Beauty Insider: Hello Sunshine

WHAT EXACTLY ARE UV AND SPF?

แสงแดดที่ส่องผ่านชั้นบรรยากาศโลก ประกอบด้วยแสงอัลตราไวโอเลต 2 แบบ คือ Ultraviolet A (UVA) ซึ่งเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่า เป็นตัวทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยความเข้มข้นของ UVA นั้นไม่ผันไปตามช่วงเวลาไม่ว่าหน้าร้อนหรือหน้าหนาวก็มีความเข้มข้นเท่ากัน และยังส่องผ่านกระจกได้อีกต่างหาก

ส่วน Ultraviolet B นั้นมีผลต่อผิวชั้นนอกผิวเลยสร้างเม็ดสีเมลานินเพื่อปกป้อง ซึ่งส่งผลให้สีผิวเข้มขึ้น แต่เมื่อโดนแดดนานๆ เข้า ร่างกายผลิตเมลานินมาเพื่อปกป้องไม่ทัน จึงทำให้เกิดอาการผิวไหม้ UVB จะมีความเข้มข้นสูงสุดในช่วง 10 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมง ซึ่งในหน้าร้อน UVB จะมีความเข้มข้นกว่าหน้าหนาว แต่ UVB ไม่สามารถลอดผ่านกระจกได้

ส่วน Sun-Protection-Factor (SPF) คือการวัดค่าประสิทธิภาพของสารกันแดดในการป้องกันอาการแดง อย่างเช่น ผิวที่ไม่ได้ปกป้องอะไรเลย ไปโดนแดดนาน 10 นาที ผิวถึงเปลี่ยนสี นั่นหมายความว่าถ้าคุณทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 จะสามารถปกป้องผิวคุณได้นานราว 150 นาที หรือ 15 เท่า ยิ่งค่า SPF สูงก็จะปกป้องผิวได้นานมากกว่า แต่จำไว้ว่าไม่มีสารกันแดดชนิดใดหรือค่า SPF สูงมากแค่ไหนที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ 100%

HOW TO APPLY SUNSCREEN

อย่างที่ย้ำนักย้ำหนาว่า เราควรใช้ครีมกันแดดทุกวัน ไม่ว่าจะทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือแค่นั่งทำงานในออฟฟิศก็ตาม โดยเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์ ถ้าโดนแดดน้อยก็ใช้ค่า SPF น้อยควรทา 15 นาทีก่อนออกแดด และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หากต้องทำกิจกรรมที่อยู่ข้างนอกเวลากลางวัน เพราะจะมีเหงื่อออกจากการออกกำลังกายหรือว่ายน้ำ (ถึงคุณจะใช้ครีมกันแดดสูตร Water-proof ก็ตาม) ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ใช้ควรมีส่วนผสมของ Averbenzone หรือ Parsol 1789 ซึ่งสามารถดูดซับ UVA ได้ถึง 80% และ Titanium Dioxide ที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB ไม่ทำให้ระคายเคืองผิวเหมือนกับสารเคมีบางชนิด ซึ่งทำงานด้วยการสะท้อนหรือกระจายแสงออก เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดให้เหมาะกับสภาพผิว สำหรับคนที่มีผิวมันหรือมีสิวง่าย ก็ควรใช้ชนิดที่เป็นแบบน้ำ เจล หรือสูตร Oil-free เพราะจะอุดตันรูขุมขนได้น้อยกว่าชนิดโลชั่นหรือครีม

ปริมาณของครีมกันแดดที่ทาแต่ละครั้ง ไม่ควรน้อยกว่า 1 ช้อนชา และควรทาเผื่อลงมาถึงลำคอด้วย เพราะริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ลำคอนั้นรักษายากยิ่งกว่าริ้วรอยบนใบหน้าหลายเท่านัก แม้การสวมเสื้อผ้าที่ปิดมิดชิดจะช่วยให้ผิวกายได้รับอันตรายจากรังสียูวีน้อยลงก็จริง แต่รังสีเแม้เพียงน้อยนิดก็เป็นอันตรายต่อผิวในระยะยาวได้ ต่อให้คุณสวมหมวกหรือเสื้อแขนยาว รังสียูวีก็สามารถทะลุผ่านหมวกและเสื้อผ้าที่มีเส้นใยบางเบาหรือถักทอไม่แน่นได้เช่นกัน

หากต้องการมีผิวสุขภาพดีเท่าเทียมกันทั่วเรือนร่าง ต้องทาผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งบริเวณที่ต้องสัมผัสแสงแดดโดยตรง เช่น ผิวหน้า ลำคอ หลังมือและส่วนที่ปกคลุมด้วยเสื้อผ้า เช่น ลำตัว แขน และขาด้วย ขอย้ำว่า การป้องกันแสงแดดควรเริ่มต้นปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตั้งแต่วันนี้ แม้วันนี้ผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดวันละไม่กี่นาที ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระในผิวชั้นลึกได้