FlashFlash 134HighlightNumber 134What’s New

What’s New Watches

By 1 September 2020 No Comments

WHAT'S NEW WATCHES

PRECISION

ดึงดูดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์
ผ่านเรือนเวลาสุดโปรดที่บ่งบอกความเป็นตัวตน

PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS

BREITLING

ไบร์ทลิ่ง พรีเมียร์ บี01 โครโนกราฟ 42 เป็นรุ่นเปิดตัวหนึ่งในห้าอันโดดเด่นของ ไบร์ทลิ่ง พรีเมียร์ คอลเลคชั่นใหม่ โดดเด่นด้วยการติดตั้งด้วยกลไล ไบร์ทลิ่ง แมนูแฟคเจอร์ คาลิเบอร์ 01 ซึ่งผ่านประกาศนียบัตรรับรองระดับโครโนมิเตอร์ พร้อมด้วยศักยภาพของการสำรองพลังงานได้มากกว่า 70 ชั่วโมง จึงนับเป็นรุ่นนำธงของคอลเลคชั่นใหม่นี้

ไบร์ทลิ่ง พรีเมียร์ บี01 โครโนกราฟ 42 นำเสนอภายใต้ตัวเรือนสแตนเลสสตีล ขนาด 42 มิลลิเมตร สุดแข็งแกร่ง พร้อมด้วยฝาหลังแบบโปร่งใส กันน้ำได้ลึก 100 เมตร หน้าปัดมีให้เลือกระหว่างสีเงินหรือสีน้ำเงินเข้ม ถ่ายทอดงานออกแบบอันบริสุทธิ์ของหน้าปัดด้วยภาพที่ตัดกันกับบรรดาหน้าปัดย่อยสีดำแสดงวินาทีต่อเนื่องและหน้าปัดย่อยจับเวลา โดยแต่ละรุ่นยังบรรจุด้วยสเกลทาคีมิเตอร์สีขาวบนขอบตัวเรือนด้านในสีดำรอบหน้าปัด มาพร้อมตัวเลือกของสายหนังนูบัค สายหนังจระเข้ และสายสร้อยข้อมือสแตนเลสสตีล

OMEGA

OMEGA พลิกโฉมคอลเลคชั่น Seamaster Diver 300M Chronograph ไอคอนิกของหนุ่มๆ ผู้หลงใหลในกีฬาทางน้ำ ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเลือกใช้สแตนเลสสตีล ทองและเซรามิก เพื่อความสวยงามและแข็งแรง ผ่านการรังสรรค์ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยที่สุดของ OMEGA

โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยตัวเรือนสแตนเลสตีล ขนาด 44 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนผลิตจากทอง Sedna™ 18 กะรัต มาพร้อมวงแหวนเซรามิกสีดำและสเกลดำน้ำอีนาเมล ฮีเลียมวาล์วทรงกรวย เม็ดมะยม และชุดเข็ม ผลิตด้วยทอง Sedna™ 18 กะรัต ยกเว้นเข็มวินาทีกลางที่เป็นแบบเคลือบทอง สายนาฬิกาที่มาพร้อมกับตัวเรือนเป็นแบบสายยางสีดำ

เพิ่มลูกเล่นให้การออกแบบได้อย่างมีสไตล์ด้วยปุ่มกดจับเวลาเซรามิกสีดำ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในคอลเลคชั่นนี้ ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับสีของหน้าปัดเซรามิกสีดำ แกะสลักลายคลื่นด้วยเลเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Diver 300M

ขับเคลื่อนด้วยกลไกชั้นนำ OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 9900 ซึ่งสามารถมองเห็นกลไกผ่านกระจกแซฟไฟร์ที่ติดตั้งอยู่บนฝาหลังนาฬิกา

IWC

เมื่อพูดถึง IWC แบรนด์เก่าแก่ที่เราคุ้นเคยจากเมือง Schaffhausen ที่ยังคงอยู่ในใจผู้คนมาอย่างยาวนาน ถ้าจะไม่นึกถึงรุ่นยอดนิยมตลอดกาลอย่าง Pilot Collection ก็คงจะไม่ได้

คราวนี้เป็นทีของน้องเล็กในตระกูล Pilot อย่าง Pilot’s Watch Chronograph Spitfire ซึ่งมาในตัวเรือนขนาดกะทัดรัด 41 มิลลิเมตร เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนจากภายนอก ส่วนกลไกภายในจะเป็นกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 69380 ที่ออกแบบและผลิตโดย IWC เอง ใช้ Colum Wheel ในการควบคุมการเริ่มและหยุดในการจับเวลา ทำให้เกิดความนุ่มนวลและแม่นยำมากขึ้น ทั้งในหน่วยชั่วโมง นาทีและวินาที สามารถสำรองพลังงานได้ 46 ชั่วโมง

ในส่วนของดีไซน์ Spitfire จะให้ลุคที่ดูแมนๆ เท่ๆ ใช้การออกแบบที่มีลูกเล่น ด้วยตัวเรือนสแตนเลสสตีลสีเงิน ที่มาจับคู่กับสายหนังลูกวัวสีน้ำตาลสไตล์นักบิน ขนาดความกว้าง 20 มิลลิเมตร หน้าปัดสีดำพร้อมโหมดเรืองแสง กระจกหน้าปัดนูนทำจากแซฟไฟร์ กันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำที่ระดับความลึก 60 เมตร

PRECIOUS

คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทนแห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว

VACHERON CONSTANTIN

VACHERON CONSTANTIN  ถ่ายทอดความเลอค่าผ่านเรือนเวลาหรูด้วย  Égérie Collection ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนความงดงามและอ่อนหวานของคุณสุภาพสตรีโดยเฉพาะ กับตัวเรือนทรงกลมทองชมพู 18K ขนาด 30 มิลลิเมตร หนา 8.13 มิลลิเมตร ที่มาพร้อมกลไกควอตซ์ ขอบหน้าปัดประดับเพชรรอบวงและรายล้อมวงหน้าปัดย่อย รวมทั้งการประดับมูนสโตนสีนุ่มละมุนลงบนเม็ดมะยม ตรงตำแหน่ง 2 น. วางหน้าต่างบอกวันที่แนวยาวโดยอ่านค่าเวลาด้วยลูกศรชี้ หน้าปัดสีอ่อนละมุนไปกับสีวัสดุตัวเรือน ในส่วนของสายหนังมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ น้ำตาลเข้ม ชมพู และน้ำเงินเข้ม ขนาดสาย 14/12 ตัวล็อคแบบเจาะรูหัวเข็มขัดหนัง  สามารถเปลี่ยนสายด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำระดับ 3

PIAGET

เมื่อกล่าวถึงเรือนเวลาหรูทรงบางเฉียบสำหรับสุภาพสตรี Piaget ไม่เคยยอมเป็นรอง และ Piaget Altiplano 900P ขนาด 38.0 มิลลิเมตร คือข้อพิสูจน์ เพราะมีความหนาของตัวเรือนทองกุหลาบ 18K เพียงแค่ 3.65 มิลลิเมตร จากการใช้แท่นเครื่องด้านหลังของกลไกไขลาน Cal.900P ที่สามารถสำรองพลังงานได้นาน 48 ชั่วโมง เป็นฝาหลังตัวเรือนไปด้วยในตัว

นอกจากนี้ยังติดตั้งสเกลแสดงชั่วโมงลงบนกลไก เพื่อให้นาฬิกาเรือนนี้ปราศจากพื้นหน้าปัดและสามารถอวดความงามของกลไกได้อย่างเต็มตา อย่างการโชว์แผ่นบริดจ์สีเงินแบบ satin-brushed บนหน้าปัด ตัดกับสีทองกุหลาบของตัวเรือน มาพร้อมสายหนังจระเข้สีขาว ความงามเช่นนี้จำกัดจำนวนผลิตไว้เพียง 200 เรือน

CHOPARD

รื่นรมย์ไปกับดีไซน์อันเลอค่าของ Chopard Imperiale Joaillerie ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อบรรณาการผู้หญิงร่วมสมัย เติมความสดใสด้วยพื้นหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีฟ้า ตกแต่งด้วยการเดินเส้นสายของโรสโกลด์ แล้วเดินลายเส้นเป็นกลีบดอกไม้สมมาตรสี่กลีบประดับเพชร อันเป็นสัญลักษณ์ของคอลเลคชั่น Imperiale ที่จะหมุนตัวอยู่ในวงหน้าปัดย่อยอย่างน่ารัก พร้อมเครื่องหมายบอกเวลาประดับเพชร

จับคู่ตัวเรือนทองกุหลาบ 18K ขนาด 36.0 มิลลิเมตร ด้วยสายหนังจระเข้สีน้ำเงินสด เสริมด้วยเพชรน้ำงามระยิบระยับล้อมรอบขอบตัวเรือน แสดงเวลาอย่างเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ด้วยกลไกอัตโนมัติที่สามารถสำรองพลังงานได้นาน 65 ชั่วโมง

WHAT'S NEW WATCHES