DestinationLifestyle

DESTINATION
ตะลุยแอฟริกาดินแดนซาฟารี
การผจญภัยครั้งใหม่ที่สายแอดเวนเจอร์ไม่ควรพลาด

By 22 July 2022 No Comments

แอฟริกา ทวีปที่ได้ชื่อว่า “สุดขีด” ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความสมบูรณ์ของธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงการมีพื้นที่ภูมิอากาศแบบอบอุ่นอยู่ในทั้งซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ที่ทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ นั่นจึงทำให้ดินแดนแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งบนดาวเคราะห์ดวงนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอันดับ 1 คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากสรรพสัตว์ ทุ่งหญ้า และการผจญภัยสุดมันนั่นเอง

เตรียมคอสตูมให้พร้อม เตรียมร่างกายของคุณให้ดี วันนี้ Power มีทริปสนุกๆ มาฝากสายเที่ยวธรรมชาติที่อยากไปดู The Big Five of Africa ให้เห็นกับตา รวมไปถึงทริปท่องเที่ยวแนวผจญภัยสไตล์ซาฟารีที่แอฟริกากันดูสักครั้ง

KRUGER NATIONAL PARK – SOUTH AFRICA

อุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริกา ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแอฟริกาใต้ ด้วยขนาดและทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่เป็นดั่งบ้านหลังใหญ่ของสัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย แน่นอนว่าคุณสามารถเจอบิ๊กไฟว์ หรือ สัตว์ป่าแอฟริกาทั้ง 5 ได้ครบ ทั้งสิงโต เสือดาว แรด ช้าง และควายป่า รวมไปถึงบรรดาสัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์น้ำ และพันธุ์ไม้หายากต่างๆ อีกมากมาย ในขณะที่ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ สิงโตขาว สัตว์เฉพาะถิ่นที่จะพบได้เฉพาะอุทยานแห่งชาติครูเกอร์แห่งนี้ที่เดียวเท่านั้น

KATAVI NATIONAL PARK – TANZANIA

อุทยานแห่งชาติ Katavi ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของทวีปที่ประเทศแทนซาเนีย แม้ที่นี่อาจไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเท่าอุทยานฯ อื่นๆ ในแทนซาเนียด้วยเพราะระยะทางที่ไกล แต่หากมีโอกาสก็นับว่าคุ้มค่าที่ได้ไปเยือน เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าขนาดใหญ่อยู่กันเป็นฝูง ไม่ว่าจะเป็น ควายป่าแอฟริกา ม้าลาย ยีราฟ ช้างแอฟริกา และฮิปโปโปเตมัส โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งราวเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม ที่บริเวณรอบหนองน้ำจะกลายเป็นจุดรวมตัวของสัตว์ป่านานาชนิด รับรองว่าภาพของบ่อโคลนที่เต็มไปด้วยฝูงฮิปโปฯ นับร้อย จะต้องถูกใจสายธรรมชาติสายลุยตัวจริงอย่างแน่นอน

BWINDI IMPENETRABLE FOREST – UGANDA

ชื่อ Bwindi เป็นภาษาท้องถิ่นของยูกันดาที่มีความหมายว่า “สถานที่ที่เต็มไปด้วยความมืด” เพียงเท่านี้ก็พอจะทำให้เราจินตนาการถึงความลึกลับ ป่าดงดิบ และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่ป่า Bwindi มีต้นไผ่ขึ้นแทรกตัวกระจายไปกับไม้ยืนต้นต่างๆ แถมข้างล่างยังปกคลุมไปด้วยเฟิร์น เถาวัลย์ และพืชนานาชนิด มองไปทางไหนจึงมีแต่สีเขียว พร้อมๆ กับบรรยากาศสลัวจากการที่แสงอาทิตย์ส่องลงมาได้ไม่เต็มที่นั่นเอง ที่นี่ยังเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่อาศัยของกอริลลาภูเขาถึงครึ่งหนึ่งของสายพันธุ์ที่มีบนโลก รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ผีเสื้อ กบ ชนิดต่างๆ อีกมากมาย

OKAVANGO DELTA – BOTSWANA

ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโก ประเทศบอตสวานา ได้รับสมญาว่าเป็นดั่งโอเอซิสแห่งคาลาฮารี ทะเลทรายอันแห้งแล้งทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา Okavango Delta นับเป็นที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำในแผ่นดิน หรือพื้นที่ชุ่มน้ำไม่ติดทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพื้นที่กว่า 15,000 ตารางกิโลเมตร ในฤดูน้ำหลากช่วงต้นปีที่นี่จะกลายเป็นพื้นที่รับน้ำทั้งจากประเทศแองโกลาและแทนซาเนีย น้ำจะใส ปรากฏขึ้นเป็นเกาะแก่งและทะเลสาบที่อุดมสมบูรณ์มากมาย ทำให้มีปลาชุกชุม เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงเป็นแหล่งยังชีพของชาวพื้นเมืองอีกด้วย ก่อนที่ความชุ่มชื้นทั้งหมดจะระเหยไปในอากาศเมื่อฤดูแล้งมาถึง

ETOSHA NATIONAL PARK – NAMIBIA

นามิเบีย ประเทศทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกาที่เราอาจไม่คุ้นเคยนักแห่งนี้ ได้ชื่อว่ามีการบริหารจัดการดูแลและอนุรักษ์สัตว์ป่าโดยเฉพาะสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยความที่นามิเบียมีพื้นที่กว้างใหญ่และมีประชากรไม่มาก จึงเต็มไปด้วยพื้นที่เวิ้งว้างว่างเปล่าสุดสายตา จึงนำไปสู่แนวคิดการอยู่ร่วมกันของคนกับสัตว์อย่างสันติ ปล่อยให้สัตว์ป่าได้ใช้ชีวิตในธรรมชาติอย่างสงบสุข ไม่เบียดเบียนกัน นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนก็จะได้ขับรถแล้วเฝ้ามองส่องดูสัตว์จากที่ไกลๆ ตอบโจทย์สายอนุรักษ์แบบสุดๆ

 MASAI MARA NATIONAL RESERVE – KENYA

เขตอนุรักษ์แห่งชาติมาไซ มารา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเคนยา มีลักษณะเป็นระบบนิเวศสะวันนาที่อุดมสมบูรณ์ นั่นคือผสมผสานระหว่างป่าและทะเลทราย พืชพรรณหลักประกอบไปด้วยหญ้า พุ่มไม้ และต้นไม้ขนาดเล็ก มีสัตว์สะวันนาหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สิงโต ชีตาห์ ละมั่ง ยีราฟ นกกระจอกเทศ ม้าลาย ช้าง งูแบล็กแมมบา เป็นต้น ทั้งหมดอาศัยอยู่กันแบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมไปถึง “มาไซ” ชนเผ่าพื้นเมืองของทีนี่ อีกหนึ่งสีสันที่ทำให้ดินแดนแห่งนี้มีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีก นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวยังนิยมนั่งรถเปิดประทุนเพื่อชมบิ๊กไฟว์ได้อย่างใกล้ชิด หรือจะขึ้นบอลลูนชมทัศนีภาพทุ่งหญ้าสีทองจากท้องฟ้าอันเงียบสงบยิ่งงดงามราวกับฝันเข้าไปใหญ่

*กรุณาตรวจสอบวัน-เวลาเปิดให้บริการ และมาตรการทางด้านสาธารณสุขอีกครั้ง

 

#LoveTravellers
#PowerTravellers
#ชวนไทยเที่ยวโลกชวนโลกเที่ยวไทย
#ชวนไทยเที่ยวโลก
#KingPower

DESTINATION