร่างก็กลายเป็นสาวมั่นสุดเท่ แถมยังคบกับ Sailor Neptune อย่างเปิดเผยอีกด้วยนั่นเอง แม้จะมีซีนเจ้าชู้อย่างตอนที่ Sailor Uranus เข้าไปคุยกับ Sailor Moon ที่เพิ่งมีปัญหากับหน้ากากทักซิโด้ว่า “งั้นฉันก็มีโอกาสน่ะสิ” ให้เห็นบ้างก็ตาม ครั้งหนึ่ง นาโอโกะ ทาเกอูจิ ผู้เขียน เคยให้สัมภาษณ์ถึงความเป็น Gender Fluid (สำนึกทางเพศที่เปลี่ยนแปลงไปมาในแต่ละสถานการณ์) นี้ในทำนองว่าอัศวินเซเลอร์ต้องมีเพศเป็นผู้หญิงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามในภาคหลัง ตัวละครอย่าง Sailor Neptune กลับบอกว่า Sailor Uranus นั้นเป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายนั่นแหละ ซึ่งจะว่าไปก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่อง Non-Binary เช่นนี้ให้เห็นในการ์ตูนยุค 90 ในทางหนึ่งมันก็เป็นการพยายามชูประเด็นความเป็นมนุษย์ที่นับว่ามาก่อนกาล แต่อีกทางหนึ่งก็ต้องพูดด้วยคำศัพท์ในปัจจุบันว่า สามารถสร้างสีสันให้แฟนๆ “ฟินจิกหมอน” ได้ไม่น้อย ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ จะลงทัณฑ์แกเอง สึกิโนะ อุซางิ นางเอกของเรื่อง อาจจะไม่ใช่คาแรกเตอร์ที่ประสบความสำเร็จและครองใจแฟนๆ ขนาดนี้ก็ได้ หากเธอไม่ใช่เด็กสาวจอมขี้แย ขี้ลืม ขี้เกียจ หรือซุ่มซ่ามไปเสียทุกเรื่อง แต่เป็นเพราะความไม่สมบูรณ์แบบนี้เองที่ทำให้คนดูต่างสัมผัสได้ และเข้าอกเข้าใจในความเป็น “คนธรรมดา” มากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าเราทุกคนต่างมีศักยภาพมากพอในการที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ถ้าในวันนั้นอุซางิที่กำลังไปโรงเรียนสายไม่หยุดช่วยเจ้าแมวดำที่กำลังถูกเด็กผู้ชายรุมทำร้าย ถ้าเธอคิดว่าลำพังเรื่องของตัวเองตรงหน้าก็แย่พออยู่แล้ว ถ้าเธอคิดว่าเด็กผู้หญิงธรรมดาไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นฮีโร่ก็ได้…
Editor
27 September 2021
Food & DrinksLifestyle

FOOD & DRINKS
สัมผัสบรรยากาศเต็มอิ่ม
กับหลายรสชาติหลากเมนูที่ภูเก็ต

ภูเก็ต จังหวัดเล็กๆ ที่ไม่ว่าไปเยือนคราใด ก็ดูเหมือนจะพบเจอความประทับใจใหม่ๆ ได้ทุกที ด้วยความที่เคยเป็นเมืองท่าสำคัญเมื่อครั้งอดีต เป็นจุดนัดพบของเหล่านักเดินทางที่เชื่อมระหว่างเอเชียใต้และตะวันออกไกล จึงทำให้ดินแดนแห่งนี้ไม่เคยร้างราซึ่งความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตผู้คนมาจวบจนปัจจุบัน และที่สำคัญเสน่ห์อันยากจะลืมเลือนของภูเก็ตคือความมหัศจรรย์ที่ซ่อนตัวอยู่รอให้คุณเข้าไปสำรวจและค้นพบด้วยตัวเอง อย่างที่ Power อยากจะพาคุณไปสัมผัสกับรสชาติของอาหารในบรรยากาศสุดพิเศษกันในวันนี้ L'Arôme by the Sea อิ่มอร่อยใต้แสงดาว เคล้าเสียงทะเล ร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์ร่วมสมัยแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวกะหลิมที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดี ตัวร้านได้รับแรงบันดาลใจมาจากห้องอาหารที่ฝรั่งเศส พร้อมต้อนรับคุณในบรรยากาศแสนอบอุ่นสบายตา ทั้งยังใส่ใจในเรื่องของคุณภาพอย่างที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในร้าน และแน่นอนในส่วนของอาหาร ที่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี ผ่านกรรมวิธีการปรุงตามแบบฉบับของฝรั่งเศส ด้วยความตั้งใจที่จะให้มื้อค่ำของคุณเป็นที่น่าจดจำ เปรียบเสมือนการเดินทางที่ไร้ที่ติ ไม่เพียงแต่อาหารสไตล์ต้นตำรับที่หารับประทานได้ยาก แต่เชฟแอนและทีมหญิงล้วนของเธอ ยังมุ่งมั่นที่จะชูรสชาติของวัตถุดิบพื้นถิ่น รังสรรค์เมนูอาหารที่มีรสชาติอร่อยและแปลกใหม่จากวัตถุดิบที่หลากหลาย ละเมียดละไมในทุกๆ จาน อย่างที่เธอเปรียบเทียบไว้อย่างน่าประทับใจว่า “อาหารแต่ละจานเปรียบเสมือนบทกวีที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อสรรเสริญวัตถุดิบให้ควรค่าแก่การรับประทาน” นอกจากนั้น ทางร้านยังมีส่วนของดาดฟ้าที่สามารถนั่งได้ทั้งด้านในห้องแอร์และด้านนอกของระเบียง ให้คุณรับลมทะเลได้อย่างเต็มที่ เมื่อมองออกไปจะเห็นวิวทะเลแสนโรแมนติก อิ่มเอมกับการรับประทานอาหารภายใต้แสงดาวเคล้าเสียงคลื่นเบาๆ กระทบฝั่ง เมนูแนะนำ: ดูโอ ฟัวกราส์, ล็อบสเตอร์ ราวิโอลี เสิร์ฟคู่กับซอสไวน์ชาร์ดอนเนย์, ทอร์นาโด รอสซินี เสิร์ฟคู่กับฟัวกราส์และเห็ดทรัฟเฟิลดำ และมิลเฟย (ขนมฝรั่งเศส) พิกัด: https://goo.gl/maps/ko2XchquJN6dS6xP6 โทรศัพท์: 0 7634 6271 Nitan เสิร์ฟบรรยากาศและรสชาติแห่งฤดูกาล นิธาน สถานที่ที่ให้คุณมาปล่อยกายปล่อยใจไปกับความงดงามของอาหารรสเลิศ ร้านอาหารแบบ Fine Dining ที่เสิร์ฟอาหารแบบคอร์สเมนูที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจากฟาร์มของทางร้านที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและของพื้นถิ่นภูเก็ตเป็นหลัก เชฟเอิร์ท-ศริตวรรธน์ วันวิชิตกูร Executive Chef ผู้มากประสบการณ์ประจำร้าน สุดยอดเชฟผู้พิชิตจากรายการ IRON CHEF Thailand บรรจงสร้างสรรค์เมนูอาหารผ่านการผสมผสานรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบพื้นบ้าน ให้เข้ากับการปรุงแบบตะวันตก พร้อมเสิร์ฟประสบการณ์สุดพิเศษท่ามกลางบรรยากาศเรียบง่าย สบายๆ เดินทางไปได้สะดวก ร้านตั้งอยู่ในโครงการ Wana Park อำเภอถลาง ใครมีโอกาสแวะเวียนไปแถวนั้นขอแนะนำว่าห้ามพลาด รีบจองล่วงหน้าเอาไว้ได้เลย เมนูแนะนำ: Amuse Bouche, Cannoli Phuket Spring Roll, Sole Fish Aburi และ Beef Tenderloin พิกัด: https://goo.gl/maps/KVZEUFEvT4Zdjv1UA สำรองที่นั่ง: www.nitanphuket.com โทรศัพท์: 0 656 830 432 The Sundeck Phuket ต้อนรับคุณด้วยอาหารและเครื่องดื่มสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ร้าน คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของบาร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ โดดเด่นด้วยหลังคาสีขาวขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกสบายตา จากนั้นเมื่อเดินลงบันไดไปอีกชั้น จะพบกับโซนระเบียงกว้างที่ยื่นออกไปเป็นส่วนรับประทานอาหารทั้งในร่มและกลางแจ้ง สามารถชมพระอาทิตย์ตกและซึมซับความงดงามของวิวทิวทัศน์กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาของหาดกะตะน้อย จังหวัดภูเก็ต ในส่วนของอาหาร คุณจะได้พบกับหลากหลายเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเมดิเตอร์เรเนียน แซงเกรียที่ดีที่สุดในเกาะภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่า เบอร์เกอร์ รวมไปถึงอาหารไทยคุณภาพดีรสชาติจัดจ้าน ที่ทางร้านทำด้วยความรักและใส่ใจในทุกรายละเอียด เลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่อาหารทะเลสดใหม่ในท้องถิ่นไปจนถึงเนื้อสัตว์และชีสนำเข้า เพื่อให้แน่ใจที่สุดว่าคุณจะมีช่วงเวลาที่น่าจดจำอย่างแท้จริง เมนูแนะนำ: Burrata, Rocket & Parma Ham, The Sundeck Crab Cakes, Wagyu Beef “Ka Prao” Wok Stir-fry…
Editor
24 September 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
ผ่อนคลายไปกับงานคราฟต์
ฝึกฝีมือ สร้างสมาธิ เสริมรายได้

“งานคราฟต์” หรืองานฝีมือ ที่ได้รับการสร้างสรรค์ออกมาจากมือของมนุษย์ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปผลงานต่างๆ ที่ออกมาก็มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นงานถักทอหรือเครื่องปั้นดินเผาอย่างสมัยก่อนเท่านั้น แต่ในปัจจุบันความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ก็พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ไม่เพียงแค่เพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้สอยอีกด้วย ไม่ว่าจะนำมาตกแต่งบ้านเพิ่มความเก๋ไก๋ได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ หรือทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งบางคนยังฝึกฝนและพัฒนามาเป็นอาชีพเสริม ในยามที่เศรษฐกิจไม่คล่องตัวแบบนี้ได้อีกด้วย เพื่อใช้เวลาในวันอยู่บ้านให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดต่างๆ ในช่วงนี้ Power จึงนำบางส่วนของงานคราฟต์ที่เราสามารถทำได้ด้วยมือของเราเอง ที่นอกจากจะช่วยให้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมยามว่างแล้ว ยังช่วยในการฝึกสมาธิได้ดี และที่สำคัญอาจช่วยเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง งานคราฟต์เรซิ่น จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเรซิ่น คิดว่าหลายท่านคงจะเห็นกันมานานแล้ว และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแต่งานคราฟต์ที่เกี่ยวกับเรซิ่นก็ไม่เคยหลุดจากวงจรหรือตกเทรนด์เลยสักครั้ง เพราะทำได้ง่าย ดีไซน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทรงกลม ทรงรี ทรงเหลี่ยม หรือฟรีสไตล์ อีกทั้งยังนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าจะเป็น จานอเนกประสงค์ จานรองแก้ว ถาด หรือของประดับตกแต่งอื่นๆ ซึ่งเราสามารถตกแต่งและออกแบบลวดลายพร้อมใส่สีสันให้สวยงามได้ตามชอบใจ แถมยังพูดได้ว่าเป็นของชิ้นเดียวในโลกที่ไม่ซ้ำแบบใคร เพราะผ่านการทำมือแบบชิ้นต่อชิ้น ซึ่งงานเรซิ่นนี้ก็มีเทคนิคในการทำหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการเล่นสี หรือการใช้ตัวช่วยมาสร้างลวดลาย เช่น กลีบดอกไม้ เปลือกหอย แต่ถ้าใครมีฝีมือทางด้านศิลปะเป็นทุนเดิม จะลองวาดลวดลายเอง ก็น่าสนใจดีไม่น้อย งานคราฟต์จัดสวนในขวดแก้ว จากช่วงนี้ที่เขานิยมเลี้ยงต้นไม้หลากหลายชนิด ขายได้ราคาหลายหลัก เราก็เลยขออิงกระแสสักเล็กน้อย ด้วยการจัดสวนขนาดย่อมในขวดแก้ว ตามแต่จินตนาการจะพาไป ซึ่งสามารถเลือกขนาดและรูปแบบได้ตามต้องการ แล้วแต่ใจชอบ อาจจะตกแต่งด้วยกรวดหินดินทรายตามธรรมชาติ และต้นไม้พันธุ์เล็กนานาพันธุ์ หรือบางคนอาจจะอยากเพิ่มสตอรีเข้าไปอีกสักนิดด้วยโมเดลที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ ก็ย่อมได้ งานนี้นอกจากจะช่วยสร้างความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี ให้ชีวิตมีแต่ความสดชื่นแล้ว หากฝีมือดีเข้าตาเงินทองก็อาจไหลมาเทมาได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น หากมีเวลาว่างลองหากิจกรรมที่ชื่นชอบหรือสนใจแล้วลองฝึกปรือกันดูสักหน่อย นอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะงานฝีมือแล้ว ยังได้ในเรื่องของการฝึกสมาธิ ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น ถือเป็นการชาร์จแบตให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลายไปในตัว อีกทั้งยังสามารถมองเห็นลู่ทางสร้างโอกาสที่ดีในอนาคตอีกด้วย
Editor
22 September 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
เมื่อหัวใจของเจ้าหญิง Diana
ถูกนำมาเล่าใหม่อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Spencer

หากเราลองนึกถึงการเป็นนักแสดงในแง่มุมที่ว่า “การสวมบทบาทเป็นคนอื่น” แล้วล่ะก็ นั่นจึงทำให้มันเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่พอสมควรสำหรับการเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวบางอย่างที่ไม่ใช่ของตัวเองออกมา ยิ่งโดยเฉพาะหากคนๆ นั้นเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่ในความสนใจของผู้คนทั่วทั้งโลกตลอดเวลา แม้ในวันที่จากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม และเรากำลังพูดถึง Diana เจ้าหญิงแห่งเวลส์ชีวประวัติของเจ้าหญิง Diana นั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นที่สนใจมากเสียจนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และซีรีส์อยู่หลายครั้ง แน่นอนว่าการเข้ามาเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษในฐานะพระชายาของเจ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ อันนำไปสู่ฐานันดรศักดิ์และพระกรณียกิจมากมายที่ตามมา ส่งผลให้เจ้าหญิง Diana กลายเป็นที่จับตามองไม่น้อยไปกว่าพระสวามี รวมไปถึงอิริยาบถและเสน่ห์อันตรึงใจแทบจะในทุกครั้งที่ปรากฏตัวของเจ้าหญิง ยังพลอยสั่นสะเทือนโลกของแฟชั่นไปพร้อมกันอย่างปฏิเสธมิได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงมุมมองจากโลกภายนอก ในขณะที่ชีวิตอีกฟากฝั่งหนึ่งในฐานะภรรยา แม่ หรือแม้กระทั่งผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป และเกือบทุกคนอาจจะไม่เคยเข้าใจเลยแม้แต่น้อย แต่แล้วประเด็นดังกล่าวก็ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Spencer (2021) ซึ่งการประกาศการสร้างภาพยนตร์ชีวประวัติของเจ้าหญิง Diana ในครั้งนี้ ยังสร้างความฮือฮาอีกต่อหนึ่ง เนื่องจากผู้ที่จะมารับบทคือ Kristen Stewart นักแสดงสาวที่ทำใครหลายคนจินตนาการไม่ออกว่า นางเอกที่มีภาพลักษณ์สุดเปรี้ยวคนนี้จะเป็นเจ้าหญิง Diana ได้ จนกระทั่งเมื่อภาพแรกของเธอจากภาพยนตร์ถูกปล่อยออกมา มันก็ได้สั่นสะเทือนอินเทอร์เน็ตนับตั้งแต่วินาทีนั้นด้านผู้กำกับ Pablo Larraín ที่เคยฝากผลงานอันยอดเยี่ยมไว้กับ Jackie (2016) ภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวิตของ Jacqueline Kennedy อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวไว้ในทำนองว่า “Kristen เป็นคนมีความสามารถ เธอทั้งลึกลับ เปราะบาง และแข็งแกร่งได้ในคราวเดียวกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ” รวมไปถึงการที่ Spencer ได้คนเขียนบทมือฉมังอย่าง Steven Knight จากซีรีส์ชื่อดังอย่าง Peaky Blinders มาร่วมทีม ยิ่งทำให้ผู้คนต่างเฝ้ารอที่จะได้ชมชีวิตอีกแง่มุมหนึ่งของเจ้าหญิงแห่งเวลส์แทบจะไม่ไหว แน่นอนว่า “แฟชั่น” ก็เป็นสิ่งที่ผู้ชมคาดหวังจะได้เห็นในภาพยนตร์ เพราะอย่างที่รู้กันว่าเจ้าหญิง Diana นั้นเป็นดั่งไอคอนแห่งวงการแฟชั่น จนเหล่าดีไซเนอร์และผู้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมความงามต่างยกให้เป็น “เทรนด์เซตเตอร์” คนสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ ด้วยแต่ละชุดที่ทรงสวมใส่นั้น ไม่เพียงมุ่งเน้นแต่ในเรื่องความงาม แต่ยังผ่านการคิดคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ความคล่องตัว รวมไปถึง “ความหมาย” ที่จะแสดงออกและส่งผลไปสู่ความรู้สึกของคนรอบข้างอีกด้วยความน่าสนใจของ Spencer นอกเหนือไปจากเรื่องงานภาพที่ทำเอากลายเป็นกระแสโด่งดังอย่างที่กล่าวไป ก็คือสิ่งที่ Kristen Stewart ผู้รับบท “เจ้าหญิงแห่งประชาชน” จะถ่ายทอดออกมาให้เราได้ชม ทว่าในครั้งนี้เรื่องราวอาจไม่ใช่ Diana ในฐานะผู้นำแฟชั่น ผู้อุปถัมภ์ช่วยเหลือผู้คน หรือเจ้าหญิงผู้ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะต้องนึกถึงหัวใจของคนอื่นๆ มาเป็นอันดับแรก เพราะ Pablo Larraín ผู้กำกับพยายามอธิบายว่า เขา ทีมงาน และนักแสดง ตั้งใจที่จะนำเสนอเกี่ยวกับความเป็นตัวตน และช่วงเวลาสำคัญของการตัดสินใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่เลือกจะหันหลังให้กับการเป็นราชินี ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะกลับไปเป็นใครบางคนที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ ที่มีชื่อว่า Diana Spencer อย่างไรก็ตาม ด้วยไม่อาจล่วงรู้ถึงจิตใจของใครได้อย่างถ่องแท้ เราจึงยกภาระหน้าที่อันหนักอึ้งนี้ให้กับนักแสดง ส่วนเราในฐานะผู้ชมคงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากชื่นชมในความตั้งใจและความพยายามในการตีความหัวใจของเจ้าหญิงผู้ยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนอีกครั้ง “ฉันไม่ได้ต้องการเพียงแค่รับบทเป็นเจ้าหญิง Diana แต่ฉันอยากจะเข้าใจเธอให้มากกว่านี้” - Kristen Stewart ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.bbc.co.uk/ https://en.wikipedia.org/ https://it.wikipedia.org/ https://www.imdb.com/ https://www.msn.com/ https://www.royal.uk/ https://www.oscars.org/
Editor
20 September 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
8 ไอเดียงานซ่อมสิ่งของภายในบ้านด้วยตัวเอง

ในวันที่ผู้คนยังคงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน หลายคนปรับตัวใช้วิกฤตโควิด-19 ให้เป็นโอกาสในการเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ฝึกฝนและทดลองทำด้วยตัวเอง จากงานอดิเรกกลายเป็นรายได้เสริมรับเงินเป็นกอบเป็นกำจนประสบความสำเร็จกลายเป็นอาชีพหลักเลยก็มี และมีอีกหลายครัวเรือนค้นพบเซฟรสมือดีประจำบ้านคนใหม่ ดังที่เราจะได้เห็นเหล่าคนดังต่างออกมาโชว์เสน่ห์ปลายจวักในโลกโซเชียลมีเดียกันอยู่พักใหญ่ หรือหากใครจะใช้เวลาในช่วงนี้หันมาปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้านก็น่าจะสร้างสรรค์อยู่ไม่น้อย ซึ่ง Power ก็มี 8 ไอเดียงานซ่อมแซมสิ่งของภายในบ้านที่ทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งนอกจากจะเปลี่ยนของเก่า ผุพัง ชำรุด หรือใช้งานได้ไม่ดีให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้งแล้ว ยังให้ความรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และช่วยชุบชูใจคลายความกังวลในช่วงวิกฤตนี้อีกด้วย มาดูกันว่ามีงานซ่อมอะไรที่น่าสนใจบ้าง ซึ่งแม้แต่คุณผู้หญิงก็สามารถทำได้เช่นกัน สิ่งของภายในบ้านผุพังคุณไม่จำเป็นต้องเรียกช่างเสมอไป มีบางรายการที่คุณสามารถซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง 1. หัวฝักบัวน้ำไหลช้าอยู่ใช่ไหม? หนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้น้ำฝักบัวไหลอ่อนไม่ทันใจ มักเกิดจากตะกอนหรือหินปูนที่สะสมตัวมาอุดตันรูปล่อยน้ำที่หัวฝักบัว การซ่อมแซมนี้ทำได้โดยง่าย เพียงถอดและทำความสะอาดหัวฝักบัว หรือจะเปลี่ยนหัวฝักบัวใหม่เลยก็ได้ เริ่มการซ่อมแซมหัวฝักบัวด้วยการปิดก๊อกน้ำให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นถอดหัวฝักบัวออกโดยหมุนทวนเข็มนาฬิกา (ระวังอย่าให้ชิ้นส่วนใดสูญหาย) หากจับไม่ถนัดมือจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ มาช่วยจับส่วนหัวฝักบัวไว้ก็ได้ หากพบว่าภายในหัวฝักบัวมีสิ่งสกปรกติดอยู่ให้เอาออกก่อน และทำความสะอาดด้วยการแช่ในน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ตามด้วยล้างชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยน้ำเย็นก่อนประกอบกลับเข้าที่ ตัวช่วยในการซ่อมแซม: น้ำส้มสายชู 2. อ่างล้างจานอุดตันแก้ไขได้ง่ายๆ การอุดตันของอ่างล้างจานมักเกิดจากการสะสมของเศษอาหารและไขมัน ทำให้เกิดการระบายช้า ซึ่งหากอุดตันไม่มากคุณสามารถทำความสะอาดท่อระบายน้ำด้วยวิธีง่ายๆ ขั้นตอนแรกให้เทน้ำร้อนลงไปในท่อระบายน้ำเสียก่อน ตามด้วยเบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง และน้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นเทน้ำร้อนปิดท้าย หรืออาจจะใช้ที่ปั๊มห้องน้ำมาช่วยดึงสิ่งสกปรกที่อุดตันขึ้นมาก็ได้เช่นกัน เพียงวางที่ปั๊มห้องน้ำไว้บริเวณปากท่ออ่างล้างจานแล้วกดที่ปั๊มห้องน้ำลงไป สามารถทำติดต่อกันได้หลายครั้งจนกว่าการระบายของท่อจะดีขึ้น ตัวช่วยในการซ่อมแซม: เบกกิ้งโซดา / น้ำส้มสายชู / ที่ปั๊มห้องน้ำ 3. แก้ไขปัญหาประตูส่งเสียงดังรบกวนใจ เมื่อคุณเปิดประตูแล้วพบว่าประตูของคุณส่งเสียงดังหรือปิดได้ไม่สนิท สาเหตุหนึ่งมาจากเมื่อเวลาผ่านไปสกรูจะคลายออกจากบานพับ ทำให้ประตูห้อยลงมากระแทกกับวงกบเกิดเสียงดังรบกวน วิธีแก้ไขทำได้โดยง่าย เพียงใช้ไขควงขนาดพอดีกับสกรูขันสกรูกลับเข้าไปใหม่ หรือหากสกรูหลุดออกมาให้ใช้สกรูตัวใหม่ที่ยาวกว่าเดิม เพราะสกรูที่ยาวกว่าจะทำให้บานพับแน่นขึ้น โดยให้ขันสกรูเข้ากับบานพับตามเข็มนาฬิกาให้แน่น ข้อควรระวังอย่าขันสกรูแน่นจนเกินไป เพราะวงกบอาจแตกร้าวได้ ตัวช่วยในการซ่อมแซม: ไขควง / สกรู 4. หยุดการแตกร้าวของกระจกก่อนบานปลาย เมื่อกระจกหน้าต่างหรือกระเบื้องผนังกระจกเกิดรอยร้าว คุณสามารถซ่อมแซมเบื้องต้นเพื่อหยุดการแตกร้าวได้ด้วยตัวเอง ระหว่างรอการเปลี่ยนกระจกใหม่ ก่อนอื่นให้เตรียมพื้นที่การทำงานที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก สวมถุงมือเพื่อป้องกันเศษกระจกบาด แล้วนำกระดาษแข็งที่ไม่ใช้แล้วมาปูที่พื้นโดยรอบ เพื่อรองรับเศษกระจกที่อาจจะร่วงหล่นลงมา สำหรับวิธีการซ่อมแซมทำได้โดยง่าย เพียงเช็ดกระจกให้แห้งสะอาดเพื่อให้รอยร้าวสามารถเชื่อมติดกันได้ จากนั้นผสมเรซินและสารชุบแข็งให้เข้ากันในอัตราส่วน 1:1 คุณจะได้กาวอีพ็อกซี่ที่พร้อมใช้งาน ให้ทาลงบนรอยร้าว ทิ้งไว้จนแห้งสนิท หากกังวลเรื่องกาวอีพ็อกซี่ส่วนเกิน สามารถใช้มีดอเนกประสงค์ตัดส่วนเกินนั้นออก ข้อควรระวัง ไม่สามารถซ่อมกระจกประตูไมโครเวฟ หน้าต่างบานคู่ กระจกอาบน้ำ หรือกระจกรถยนต์ด้วยวิธีนี้ ตัวช่วยในการซ่อมแซม: ถุงมือ / กระดาษแข็ง / ผ้าเช็ดกระจก / กาวอีพ็อกซี่ / มีดอเนกประสงค์ 5. ปกปิดรูเล็กๆ บนผนังเบาให้กลับมาสวยเหมือนเดิม ปัจจุบันผนังเบานิยมนำมาใช้ในการต่อเติมบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นผิวที่ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือได้รับความเสียหายค่อนข้างง่าย ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการเปิดประตูและลูกบิดไปกระแทกจนทำให้ผนังกลายเป็นรู สำหรับวิธีการซ่อมแซมก็ทำได้ไม่ยาก โดยมีขั้นตอนดังนี้ ตกแต่งแผลผนังให้เรียบด้วยมีดอเนกประสงค์ และทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด จากนั้นใช้เกรียงตักปูนยิปซัมมาโป๊วให้ทั่วบริเวณบาดแผล ปิดรูด้วยเทปกระดาษ ติดแนวเฉียง 45 องศา โดยความยาวของเทปกระดาษควรมีมากกว่ารูอย่างน้อย 2 นิ้ว จากนั้นโป๊วปูนยิปซัมทับ ทำขั้นตอนที่ 2 ซ้ำอีกครั้ง (โดยติดเทปกระดาษทับชิ้นแรกให้มีลักษณะเป็นรูปแบบกากบาท) ทิ้งไว้จนแห้งสนิท ใช้เวลาประมาณ 2…
Editor
16 September 2021
Lifestyle

TRAVEL IN STYLE
Look Great In The Great Outdoors

ได้เวลาเดินทางสู่โลกกว้าง เติมเต็มสีสันให้ชีวิตชดเชยช่วงเวลากักตัว ที่ไม่อาจกักใจให้โหยหาธรรมชาติ นาฬิกาข้อมือ จาก Gucci ต่างหู จาก Bottega Veneta แว่นตา จาก Chloé เสื้อ จาก Prada กระเป๋า จาก Moncler หมวก จาก Moncler กางเกง จาก Prada รองเท้า จาก Bottega Veneta แก้วน้ำ จาก Prada นาฬิกาข้อมือ จาก IWC กางเกง จาก Moncler แว่นตา จาก Tom Ford หมวก จาก Moncler กระเป๋าสะพาย จาก Prada กระบอกน้ำ จาก Prada เสื้อ จาก Moncler รองเท้า จาก Gucci ขอขอบคุณรูปภาพจาก Official Brands https://www.facebook.com/thungsalaengluang
Editor
14 September 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
Chloé Zhao ผู้หญิงเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์
เจ้าของรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์

เวทีออสการ์ยังคงเปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลังเสมอ เพราะหลังจากที่ Bong Joon-ho พาภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีอย่าง Parasite ผงาดคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปเมื่อปี 2019 ท่ามกลางเสียงฮือฮาและความชื่นชมยินดีจากแฟนหนังทั่วโลก ในปีถัดมา รางวัลใหญ่นี้ก็ตกเป็นของหนังฟอร์มเล็กอย่าง Nomadland ที่ยังควบมาด้วยรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากฝีมือการแสดงของ Frances McDormand รวมไปถึงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกด้วย ซึ่งอย่างหลังนี้ส่งผลให้ Chloé Zhao กลายเป็นผู้กำกับหญิงชาวเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รางวัลนี้ไปครอง Chloé Zhao ถือเป็นผู้กำกับหน้าใหม่พอสมควรในแวดวงหนังอเมริกัน ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่หลายคนจะยังไม่คุ้นเคยกับชื่อและผลงานของเธอมากนัก โดยก่อนหน้านี้เธอมีผลงาน 2 เรื่อง ได้แก่ Songs My Brothers Taught Me (2015) และ The Rider (2017) ซึ่งเธอรับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทเองทั้งหมด จนมาถึง Nomadland ที่ประสบความสำเร็จมากเสียจนทำให้ใครๆ ต่างพากันจับตามองเธออย่างไม่ยอมให้คลาดสายตาข้อเท็จจริงบางอย่างที่อาจทำให้หลายคนต้องเซอร์ไพรส์นิดๆ เมื่อได้รู้ก็คือ Nomadland เป็นหนังที่เล่าถึงความเป็นอเมริกันได้อย่าง “อเมริกัน” จัดๆ เรื่องหนึ่ง แม้ว่ามันจะกำกับโดยผู้กำกับที่มีเชื้อสายจีนแท้ๆ โดย Chloé Zhao เกิดและใช้ชีวิตในวัยเด็กที่ปักกิ่ง ก่อนจะถูกส่งไปเรียนที่ Brighton College ประเทศอังกฤษ และ Los Angeles High School ประเทศสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา“วัยรุ่นหัวขบถจอมขี้เกียจประจำโรงเรียน” คือคำนิยามที่ Chloé Zhao ใช้เรียกตัวเอง เพราะดูเหมือนว่าความสนใจตั้งแต่เด็กของเธอนั้นคือการวาดการ์ตูนและการแต่งนิยายมากกว่าการทำการบ้านที่ครูให้ แน่นอนว่าเธอยังชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะเรื่อง Happy Together ของผู้กำกับ Wong Kar-wai ที่ทำให้ได้ “กระทำความหว่อง” มาตั้งแต่อายุยังน้อย รวมไปถึงการได้ใช้ชีวิตทั้งในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ดินแดนอันอุดมไปด้วยพ็อปคัลเจอร์ที่คนอย่างเธอเต็มใจพุ่งเข้าไปหา การ์ตูน เพลง และภาพยนตร์มากมายนับไม่ถ้วน จึงเปรียบได้ดั่งเพื่อนผู้แสนดีของเด็กสาวชาวจีนคนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอย่างลำพังในอพาร์ตเมนต์ย่านโคเรียทาวน์ จนสามารถพูดได้ว่าช่วงเวลานั้นมีส่วนสำคัญยิ่งในการหล่อหลอมให้เธอเป็นเธออย่างในทุกวันนี้ หลังจากเรียนจบปริญญาตรีด้านการเมือง วิชาโทภาพยนตร์ Chloé Zhao ตัดสินใจเรียนต่อด้านภาพยนตร์อย่างจริงจังที่ New York University's Tisch School of the Arts เธอมีความสนใจในศาสตร์ของการเล่าเรื่อง โดยพยายามหารูปแบบการนำเสนอเรื่องที่อยากเล่าให้มีความน่าสนใจที่สุด และวิธีการที่แทบจะกลายเป็นลายเซ็นของเธอไปแล้วก็คือการเลือกใช้นักแสดงที่ไม่ใช่นักแสดงอาชีพ หรืออาจถึงขั้นที่ว่าให้พวกเขาแสดงเป็นตัวเองเลยยิ่งดีหากเป็นไปได้ อย่างใน Nomadland นี้ ที่ Chloé Zhao ก็ได้เข้าไปใช้ชีวิตกับผู้คนเหล่านั้นจริงๆ ชาว “โนแมด” ผู้ใช้ชีวิตบนเส้นแบ่งอันเลือนรางระหว่าง “เสรีภาพ” และ “ข้อจำกัด” ซึ่งเรื่องราวที่เธอได้ไปสัมผัสและรับรู้มานั้น เธอก็ได้นำมาถ่ายทอดด้วยการนำพวกเขามาแสดงในหนังโดยให้ใช้ชื่อจริงๆ ของตัวเองอีกด้วยNomadland จึงเป็นเหมือนกับภาพยนตร์กึ่งสารคดี ที่นำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงอายุราว 60 ปีคนหนึ่งที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตที่เคยมี ออกเดินทางด้วยรถ RV แบบ “ค่ำไหน นอนนั่น” ไปยังสถานที่ต่างๆ ในเขตแดนอันกว้างขวางของสหรัฐอเมริกา โดยในระหว่างทางก็ได้พบเจอกับผู้คนที่เลือกทางเดินชีวิตแบบเดียวกันกับเธอมากมาย กระทั่งได้เรียนรู้ในสิ่งที่น้อยคนจะเคยมีโอกาสสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นนางเอกของเรื่อง คนดูอย่างเราๆ รวมไปถึงตัว Chloé Zhao เอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาจจะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ว่าเพราะเหตุใดผู้คนกลุ่มหนึ่งจึงเลือกที่จะหันหลังให้กับชีวิตที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง พวกเขาเหล่านั้นถวิลหาสิ่งใด ความมั่นคงมิใช่ความจำเป็นอย่างนั้นหรือ แต่ Chloé Zhao เด็กสาวผู้ใช้ชีวิตท่ามกลางความหลากหลายในทุกๆ สังคมที่เธอเคยเผชิญมา ก็ได้บรรจงหยิบยื่นอีกหนึ่ง “รูปแบบชีวิต”…
Editor
13 September 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
พาท่องวัฒนธรรมตามหาอัญมณีเม็ดงาม
ที่ซ่อนอยู่ ณ ภูเก็ต

นอกจากท้องทะเลและชายหาดที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกสมกับฉายา ไข่มุกแห่งอันดามัน แล้ว ภูเก็ตยังมีแง่งามทางศิลปวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การไปเยือนนั่นก็คือ ความเป็นชุมชนเมืองเก่าอันเป็นเอกลักษณ์ เมืองที่หล่อหลอมความหลากหลายทั้งในแง่ของประเพณีและวิถีชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านรูปแบบทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมเฉพาะตัวแบบ เพอรานากัน ที่สะท้อนวัฒนธรรมผ่านสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส อันเป็นร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 รวมไปถึงวิถีชีวิตชุมชนของชาวเมืองภูเก็ตที่หล่อหลอมจากวัฒนธรรมอันหลากหลายทั้ง ไทย จีน มลายู และอาหารพื้นถิ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งอาหารโบราณดั้งเดิมที่ยังคงได้รับการสานต่อจวบจนถึงปัจจุบัน เหล่านี้ล้วนคือมนตร์เสน่ห์แห่งเมืองเก่าภูเก็ตที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้กับเหล่านักเดินทางได้ทุกครั้งที่มาเยือน และวันนี้ Power จะพาคุณไปท่องวัฒนธรรมภูเก็ตอันเป็นเอกลักษณ์ภายใน 1 วัน ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัว แล้วออกเดินทางกันเลย! 1. ไหว้พระขอพร ชื่นชมศิลปวัฒนธรรมอันน่าทึ่ง กับ 3 วัดดังคู่บ้านคู่เมือง ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย วัด ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจความเลื่อมใสและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่รวมถึงผู้มาเยือนได้อยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับที่ภูเก็ตซึ่งมีวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองหลายแห่งรอให้ผู้คนที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมในแบบดั้งเดิม เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์สืบต่อไป สักการะ ‘หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง’ ศูนย์รวมแห่งความศรัทธามากว่า 200 ปี วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่มีชื่อปรากฏในหลักฐานบันทึกสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งต่อมารัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนชื่อเป็น วัดไชยธาราราม ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อ หลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี ผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ มีชื่อเสียงในศาสตร์วิชาด้านการปรุงสมุนไพรและรักษาโรค รวมถึงเข้าเฝือกผู้ป่วยกระดูกหัก มีบทบาทต่อสังคมด้วยการเป็นวัดแห่งศูนย์รวมศรัทธาของประชาชนชาวภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงเป็นต้นกำเนิดของโรงเรียนประถมศึกษาของเยาวชนในตำบลฉลองด้วย วัดฉลองถือเป็นวัดที่สวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต โดยเฉพาะ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ เจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงาม ด้านข้างผนังแต่ละชั้นมีภาพวาดพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าที่งดงามยิ่ง เมื่อขึ้นไปด้านบนสุดจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า มีอายุกว่า 2,200 ปี นำมาจากประเทศศรีลังกา ส่วนด้านนอกขององค์เจดีย์สามารถเดินชมทิวทัศน์รอบๆ วัดและเมืองภูเก็ตที่สวยงามได้อีกด้วย แวะสักการะ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองกันได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 7638 1226 หรือ เฟซบุ๊ก วัดฉลอง จ.ภูเก็ต Chalong Temple Phuket Thailand ตื่นตาตื่นใจไปกับ ‘พระผุด’ ความมหัศจรรย์สุดอันซีน ที่วัดพระทอง อีกหนึ่งตำนานความศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนอยู่ในอีกมุมหนึ่งของภูเก็ต นั่นคือ วัดพระทอง หนึ่งใน Unseen Thailand ของจังหวัดภูเก็ต เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จวบจนต่อมารัชกาลที่ 6 ได้พระราชทานนามให้ว่า วัดพระทอง นอกจากผู้คนจะนิยมมาสักการะ พระผุด อันเลื่องชื่อ แห่งเดียวในประเทศไทยแล้ว ในบริเวณวัดยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์วัดพระทองซึ่งตั้งอยู่ข้างโบสถ์ เป็นที่รวบรวมโบราณวัตถุและเครื่องใช้ของชาวภูเก็ต ที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวภูเก็ตได้เป็นอย่างดี โดยชาวบ้านนำมาบริจาคไว้ให้ได้เข้าชมกันอีกด้วย ความอันซีนของวัดพระทองนั้น มาจากพระพุทธรูปโบราณที่มีลักษณะแปลกคือ มีเพียงครึ่งองค์ที่ผุดขึ้นจากพื้น โดยมีตำนานเล่าขานว่า ชาวบ้านมาขุดพบและขุดขึ้นได้เพียงครึ่งองค์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เมื่อครั้งพระเจ้าปะดุงมาตีเมืองถลางก็พยายามจะขุดพระไปด้วย แต่ก็ไม่สามารถนำขึ้นได้เช่นกัน ชาวบ้านจึงสร้างพระครึ่งองค์ครอบไว้ เรียกว่า พระผุด ต่อมามีพระธุดงค์มาปักกลดบริเวณนั้น แล้วสร้างวัดขึ้น โดยอัญเชิญพระผุดเป็นพระประธานในโบสถ์ กล่าวกันว่าพระผุดเป็นพระทองคำ จึงพอกปูนทับลงไปดังที่เห็นในปัจจุบัน วัดพระทอง เปิดให้เข้าสักการะได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 7627 4126 ชื่นชมความงาม ‘องค์พระใหญ่’ ความงามสง่าแห่งศิลปะร่วมสมัย ที่สุดแห่งความสวยงามอลังการอันเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ด้วยการไปสักการะ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือ พระใหญ่เมืองภูเก็ต พระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดับผิวด้วยหินอ่อนหยกขาว…
Editor
10 September 2021