FASHION EDITOR
SANSHAI
JIRAT SUBPISANKUL

PHOTOGRAPHER
SUTTHIWAT SANGKONG

STORY
PILAN SRIVEERAKUL

บิวตี้ซีเคร็ตที่ยังไม่เคยมีใครบอกคุณ 

1. ปัญหาริมฝีปากแห้งลอกไม่หยุด บางครั้งอาจเกิดจากการแพ้ยาสีฟัน เชื่อว่าปัญหานี้หลายคนเป็นครับ ตั้งแต่การทาลิปสติกแล้วปากแห้งลอก พอแห้งลอกก็ลองเปลี่ยนแบรนด์ แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนลิปสติกสักกี่แบรนด์ หรือใช้ลิปสติกดีและราคาแพงแค่ไหน ริมฝีปากก็ยังคงแห้งไม่หยุด ที่สำคัญคือ แม้จะหยุดทาลิปสติกแล้วหันมาทาลิปบาล์มแทน แต่ริมฝีปากก็ยังแห้งและลอกเหมือนเดิม ถ้าเป็นอย่างนี้ให้ลองเปลี่ยนยาสีฟันดูครับ เพราะหลายๆ คนแพ้สารบางอย่างในยาสีฟัน โดยเฉพาะสูตรไวเทนนิ่ง แนะนำให้ลองเปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันเด็กหรือยาสีฟันสมุนไพร แต่ถ้าเปลี่ยนยาสีฟันแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ดีที่สุดครับ

2. สกินแคร์ ไม่ว่าจะเป็นเอสเซนส์ เซรั่ม โลชั่น มอยส์เจอไรเซอร์ หรือครีมกันแดดเมื่อเปิดใช้แล้วมีอายุประมาณ 1 ปี อะไรที่เกี่ยวกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็นอายครีม มาสคาร่า อายไลเนอร์แบบลิควิด เมื่อเปิดใช้แล้วมีอายุประมาณ 6 เดือน งานผิวอย่างรองพื้น ไพรเมอร์ คอนซีลเลอร์ ถ้าเปิดใช้แล้วมีอายุประมาณ 1 ปี ส่วนอะไรที่เป็นคัลเลอร์อย่างลิปสติก อายแชโดว์ บลัชออน ไปจนถึงน้ำหอม เมื่อเปิดใช้แล้วมีอายุประมาณ 2 ปี ทั้งหมดที่กล่าวมาถ้ายังไม่เปิดใช้ให้คูณสองและเพิ่มช่วงระยะเวลาการใช้งานเข้าไป นอกจากนั้นยังควรคอยสังเกตผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่เราใช้ถ้ามีการเปลี่ยนสี กลิ่น หรือเนื้อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไป คือมีการแยกชั้น ควรหยุดใช้ทันทีสำหรับสกินแคร์บางอย่าง เช่น ครีมกันแดด ถ้าเลยวันหมดอายุไปแล้ว แต่สีและกลิ่นยังไม่เปลี่ยน เนื้อยังเหมือนเดิม ก็ไม่ควรใช้ เพราะแม้จะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แต่ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดย่อมลดลง จนอาจไม่สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและบีได้

3. ถ้าผิวแห้งลอกเป็นขุยหรือเป็นแผ่นแบบขั้นวิกฤต สิ่งที่ควรทำอันดับแรกคือหยุดทาแป้ง หยุดทารองพื้น หยุดปัดแก้ม ถ้ากลัวว่าหน้าจะดูซีดโทรมจนขาดความมั่นใจ คุณสามารถแต่งตา ปัดมาสคาร่า และทาลิปสติกได้ แต่ควรยุ่งกับผิวให้น้อยที่สุด และรีบหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่า ผิวเราแห้งลอกจากอะไร แพ้สกินแคร์หรือเมกอัพชิ้นไหน ถ้าผิวแห้งและลอกแค่นิดหน่อย อาจลองใช้เฟเชียลออยล์บำรุงให้ผิวชุ่มชื่นทั้งเช้าและเย็นนอกจากนั้นควรลองปรับเปลี่ยนเรื่องอาหารด้วยการลดการดื่มนม ผลิตภัณฑ์จากนม และลองลดแป้งและน้ำตาล บางคนที่ผิวแห้งลอกเป็นขุยตลอดเวลา เพราะร่างกายไม่ย่อยแป้ง นม และน้ำตาล แค่ลองลดอาหารที่มีส่วนผสมของแป้ง นม และน้ำตาล ก็จะช่วยให้ผิวดีขึ้น และช่วยลดอาการลอกของผิว

4. ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้ผลเร็ว แนะนำให้เล่นเวทเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะเมื่อร่างกายเรามีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน ร่างกายจะเผาผลาญได้ดีกว่า การคาร์ดิโออย่างเดียว 1-2 ชั่วโมงยังเผาผลาญได้ไม่ดีเท่าเล่นเวทเพียงครึ่งชั่วโมง ถ้ากลัวว่าการเล่นเวทจะทำให้ร่างกายดูบึกบึนเกินไป แนะนำให้ยกเวทด้วยน้ำหนักน้อยๆ แต่ยกถี่ๆ หลายๆ เซ็ต จะช่วยให้ได้กล้ามเนื้อที่ลีน พร้อมหุ่นที่เฟิร์มกระชับ และหลังเล่นเวท ให้คาร์ดิโอต่ออีกสักครึ่งชั่วโมง เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ จะช่วยเร่งการเผาผลาญและรีดน้ำหนักให้ลดลงได้เร็วขึ้น

5. ถ้าคุณเป็นคนที่ผิวไม่เรียบตึงและมีริ้วรอย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฮไลต์แบบฝุ่น ยิ่งไฮไลต์แบบวิบวับที่ผงมุกไม่ละเอียด ถ้าปัดเยอะจะยิ่งเน้นให้เห็นริ้วรอย เพราะผิวที่ไม่กระชับ ไม่เรียบเนียน บางทีใช้แปรงปัด ผิวจะเป็นคลื่นและพับเป็นจีบไปตามแปรง ถ้าปัดไม่เป็น ไล้สีไม่เก่ง อาจทำให้ไฮไลต์ลงไปกองตามริ้วตามร่อง แถมทำให้ผิวดูเขรอะและไม่สะอาด ถ้าอยากใช้ไฮไลต์ ควรเลือกแบบเนื้อครีม หรือเลือกใช้อิลูมิเนเตอร์ที่มีเนื้อเป็นประกายแทน แล้วค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วเกลี่ย จะง่ายกว่า คอนโทรลน้ำหนักและกำหนดพื้นที่ได้ง่ายกว่าใช้แปรงปัด และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนกว่า

6. นอกจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน และแสงแดด ที่ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวเร่งสร้างเม็ดสีมากเกินไปจนเกิดฝ้าและกระแล้ว ความร้อนยังเป็นตัวกระตุ้นให้ฝ้าและกระเข้มและชัดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องอบๆ ร้อนๆ อย่างห้องครัว หรือการอบซาวน่านานๆ นอกจากนั้นยังควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวเกิดอนุมูลอิสระ เช่น การสูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้า เพราะเมื่อผิวของเราเกิดอนุมูลอิสระ ประสิทธิภาพของผิวในการรับมือกับแสงแดดจะยิ่งลดลง ทำให้ผิวเกิดความเสื่อม และทำให้ฝ้าและกระแลดูชัดขึ้นอีกเช่นกัน 

7. นอกจากการทาครีมกันแดดและการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มไบรเทนนิ่งเพื่อดูแลผิวในเรื่องความกระจ่างใสแล้ว เรายังควรเลือกรับประทานผักและผลไม้สดที่เป็นซูเปอร์ฟู้ด ซึ่งมีสารช่วยบำรุงผิว เพื่อรับมือกับแสงแดดและปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ไลโคปีนจากมะเขือเทศ วิตามินซีจากผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม เบต้าแคโรทีนจากแครอตหรือสับปะรด หรือสารแอนตี้ออกซิแดนต์ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อย่างสตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และกูสเบอร์รี่ ซึ่งเหล่านี้นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวในเรื่องความกระจ่างใสได้อีกด้วย

BEAUTY INSIDER

EDITOR’S PICK

BEAUTY INSIDER

*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า