Exclusive InterviewFashionNumber 132

Celebrity Talk:
Travel Brings Families Closer Together

By 13 February 2020 No Comments

เคยถามตัวเองไหมว่า มนุษย์เราออกเดินทางเพื่ออะไร ทำไมจุดหมายปลายทางที่เราไม่เคยรู้จักมักเรียกร้อง
ให้เราออกไปค้นหาได้เสมอ แม้คำตอบจะยังไม่ชัดเจนนัก แต่สำหรับบางคนการเดินทางก็เป็นไปเพื่อการเติมรักให้เต็ม
กระชับความสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่เรารักให้แน่น…นั่นแหละเหตุผลง่ายๆ ของการเดินทาง

STORY
SARANYU NOKKAEW

PHOTOGRAPHY
AEKARAT UBONSRI

“ช่วงชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้เหตุผลและความชอบในการเดินทางเปลี่ยน” มิว–นิษฐา จิรยั่งยืน นางเอกสาวสวย เปิดบทสนทนาว่าด้วยการเดินทางไว้อย่างน่าสนใจ และเธอเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีมุมมองด้านการเดินทางท่องเที่ยวเปลี่ยนไปตามจังหวะของชีวิต เริ่มจากเด็กที่โตมากับครอบครัวนักเดินทาง รักการผจญภัยในธรรมชาติ ชอบที่จะได้ไปเห็นโลกของสัตว์ชนิดต่างๆ โตขึ้นมาอีกนิดกับการเดินทางไปตามหาความสนุกในแบบฉบับของซิตี้ทัวร์ รักที่จะเข้าไปอยู่ในใจกลางมหานครขนาดใหญ่ ส่วนตอนนี้จังหวะชีวิตเริ่มกลับมาสู่โหมดสโลว์ไลฟ์ และมองหาจุดหมายของการเดินทางที่ไกลจากเมืองไปทุกที

“เมื่อก่อนไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปส่วนที่มีความเป็นซิตี้ไลฟ์ อย่างไปอิตาลีก็ต้องมิลาน ฝรั่งเศสก็ต้องปารีส ญี่ปุ่นก็ต้องไปเมืองใหญ่ๆ สนุกกับการเข้าไปในเมือง ดูอะไรที่เป็นแสงสี ชอบความเป็นเมืองใหญ่ มีของให้เดินดูโน่นดูนี่ น่าตื่นเต้น แต่ตอนนี้เหมือนชอบอะไรที่สงบลง ช้าลง ญี่ปุ่นตอนนี้ถ้าไป คือไปตามเมืองเล็กๆ เมืองที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ไปแช่ออนเซ็นเงียบๆ หรือถ้าเป็นอิตาลีก็ลงมาทางใต้เลย ซึ่งก็อาจจะเป็นไปตามจังหวะชีวิตในแต่ละช่วงวัยก็ได้ หรืออาจจะเริ่มจากการที่มิวมีโอกาสได้ไปทำงานในเมืองที่ไปยากมากๆ ไกลมากๆ ชนิดที่คิดในใจตอนนั้นว่า ชีวิตนี้คงไม่มาเที่ยวที่นี่เองแน่ๆ แต่ปรากฏพอไปถึงคือสวยมาก และชอบมาก”

มิวเล่าย้อนให้ฟังถึงความประทับใจในเมืองอัลเบอโรเบลโล (Alberobello) เมืองเล็กๆ ของอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่ารัก และมีเอกลักษณ์ที่ทั้งหมู่บ้านยังคงเป็นบ้านทรงอิตาลีโบราณที่หลังคาสร้างจากหินปูนเป็นทรงกรวยแหลมคล้ายดินสอ 

“อัลเบอโรเบลโล แค่ชื่อก็ยาก ไปยิ่งยากกว่า ตอนนั้นคิดว่าถ้ามาเที่ยวเองคงไม่ได้มาเมืองนี้แน่ๆ เพราะต้องนั่งรถไกลหลายชั่วโมง จริงๆ ทริปนั้นมิวไปทำงาน และไปแต่เมืองที่ไปยากๆ ไกลๆ อย่างอัลเบอโรเบลโล หรืออามาลฟี (Amalfi) แต่ทุกที่คือสวยสะกดเรามากๆ อามาลฟีนี่ต้องขับรถอยู่ริมภูเขา ไต่หน้าผาไปบนถนน 2 เลนแคบๆ แต่ก็ตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว ทั้งสวยและอากาศดี มิวก็เลยเริ่มคิดว่าถ้าไม่เที่ยวในเมืองใหญ่ๆ อย่างอิตาลีก็ไม่ต้องอยู่ในมิลาน ไปเที่ยวเมืองเล็กๆ อื่นๆ ก็สวยและมีอะไรให้ดูเหมือนกันนะ”

และเมื่อถามต่อถึงเมืองในฝัน หรือจุดหมายที่อยากไป มิวไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่าอยากไปท่องเที่ยวแบบซาฟารี เพราะปรารถนาจะได้ชมการอพยพครั้งใหญ่ของสัตว์ป่าแอฟริกาอย่างใกล้ชิด ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งในดินแดนแอฟริกาที่เธออยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง

“ถ้าให้เลือกสถานที่ท่องเที่ยว ก็จะเลือกสถานที่ที่มีความเป็นธรรมชาติมากๆ และด้วยความที่ตอนเด็กๆ เป็นคนชอบการไปสวนสัตว์ ชอบที่จะได้เห็นสัตว์ใหญ่ ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ให้อาหารสัตว์ แค่ให้อาหารยีราฟก็ตื่นเต้นแล้ว (หัวเราะ) และตอนนี้มิวก็ยังตื่นเต้นอยู่ ดังนั้นถ้าถามถึงดินแดนในฝัน จึงนึกถึงการท่องเที่ยวแบบซาฟารี ไปในป่าของจริง ได้ไปเห็นสัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติจริงๆ ว่าอยู่กันอย่างไร โดยเฉพาะสัตว์ขนาดใหญ่ ตอนนี้แค่ไปเขาใหญ่ แล้วได้เห็นช้างไกลๆ มิวก็ตื่นเต้นมากแล้วค่ะ”

นอกจากธรรมชาติแล้ว เรื่องอาหารการกินยังเป็นอีกหนึ่งความสนุกของการเดินทางตามแบบฉบับของมิว เห็นเป็นสาวหวานตัวเล็กอย่างนี้ แต่เรื่องอาหารการกินนี่มิวบอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ โดยก่อนเดินทางแต่ละครั้ง มิวต้องทำการบ้านก่อนว่า จุดหมายปลายทางที่จะไปนั้นมีอาหารท้องถิ่นอะไรที่ห้ามพลาด ร้านไหนอร่อย คิวยาว ต้องจองล่วงหน้า ได้หมดตั้งแต่สตรีตฟู้ดถึงไฟน์ไดนิ่ง แต่ขอเพียงเป็นอาหารท้องถิ่นที่อร่อยจริงๆ เท่านั้น

“ปกติเป็นคนรับประทานอาหารไม่เยอะ แต่ถ้าไปเที่ยวนี่ อิ่มแค่ไหนก็ต้องชิม อย่างไปเชฟส์ เทเบิ้ล (Chef’s Table) ที่ญี่ปุ่น เชฟเขาจะเลือกทำอาหารให้เราเองเป็นเซอร์ไพรส์ โดยที่เราไม่ทราบว่าจะได้รับประทานอะไร จริงๆ ก็อิ่มแล้ว แต่เชฟก็เสิร์ฟไม่หยุด มิวก็ชิมไม่หยุดเหมือนกัน ดังนั้นถ้ารู้ว่าทริปไหนจะต้องรับประทานอาหารเยอะ มิวจะชดเชยโดยรับประทานอาหารน้อยๆ ตั้งแต่ก่อนไปทริปเลย เพื่อที่เวลาไปเที่ยวแล้วจะได้รับประทานอาหารได้มากขึ้น (หัวเราะ)”

สำหรับการเดินทางในแต่ละครั้ง มิวจะมีครอบครัวนักเดินทางของเธออยู่เคียงข้างเสมอ ตั้งแต่เด็กๆ ถึงทุกวันนี้ มิวก็ยังเซ็ตวันลาพักร้อนของตัวเองเพื่อทริปครอบครัวฉบับจัดเต็ม เน้นขับรถเที่ยวยาวๆ ไปเลยครึ่งค่อนเดือน

“มิวไปเที่ยวกับครอบครัวมาตลอด และจะไปเที่ยวกันเอง วางแผนเอง มีครั้งเดียวเองค่ะที่ซื้อทัวร์ ส่วนใหญ่จะเน้นขับรถเที่ยวประมาณ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ดังนั้นมิวจะเซ็ตวันหยุดช่วงปีใหม่กับสงกรานต์เพื่อไปเที่ยวกับครอบครัว คุณพ่อขับรถ คุณแม่วางแผน เลือกพักในบ้านที่มีพื้นที่ส่วนกลางให้เราได้มานั่งคุย ทำอาหาร และดูทีวีด้วยกัน การท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวมิว คือโอกาสที่ทุกคนจะได้อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก้ปัญหาด้วยกัน แชร์ไอเดียกัน แม้บางครั้งเราอาจทะเลาะกันบ้างในเรื่องการเลือกเส้นทางก็ตาม 

“มิวว่าการเดินทางท่องเที่ยวจึงไม่ใช่แค่เรื่องการพักผ่อน แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่เราจะได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกันกับคนในครอบครัว จริงอยู่ว่าเราอาจถกเถียงกันตั้งแต่เริ่มวางแผนว่าจะไปประเทศไหนดี แต่เรามีกัน 4 คนตลอดการเดินทาง และความสัมพันธ์ในครอบครัวของเราก็จะแน่นแฟ้นไปตลอดเส้นทางเช่นกัน”