จิตวิญญาณและความภาคภูมิใจของชาวเอเชียฉายประกายเด่นชัดในการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล “ออล เอเชีย คัพ 2020” รอบชิงชนะเลิศ
สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย โชว์ศักยภาพจัดแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลสุดยิ่งใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย รายการ “ออล เอเชีย คัพ 2020” ครั้งที่ 5 โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติ “ไทย” พบกับทีมชาติ “ฟิลิปปินส์” จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในคอนเซ็ปต์ “Honouring to the Spirit of Asia” จิตวิญญาณและความภาคภูมิใจของชาวเอเชีย เพื่อผนึกกำลังสรรค์สร้างศักยภาพ ก้าวสู่จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน ท่ามกลางเหล่าดาราและเซเลบริตี้ร่วมงานมากมาย ณ สนามวีเอส สปอร์ตคลับ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเร็วๆ นี้
นับเป็นหนึ่งในการแข่งขันกีฬาสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย ที่จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 แล้ว สำหรับการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ “ออล เอเชีย คัพ 2020” ซึ่งจัดโดยสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ตามเจตนารมณ์ของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ผลักดันและสนับสนุนให้กีฬาขี่ม้าโปโลกลับมาสู่สังคมไทย โดยจัดตั้งเป็น “สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย” ที่ได้รับการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และบรรจุกีฬาขี่ม้าโปโลเป็นรายการแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ณ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อ ค.ศ. 2007 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
กนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ “ออล เอเชีย คัพ 2020” ว่า “การแข่งขันรายการ ออล เอเชีย คัพ 2020 นี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง และยังคงได้รับเกียรติจากนักกีฬาขี่ม้าโปโลทั้ง 6 ประเทศในเอเชียเข้าร่วมแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าร่วมแข่งขันของนักกีฬาขี่ม้าโปโลกิตติมศักดิ์ ได้แก่ เจ้าหญิงอาเซมะห์ นีมาตุล โบลเกียห์, เจ้าชายเจฟรี โบลเกียห์ และเจ้าชายบาฮาร์ โบลเกียห์ ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งนับเป็นเกียรติของสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย และแสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลในระดับเอเชีย เปรียบเสมือนการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ของนักกีฬาขี่ม้าโปโล เพื่อยกระดับให้ทัดเทียมระดับสากล ซึ่งที่ผ่านมานักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทยสามารถครองสถิติแชมป์ 3 สมัย ในปี ค.ศ. 2012, 2016 และ 2018”
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างทีมชาติไทย นำโดย อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา โดยมี อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ผู้จัดการทีมซึ่งบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม คอยให้กำลังใจอยู่ข้างสนาม พบกับทีมชาติฟิลิปปินส์ นำโดย ไมค์กี้ โรเมโร หลังจากที่ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันมาแล้วในการแข่งขันเมื่อปี ค.ศ. 2018 การพบกันครั้งนี้จึงเรียกว่าเป็นการ “รีแมตช์” กันอีกครั้ง โดยทั้ง 2 ทีมได้ฝ่าฟันเอาชนะ 4 ทีมจาก 4 ประเทศ ได้แก่ ทีมชาติบรูไน, จีน, อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ที่เข้าร่วมแข่งขัน และผ่านถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเป็นไปอย่างสนุกสนานและตื่นเต้น เร้าใจ จบการแข่งขันผลปรากฏว่า ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติฟิลิปปินส์ ด้วยผลคะแนน 7 ครึ่ง ต่อ 4 คว้าถ้วยแชมป์ All Asia Cup 2020 ในครั้งนี้ไปครองได้สำเร็จ
สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าการแข่งขันที่เข้มข้นในรอบชิงชนะเลิศ คือบรรยากาศของพิธีเปิดงาน ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในคอนเซ็ปต์ “Honouring to the Spirit of Asia” จิตวิญญาณและความภาคภูมิใจของชาวเอเชีย เพื่อผนึกกำลังสรรค์สร้างศักยภาพ ก้าวสู่จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน เริ่มด้วยการแสดงโชว์ศิลปะการบังคับม้า แสดงถึงความสามารถและทักษะของผู้ขี่และม้าที่ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกีฬาขี่ม้าโปโล จากนั้นเป็นการแสดงโชว์ชุดพิเศษ “The Harmony of Spirits” สุดยอดการแสดงที่นำ 3 อัตลักษณ์ไทย มาประกอบเป็นการแสดง 3 ชุด เพื่อสื่อสารความเป็นไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ได้แก่ การแสดงชุดไชโย ความภูมิใจของความเป็นชาติเชื้อไทย สื่อสารด้วยสีสันของธงชาติไทย, การแสดงหนังใหญ่ ถ่ายทอดศิลปะการป้องกันตัวของไทย และการนำ “โขน” ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย มาผสานเข้ากับการบังคับม้า
หลังการแสดงที่สะท้อนความภาคภูมิใจของชาวเอเชีย ตามมาด้วยขบวนพาเหรดเชิญถ้วยรางวัล All Asia Cup 2020 ซึ่งมีดาราดาวรุ่ง ใบเฟิร์น–พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ร่วมเชิญถ้วยรางวัล All Asia Cup 2020 โดยมี กนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เป็นผู้โยนลูกโปโลเปิดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
ไฮไลต์ที่ถือเป็นประเพณีของการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล คือ Stomping the Divots หรือประเพณีการย่ำสนาม ธรรมเนียมปฏิบัติที่ให้ผู้ร่วมชมการแข่งขันลงไปย่ำสนาม เพื่อกลบดินและเกลี่ยรอยเท้าม้าให้พื้นสนามเรียบ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั้งสองฝ่ายได้พบปะพูดคุยกับนักกีฬา รวมทั้งแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างกัน ก่อนดำเนินการแข่งขันในช่วงครึ่งหลังต่อไป
ปิดท้ายด้วยพิธีมอบรางวัลให้กับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่แต่งกายอย่างสวยงามตามคอนเซ็ปต์ “Honouring to the Spirit of Asia” รวม 8 รางวัล ได้แก่ รางวัล Best Dressed Lady สำหรับผู้แต่งกายยอดเยี่ยมหญิง ได้แก่ ปัญจพร โชติจุฬางกูร, รางวัล Best Dressed Gentleman สำหรับผู้แต่งกายยอดเยี่ยมชาย ได้แก่ ปรีดา พสวงศ์, รางวัล Most Stylish Lady สำหรับสุภาพสตรีที่แต่งกายมีสไตล์โดดเด่นมากที่สุด ได้แก่ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, รางวัล Most Stylish Gentleman สำหรับสุภาพบุรุษที่แต่งกายมีสไตล์โดดเด่นมากที่สุด ได้แก่ Tim Yap, รางวัล Best Photogenic Lady สำหรับสุภาพสตรีที่เป็นขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่ ลาลีวรรณ โกมลสุทธิ์, Best Photogenic Gentleman สำหรับสุภาพบุรุษที่เป็นขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่ รักพงศ์ จันทรมังกร รวมถึงการประกาศรางวัล Best Pony Award หรือรางวัลม้าที่มีฝีเท้าดี โดย คิง เพาเวอร์ ได้แก่ ม้า Bloody Mary และรางวัล MVP Award (Most Valuable Player) หรือรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำการแข่งขันในครั้งนี้ ได้แก่ เอเดรียน การ์เซีย จากทีมชาติฟิลิปปินส์
การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ “ออล เอเชีย คัพ 2020” ครั้งที่ 5 ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี, บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด, บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ, บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน), บริษัท บูทรูม แอพพาเรล จำกัด (อาริ) และโรงพยาบาลเครือบางปะกอก