เพราะเทศกาลปีใหม่มีได้แค่ปีละครั้ง จึงเป็นดั่งช่วงเวลาแห่งความสุขที่หลายคนพยายามทำให้พิเศษที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไล่เรียงเรื่อยมาตั้งแต่คริสต์มาส สัปดาห์สุดท้ายของปีท่ามกลางบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง กระทั่งผ่านพ้นเข้าสู่วินาทีแรกของวันที่ 1 มกราคม
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนจึงต้องการที่จะฉลองปีใหม่ในสถานที่สุดพิเศษ ลองนึกดูว่าจะดีแค่ไหน หากได้เริ่มต้นปีด้วยความรู้สึกอันอิ่มเอม ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ต่างไปจากเดิม รวมถึงได้เติมพลังชีวิตในบรรยากาศที่ดีต่อใจ ให้สมกับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองที่รอคอยมาทั้งปี ซึ่ง Power ก็มีจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่หลายคนอยากไปส่งท้ายปีเก่ามาแนะนำ จะมีที่ไหนบ้างนั้นไปดูพร้อมๆ กันได้เลย
1. รัสเซีย
รัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่เราสามารถเดินทางไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และแน่นอนว่าความหนาวเย็นนั้นไม่ต้องพูดถึงโดยเฉพาะช่วงปลายปีแบบนี้ การไปฉลองส่งท้ายปีเก่าที่นั่นจึงนับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับอากาศดีๆ แล้ว ความงดงามของเมืองหลวงอย่างมอสโกไม่เคยทำให้ใครผิดหวังแน่นอน
ในฐานะศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของประเทศ มอสโกเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจมากมาย สถาปัตยกรรมและการตกแต่งอันน่าทึ่งที่พบเห็นได้ทั้งเมือง พร้อมที่จะพาคุณก้าวเข้าสู่ปีใหม่ท่ามกลางสถานที่ที่หนาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีฉากหลังในยามค่ำคืนเป็นพลุสุดตระการตา ซึ่งจุดที่ห้ามพลาดนั้นอยู่ที่จัตุรัสแดงอันเลื่องชื่อ แลนด์มาร์กที่รายล้อมไปด้วยจิตวิญญาณความเป็นรัสเซียอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารเซนต์เบซิล พระราชวังเครมลิน หรืออนุสรณ์สถานเลนิน เพราะคุณจะได้สัมผัสกับแสงไฟระยิบระยับที่ขับให้เมืองที่มหัศจรรย์อยู่แล้วอลังการมากยิ่งขึ้นไปอีก
2. สหราชอาณาจักร
ลอนดอนในช่วงปีใหม่ไม่เคยน้อยหน้าใครอยู่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่ากิจกรรมบางอย่างอาจเปลี่ยนไป แน่นอนว่าบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองยังคงอยู่ เพียงแต่ถูกปรับให้เหมาะสมมากขึ้นเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นการได้ไปเคานต์ดาวน์ที่ลอนดอนยังคงเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอยู่เสมอ
และสิ่งที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของคริสต์มาสและปีใหม่ใจกลางลอนดอนก็คือ การประดับไฟที่ Regent Street ในคอนเซปต์ “The Spirit of Christmas” ซึ่งเป็นธรรมเนียมต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงกลางยุค 50 โดยปกติจะเริ่มประดับประดากันตั้งแต่ปลายพฤศจิกายน ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมารู้สึกได้ถึงบรรยากาศของการเฉลิมฉลองที่ใกล้เข้ามาทุกที นอกจากนี้ ถนนเส้นอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็น Oxford Street, Bond Street หรือ Carnaby Street ก็งดงามสว่างไสวไปด้วยไฟประดับไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน รวมไปถึงบรรดางานศิลปะจากศิลปินร่วมสมัยก็มีให้ชมอย่างไม่ขาดสาย สมกับเป็นมหานครแห่งความเก๋ไก๋และคลาสสิกของใครหลายคน
3. ฝรั่งเศส
การได้ใช้เวลาช่วงเทศกาลปีใหม่ในมหานครที่งามหยดย้อยอย่างปารีสนั้น คงเป็นดั่งความฝันของใครหลายคนอย่างไม่ต้องสงสัย ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นภาพแทนของความโรแมนติกและคลาสสิกอย่างเป็นอมตะ ทำให้การจินตนาการว่ากำลังเดินฝ่าลมหนาว ดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนของสองข้างทางที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟ ลัดเลาะไปตามช็องเซลีเซ ผ่านประตูชัยฝรั่งเศสและจัตุรัสแห่งดวงดาว แล้วข้ามแม่น้ำแซนไปดูพลุข้ามปีที่หอไอเฟล เพียงเท่านี้ก็เป็นความทรงจำที่จับใจไปอีกนาน
นอกจากนี้ ความพิเศษของปารีสในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าที่ดึงดูดผู้คนรวมไปถึงสร้างบรรยากาศของการเฉลิมฉลองได้เป็นอย่างดีก็คือ Christmas Market ที่สวน Tuileries ด้วยขนาดของตลาด ความครึกครื้น และกิจกรรมมากมายในนั้น ไม่ว่าจะเป็นไอซ์สเกต เดินดูงานคราฟต์ หาของกิน หรือจิบไวน์ร้อน เหล่านี้ล้วนทำให้การไปเดินเล่นที่นั่นคืออีกหนึ่งหมุดหมายของการไปฉลองปีใหม่ที่ฝรั่งเศสก็ว่าได้
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หลายปีมานี้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงคนไทยเรา ภาพของเมืองสวรรค์กลางทะเลทรายและความอลังการของบรรดาตึกระฟ้า น่าจะเป็นสิ่งแรกที่เรานึกถึงเมืองอย่างดูไบ ซึ่งนอกจากความล้ำสมัยยิ่งใหญ่ตระการตาแล้ว ดูไบยังเต็มไปด้วยแลนด์มาร์กอันสวยงาม ที่พร้อมจะเพิ่มดีกรีความพิเศษขึ้นไปอีกหลายเท่าในช่วงปีใหม่นี้
ตื่นตาตื่นใจไปกับแสงสีเสียงบริเวณทะเลสาบ Burj Khalifa ที่รายล้อมไปด้วยสิ่งก่อสร้างสุดมหัศจรรย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพลุสุดอลังการจากตึกที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa ชมโชว์สุดอลังการของ Dubai Fountain น้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ประดับด้วยไฟหลายพันดวงและโปรเจกเตอร์สี 50 เครื่อง กับน้ำพุเต้นระบำที่สูงขึ้นไปในอากาศถึง 500 ฟุต รวมไปถึงอีกหนึ่ง “ที่สุดในโลก” ในเรื่องความใหญ่ของ Dubai Mall ห้างสรรพสินค้าที่เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่คุณต้องการอยู่ในนั้น
5. สหรัฐอเมริกา
ย้อนกลับไปเมื่อตอนสิ้นปี 2020 ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปในงานเคานต์ดาวน์ที่ไทม์สแควร์ในรอบ 116 ปี แต่ถ้าในสถานการณ์ปกติ “นิวยอร์ก” คือหนึ่งในสถานที่เคานต์ดาวน์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย สายตาทุกคู่ล้วนจับจ้องไปที่ไทม์สแควร์อย่างไม่กะพริบตาในเวลาใกล้เที่ยงคืน จนอาจพูดได้ว่างานฉลองส่งท้ายปีเก่าที่นั่นไม่ได้เป็นแค่ปาร์ตี้ แต่มันคือประเพณีของโลก
และแม้ว่าตอนนี้หลายอย่างเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นปกตินัก โดยปีนี้ก็ได้มีการคลายมาตรการบางอย่างลงแล้ว ในขณะเดียวกันก็ใช้วิธีถ่ายทอดสดทางออนไลน์ในบางส่วนควบคู่กันไป พูดง่ายๆ ว่า จัดน้อยแต่จัดนะ เพราะบรรดานิวยอร์เกอร์และนิวยอร์กเลิฟเวอร์ทุกคนต่างคิดถึงช่วงเวลานี้ของปีกันแบบสุดๆ ไปเลย ฉะนั้นสถานที่ต่างๆ ในนิวยอร์กก็ยังคงมีกิจกรรมสนุกๆ มีแสงไฟสวยๆ และมีบรรยากาศของการเฉลิมฉลองอยู่อย่างเช่นเคย ซึ่งถ้ามีโอกาสได้ไปเยือน บางทีนี่อาจจะเป็นเทศกาลแห่งความสุข ที่ความเรียบง่ายนี้ทำให้เรา “มีความสุข” มากจริงๆ ในช่วงหลายปีมานี้ก็เป็นได้
เพราะเราเข้าใจนักเดินทาง คิง เพาเวอร์ จึงไม่เคยหยุดที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้เปิดตัวบริการ “POWER TRAVELLERS” ผ่านเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า www.powertravellers.com เพื่อตอบโจทย์นักเดินทางชาวไทยที่คิดถึงการท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยได้รวบรวมมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศในสถานการณ์โควิด-19 พร้อมทั้งอัปเดตข้อกำหนดการเดินทางไปยังแต่ละประเทศ ทุกจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั่วโลกที่นักเดินทางชาวไทยต้องรู้ เพราะ POWER TRAVELLERS พร้อมดูแลคุณ..มากกว่าการเดินทาง
DESTINATION
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
https://powertravellers.com/
https://www.russiantour.com/
https://newyearseveblog.com/
https://www.themoscowtimes.com/
https://www.kingscross.co.uk/
https://www.regentstreetonline.com/
https://commons.wikimedia.org/
https://www.getyourguide.com/
https://www.visitdubai.com/
https://www.facebook.com/TheDubaiFountain/