KING POWER SONGKRAN RANGNAM NAKARA
คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดงาน “คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา”
ฉลองปีใหม่ไทยอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ภายใต้คอนเซ็ปต์วิถีไทยร่วมสมัย ชูความงดงามและเสน่ห์ของอัตลักษณ์ไทย
พร้อมเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีไทยผ่านการจำลองเมืองโบราณและตลาดน้ำใจกลางกรุงเทพฯ
เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10-15 เมษายน ที่ผ่านมา ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
คิง เพาเวอร์ จำลองบรรยากาศงานสงกรานต์แบบไทยๆ มาไว้กลางกรุง พร้อมชวนคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกร่วมแต่งกายในชุดไทยร่วมสมัย มาดื่มด่ำความเป็นไทยไปกับหลากหลายกิจกรรมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีตลอดงาน
สำหรับพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการมีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา ณ ฟาวน์เทน สแควร์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยได้รับเกียรติจาก วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็นประธานในพิธี และมี อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้การต้อนรับ ร่วมด้วยเหล่าเซเลบริตี้หัวใจรักความเป็นไทยมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์มหามงคลในปีนี้ คิง เพาเวอร์ ในฐานะสถานที่ยอดนิยมที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจากทั่วโลก ได้ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ขึ้นเป็นปีแรก และตั้งเป้าจัดเป็นประจำทุกปี พร้อมต้องการให้บรรจุลงในปฏิทินกิจกรรมท่องเที่ยวประจำปีของไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้มาเรียนรู้วิถีประเพณีสงกรานต์ไทยและสัมผัสเสน่ห์ของอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านกิจกรรมมากมายในงาน
ขณะที่ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตระหนักถึงความสำคัญของการสืบสานประเพณีที่ดีงาม จึงได้ร่วมกับ คิง เพาเวอร์สืบสานประเพณีสงกรานต์ เผยแพร่องค์ความรู้ และส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนไทยร่วมกันสืบสานประเพณีสงกรานต์ที่เหมาะสมสอดคล้องกับยุคสมัย ดำรงรักษาแบบแผนประเพณีสงกรานต์ให้ยังคงความงดงาม และสืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังได้เตรียมบรรจุงาน “คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา” ให้เป็นหนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ประจำปีของปฏิทินท่องเที่ยวไทย และเป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อไป
เพื่อให้เทศกาลแห่งความสุขนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม และสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทยอย่างแท้จริง คิง เพาเวอร์ ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. โดยจำลองบรรยากาศด้านหน้าคิง เพาเวอร์ รางน้ำ ให้เหมือนกับเมืองโบราณและตลาดน้ำที่ชวนให้สัมผัสกับวิถีไทยในอดีตตั้งแต่ก้าวแรก โดยสะท้อนเสน่ห์ของความเป็นไทยที่กาลเวลาไม่อาจลบเลือนผ่าน 5 โซนที่พลาดไม่ได้แม้แต่โซนเดียว
เริ่มจาก “โซนวัด” มีการอัญเชิญพระพุทธรูปยุคต้นรัตนโกสินทร์ประจำวัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก) ที่มีอายุกว่า 200 ปี มาประดิษฐานยังบริเวณลาน “เรารักพระเจ้าอยู่หัว” ให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมสรงน้ำพระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสปีใหม่ไทย และสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยอันดีงามกับหลากหลายกิจกรรม อาทิ การก่อเจดีย์ทราย และการละเล่นพื้นบ้านแบบไทยๆ ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่ เช่น ขาโถกเถก หมากเก็บ ตี่จับ และรีรีข้าวสาร
เพลิดเพลินบันเทิงใจแล้วไปต่อที่ “โซนตลาด” เอาใจสายกินด้วยการรวบรวมร้านอาหารดังมากมาย อาทิ ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอด พลับพลาไชย, ร้านพระรามลงสรง-หมูสะเต๊ะ จึงอังลัก, ร้านไอติมไข่แข็ง เซนต์หลุยส์ 3, ร้านบัวลอยกลมเกลียวแม่แกว, ร้านกุยช่ายคุณแม่, ร้านขนมเบื้องไทย ปัณณธร และ ร้านกาแฟ โกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ เป็นต้น มาให้อิ่มอร่อยในรูปแบบตลาดบก ถ้ายังไม่จุใจไปตื่นตาตื่นใจกับการเดินชิมของอร่อยในตลาดน้ำกลางกรุงเทพฯ กับเรือหมี่กรอบทรงเครื่อง, เรือขนมเบื้องญวน, เรือก๋วยเตี๋ยวลุยสวน, เรือเฉาก๊วย, เรือผลไม้, เรือขนมไทย, เรือขนมดอกจอก และเรือปลากริมไข่เต่า เป็นต้น
จากนั้นไปสัมผัสวิถีการดำรงชีวิตแบบท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ณ “โซนทุ่ง” ซึ่งมีไฮไลต์คือ มาสคอตควายเผือก สัตว์คู่ทุ่งนาของคนไทยที่มาช่วยเติมเต็มบรรยากาศของท้องทุ่งให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างรื่นรมย์ ก่อนไปเพลินกันต่อที่ “โซนสวน” ชมการแสดงจาก 4 ภาคที่หมุนเวียนมาให้ชมกันอย่างจุใจตลอดงาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงจากภาคใต้ อาทิ ระบำแขกแดงเกี้ยวยาหยี, บาบ๋า ย่าหยาอารตี, รำรองเง็ง, รำกีปัสเรนัง, รำตารีบุหงา, อารีฮาตี, มโนราห์ และ รำประทีปบูชาพระธาตุการแสดงจากภาคอีสาน อาทิ การแสดงชุดเอิ้นสาว, ฟ้อนบั้งไฟ, รำกระทบไม้อีสาน,ฟ้อนภูไท และฟ้อนตังหวาย การแสดงจากภาคเหนือ อาทิฟ้อนนกกิงกะหล่า, กลองสะบัดชัยออกฟ้อนขันตอก, ฟ้อนสาวไหม, ฟ้อนผางประทีป, ระบำชาวเขาและ ฟ้อนเงี้ยวเมือง การแสดงจากภาคกลาง อาทิรำกลองยาว, รื่นเริงบันเทิงโทน, ระบำปล่อยนกปล่อยปลา และ ระบำฉิ่ง เป็นต้น
ปิดท้ายด้วย “โซนบ้าน” นำเอกลักษณ์ของรูปแบบวิถีไทยทั้ง 4 ภาค มาถ่ายทอดผ่านเรือนไทย 4 หลังที่มีเอกลักษณ์ต่างกันไปตามสภาพภูมิประเทศและอากาศที่แตกต่างกัน โดยบ้านแต่ละหลังจะใช้สีไทยโทนอันเป็นเอกลักษณ์มาเป็นองค์ประกอบเช่น บ้านเรือนภาคเหนือ ใช้สีเหลืองจำปา ภาคกลาง ใช้สีเขียวก้านมะลิ ภาคอีสาน ใช้สีเหลืองดอกบวบและภาคใต้ ใช้สีดินแดงเทศ โดยบริเวณด้านหน้าเรือนไทยแต่ละหลัง ไม่เพียงมีการสาธิตศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น เช่น การสานปลาตะเพียน, ร้อยมาลัย, ปั้นดิน และ วาดบาติก แต่ยังรวบรวมอาหารดังประจำภาคมาไว้ด้วย อาทิ ขนมจีนแกงใต้, ไก่ทอดหาดใหญ่, ไส้อั่ว, ข้าวซอย ,ข้าวแช่ ฯลฯ
นอกจากจะเตรียมความสนุกสนานมาให้ได้ชุ่มฉ่ำเบิกบานไปกับสายนทีแล้ว ตลอดงานยังมีกองทัพศิลปินมาร่วมมอบความบันเทิงให้ได้สุขสันต์อย่างจุใจ พร้อมด้วยไฮไลต์ที่พลาดแล้วจะเสียใจกับขบวนพญานาคราช และขบวนแห่นางสงกรานต์ “มโหธรเทวี” สุดอลังการจากดาราหญิงชั้นนำของประเทศไทยที่สลับหมุนเวียนกันมาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นนางสงกรานต์ในชุดไทยโบราณแบบสมัยอยุธยา วิจิตรงดงามด้วยผ้าไหมทอยกทองทั้งผืน สไบสองบ่า ผ้ายกในราชสำนักประดับศิราภรณ์ เครื่องประดับทอง และนิลกาฬแบบทรงเครื่องตลอด 6 วันเต็ม ประกอบด้วย คิม–คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส, แต้ว–ณฐพร เตมีรักษ์, ปู–ไปรยา ลุนด์เบิร์ก, เบลล่า–ราณี แคมเปน, ขวัญ–อุษามณี ไวทยานนท์ และ มิ้นต์–ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง
ส่วนศิลปินที่ผลัดเปลี่ยนกันมามอบความบันเทิงให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ได้แก่ กัน–นภัทร อินทร์ใจเอื้อ, กั้ง–วรกร ศิริสรณ์, Paradise Bangkok Molam International Band, มโนราห์ไพศาล ขุนหนู, หนุ่มๆ จาก SBFiVE นำทีมโดย คอปเตอร์–ภานุวัฒน์ เกิดทองทวี, คิมม่อน–วโรดม เข็มมณฑา, ตี๋–ธนพล จารุจิตรานนท์, เต้–ดาวิชญ์ กรีพลฤกษ์ และ บาส–สุรเดช พินิวัตร์
นอกจากนี้ยังมีนักร้องเสียงดีอย่างสุนทรี เวชานนท์, ลานนา คัมมินส์, วงสุนทราภรณ์, BNK48, คริส–พีรวัส แสงโพธิรัตน์, สิงโต–ปราชญา เรืองโรจน์, คณะลิเกไชยา มิตรชัย จากนั้นไปส่งท้ายปีใหม่ไทยอย่างตระการตากับศิลปะการต่อสู้มวยไทย และใจละลายไปกับความน่ารักของหนุ่มๆ จาก Conversation Thailand นำทีมโดย เกรท–สพล อัศวมั่นคง, พอร์ช–ศิฑา กาญจนอลงกรณ์, แก๊ป–กิตติชัช เดชาหัวสิงห์ และ มิวซ์–ณัฐวิทย์ ผิวงาม
Shopping Online