GROSSE 2017AW COLLECTIONS

Grossé แบรนด์เครื่องประดับชั้นนำที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี ก่อตั้งขึ้นโดย Mr. Heinrich Henkel และ Mr. Florentin Grossé ที่เมือง Pforzheim ประเทศเยอรมนี สำหรับฤดูหนาวปีนี้ Grossé ขอนำเสนอผลงานคอลเลคชั่นล่าสุด Grossé 2017AW Collections ที่คืนชีวิตให้กับงานศิลปะชิ้นประวัติศาสตร์ระดับมาสเตอร์พีซของ Grossé ที่แต่ละชิ้นล้วนมีเอกลักษณ์และงดงามไร้กาลเวลา เพื่อร่วมฉลอง 110 ปีของการก่อตั้งแบรนด์
VICTORY รังสรรค์ขึ้นในปีค.ศ. 1953 ซึ่งเป็นช่วงเศรษฐกิจรุ่งเรืองภายหลังสงครามโลก เป็นยุคที่กระโปรงบานฟูฟ่องที่มีเอวคอดกิ่วของคริสเตียน ดิออร์ คือสัญลักษณ์ของความทันสมัยและได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น Grossé นำแรงบันดาลใจนี้สู่การสร้างสรรค์ VICTORY ซึ่งได้รับความสนใจไปทั่วโลกด้วยรูปทรงโค้งมนแลดูสง่างาม
FLOWERING MEADOW ในช่วงทศวรรษ 1960 สไตล์ป๊อปได้ขึ้นมาแทนที่สไตล์ที่หรูหรา จนกลายเป็นกระแสหลักของแฟชั่นในเวลาต่อมา FLOWERING MEADOW ถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ. 1966 เป็นการผสมผสานความโดดเด่นของลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้และอาเมธิสต์น้ำงาม เป็นอีกหนึ่งคอลเลคชั่นที่น่าทึ่งดึงดูดสายตา
SEEWAVES ผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่เผยโฉมในปีค.ศ. 1946 อันเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 งานออกแบบที่มีเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวา บ่งบอกถึงความสุขของหญิงสาวที่ได้กลับมาแต่งตัวสวยงามกันอีกครั้ง ชิ้นส่วนแต่ละชิ้น คืองานฝีมือที่นำมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันจนได้เป็นเครื่องประดับที่งดงามสมบูรณ์แบบ
MIRACLE ในช่วงทศวรรษ 1950 แฟชั่นคือความหรูหรา ผลงานอันเป็นอมตะในนาม MIRACLE ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นในปีค.ศ. 1952 และเป็นความมหัศจรรย์ที่ช่างฝีมือสามารถแปรเปลี่ยนโลหะให้มีรูปทรงคล้ายริบบิ้นไหมที่พลิ้วไหว การผสานแนวคิดที่ก้าวล้ำเข้ากับดีไซน์หรูหรายังคงสร้างความประทับใจได้มากแม้ในศตวรรษที่ 21
TRÉSOR อีกหนึ่งคอลเลคชั่นที่เป็นส่วนผสมของความทันสมัยและความสง่างาม ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย สะอาดตา เหมาะสำหรับการแต่งกายแบบมิกซ์แอนด์แมตช์ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เข็มกลัดรูปสัตว์น่ารัก ไปจนถึงสร้อยคอ แหวน และต่างหูสุดชิค
พบกับ Grossé 2017AW Collections ผลงานที่สวยเลอค่าระดับมาสเตอร์พีซได้แล้ววันนี้ ที่ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี

FENDER BLUETOOTH SPEAKERS


เอ่ยชื่อแบรนด์ Fender (เฟนเดอร์) แบรนด์กีตาร์และแอมป์ระดับเทพ ต่อให้เป็นเด็กรุ่นใหม่ แต่หากมีความหลงใหลในเสียงดนตรีเป็นทุนเดิม ต้องคุ้นหูและรู้จัก Fender เป็นอย่างดี ในฐานะแบรนด์ดังจากฝั่งสหรัฐอเมริกา ที่สร้างตำนานหน้าใหม่ให้วงการดนตรีทั่วโลกมานับไม่ถ้วน
ล่าสุด Fender แบรนด์ในตำนานที่ยังมีชีวิต กลับมาสร้างมิติใหม่ให้วงการคนรักเสียงเพลงอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวลำโพงบลูทูธเป็นครั้งแรกของแบรนด์ประสบการณ์ครั้งใหม่ที่ Fender ตั้งใจมอบให้นี้ ชวนให้ประทับใจจนไม่อาจละสายตาตั้งแต่ยังไม่ได้ลองฟังเสียงด้วยซ้ำ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่เหนือชั้น ดึงเอาความคลาสสิกมาเป็นเสน่ห์ โดยออกแบบให้ลำโพงบลูทูธดูเหมือนตู้แอมป์ในตำนานที่ถูกย่อส่วนลงมา ยิ่งได้สัมผัสใกล้ๆ ยิ่งเห็นถึงความพิถีพิถัน ตั้งแต่
เนื้อสัมผัสไปจนผ้าทอคลุมหน้าแอมป์ที่ถอดแบบมาจากตู้แอมป์ในอดีตไม่มีตกหล่น ที่สำคัญ ยังมาพร้อมกลไกการทำงานที่สวนกระแสยุคดิจิตอลด้วยการใช้ระบบอนาล็อก ตั้งแต่ปุ่มเปิด-ปิด ปุ่มปรับเสียงต่างๆ ที่ใช้ตัวเลขกำกับ พร้อมไฟบอกสถานะลำโพงเป็นหัวเพชรสีฟ้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของแอมป์ Fender
เชื่อเหลือเกินว่า มิวสิกเลิฟเวอร์ที่ได้เห็นลำโพงบลูทูธคู่แรก ภายใต้แบรนด์ Fender ต้องตาลุกวาว เพราะพัฒนามาให้เลือกกันถึง 2 รุ่นด้วยกัน ทั้งรุ่นใหญ่ Monterey สำหรับตั้งโชว์ และรุ่นเล็ก Newport สำหรับพกพา
สำหรับรุ่น Monterey ยังคงคุณสมบัติของเสียงอันทรงพลัง โดยออกแบบให้ปุ่มปรับ Bass, Triple และ Volume อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย สามารถหมุนปรับเลือกระดับที่ต้องการได้ดั่งใจ ช่วยให้อรรถรสในการฟังเพลงไม่สะดุด
ที่สำคัญ นอกจากจะใช้งานผ่านการเชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ ครอบคลุมระยะ 10 เมตร ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นเสียง หรือเครื่องเล่นเพลงทั้งรุ่นเก่าและใหม่ ทว่าด้วยความที่
รุ่น Monterey ออกแบบมาให้มีกำลังขับสูง จึงจำเป็นต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลา เพราะฉะนั้น หากจัดมุมเก๋ๆ ไว้ให้ตู้ลำโพงคลาสสิกนี้ ก็ไม่ต่างจากของแต่งบ้านที่ควรค่าแก่การสะสม
ขณะที่รุ่นเล็กอย่าง Newport ก็ไม่น้อยหน้า ถึงจะมาในขนาดกะทัดรัด สามารถพกพาได้ แต่ก็มีทีเด็ดมาทดแทน เหมาะสำหรับคนที่มีกิจกรรมเยอะ แต่ชีวิตไม่อยากห่างจากเสียงดนตรี โดยมาพร้อมอานุภาพของพลังเสียงที่ยังเหนือชั้น สะดวกยิ่งขึ้นด้วยแบตเตอรี่ในตัว สามารถเปิดใช้งานได้ต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง เวลาจะชาร์จไฟก็ไม่ยุ่งยาก เพราะด้านหลังออกแบบให้มีช่องเสียบสายชาร์จเป็นพอร์ตแบบ USB นอกจากนี้รุ่น Newport ยังออกแบบมาอย่างเข้าใจผู้ใช้เป็นอย่างดี โดยเปลี่ยนจากการใช้ผ้าทอเพื่อบุหน้าลำโพงเหมือนรุ่น Monterey เป็นหน้ากากแข็งสีเมทัลลิก โดยคลุมโทนสีเดียวกันเพื่อให้เหมาะกับการพกพาไปไหนมาไหน มาพร้อมกิมมิคปุ่มปรับเสียงทั้ง Bass, Triple และ Volume รวมทั้งปุ่มเปิด-ปิดแบบก้านเหมือนรุ่น Monterey
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Newport คือ ถึงจะสามารถเชื่อมต่อด้วยบลูทูธเท่านั้น แต่มีฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามา อย่างปุ่ม Talk ที่จะช่วยเปลี่ยนลำโพงให้กลายเป็น Speaker Phone หากมีสายเรียกเข้าขณะเชื่อมต่อบลูทูธ สามารถคุยผ่านลำโพงได้เลย เพราะลำโพงบลูทูธรุ่นนี้ออกแบบให้มีไมโครโฟนในตัว แถมมีระบบ Echo Cancellation หรือทำลายเสียงสะท้อน เพื่อให้เสียงชัดเจนกว่าการคุยผ่านลำโพงของสมาร์ทโฟน ช่วยเชื่อมต่อโลกแห่งความบันเทิงเข้ากับโลกของการทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ
ทั้งหมดนี้ คือบทพิสูจน์ว่าลำโพงบลูทูธทั้งสองรุ่นจาก Fender คืออีกหนึ่งแกดเจ็ตแห่งยุคที่คุณไม่ควรพลาด ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Fanpage: Fender Thailand – ลำโพง Fender bluetooth หรือโทร. 0 2530 9658-9