สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมของคนไทยหนึ่งเดียวในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ภายใต้การบริหารของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดแถลงข่าวเปิดตัว 10 นักเตะเยาวชนในโครงการ ฟ็อกซ์ ฮันท์ รุ่นที่ 4 ที่ได้มีโอกาสไปฝึกทักษะฟุตบอลที่สโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ พร้อมได้รับทุนการศึกษาในระดับมัธยมปลายโรงเรียน Ratcliffe College เป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ณ ห้องอีเทอร์นิตี้ บอลรูม โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ
อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และบอร์ดบริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ของโครงการในครั้งนี้ว่า “คิง เพาเวอร์ เล็งเห็นโอกาสที่จะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทย และเยาวชน คือรากฐานที่คิง เพาเวอร์ ให้ความสำคัญมาตลอด ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นนี้ คือ รุ่นที่ 4 เราเห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย และทางด้านเทคนิคต่างๆ มากขึ้น ซึ่งน้องรุ่นที่ 4 จำนวน 10 คนนี้ ได้ถูกคัดเลือกจากรายการ KING POWER’S CUP 2018/19 ซึ่งคัดเลือกจากผู้สมัครทั่วทั้งประเทศจำนวนทั้งหมด 4,680 คน และในฐานะที่เราเป็นเจ้าของสโมสรในยุโรป และเรามีความพร้อมในด้าน Facilities ต่างๆ สนามฝึกซ้อมทุกอย่างเป็นระบบที่ดีมาก และเลสเตอร์ได้ถูกรับรองว่าเป็น 1 ใน 10 ศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดของประเทศอังกฤษ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดได้เปรียบของเรา จึงทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา และสิ่งเหล่านี้จะกลับมาช่วยวงการฟุตบอลไทยให้แข็งแรงต่อไปในอนาคต”
มร.สตีฟ ฮีลีย์ (Mr.Steve Healy) หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟ็อกซ์ ฮันท์ ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “สิ่งแรกที่น้องๆ ทั้ง 10 คน จะต้องเตรียมตัวก่อนเดินทางไปประเทศอังกฤษ น้องๆ ต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ และความพร้อมในเรื่องของภาษา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ น้องๆ จะได้ร่วมฝึกกับพี่ๆ ฟ็อกซ์ ฮันท์ รุ่นที่ 3 ทีมจะช่วยกันจัดโปรแกรมการสอนที่ออกแบบมาเพื่อ ฟ็อกซ์ ฮันท์ จากเมืองไทยโดยเฉพาะ เป้าหมายคือการให้เด็กๆ ได้รับประสบการณ์จากฟุตบอลอังกฤษแบบเต็มที่ และจะได้เรียนรู้ว่าอะคาเดมี่ฟุตบอลที่นี่เป็นอย่างไร โปรแกรมการเรียนการฝึกสอนจะเน้นย้ำให้พวกเด็กๆ มีความรับผิดชอบเพื่อที่ต่อไปหลังผ่านโปรแกรม 2 ปีครึ่ง นักเตะฟ็อกซ์ ฮันท์ที่จบไปจะมีชีวิตการค้าแข้งที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวอย่างที่หวังไว้”
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ของสโมสรโอเอช ลูเวิน ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์โครงการฟ็อกซ์ ฮันท์กล่าวว่า “สิ่งที่อยากจะแนะนำน้องๆ เพิ่มเติมคือ เราได้รับโอกาสมาแล้ว มันก็เหมือนการได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เปิดโลกกว้างขึ้น เห็นความท้าทายมากขึ้น ซึ่งถ้ายังอยู่ที่เมืองไทย ก็จะไม่ได้เห็นประสบการณ์เหล่านั้น ทุกอย่างมีความเข้มข้น และมาตรฐานสูงกว่าเยอะ ซึ่งเราอาจจะคิดว่า เราทำเพียงพอแล้ว แต่ถ้าเราได้ไปเห็นการฝึกซ้อมที่นั่น เราจะรู้ว่า ที่เราทำมายังไม่พอ เราต้องทำงานหนักเพิ่มเติมอีกมาก”
“ผมเชื่อว่า นักฟุตบอลของ ฟ็อกซ์ ฮันท์ ทุกคนมีเป้าหมาย มีความฝัน มีความมุ่งมั่นในตัวเองอยู่แล้ว และยังเชื่ออีกว่า เมื่อไปถึงตรงจุดนั้น ทุกคนจะได้เห็นอะไรมากขึ้น ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ได้ต่อยอด และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ๆ กลับมาใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน”
รายชื่อฟ็อกซ์ ฮันท์ รุ่นที่ 4 จำนวน 10 คน
1. ธนโชติ เนตอินทร์ ตำแหน่งผู้รักษาประตู โรงเรียนเทศบาลวัดจอมคีรีนาคพรต
2. จิรภักดิ์ สารดี ตำแหน่งกองหลัง โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
3. ศุภกฤษ น้อยยุ่น ตำแหน่งกองหลัง โรงเรียนเทศบาลวัดจอมคีรีนาคพรต
4. ภาณุพงศ์ ฟูแสง ตำแหน่งกองหลัง โรงเรียนอบจ.เชียงราย
5. ธวัชชัย โอชารส ตำแหน่งกองกลาง โรงเรียนพิชญบัณฑิต
6. นิพิฐพนธ์ วงค์ปัญญา ตำแหน่งกองหน้า โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
7. เสกสรรค์ ราตรี ตำแหน่งกองกลาง โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
8. ภูเก็ต เฟื่องคร ตำแหน่งกองหน้า โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง
9. มะราปี วานิ ตำแหน่งกองหน้า โรงเรียนกีฬาจังหวัดยะลา
10. ณัฐพงษ์ จันทะวงษ์ ตำแหน่งกองหลัง โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี
หลังจากนี้ เยาวชน ฟ็อกซ์ ฮันท์ รุ่นที่ 4 จะเข้าเก็บตัวเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกายและภาษา ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2562 ที่แคมป์ Fox Hunt VS Sport Club บางบ่อ สมุทรปราการ และมีโปรแกรมการอุ่นเครื่องก่อนเดินทางไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษปลายเดือนสิงหาคมนี้ จำนวน 2 แมตช์ คือ วันที่ 18 สิงหาคม 2562 อุ่นเครื่องกับนครสวรรค์ เอฟซี และวันที่ 25 สิงหาคม 2562 อุ่นเครื่องกับทีมขอนแก่น เอฟซี
สำหรับโครงการ ฟ็อกซ์ ฮันท์ รุ่น 4 มีผู้สนับสนุนหลักที่ร่วมสานฝันให้เยาวชนไทย ได้แก่ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยิ้มได้ เมื่อภัยมา, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่มตราช้าง, บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน), บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน), อาริ, บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด