DestinationLifestyle

DESTINATION
Family Trip เที่ยวคูลๆ ในวันครอบครัว

By 12 April 2021 No Comments

เมษายนอาจจะถือได้ว่าเป็นเดือนแห่งการพักผ่อน ด้วยความที่มีวันหยุดติดกันหลายวัน หลายคนจึงเลือกที่จะจัดทริปไปเที่ยวไกลๆ ในขณะที่อีกหลายคนก็ใช้โอกาสนี้ในการกลับไปเยี่ยมบ้าน ทำให้พ่อ แม่ พี่ น้อง และญาติๆ ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในเดือนที่ร้อนที่สุดของปี

ว่าแล้วก็ต้องหากิจกรรมคลายร้อนกันสักหน่อย อย่างในวันที่ 13 เมษายน นอกจากจะเป็นวันสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ของไทยแล้ว ก็ยังเป็นวันผู้สูงอายุอีกด้วย เด็กๆ หลังจากสนุกสนานกับการเล่นน้ำก็จะมารดน้ำขอพรผู้ใหญ่กัน พอวันรุ่งขึ้น 14 เมษายน ก็เป็นวันครอบครัวต่อเนื่องกันมา ทำให้ทั้งครอบครัวนิยมพากันไปหาของกินอร่อยๆ ไปเที่ยวตามที่ต่างๆ Power เลยจะมาแนะนำจุดหมายปลายทางสำหรับทริปครอบครัว ตลอดจนกิจกรรมที่น่าสนใจที่จะช่วยลดดีกรีความร้อนของเดือนเมษาฯ ลง ให้เหลือแค่ “อบอุ่น” กำลังดี

สิริมหรรณพ กรุงเทพมหานคร

ห้องอาหารและบาร์ที่ลอยโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ สร้างขึ้นโดยมี “เรือทูลกระหม่อม” เรือใบสามเสาคล้ายเรือสําเภาซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเป็นต้นแบบ โดยถือเป็นเรือประวัติศาสตร์ที่ทำหน้าที่เชื่อมสยามกับโลกตะวันตก ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชดําริเรื่องการเปิดการค้าเสรี การทำสนธิสัญญาเบาว์ริง และการเดินเรือกับอังกฤษ กระทั่งในเวลาต่อมาเมื่อถึงคราวจำเป็น เรือทูลกระหม่อมก็ได้เปลี่ยนหน้าที่จากเรือสินค้าไปเป็นเรือรบประจำการป้องกันปากน้ำเจ้าพระยา ก่อนจะถูกปลดระวางในฐานะเรือรบใช้ใบลําสุดท้ายของกองทัพเรือ

สิริมหรรณพ พร้อมพาคุณและครอบครัวไปสัมผัสกับประสบการณ์พิเศษ ด้วยอาหารและเครื่องดื่มมากมายทั้งไทยและยุโรป ท่ามกลางบรรยากาศแห่งประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ณ ท่าเรือของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ท่าเรือขนส่งระหว่างประเทศแห่งแรก อดีตย่านอุตสาหกรรมที่ยังคงความมีชีวิตชีวาไม่เสื่อมคลาย โดยไฮไลต์อยู่ที่บริเวณชั้นดาดฟ้าของเรือ (Upper Deck) ที่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพธรรมชาติอันงดงามและความฉ่ำเย็นของสายน้ำแห่งแผ่นดิน สถาปัตยกรรมสะพานแบบอสมมาตรที่สูงเป็นอันดับ 5 ของโลกของสะพานพระราม 3 ตลอดจนเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตริมฝั่งเจ้าพระยา พอถึงกลางคืนก็ได้เวลาเปลี่ยนบรรยากาศไปสู่การดื่มด่ำแสงไฟแห่งกรุงเทพมหานคร ที่ส่องสว่างตัดกับท้องฟ้าและผืนน้ำอันมืดมิด

การเดินทางสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเชื่อมต่อสถานีสะพานตากสิน ทางออก 2 แล้วต่อ Shuttle Boat ของโครงการ (ให้บริการเวลา 16.00 น. – 23.30 น.) หรือเรือด่วนเจ้าพระยาธงสีส้ม ลงที่ท่าเรือวัดราชสิงขร จากนั้นเดินต่อมาทางถนนเจริญกรุงอีกประมาณ 500 เมตร สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีที่จอดรถบริการอำนวยความสะดวก

เนื่องด้วยดาดฟ้าของเรือสิริมหรรณพสามารถรองรับได้ประมาณ 100 คน ฉะนั้นควรทำการจองก่อนล่วงหน้า โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและทำการจองได้ที่ โทรศัพท์ 0 2059 5999 เว็บไซต์ https://www.asiatiquethailand.com/th/home และ เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/sirimahannop/

สงกรานต์ไทยรามัญ นนทบุรี

วันสงกรานต์ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยรามัญเช่นเดียวกัน โดยจะมีการทำบุญ รักษาศีล และเฉลิมฉลองต้อนรับศกใหม่อย่างยิ่งใหญ่ อย่างงานประจำปีที่เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จะมีการทำบุญสำคัญ 3 วันด้วยกัน เริ่มตั้งแต่วันก่อนสงกรานต์กับประเพณีส่งขนมกะละแม ซึ่งจะต้องเตรียมการล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องใช้เวลาและแรงงานค่อนข้างมากในการทำ

ต่อมาในวันสงกรานต์ ชาวบ้านจะเตรียมข้าวแช่ หรือ เปิงด้าจก์ อาหารขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของชาวไทยรามัญ เอกลักษณ์ประจำหน้าร้อนที่ขาดไม่ได้ ไปทำบุญที่วัด โดยในระหว่างวันก็จะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ก่อเจดีย์ทราย การละเล่นสะบ้า สรงน้ำพระ ให้ได้สนุกสนานกัน พอหลังวันสงกรานต์ ก็จะมีการแห่น้ำหวานมาบรรจุขวดไปถวายพระตามวัดต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด สงกรานต์ของชาวไทยรามัญนั้นก็ยังคงเสน่ห์เอาไว้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย การไปสัมผัสวัฒนธรรมแท้ๆ ถึงเกาะเกร็ดนั้น เรียกได้ว่าเป็นทริปที่เหมาะสำหรับครอบครัวในวันหยุดนี้เป็นอย่างยิ่ง ทุกคนจะได้ชิมอาหารคาวหวานขึ้นชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวแช่ กาละแม ข้าวเหนียวแดงหรือข้าวเหนียวแก้ว ได้ทำบุญสรงน้ำพระให้เย็นไปถึงใจ รวมไปถึงได้เที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวเกาะเกร็ดในบรรยากาศแห่งความคึกคักของวันขึ้นปีใหม่ที่ทำให้คลายร้อนลงไปได้เยอะเลย

กุหลาบขาวบาน บนลานร่องกล้า พิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกนั้น ครอบคลุมพื้นที่รอยต่ออีก 2 จังหวัด ได้แก่ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ไปได้ไม่ยาก ในส่วนของการเดินชมอุทยานก็ค่อนข้างสะดวกเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เนื่องจากมีเส้นทางที่ไม่สลับซับซ้อน ประกอบกับอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปีของอุทยาน จึงช่วยบรรเทาความเหนื่อยและแสงแดดเดือนเมษาฯ ได้มากทีเดียว

เมื่อเดินจากที่ทำการอุทยานไปเพียง 1 กิโลเมตร ก็จะพบกับ “ลานหินแตก” ลานหินทรายที่มีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก ถือเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและกาลเวลาที่ต้องชื่นชมด้วยความระมัดระวังกันสักนิดหนึ่ง จากนั้นเมื่อเดินต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบกับอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ “ลานหินปุ่ม” ลานหินริมหน้าผาที่ความสูง 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยตลอดเส้นทางจะมีพืชพันธุ์ไม้ดอกสวยๆ มากมายให้ได้ชื่นชม ซึ่งในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมของทุกปี “ดอกกุหลาบขาว” พันธุ์ไม้พื้นถิ่นบนเทือกเขาจะเริ่มบานสะพรั่งสวยงามไปทั่วลานหิน เป็นความพิเศษที่พบได้เฉพาะที่ความสูงระดับนั้นเท่านั้น

การเดินชมศึกษาธรรมชาติที่ภูหินร่องกล้านั้นสามารถไปได้ทั้งครอบครัว ระยะทางไม่ใกล้ไม่ไกลพอเรียกเหงื่อได้เล็กน้อย โดยระหว่างทางอาจมีจุดที่ต้องระวังบ้าง เช่น การเดินในจุดที่ลื่น หรือ บริเวณหน้าผา ทุกคนจึงต้องคอยดูแลกันไปจนสุดทาง เพื่อที่ว่าสุดท้าย ความงดงามของดอกไม้ ลานหิน และภูเขา จะเป็นดั่งรางวัลที่ธรรมชาติเต็มใจจะมอบให้นั่นเอง

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1048 หรือ โทรศัพท์ 0 5535 6652, 0 815 965 977

มหานคร สกายวอล์ค กรุงเทพมหานคร

สถานที่สุดพิเศษที่สามารถมองเห็นกรุงเทพมหานครได้ทั้งเมือง ที่ที่คุณและครอบครัวจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามตระการตาเหนือคำบรรยาย จากจุดชมวิวภายนอกอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่ความสูง 314 เมตร ของ มหานคร สกายวอล์ค หนึ่งในจุดท่องเที่ยวชั้นเยี่ยมที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ ณ ชั้น 78 คิง เพาเวอร์ มหานคร

คิง เพาเวอร์ มหานคร พร้อมส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้วันหยุดของครอบครัวพิเศษมากกว่าที่เคย ซึ่งนอกจากฟ้าใสๆ ของเดือนเมษายน จะเหมาะอย่างยิ่งกับการชมวิวแล้ว ผู้ที่รักความท้าทาย พลาดไม่ได้กับการไปยืนบนพื้นกระจกลอยฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่ความสูง 310 เมตร เป็นอันขาด และในวันหยุดสงกรานต์ที่ 13 – 15 เมษายน 2564 นี้ รับของที่ระลึกจากทาง คิง เพาเวอร์ มหานคร พร้อมโปรโมชั่นบัตรขึ้นชม มหานคร สกายวอล์ค ในราคาพิเศษตลอดทั้งเดือนอีกด้วย

คิง เพาเวอร์ มหานคร มีบริการที่จอดรถสำหรับผู้ที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือผู้ที่เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะก็สะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสเชื่อมต่อสถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3 โดยผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรร่วมงาน ติดตามข่าวสาร รวมไปถึงโปรโมชั่นต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2677 8721 และ เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/KingPowerMahanakhon

*รับส่วนลดเพิ่มอีก 5% เมื่อซื้อบัตรขึ้นชม มหานคร สกายวอล์ค ผ่านเว็บไซต์ http://bit.ly/Mahanakhon-SkyWalk-Tickets

นิทรรศการ Okurimono: สุนทรียะแห่งการให้และได้คืนกลับ กรุงเทพมหานคร/ขอนแก่น

สำหรับใครที่คิดถึงญี่ปุ่น ในเดือนเมษายนนี้มีนิทรรศการสัญจรดีๆ ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นให้ไปชมกันพลางๆ ก่อนที่ TCDC อันเกิดจากความร่วมมือของ เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ที่ได้นำเสนอเรื่องราวของของขวัญและวัฒนธรรมการให้ของชาวญี่ปุ่น ในชื่อ “โอะกุริโมโนะ สุนทรียะแห่งการให้และได้คืนกลับ”

โดยนิทรรศการได้นําเสนอภาพกว้างเกี่ยวกับพิธีการ ธรรมเนียมปฏิบัติของการมอบของขวัญ พร้อมแนะนําลักษณะความงาม ตลอดจนความคิดคํานึงและปรัชญาของชาวญี่ปุ่นผู้อยู่เบื้องหลังของชิ้นนั้นๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมและเข้าใจลักษณะ “ความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ” และ “ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างผู้คน” ในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ของขวัญที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน หัวใจและศิลปะของการห่อของขวัญ ของขวัญจากพ่อแม่แก่ลูก และการมอบของขวัญเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ผ่านชิ้นงานทั้งสิ้น 98 ชิ้น จากยุคก่อนศตวรรษที่ 18 เรื่อยมาจนปัจจุบัน

เรื่องราวอันเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ใครๆ ต่างก็พากันหลงรักญี่ปุ่นอย่างวัฒนธรรมการให้ของขวัญนี้ นอกจากจะให้ความรู้แล้ว ยังมีส่วนช่วยทำให้ผู้ชมจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของ “ความใส่ใจ” และ “เจตนา” อันเป็นดั่งหัวใจของความสัมพันธ์ทุกรูปแบบอีกด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ฟรีที่ ห้องแกลเลอรี ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ เวลา 10.30 – 19.00 น. ได้ตั้งแต่วันนี้ – 25 เมษายน 2564 (ปิดวันจันทร์) หลังจากนั้นจะย้ายไปจัดแสดงที่ห้องแกลเลอรี ชั้น 1 TCDC จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่ 5 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2564 (ปิดวันจันทร์) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.tcdc.or.th/en/Events/Detail/30442

DESTINATION