ครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์หรูอย่าง Gucci ทั้งที มั่นใจได้เลยว่า มหากาพย์การเฉลิมฉลองจะต้องเป็นอะไรที่ห่างไกลจากคำว่าธรรมดา และหนึ่งในนั้นคือการเนรมิต Gucci Garden ใจกลางกรุงฟลอเรนซ์อันเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ สำหรับแคมเปญครั้งประวัติศาสตร์ ที่ได้หยิบยกเรื่องราวที่บ่งบอกความเป็น Gucci ภายใต้การนำของ Alessandro Michele ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ รวมทั้งสิ้น 15 คอลเลคชั่น ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในรูปแบบนิทรรศการออนไลน์ที่มีชื่อว่า Gucci Garden Archetypes
คอลเลคชั่นที่ถูกเลือกมาล้วนแล้วแต่เป็นที่จดจำของผู้คนจำนวนมาก รวมไปถึงเคยสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมในหลากหลายมิติ และถึงแม้ว่าผลงานส่วนใหญ่จะไม่สามารถผลิตซ้ำได้ แต่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารให้มาอยู่ในนิทรรศการที่ Alessandro Michele นิยามว่าเป็น “สนามเด็กเล่นของอารมณ์” นี้ ก็ยังคงไว้ซึ่งตัวตน แนวความคิด และจิตวิญญาณของ Gucci ไว้อย่างครบถ้วน
นิทรรศการครั้งนี้ถูกจัดให้เข้าชมออนไลน์ในแบบ 360 องศา ผ่านทางเว็บไซต์ของ Gucci โดยเมื่อเข้าไปในจะพบกับส่วนที่เป็น Boutique, Bookstore และ Gucci Osteria ก่อนที่จะได้ดื่มด่ำไปกับผลงานต่างๆ พร้อมด้วยเสียงบรรยาย 5 ภาษาในชั้นถัดๆ ไป เรื่องราวของแบรนด์ที่ถูกถ่ายทอดผ่าน Element ต่างๆ ความเซอร์เรียลที่เปี่ยมไปด้วยสไตล์ในแบบ Gucci ได้ทำหน้าที่ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจิตวิเคราะห์ ที่ทำให้ผู้ชมตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างในชีวิตที่มีอยู่แต่กลับถูกละเลยเสมอมาได้เป็นอย่างดี
ภายใต้ความเชื่อของแบรนด์ที่ว่า “ผสานอดีตเข้ากับปัจจุบันเพื่อแสดงอนาคต” Alessandro Michele กล่าวถึงนิทรรศการครั้งนี้ว่า “ผมไม่เชื่อในแฟชั่นที่พูดถึงแต่อนาคต เพราะสำหรับผมแล้วแฟชั่นคือการเล่าถึงช่วงเวลาที่เรากำลังเผชิญผ่าน ซึ่งมันก็คือเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตนั่นแหละ เรามองเห็นวันข้างหน้าได้จากตอนนี้”
การที่ Gucci เลือกที่จะแสดงนิทรรศการในวาระสำคัญของแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเต็มตัวเช่นนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งมูฟเมนต์ที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกแฟชั่นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงความพยายามในการเจาะตลาดกลุ่ม Pre-Teen อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพา Gucci Garden Archetypes กระโดดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโลก Metaverse ที่กำลังมาแรงอย่างมากในตอนนี้
Metaverse เป็นโลกเสมือนสามมิติบนอินเทอร์เน็ต และ Roblox เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มบน Metaverse ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นเป็น Developer สร้างเกมดีไซน์โลกในแบบของตัวเองขึ้นมา สำหรับเด็กในยุโรปและอเมริกาที่เรียนการเขียนโค้ดมาตั้งแต่ชั้นประถม Metaverse ก็คือสนามเด็กเล่นให้พวกเขามารวมตัวพบปะกันออนไลน์ คล้ายกับก่อนหน้านี้ที่ WordPress ให้เราไปสร้างหน้าเว็บกับแพลตฟอร์มของเขานั่นแหละ
สำหรับคนทั่วไปโลกโซเชียลที่เราพบปะกันออนไลน์ส่วนใหญ่หนีไม่พ้น Facebook หรือ Instagram แต่เด็กๆ รุ่นใหม่พวกนี้ใช้ชีวิตอยู่ใน Metaverse เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การเจอหน้ากันจริงๆ ยังเป็นไปได้ยากแบบนี้ ในโลกเสมือนของ Roblox ที่มี Active User มากกว่า 37 ล้านคนต่อวัน (จากข้อมูลเดือนพฤศจิกายน 2020) ทำให้ Avatar หรือตัวตนของพวกเขาในโลกเสมือนมีกิจกรรมมากมาย มีห้องหลายล้านห้องบน Metaverse ให้เข้าไปสำรวจ รวมทั้งมีการซื้อขายไอเทมอีกด้วย
ปกติ Avatar และ Element ต่างๆ ใน Roblox จะมีรูปทรงเหลี่ยมๆ ให้อารมณ์การ์ตูนๆ แต่ที่อาณาจักร Gucci Garden บน Roblox นับแต่ก้าวแรกที่เข้าไป Avatar จะเปลี่ยนดีไซน์เป็น Humanoid หุ่นยนต์ซึ่งมีลักษณะคล้ายมนุษย์โดยยังไม่ระบุเพศหรือสีสันในตอนแรก เพื่อสะท้อนแนวคิดของ Gucci ที่ว่าคนเราเปรียบได้กับผืนผ้าใบสีขาวที่จะถูกแต่งแต้มด้วยประสบการณ์ที่ได้พบเจอ จนในที่สุดก่อเกิดเป็นตัวตนที่ไม่ซ้ำกับใคร อีกทั้งการไม่ระบุเพศของ Avatar ก็เพื่อแสดงให้เห็นจุดยืนของ Gucci เรื่องการยอมรับกลุ่ม LGBTQ นั่นเอง บรรยากาศและการตกแต่งในห้องจำลองมาจากภาพวิชวลในโฆษณาของ Gucci ทั้ง 15 คอลเลคชั่น นอกจากเราจะสามารถเลือกซึมซับ Element รอบตัวใน Gucci Garden เข้ามาสวมใส่อยู่บน Avatar ได้แล้ว เรายังช้อปเครื่องประดับและไอเทมของ Gucci ที่ตั้งโชว์อยู่บนเชลฟ์ได้ด้วย ทำให้บรรดาแพลตฟอร์มต่างๆ บน Metaverse เป็นที่จับตาของนักการตลาด สำหรับวงการแฟชั่น Gucci คือแบรนด์แรกที่เข้าไปจับตลาด Metaverse โดยทางแบรนด์ไม่ได้คาดหวังเรื่องกำไรเป็นหลัก แต่ต้องการสร้าง Brand Awareness ในกลุ่มเด็กเหล่านี้ที่จะเติบโตเป็นลูกค้า Gucci ในอนาคต
แม้ว่าจะเป็นแคมเปญช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 2 สัปดาห์ ระหว่าง Gucci กับ Roblox แต่นับจากนี้ไปเราคงต้องจับตามองให้ดีว่าจะมีสิ่งใดมาทำลายเส้นแบ่งโลกของเกมและแฟชั่นอีก อย่างที่ปีก่อน Gucci ได้นำหมวกและรองเท้าผ้าใบจากคอลเลคชั่น Off The Grid เข้าสู่โลกเสมือนให้ผู้เล่นนำไปใช้งานในเกม The Sims 4 ในขณะที่กระเป๋าถือและแอคเซสซอรีอื่นๆ สามารถนำไปใช้ตกแต่งได้ รวมไปถึงเกมกีฬายอดนิยมอย่าง Tennis Clash ก็มีเสื้อผ้า ชุดวอร์ม รองเท้า และไม้เทนนิสสกรีนลาย GG บนตาข่าย ไว้เพิ่มความเก๋บนคอร์ต ซึ่งถือเป็นการสร้าง Brand Awareness ให้กับเด็กๆ ที่กำลังหลั่งไหลเข้าไปใช้ชีวิตใน Metaverse ได้เป็นอย่างดี
หรือสิ่งเหล่านี้อาจหมายถึง “อนาคต” อันเป็นก้าวต่อไปของแบรนด์ที่เพิ่งเป่าเค้กวันเกิดปีที่ 100 ไปหมาดๆ อย่าง Gucci ก็เป็นได้
FASHION INSIDER
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
https://www.gucci.com
https://equilibrium.gucci.com
https://blog.roblox.com