Power Exclusive:
A Man with a Green Heart

หากเราพูดถึงแนวคิดสีเขียวที่จุดกระแสเทรนด์รักษ์โลก หลายคนมักจะนึกถึงการลดการใช้ (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) แต่ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งของการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเทรนด์รักษ์โลกที่กำลังมาแรง และคนในวงการออกแบบต่างคุ้นเคยกันดี นั่นคือ Upcycle หรือการเปลี่ยนขยะให้เป็นสิ่งมีค่าอย่างสร้างสรรค์

เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “รวิ อิทธิระวิวงศ์” ซีอีโอหนุ่มไฟแรงของบริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด ถึงโปรเจกต์สีเขียวที่บริษัทได้คิดริเริ่มขึ้น แต่ก่อนจะเข้าประเด็นหลัก เราได้ขอให้เขาเล่าถึงที่มาของชื่อ “มัลติพลาย บาย เอท” ที่ฟังแล้วสะดุดหู ชวนให้อยากรู้ถึงความเป็นมา ยิ่งเห็นโลโก้บริษัทแล้ว ยิ่งน่าสนใจ

รวิเล่าว่า บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตามเจตนารมณ์ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้งอาณาจักรสินค้าปลอดอากร “คิง เพาเวอร์” ที่อยากเห็นสินค้าภายใต้แบรนด์ “คิง เพาเวอร์” หรือที่เราเรียกติดปากว่า เฮาส์แบรนด์ เติบโตโลดแล่นในตลาดสากล โดยบริษัททำหน้าที่ควบคุมดูแลแบรนด์สินค้า และงานดีไซน์ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ทั้งหมด

“เราตั้งใจจัดตั้งบริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด มาเพื่อต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจของ คิง เพาเวอร์ ส่วนเลข 8 เป็นเลขมงคลประจำตัวคุณวิชัย เราเลยตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษให้คล้องจองกัน เลยเป็นคำว่า มัลติพลาย บาย เอท” รวิอธิบาย

จากคำบอกเล่าของซีอีโอ ปัจจุบัน คิง เพาเวอร์ มีเฮาส์แบรนด์ 6 แบรนด์ ได้แก่

1. “คิง เพาเวอร์ โรล” แบรนด์ทองม้วนอันเลื่องชื่อ ขนมยอดฮิตติดอันดับหนึ่งในใจใครหลายคน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่มักซื้อติดไม้ติดมือเป็นของขวัญ ของฝากญาติ และเพื่อนสนิท และเป็นขนมขายดีอันดับหนึ่งของ คิง เพาเวอร์ เลยทีเดียว
2. “คิง เพาเวอร์ ซีเล็กชั่น” แบรนด์ขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบแสนอร่อยที่มีความหวานละมุนแบบไทย
3. “มหานคร” แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ดีไซน์เก๋ ชูเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดดเด่น ไม่ซ้ำแบบใคร
4. “มหานคร สกายวอล์ค” แบรนด์ของที่ระลึก ของพรีเมี่ยม สิ่งละอันพันละน้อยจากเมืองไทยสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
5. “หลงใหล” แบรนด์เครื่องหนัง กระเป๋าหนังจระเข้ และหนังวัวคุณภาพดี ดีไซน์ทันสมัยถูกใจวัยรุ่น ตัดเย็บประณีต
6. “เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล คลับ” แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาและแอคเซสซอรีสุดเท่ ใส่ไปไหนมาไหนก็ไม่มีตกเทรนด์

REDUCING WASTE AND TURNING WASTE INTO VALUE

รวิเล่าให้ฟังว่า การได้มีโอกาสไปศึกษาและใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ ทำให้เขามีมุมมองกว้างขึ้น ทั้งด้านความคิด ทัศนคติ การใช้ชีวิต และได้บทเรียน ข้อคิดดีๆ จากต่างแดนมากมาย รวมทั้งการมีจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด ตลอดจนการสร้างวินัยลดขยะ ซึ่งช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ และดีต่อสุขภาพ เลยคิดอยากจะลองมาปรับใช้ในเมืองไทยบ้าง โดยเริ่มจากภายในองค์กรก่อน

คิง เพาเวอร์ ให้ความสำคัญกับปัญหาขยะ เพราะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของเรา พอพูดถึงเรื่องขยะ คนส่วนใหญ่มักคิดถึงเรื่องการคัดแยกขยะ แต่มองข้ามการลดปริมาณขยะ โดยเฉพาะถุงพลาสติกและขวดน้ำดื่มพลาสติก ดังนั้น มัลติพลาย บาย เอท จึงได้ริเริ่มโครงการปรับปรุงการออกแบบและผลิตถุงช้อปปิ้งพลาสติก เพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณสมบัติด้านความทนทาน น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง รวิยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า คิง เพาเวอร์ ยังจำเป็นต้องใช้ถุงช้อปปิ้งพลาสติกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“เราหลีกเลี่ยงการใช้ไม่ได้ แต่เราพยายามที่จะทำให้กระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด และไม่ใช้วัสดุสิ้นเปลืองในการผลิต” รวิชี้แจง

ในกระบวนการสกรีนสีบนถุง ทีมงานมัลติพลาย บาย เอท จำกัดสีที่ใช้สกรีนเพียงแค่ 1-2 สีเท่านั้น ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดในกระบวนการสกรีนบนถุงให้น้อยลง ทั้งยังทำให้ถุงมีน้ำหนักเบาและบางลง ดังนั้นจึงช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่ง ลดการสร้างมลพิษทางอากาศ ที่สำคัญคือ ลดขยะพลาสติกได้เป็นอย่างดี

สำหรับการผลิตถุงช้อปปิ้งแบบกระดาษ ทีมงานมัลติพลาย บาย เอท หันมาใช้กระดาษเนื้อบางลง และไม่ใช้สารเคลือบบรรจุภัณฑ์ หูหิ้วถุงทำจากเชือกไนลอน ซึ่งผ่านการย้อมด้วยวิธีธรรมชาติด้วยสีผสมอาหารเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ซีอีโอหนุ่มกล่าวเสริมว่า โปรเจกต์ถุงรักษ์โลกสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ถึงกว่าร้อยละ 50 ต่อปี “เราทุกคนมีส่วนร่วมในอนาคตของโลกใบนี้ได้ ผมเชื่อว่าทุกคนยืนอยู่ในจุดที่ช่วยโลกได้ เพียงเริ่มต้นจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา เช่น ลดการใช้ขวดน้ำพลาสติก ลดการใช้หลอด หรือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างอาจดูยากเสมอในตอนเริ่มต้น แต่ถ้าหากเราเริ่มลงมือทำ ทำบ่อยๆ จนเป็นนิสัย ช่วยกันทำคนละนิด ผมเชื่อว่าพลังของทุกคนรวมกันจะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้”

เพื่อช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก ทีมงานมัลติพลาย บาย เอท ยังได้ลองดีไซน์กระป๋องอะลูมิเนียมเพื่อบรรจุน้ำดื่ม โดยซีอีโอหัวใจสีเขียวอธิบายว่า อะลูมิเนียมเป็นวัสดุที่สามารถนำมารีไซเคิลกลับมาทำเป็นกระป๋องใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งของการผลิต

“เราอาจจะไม่คุ้นเคยกับน้ำดื่มในบรรจุภัณฑ์แบบกระป๋อง แต่นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลดขยะที่เราสามารถทำได้” เขาพูดพร้อมหยิบน้ำดื่มกระป๋องที่บริษัทดีไซน์และผลิตมาให้ชม “เราได้ทดลองทำ และลองใช้งานจริงแล้วโดยแจกน้ำดื่มในกระป๋องอะลูมิเนียมให้ผู้เข้าร่วมในงานทาวน์ฮอลของ คิง เพาเวอร์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” พร้อมเล่าให้ฟังต่อว่า ขณะนี้บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำบรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียมรูปทรงแบบขวดน้ำ ซึ่งสามารถหยิบจับใช้ได้อย่างสะดวกขึ้น

นอกจากนี้ มัลติพลาย บาย เอท ยังเลือกเทรนด์รักษ์โลกมาแรงอย่าง Upcycling ซึ่งเป็นกระบวนการแปลงวัสดุเหลือใช้ หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถใช้งานในรูปแบบเดิมต่อไปได้อีก นำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณค่าเพิ่มขึ้น โดยการใส่ไอเดียเก๋ๆ ด้านการออกแบบลงไปเพื่อรังสรรค์ผลงานดีไซน์ที่มีความสวยงาม ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้คนหันมานำผลงานไปใช้ ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ และยืดอายุการใช้งานของวัสดุ ในทางอ้อม อาจกล่าวได้ว่าเป็นการช่วยลดขยะอีกทางหนึ่งด้วย

จุดเด่นที่สำคัญของ Upcycling คือกระบวนการแปรสภาพวัสดุให้นำมาใช้ได้อีกครั้งนั้น จะต้องใช้พลังงานน้อยและลดกระบวนการทางเคมีให้น้อยที่สุด เพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทีมงานมัลติพลายบาย เอท จึงได้นำถุงกระสอบใส่ปูนซิเมนต์ และถุงบิ๊กแบ็ก ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้จากงานก่อสร้างที่มักจะมีจุดจบเป็นของเหลือทิ้งหรือขยะ มาบวกกับการออกแบบอย่างเรียบง่ายแฝงความเป็นไทยเข้าไป เพื่อทำเป็นกระเป๋าสะพายไหล่อันเก๋ไก๋ภายใต้แบรนด์ “มหานคร” เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวและผู้บริโภคที่ชอบสินค้าแปลกใหม่ ไม่ซ้ำแบบใคร และมีความคิดว่าความเป็นไทยนั้นไม่เชย

“ผมไม่ได้คิดจะไปเปลี่ยนโลก ในฐานะที่เราเป็นบริษัททำงานด้านการออกแบบ เราสามารถช่วยโลกได้โดยการผลิตโปรดักต์ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีกระบวนการผลิตที่ไม่รบกวนธรรมชาติมากนัก เราสามารถทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้จากจุดที่เรายืนอยู่เสมอ ผมเชื่ออย่างนั้น” รวิกล่าว

ก่อนจบบทสนทนา รวิไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณสมาชิกในทีมงานมัลติพลาย บาย เอท ทุกคน ที่ทุ่มเทและตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปอย่างดี

“ผมต้องขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกคน โดยเฉพาะคุณอ๊อฟ (ไพศาล เล่าตะ) วิศวกรออกแบบซึ่งเป็นผู้ช่วยคู่ใจของผม ที่คอยออกแบบ ดูแล และประสานงานในโครงการถุงช้อปปิ้งของ คิง เพาเวอร์ ผมเข้าใจแล้วว่า ทีมงานมีความสำคัญมากเพียงใดต่อความสำเร็จ ถ้าทีมงานทำไม่สำเร็จ ก็เหมือนผมทำไม่สำเร็จ แต่ถ้าทีมงานทำสำเร็จ ก็เหมือนกับว่าเราทำสำเร็จไปด้วย เป็นความสำเร็จร่วมกัน” ซีอีโอหนุ่มกล่าวปิดท้าย