BeautyBeauty InsiderFeature

BEAUTY INSIDER
คู่มือแต่งหน้าเพื่อความสวยอย่างเป็นอมตะ
ฉบับสาวสองพันปี

ที่ว่ากันว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” นั้นบอกเลยว่าไม่เกินจริง เพราะความสวยงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน แต่เมื่อโลกผันผ่านไปตามกาลเวลา อายุของเราก็มากขึ้นอย่างหลีกหนีไม่ได้ ความโรยราตามวัยย่อมต้องมีตามมา และแน่นอนว่าหนึ่งในหลายๆ ปัจจัยที่เป็นตัวช่วยให้คุณผู้หญิงทั้งหลายยังคงความงามไว้ได้ก็คือ เครื่องสำอาง แต่ทุกวันนี้การที่เราจะหวังพึ่งเครื่องสำอางเพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป Power จึงได้ไปสรรหาหลากไอเทมเพื่อการบำรุงผิวหน้าอย่างแท้จริงพร้อมการแต่งเติมเสริมสีสันบนใบหน้าเพื่อความสวยอย่างเป็นอมตะ ให้ได้ลุค “สาวสองพันปี” ให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เราควรให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหน้าอยู่เป็นประจำจนเป็นกิจวัตร ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมบำรุงผิวที่ช่วยให้คุณมีผิวหน้าชุ่มชื้น และให้การบำรุงฟื้นฟูได้อย่างล้ำลึก ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งต้องเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิว ซึ่งการบำรุงผิวที่ดีถือเป็นการเริ่มต้นสำหรับการเตรียมผิวหน้าที่ดีก่อนแต่งหน้าในลำดับต่อไป จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น ไม่หลุดลอกระหว่างวัน และไม่ควรละเลยในเรื่องของการทำความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อมีเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าจะทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง เป็นต้นเหตุของการอุดตันและอาจทำให้เกิดสิว นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและทิ้งรอยด่างดำได้   LA MER The Moisturizing Soft Cream (30 มล. 6,545 บาท) SHOP NOW EVIDENS DE BEAUTÉ The Day Moisturizer (50 มล. 8,410 บาท) SHOP NOW เลือกรองพื้นผิดชีวิตอาจเปลี่ยน การเลือกรองพื้นนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญของการแต่งหน้า เพราะการลงสีรองพื้นผิดหรือใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไปก็ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนได้! การโบกรองพื้นลงบนผิวหน้าเพื่อหวังว่าจะช่วยกลบริ้วรอยที่มีได้นั้น ถือเป็นความคิดที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเราลงรองพื้นบนใบหน้ามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มความชัดของริ้วรอยมากขึ้นเท่านั้น มิหนำซ้ำอาจจะเกิดรอยแตกของเครื่องสำอางในระหว่างวันอีกด้วย หรือหากต้องการปรับโทนสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นก็ไม่ควรเลือกสีที่สว่างกว่าสีผิวของเรา แต่แนะนำให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ หรือใช้แปรงทารองพื้นในการเพิ่มความชุ่มชื้น จะช่วยให้ผิวหน้าของเราดูไบรต์และไม่หนักหน้าจนเกินไป อย่าลืมเกลี่ยลงมาให้ถึงลำคอเพื่อเบลนด์ให้สีผิวดูสม่ำเสมอ และอาจจะใช้คอนซีลเลอร์เพื่อช่วยกลบรอยคล้ำในจุดบกพร่องที่เห็นได้ชัด อย่างเช่นบริเวณใต้ดวงตา เพื่อเป็นการเริ่มต้นความสมบูรณ์แบบของการแต่งหน้าในครั้งนี้ GIORGIO ARMANI Power Fabric Foundation SPF 25 (126 กรัม 2,125 บาท) SHOP NOW GUERLAIN Parure Gold Fluid Foundation (30 มล. 3,090 บาท) SHOP NOW บรอนเซอร์ใครคิดว่าไม่สำคัญ อีกหนึ่งไฮไลต์ที่แทบจะขาดไม่ได้สำหรับการสร้างมิติบนใบหน้าให้ดูคมชัดโดดเด่น ช่วยให้ผิวหน้าดูอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติก็คือบรอนเซอร์ การเลือกลงสีที่อุ่นกว่าสัก 2 เฉดสี จะให้ลุคที่ดูอ่อนเยาว์และเป็นการเพิ่มสีสันบนใบหน้าไม่ให้ดูซีดจนเกินไป โดยสามารถลงบริเวณใต้โหนกแก้ม ข้างจมูก ไรผมหน้าผาก รวมไปถึงใต้กราม HOURGLASS Ambient Lighting Bronzer Luminous Bronze Light (11 กรัม 1,830 บาท) SHOP NOW BOBBI BROWN Bronzing Powde Golden Light (8 กรัม 1,700 บาท) SHOP NOW หัดปัดแก้มอย่างมืออาชีพ จากเทคนิคดั้งเดิมที่บอกให้ยิ้มแล้วค่อยปัดบลัชออนจะให้ลุคเสมือนมีลูกแอปเปิลแดงอยู่บนแก้มนั้น คงต้องหยุด! เพราะเทคนิคที่เหล่าช่างแต่งหน้ามืออาชีพแนะนำก็คือ ให้ลงบลัชออนบริเวณด้านบนของโหนกแก้ม แล้วเกลี่ยเข้าด้านใน ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด และเฉดสีชมพูส้มเป็นสีที่ช่วยเพิ่มความสดใสและเพิ่มเสน่ห์ แลดูอ่อนกว่าวัย สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบฝุ่นและแบบครีม หรือจะใช้ทั้งสองแบบในคราวเดียวกันก็ได้ เพื่อเพิ่มความติดทนทานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น M·A·C Powder Blush (6 กรัม 950 บาท) SHOP NOW NARS…
Editor
26 November 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
โภชนาการต้านไวรัส
ของขวัญสำหรับคนรักสุขภาพยุคนี้

หากเรามองว่าโควิด-19 รวมไปถึงเชื้อไวรัสอื่นๆ เป็น “สิ่งแปลกปลอม” ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะกลายเป็นเชื้อก่อโรคที่สร้างความผิดปกติให้กับระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายแล้ว มนุษย์เราก็ยังมีอาวุธชั้นเยี่ยมที่ใช้ต่อกรกับวายร้ายเหล่านี้อยู่กับตัว นั่นคือ “ภูมิคุ้มกัน” ระบบภูมิคุ้มกันประกอบไปด้วยระบบย่อย 2 ระบบ ได้แก่ ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (Innate Immunity) กลไกการป้องกันสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะเจาะจงกับเชื้อโรคชนิดใดชนิดหนึ่ง สามารถป้องกันโรคได้หลายชนิด แต่ไม่มีความจดจำเชื้อโรค ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการป้องกัน และภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ (Adaptive Immunity) กลไกการป้องกันที่เกิดขึ้นหลังจากร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้าไปแล้ว มีคุณสมบัติในการจดจำเชื้อโรคได้ ทำให้การตอบสนองในครั้งถัดไปรวดเร็วและมีประสิทธิภาพดีการตอบสนองในครั้งแรก ซึ่งอย่างหลังนี้เราใช้องค์ความรู้ในการนำไปสร้างวัคซีนต่างๆ นั่นเอง การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจึงหมายถึงการเตรียมพร้อมร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอันมีสาเหตุมาจากไวรัส เชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ซึ่งนอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว การ “ติดอาวุธ” ให้ร่างกาย จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่หลายคนหันมาหยิบยื่นให้กับตนเองและคนรอบข้างในช่วงนี้ ลองมาดูกันว่ามีวิตามินแร่ธาตุหรือสารอาหารใดบ้างที่เป็นประโยชน์สำหรับเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีได้ วิตามินซี วิตามินซีมีส่วนสำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น เนื่องจากจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งหลายคนคงจะทราบประโยชน์ของวิตามินซีกันดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อาจจะยังไม่ทราบก็คือ ร่างกายนั้นต้องการวิตามินซีอยู่ที่ 1,000 – 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ความสามารถในการดูดซึมจะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 200 – 400 มิลลิกรัมต่อครั้งเท่านั้น ดังนั้น การรับประทานวิตามินซีที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด คือแบ่งรับประทานวิตามินซีขนาด 500 มิลลิกรัม 2 – 6 มื้อต่อวันนั่นเอง วิตามินซี พบมากในผักและผลไม้โดยเฉพาะ ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ สตรอว์เบอร์รี ส้ม สับปะรด มะนาว มะเขือเทศ รวมไปถึงวิตามินเสริม ซึ่งข้อควรระวังสำคัญก็คือ เมื่อรับประทานวิตามินซีแล้วควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อไม่ให้เสี่ยงตกตะกอนจนอาจเป็นนิ่วได้ ทั้งนี้ปริมาณที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย ผู้ที่มีปัญหาทางระบบย่อยอาหารหรือได้รับวิตามินซีมากเกินไปอาจมีการถ่ายเหลวได้ วิตามินดี วิตามินดีไม่ได้ดีกับแค่กระดูกอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะนอกจากจะมีหน้าที่หลักในการช่วยดูดซึมแคลเซียมแล้ว ก็ยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย ซึ่งเป็นการทำงานที่เม็ดเลือดขาวจะปล่อยสารเคมีที่กระตุ้นการอักเสบออกมา หากมากเกินไปก็จะก่อให้เกิดความเสียหายของเซลล์และระบบต่างๆ ในร่างกาย พูดง่ายๆ ว่า วิตามินดี ส่งผลต่อการทำงานของกระบวนการดังกล่าว และมีผลต่อการควบคุมระบบภูมิคุ้มกันในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจ รวมถึงการควบคุมการอักเสบไม่ให้เกิดมากเกินไปจนนำไปสู่การเสียชีวิตได้ วิตามินดีนั้นสามารถเสริมทั้งภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดและภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะได้ พบมากในอาหารจำพวกปลา เนื้อสัตว์ นม ถั่วเมล็ดแข็ง และร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้จากการรับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด แต่ต้องเป็นแดดอ่อนๆ ตอนเช้าก่อน 9 โมง หรือ หลัง 4 โมงเย็นเท่านั้น ที่สำคัญจะต้องไม่ทาครีมกันแดดที่ตัวในช่วงเวลาดังกล่าว (ทาที่หน้าได้) เพราะครีมกันแดดเพียง SPF 7 ก็ทำให้ไม่เกิดการสังเคราะห์วิตามินดีที่ผิวหนังได้แล้ว ซิงก์ ซิงก์ หรือ สังกะสี เป็นแร่ธาตุจำเป็นสำหรับร่างกายสำหรับการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่เป็นกลไกหลักในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงมีคุณสมบัติในการช่วยต้านการเพิ่มขึ้นของปริมาณเชื้อไวรัส หยุดการเจริญของเชื้อ และการเกาะจับของเชื้อในร่างกาย นอกจากนั้น ซิงก์ยังมีฤทธิ์ต้านอักเสบ สามารถช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายเกิดการติดเชื้ออย่างโรคปอดอักเสบได้ โดยปกติแล้วร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างซิงก์ขึ้นเองได้ และซิงก์ก็เป็นสารอาหารที่ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมไว้ได้ จึงจำเป็นต้องบริโภคอาหารที่มีซิงก์เป็นส่วนประกอบในปริมาณเฉลี่ย15 มิลลิกรัมในทุกๆ วัน ซึ่งแหล่งอาหารที่ดีเมื่อพิจารณาจากปริมาณและการดูดซึมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ ได้แก่ สัตว์ทะเลเปลือกแข็งอย่างปู กุ้ง หอยนางรม หอยแมลงภู่ หอบกาบ เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ธัญพืช และผลิตภัณฑ์จากนมต่างๆ โอเมกา 3 ไม่เพียงแค่สารอาหารในกลุ่มของวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเท่านั้น แต่กรดไขมันชนิดโอเมกา 3 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของเชื้อไวรัส และลดการอักเสบของร่างกายจากการหลั่งสารไซโตไคน์ที่มากเกินไป หลังการต่อสู้ระหว่างเชื้อโรคกับระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย…
Editor
25 November 2021
Fashion Shop The TrendsFlash

FASHION : SHOP THE TREND
เตรียมพร้อมรับเทศกาลแห่งความสุข
ด้วยของขวัญสุดพิเศษสำหรับคุณ

1. เคสหุ้มแว่น จาก Any Di 2. เครื่องประดับ จาก Versace 3. เครื่องประดับ จาก Versace 4. เครื่องประดับจาก Gucci 5. กระเป๋าใส่บัตร จาก Valentino6. พวงกุญแจ จาก Burberry 7. กระเป๋าสตางค์ จาก Burberry 8. ผ้าพันคอ จาก Ferragamo 9. นาฬิกา จาก Gucci1. แว่นกันแดด จาก Gucci SHOP NOW 2. เครื่องประดับจาก Versace 3. เครื่องประดับจาก Versace 4. ปากกา จาก Montblanc SHOP NOW 5. กระเป๋าใส่บัตร จาก Mcm SHOP NOW6. นาฬิกา จาก Longines SHOP NOW 7. เคสแอร์พอดส์ จาก Alexander McQueen 8. เข็มขัดหนัง จาก Salvatore Ferragamo SHOP NOW 9. กระเป๋าสตางค์ จาก Bally
Editor
24 November 2021
BeautyBest BuyGrooming Best Buy

GROOMING : BEST BUY
เติมเต็มความสุขเตรียมรับเทศกาล
ด้วยไอเทมที่ควรค่าแก่การบำรุง
พร้อมเพิ่มเสน่ห์ความหอมในแบบผู้ชายที่น่าหลงใหล

PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS 1. POLA B.A Eye Zone Cream 26 กรัม SHOP NOW 2. BOBBI BROWN EXTRA LIP TINT 2.3 กรัม SHOP NOW 3. ORIGINS Plantscription™ Anti-aging eye treatment 15 มล. SHOP NOW 4. CLARINS Men Line Control Balm 50 มล. SHOP NOW 5. ORIGINS Dr. Weil Mega-Mushroom™ Relief & Resilience Soothing Water Burst Gel 50 มล. 6. BIOTHERM HOMME Uv Defense Spf 50 Pa+++ 30 มล. SHOP NOW 7. K by Dolce & Gabbana Eau de Toilette 100 มล. SHOP NOW 8. SISLEY Sisleÿum Anti-Age Global Revitalizer - For Normal Skin 50 มล. SHOP NOW 9. BURBERRY Mr. Burberry Element Eau de Toilette 50 มล. SHOP NOW
Editor
23 November 2021
FlashWhat's New

WATCH PRO
มอบช่วงเวลาดีๆ ให้กับตัวเอง
ด้วยเรือนเวลาหรูที่พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของ

PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS Elegance คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทน แห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว Elegance คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทน แห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS PIAGET จากแรงบันดาลใจของวงแหวนหมุนสู่ Possession Watch อันเป็นสัญลักษณ์ของ Piaget สร้างความโดดเด่นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ด้วยความหรูหรางามสง่าที่แสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวา และจิตวิญญาณที่เป็นอิสระผ่านทองคำที่วาววับและเพชรที่แวววาว ด้วยตัวเรือนไวต์โกลด์ 18K ขนาด 34 มิลลิเมตร ประดับเพชรเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร 181 เม็ด ขอบหน้าปัดสามารถหมุนได้อย่างอิสระ ล้อประกายไปกับหน้าปัดประดับเพชรเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสรอีก 239 เม็ด เสริมด้วยสายรัดหนังจระเข้แบบเปลี่ยนได้สีชมพูเข้มสวยหรู ให้ความเย้ายวนอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมการเคลื่อนไหวระบบควอตซ์ Piaget 56P และระดับการกันน้ำที่ 3 บาร์ VACHERON CONSTANTIN Vacheron Constantin ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์เรือนเวลาหรูที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ซึ่งยังคงเดินหน้าพัฒนาจากจุดแข็งไปสู่จุดแข็งที่ไม่ธรรมดาในด้านวิศวกรรมที่เหนือชั้น และ Vacheron Constantin Malte Manual-Winding เรือนนี้คือผลงานที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและมีสไตล์ที่ยอดเยี่ยม เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ที่ทนทานต่อการทดสอบของเวลา แม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด โดดเด่นด้วยสายหนังจระเข้สีชมพู เข้ากันได้ดีกับตัวเรือนรูปทรง Tonneau สีพิงก์โกลด์ 18K ขนาด 34.4x28.4 มิลลิเมตร และหน้าปัดอันโดดเด่นที่ทำจากมาเธอร์ออฟเพิร์ล ซึ่งเป็นวัสดุธธรมชาติที่หายาก แสงสะท้อนยามตกกระทบหน้าปัดให้สีรุ้งสัมผัสได้ถึงเสน่ห์แห่งความเป็นหญิงได้อย่างไม่อาจต้านทาน ฝาหลังแบบเปิดที่สวยงาม เผยให้เห็นความซับซ้อนของกลไกการไขลานด้วยมือ ให้การปกป้องด้วยกระจกคริสตัลแซปไฟร์ สำรองพลังงานได้ 40 ชั่วโมง และระดับการกันน้ำที่ 3 บาร์ Versatility ดึงดูดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านเรือนเวลาสุดโปรดที่บ่งบอกความเป็นตัวตน IWC จาก Mark XI อันเป็นตำนาน สู่ Pilot's Watch Mark XVIII สัญลักษณ์แห่งเรือนเวลาสำหรับนักบิน กับการมาของหน้าปัดที่คงไว้เฉพาะหัวใจสำคัญของนาฬิกา โดยไร้ซึ่งสิ่งที่ไม่จำเป็นแม้เพียงเล็กน้อย เพราะทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อมอบการอ่านค่าได้อย่างชัดเจน เสน่ห์แห่งความคลาสสิกที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะคุณสุภาพบุรุษเท่านั้น Pilot's Watch Mark XVIII มาในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 40 มิลลิเมตร จับคู่มากับสายหนังลูกวัวสีดำ ให้ความลงตัวกับหน้าปัดสีดำด้านเรียบหรู เข็มนาฬิกาและดัชนีสีขาวมีการเคลือบแบบเรืองแสง รับประกันความชัดเจนสูงสุดแม้ในเวลากลางคืน หน้าปัดโดดเด่นด้วยตัวเลขอารบิกกลมขนาดใหญ่ หน้าต่างวันที่อยู่ในตำแหน่งที่ 3 นาฬิกา เคสด้านในเป็นแบบเหล็กอ่อนสำหรับป้องกันสนามแม่เหล็ก พร้อมกระจกคริสตัลแซปไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติขนาด 35111 คาลิเบอร์ สำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง และระดับการกันน้ำที่ 6 บาร์ ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ OMEGA Seamaster Diver 300M เรือนเวลาสุดคลาสสิกที่โลดแล่นอยู่ในวงการคนรักนาฬิกามาตั้งแต่ปี 1993 นั้น ไม่เพียงเป็นเพื่อนคู่ใจของ James Bond หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสุภาพบุรุษด้วยเช่นกัน สำหรับคอลเลคชั่นที่ทันสมัยในปัจจุบันได้นำเอามรดกทางทะเลที่มีชื่อเสียงมาปรับปรุง ด้วยนวัตกรรมและการออกแบบที่ดีที่สุดของ Omega ให้สามารถลงตัวได้ในทุกโอกาส กับตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร ผลิตจากสเตนเลสสตีลและทองคำ 18K Sedna™ พร้อมกรอบเซรามิกสีดำที่มีสเกลการดำน้ำ Ceragold™ เข้ากันได้อย่างลงตัวกับหน้าปัดเซรามิกสีดำขัดเงาลายคลื่นที่สลักด้วยเลเซอร์…
Editor
22 November 2021
Happening

SPOTLIGHT
Mahanakhon X Somjai : Paint Your Life
ชวนมาแต่งเติมสีสันให้กับชีวิต

PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS สะท้อนจิตวิญญาณงานศิลปะผ่านเอกเซสซอรีดีไซน์เท่ MAHANAKHON (มหานคร) แบรนด์ไลฟ์สไตล์สตรีตแวร์สัญชาติไทย เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษส่งต่อแรงบันดาลใจให้โลกใบนี้เต็มไปด้วยงานศิลปะ เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับชีวิต ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในงานศิลปะ ร่วมสะท้อนความเป็นตัวเองผ่านคอลเลคชั่น "MAHANAKHON X SOMJAI : PAINT YOUR LIFE" จากแนวคิดที่ว่าศิลปะไม่ใช่แค่เรื่องของความงามและความสุนทรีเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพราะเชื่อว่าเราทุกคนต่างเป็นอาร์ทิสต์ที่แต่งเติมสีสันให้กับชีวิตของเราเองได้ นำเสนอผ่านเอกเซสซอรีดีไซน์เท่ ไม่ซ้ำใคร มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานแสนสะดวกตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ทั้งฉลาดเลือกและฉลาดใช้ ไม่ว่าจะเป็น Tapeline Tote Bag, Pencil Loop Bucket Hat และ Capacity Tote Bag with Board Holder Tapeline Tote Bag กระเป๋าผ้าแคนวาสสีขาว พิมพ์ลายโลโก้คอลเลคชั่น "มหานคร x สมใจ" เพิ่มกิมมิกให้กระเป๋าใบเก๋ ตกแต่งสายสแตรปผ้าไนลอนสีเหลืองเด่นสะดุดตา เข้าได้กับลุคเรียบเท่แบบ Less is More ถูกใจสายมินิมัล ใช้งานได้บ่อยในหลายโอกาส ราคา 250 บาท Pencil Loop Bucket Hat หมวกทรงบักกิตสุดคูล ผลิตจากผ้าไนลอนโพลีเอสเตอร์สีดำเรียบเท่ เพิ่มความน่าสนใจให้ชิ้นงานด้วยการตกแต่งเทปทอผ้าคอตตอนสีออฟไวท์พิมพ์ลายสายวัด มีความยาว 140 เซนติเมตร เสริมฟังก์ชันการใช้งานให้สะดวกยิ่งขึ้น ตัดต่อผ้าเป็นช่องเล็กๆ สำหรับเสียบดินสอหรือปากกา ปลุกพลังความเป็นอาร์ทิสต์ในตัวเอง ราคา 390 บาท Capacity Tote Bag with Board Holder กระเป๋าโท้ตใบใหญ่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผลิตจากผ้าแคนวาสสีขาวออฟไวท์ตัดเข้ากับสายสะพายสีดำ ด้านหน้ากระเป๋ามีช่องแบ่งจัดเก็บเป็นระเบียบ ตกแต่งลูกเล่นด้วยเทปก้างปลาทอลายสายวัด มีความยาว 15 เซนติเมตร ไร้กังวัลเรื่องสิ่งของตกหล่นจัดเก็บปลอดภัยด้วยกระดุมแม่เหล็ก เสริมฟังก์ชันพิเศษเอาใจสายสเกต ที่ด้านล่างของสายกระเป๋าสามารถใส่สเกตบอร์ดจะสะพายไปที่ไหนก็เท่ ราคา 590 บาท MAHANAKHON พร้อมแล้วที่จะให้คุณสะท้อนความเป็นตัวเองผ่านคอลเลคชั่น "MAHANAKHON X SOMJAI : PAINT YOUR LIFE" ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมจับจองเป็นเจ้าของไอเทมสตรีตแวร์เท่ๆ ได้ทาง Mahanakhonshop_bkk: Facebook / Instagram / Line สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ King Power Contact Centre โทร.1631
Editor
19 November 2021
BeautyBest Buy

BEAUTY : BEST BUY
รวมไอเทมชิ้นพิเศษ​ เพิ่มออร่าความสวยสดใส
เตรียมรับเทศกาล​แห่งความสุขที่กำลังจะมาถึง

PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS 1. HOURGLASS Voyeur Waterproof Liquid Liner SHOP NOW 2. GIVENCHY L'Intemporel Blossom Fresh-Face Compact Day Cream SPF 15 PA+ Anti-Fatigue SHOP NOW 3. BVLGARI Allegra Fiori D'Amore EDP 50 มล. SHOP NOW 4. CLARINS Extra-Firming Neck & Décolleté 75 มล. SHOP NOW 5. SISLEY Black Rose Precious Face Oil 25 มล. SHOP NOW 6. HOURGLASS Veil Mineral Primer 30 มล. SHOP NOW 7. GUCCI Flora Gorgeous Gardenia Eau de Parfum for Women 50 มล. SHOP NOW 8. HOURGLASS Ambient Lighting Blush 4.2 กรัม SHOP NOW 9. GIVENCHY Le Rouge Deep Velvet Powdery Matte High Pigmentation SHOP NOW
Editor
19 November 2021
HighlightWhat's New

WATCH PRO

PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS Elegance คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทน แห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว Elegance คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทน แห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว PHOTOGRAPHY : COURTESY OF BRANDS LONGINES บทพิสูจน์แห่งความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การเปิดตัวคอลเลคชั่น Longines Master เป็นครั้งแรกในปี 2005 โดยนาฬิกาทุกเรือนติดตั้งด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ และเต็มไปด้วยคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่าง นับเป็นการผสมผสานความสง่างามแบบคลาสสิกและคุณภาพอันเป็นเลิศได้อย่างดี Longines Master Collection 34mm Ladies Watch รุ่น L2.409.4.87.2 นี้ ตัวเรือนรังสรรค์ขึ้นด้วยสเตนเลสสตีลขนาด 34 มิลลิเมตร หน้าปัดหอยมุกทรงกลม โดดเด่นด้วยตำแหน่งบอกชั่วโมงประดับเพชรเสริมด้วยเข็มสีเงินแบบคลาสสิก นาฬิกาที่น่าประทับใจนี้ยังมีหน้าปัดข้างขึ้นข้างแรมที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยกระจกคริสตัลแซปไฟร์ สามารถสำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง ระดับการกันน้ำที่ 3 บาร์ (30 เมตร) และสวยงามลงตัวด้วยสายหนังจระเข้สีแดง LONGINES เรื่องราวขับขานบทใหม่แห่งคอลเลคชั่นที่ผ่านการนิยามอย่างเป็นเอกลักษณ์ถึงการออกแบบอันอ่อนโยน เรือนเวลารุ่นใหม่ที่พร้อมจะสะกดทุกสายตาของคุณสุภาพสตรีผู้ปรารถนาในการแต่งแต้มสีสันให้แก่ชีวิต ด้วยนาฬิกา Longines DolceVita L5.512.4.71.7 ที่มาพร้อมกลไกระบบควอตซ์ โดดเด่นด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 37 มิลลิเมตร ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยกระจกหน้าปัดแซปไฟร์ ระดับการกันน้ำที่ 3 บาร์ (30 เมตร) ดูเรียบหรูยิ่งขึ้นด้วยสายรัดหนังจระเข้สีน้ำเงิน สามารถเปลี่ยนสายได้ โดยไลน์นี้นำเสนอนาฬิกาสำหรับบุรุษและสตรีอย่างหลากหลาย สอดรับกับ "dolce vita" ของอิตาลี Versatility ดึงดูดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านเรือนเวลาสุดโปรดที่บ่งบอกความเป็นตัวตน LONGINES ผลงานแห่งประสิทธิภาพ คืนชีวิตชีวาให้โลกใต้ทะเล ด้วยนาฬิกาในคอลเลคชั่น HydroConquest ซึ่งผสมผสานไว้ด้วยความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและความสง่างาม ผสมผสานตัวเรือนสเตนเลสทรงกลมขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมสายรัดยางสีน้ำเงินเข้ากับตัวล็อกปุ่มกด โดดเด่นด้วยหน้าปัดแอนะล็อกสีน้ำเงินล้อมกรอบเซรามิกแบบหมุนได้ทิศทางเดียว พร้อมช่องแสดงวันที่และเข็มนาฬิกาเคลือบ Super-Luminova ป้องกันการขีดข่วนด้วยกระจกคริสตัลแซปไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนหลายชั้นทั้งสองด้าน มาพร้อมกลไกการเคลื่อนไหวอัตโนมัติของ Calibre L888 โดยสามารถสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง และระดับการกันน้ำที่ 300 เมตร SEIKO นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำที่แสวงหาความท้าทาย  โดยเฉพาะการได้แหวกว่ายไปกับฝูงปลากระเบนในท้องทะเลยามค่ำคืน ให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์แห่งท้องทะเล แรงบันดาลใจของ Seiko Save The Ocean Special Edition รุ่น SRPF77K ที่มาในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 45 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดลวดลาย Manta Ray ที่แหวกว่ายในท้องทะเลเวลากลางคืน มาพร้อม Lumibrite เรืองแสงชัดเจนแม้ที่แสงน้อย ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกและกระจกคริสตัลแชปไฟร์ กระชับข้อมือด้วยสายรัดซิลิโคนสีน้ำเงิน กลไกการเคลื่อนไหวอัตโนมัติแบบไขลานกำหนดเอง ระดับการกันน้ำที่ 200 เมตร นำเสนอผ่านตัวเรือนแบบเต่าและซามูไรที่ทุกคนคุ้นเคยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ King Power Contact Centre โทร.1631 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
Editor
18 November 2021
Lifestyle

LIFESTYLE
The Beatles: Get Back
บทสนทนาจากช่วงเวลาสุดท้ายของวงดนตรี
ที่โด่งดังที่สุดในโลก

ย้อนกลับไปช่วงกลางยุคซิกซ์ตีส์... ในขณะที่โลกกำลังถูกเขย่าโดยวงดนตรีที่มีชื่อว่า The Beatles อย่างเมามันและเมามาย แต่แล้วในวันที่ 29 สิงหาคม 1966 หลังจากการแสดง ณ สนามกีฬา Candlestick Park ซานฟรานซิสโก จบลง ก็คงไม่มีใครคาดคิดว่านั่นคือการแสดงสุดท้ายบนเวทีของพวกเขา จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่ 30 มกราคม 1969 ผู้คนที่สัญจรไปมาใจกลางกรุงลอนดอนต่างมองซ้ายมองขวาพร้อมกับมีคำถามว่า “ได้ยินเสียงอะไรไหม?” และเมื่อมองขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแอปเปิลจึงพบว่า The Beatles กำลังเล่นดนตรีอยู่บนนั้น การแสดงในวันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ที่มาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ (Let It Be) ซึ่งเป็นความพยายามในการ “กลับมาทำงานด้วยกัน” ของสมาชิก ที่ก่อนหน้านี้เกิดอาการไม่ลงรอยกันอย่างหนัก Paul McCartney เสนอไอเดียให้วงกลับไปทำงานกันแบบยุคเริ่มต้น นั่นคือทำเพลง ดีไซน์ให้มันเล่นสดได้ แล้วก็เล่นให้คนดู โดยระหว่างที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำการแสดงกันที่ไหน ก็มีคำสั่งให้เริ่มถ่ายทำและบันทึกภาพการทำงานของ The Beatles เอาไว้ด้วยเพื่อทำเป็นสารคดีฉายทางโทรทัศน์แต่ดูเหมือนว่าหลายๆ อย่างไม่เป็นดั่งที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศในการทำงาน การทำสารคดี รวมไปถึงความพยายามในการคืนดีกันของพวกเขา สุดท้ายแล้ว จากสารคดีทางโทรทัศน์ถูกตัดให้กลายเป็นภาพยนตร์ความยาว 80 นาที จากชื่อ Get Back ถูกเปลี่ยนเป็นชื่อ Let It Be และแน่นอนไม่เคยมีใครได้เห็นพวกเขาพร้อมหน้าพร้อมตากันครบสี่คนอีกเลย ภาพยนตร์สารคดี Let It Be ออกฉายในปี 1970 และได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหลากหลาย แม้ว่าจะได้รับทั้งรางวัลออสการ์และแกรมมีในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้น ทว่าคนดูกลับโฟกัสไปยังสิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่กว่านั้น อันที่จริงก่อนหน้านี้แทบไม่เคยมีใครเคยเห็นการทำงาน การซ้อม หรือการแจมดนตรี ของ The Beatles มาก่อน ความตลก (ร้าย) ก็คือ พอทั้งโลกได้เห็น ก็ดันเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของวงเสียแล้ว อัลบั้มอันยอดเยี่ยม ภาพยนตร์สุดเอกซ์คลูซิฟ หรือรางวัลเกียรติยศใดๆ กลายเป็นเพียงแค่ฉากสุดท้ายของวงดนตรีที่โด่งดังที่สุดในโลก และเรื่องราวดูเหมือนว่าจะจบลงเพียงเท่านี้ 50 ปีต่อมา... ฟุตเทจที่ถูกหลงลืมจากปี 1969 ความยาวกว่า 55 ชั่วโมง พร้อมกับเสียงบันทึกอีก 140 ชั่วโมง ที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน ได้ตกมาอยู่ในมือของ Peter Jackson ผู้กำกับที่สร้างชื่อจากมหากาพย์ The Lord of the Rings, The Hobbit และล่าสุดกับ They Shall Not Grow Old ภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่คว้ารางวัลมาแล้วหลายเวที ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นไปทั่วโลกในทันที โดยเฉพาะกับบรรดาแฟนๆ สี่เต่าทองรวมถึงผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ดนตรี แน่นอนว่าโปรเจกต์นี้ได้รับความเห็นชอบจาก Paul McCartney, Ringo Starr, Yoko Ono และ Olivia Harrison เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางด้านผู้กำกับ Peter Jackson ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ซึ่งยิ่งกระตุ้นความน่าดูขึ้นอีกหลายเท่าว่า “ผมรู้สึกโล่งใจที่ได้รู้ว่าความเป็นจริงนั้นไม่เหมือนกับอะไรที่คนคิดกันตลอดเวลาที่ผ่านมา เพราะหลังจากที่ได้ดูฟุตเทจทั้งหมดแล้ว ช่วงเวลา 18 เดือน ก่อนที่พวกเขาจะแยกวงนั้นถือเป็นขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ แน่นอนว่ามันก็มีอะไรดราม่าอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เราสนใจจริงๆ คือการดู จอห์น พอล จอร์จ…
Editor
17 November 2021
Food & DrinksLifestyle

FOOD & DRINKS
ละเลียดบรรยากาศแห่งความสุข
ด้วยเครื่องดื่มจากบาร์ชั้นเยี่ยม
พร้อมรับลมชมวิวสุดอลังที่ มหานคร รูฟท็อปบาร์

เมื่อฤดูหนาวเริ่มมาเยือนอีกครา ทำให้หลายคนหวนคิดถึงช่วงเวลาแห่งการได้ดื่มด่ำบรรยากาศความสุข ไปกับเครื่องดื่มแก้วโปรดและคนรู้ใจ ท่ามกลางลมเย็นสบายบนตึกสูงในเมืองกรุง Power จึงไม่พลาดโอกาสนี้ด้วยการพาคุณไปสัมผัสกับแลนด์มาร์กท่องเที่ยวระดับโลกของประเทศไทย ใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อให้คุณได้พบกับประสบการณ์การชมวิวสุดอลังการในรูปแบบใหม่ ที่ทั้งงดงามและน่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมแนะนำเครื่องดื่มหลากหลายเมนูชื่นใจ เพื่อให้คุณได้ละเลียดไปกับบรรยากาศสุดผ่อนคลายที่พิเศษเหนือใคร จากชั้น 78 บนอาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ที่มหานคร รูฟท็อปบาร์ หนึ่งในรูฟท็อปบาร์ชั้นเยี่ยมที่ดีที่สุดที่เราอยากให้คุณได้ลองมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต กับบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์อันตระการตาแบบ 360 องศา ที่ความสูงเหนือระดับพื้น 314 เมตร ให้คุณได้อิ่มเอมใจไปกับความงดงามของเมืองในมุมสูงกว้างไกลสุดสายตา พร้อมกับเครื่องดื่มเมนูม็อกเทลซิกเนเชอร์ที่รังสรรค์มาเพื่อให้คุณได้เลือกดื่มด่ำในโอกาสพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Jelily Joly เมนูสดชื่นที่มาพร้อมความหอมจากกลิ่นดอกไม้ Jelily Joly มีทั้งความซาบซ่าของโซดา ผสานรสหวานอมเปรี้ยวจากโมแนง มะนาว และสับปะรด ตกแต่งด้วยเจลลี่ เลมอนหั่นสไลด์ และดอกไม้สีสันสดใส เข้าได้กับวิวเมืองกรุงอันงดงามทั้งเช้าและเย็น Mahanakhon’s Dragon Sunset รับรองว่าหากใครที่ชื่นชอบน้ำผลไม้ต้องประทับใจ Mahanakhon’s Dragon Sunset เมนูที่ผสมผสานความหวานอมเปรี้ยวจากน้ำส้ม น้ำมะนาว น้ำสับปะรด และน้ำทับทิม เติมความหวานละมุนด้วยโมแนงกลิ่นผลไม้ Virgin Mojito เมนูสุดคลาสสิกที่เชกเมื่อไหร่ก็นึกถึงความอร่อย Virgin Mojito จากส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเปรี้ยวของน้ำมะนาว ความซาบซ่าของโซดา และความสดชื่นจากใบสะระแหน่ เหมาะอย่างยิ่งในการนั่งจิบรับลมเย็นสบาย Passion Delight เติมเต็มช่วงเวลาพิเศษด้วย Passion Delight พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มรสความอร่อย ด้วยความสดชื่นของโซดา น้ำมะนาว และแพสชันฟรุตพูเร ตัดสีสันเข้ากับดอกไม้สีแดงสด ท็อปด้วยไข่ขาวเติมเสน่ห์ให้แก้วนี้น่าค้นหามากยิ่งขึ้น Sky Castle ชื่นชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของผืนฟ้า พร้อมเอ็นจอยไปกับ Sky Castle ที่นำเสนอมาในรูปแบบเลเยอร์ เผยให้เห็นการไล่เรียงชั้นสวยๆ ของแพสชันฟรุตพูเรและน้ำมะนาว เพิ่มความซาบซ่าด้วยโซดา ปิดท้ายความอร่อยด้วยผลเสาวรสเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ Magic Peak ปิดท้ายกันที่ Magic Peak เครื่องดื่มสุดสร้างสรรค์สีน้ำเงินที่มาพร้อมกับเวทมนตร์แห่งความอร่อย ใครเห็นเป็นต้องอยากลอง น้ำอัญชันกลิ่นหอมใบเตยและตะไคร้ เสิร์ฟพร้อมมะนาวหั่นซีก เพิ่มกิมมิกให้การดื่มสนุกยิ่งขึ้น ด้วยการบีบน้ำมะนาวลงไป จากนั้นคนให้เข้ากัน สีของเครื่องดื่มจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงน่ารับประทาน   คิง เพาเวอร์ มหานคร พร้อมแล้วที่จะให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์เหนือความคาดหมาย จากบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่ มหานคร รูฟท็อป บาร์ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 - 00.00 น. เดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อมต่อสถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3 ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/KingPowerMahanakhon หรือ https://kingpowermahanakhon.co.th หรือโทรสอบถามได้ที่หมายเลข 0 2677 8721 ทั้งนี้ ความปลอดภัยและความสบายใจของลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด จึงได้มีมาตรการป้องกันและข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัย มีการตรวจสอบอุณหภูมิ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ปฏิบัติตามนโยบาย Social Distancing ตลอดจนดูแลความสะอาดและสุขอนามัยขั้นสูงสุดในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติการทั้งหมด #MahanakhonRooftopBar #MahanakhonSkyWalk #KingPowerMahakhon
Editor
17 November 2021