หากพูดถึงเรื่องความเรียบหรูที่ใช้งานได้จริงของสินค้าเครื่องหนังที่มีอยู่ในตลาดแฟชั่นโลกนั้น เราจะได้ยินชื่อของ Bally เข้ามาในบทสนทนาเสมอ เพราะที่ผ่านมา Bally ได้ตอกย้ำถึงความคลาสสิกที่ไม่ได้เน้นหนักไปทางดีไซน์ที่เข้าใจยากเย็น แต่คำนึงถึงคุณภาพอันเป็นเลิศตามแบบฉบับของ นักคิดสายเลือดสวิสที่ยังคงเข้มข้นไปทุกอณู ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ก็ยังคงรักษา DNA นี้ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

Bally หรือในชื่อ Bally & Co เมื่อแรกเริ่ม ก่อตั้งขึ้น เมื่อปีค.ศ. 1851 ในเมือง Schönenwerd ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสองพี่น้อง Carl Franz Bally และ Fritz Bally ว่ากันว่า ในปีค.ศ. 1849 Carl Franz ที่กำลังท่องเที่ยวดูงานในปารีส เกิดอยากซื้อรองเท้าบู๊ตไปฝากภรรยา แต่ไม่รู้ว่าขนาดรองเท้า ที่พอดีกับเท้าของภรรยาคือขนาดไหน จึงซื้อทีเดียว 12 คู่ 12 ขนาดไปเลย เพราะอย่างน้อยจะต้องมี 1 คู่ในจำนวนนี้ ที่ขนาดพอดีกับเท้าของภรรยาแน่นอน ระหว่างแวะเยี่ยมชมโรงงานผลิตรองเท้าบู๊ตในปารีส เขาสังเกตว่ารองเท้าแต่ละคู่ ใช้กระดุมและยาง คล้ายๆ กับที่โรงงานของครอบครัว ของเขาผลิต จึงเกิดความคิดที่จะสร้างงานเพื่อช่วยให้ ชาวบ้านในเมือง Schönenwerd มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น Carl Franz ตัดสินใจก้าวเข้าสู่ธุรกิจผลิตรองเท้า เขากับน้องชาย ว่าจ้างดีไซเนอร์ให้มาช่วยเรื่องการออกแบบ และเริ่มผลิตรองเท้าด้วยมือที่บ้านในเมือง Schönenwerd ของพวกเขา นี่เองคือจุดกำเนิดของแบรนด์เครื่องหนังชั้นนำสัญชาติสวิส ในเวลาต่อมา

สำหรับรองเท้าผู้ชายที่ถือเป็นรุ่นไอค่อนของ Bally ต้องยกให้กับคอลเลคชั่น Scribe ความพิเศษของรองเท้ารุ่นนี้คือทำด้วยมือมนุษย์ล้วนๆ กว่า 200 ขั้นตอน Max Bally หลานของ Carl Franz Bally ตั้งชื่อรองเท้ารุ่นนี้ตามชื่อโรงแรมในปารีสที่เขาเคยพัก “Hotel Scribe” ใครจะไปรู้ว่าในเวลา ต่อมาคอลเลคชั่น Scribe จะขึ้นแท่นเป็นรุ่นไอค่อนที่ขายดี และโด่งดังที่สุดของ Bally

รองเท้าคอลเลคชั่น Scribe ผลิตขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1951 เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของ Bally จากนั้นคอลเลคชั่น Scribe ได้สร้างความสำเร็จให้กับ Bally จนกลายเป็นรองเท้ารุ่นน่าสะสม จนต้องผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะความพิถีพิถันและความละเอียด ในแบบที่ไม่เคยมีแบรนด์ไหนทำได้มาก่อน

รองเท้า คอลเลคชั่น Scribe ผลิตขึ้นครั้งแรก ในปีค.ศ.1951 เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของ Bally

ในปีค.ศ. 2014 Bally ยังย้ำความจริงนี้อีกครั้งด้วยการปรับโฉม รองเท้ารุ่นไอค่อนให้มีรูปทรงที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น เพิ่มการตัดเย็บที่แยบยลด้วยเทคนิคล่าสุดและฝีตะเข็บที่ทรงพลังกว่าเดิม รองเท้ารุ่น Scribe แต่ละคู่นั้นต้องผ่านมือช่างที่ชำนาญในแต่ละด้านกว่า 18 คน จนกว่าจะมาเป็นรองเท้าให้ผู้ชายทั่วโลกได้สวมใส่ จุดเด่นหลักของรองเท้ารุ่นนี้คือ Goodyear Welted Construction ที่บริเวณพื้นรองเท้า ซึ่งเป็นเทคนิคการผลิตรองเท้า แบบฉบับเฉพาะของ Bally ที่ทำให้รองเท้ามีความแข็งแรงทนทาน แต่ในขณะเดียวกันก็สวมใส่สบาย ส่วนหนังลูกวัว ที่ใช้ผลิตรองเท้านั้น ก็มาจากแหล่งที่มีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อย่างเช่นจากประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี

ปีค.ศ. 2015 Bally พัฒนาเทคนิค Goodyear Welted Construction ที่ใช้ในการผลิตพื้นรองเท้ารุ่น Scribe ให้มีน้ำหนัก เบากว่าเดิม โดยเปลี่ยนมาใช้พื้นรองเท้าที่ทำจากยางผสม Ethylene-vinyl Acetate ที่ให้ทั้งความแข็งแรงทนทานและ เบาสบาย แต่ยังคงความหรูหราไว้ได้เฉกเช่นเดียวกับพื้นรองเท้าแบบหนัง ที่สำคัญ พื้นรองเท้ารุ่นใหม่นี้สามารถกันน้ำได้ จึงเหมาะที่จะสวมใส่ได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องกังวลในเรื่อง ดินฟ้าอากาศอีกต่อไป ทำให้รองเท้า Scribe ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าผู้ชายรุ่นใหม่ที่มีอายุน้อย และกำลังมองหา รองเท้าสำหรับสวมใส่ไปทำงาน รวมถึงกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็นแฟนคลับอยู่แล้ว

นอกจากรองเท้ารุ่น Scribe แล้ว Bally ยังสร้างปรากฏการณ์ ให้เกิดขึ้นกับรองเท้าบู๊ตปีนเขาที่มีประวัติน่าตื่นตาตื่นใจ วันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1953 Sir Edmund Hillary นักปีนเขา ชื่อดังชาวนิวซีแลนด์ สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จ โดยได้ขึ้นไปพร้อมกับผู้ชำนาญทางอย่าง Tenzing Norgay ทั้งสองได้ชื่อว่าเป็น 2 คนแรกในโลกที่ขึ้นไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ Tenzing Norgay สวมรองเท้าบู๊ตของ Bally รุ่น Reindeer-Himalaya ขึ้นไปพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ และภาพแห่งประวัติศาสตร์ที่เขาสวมรองเท้าบู๊ตรุ่น Reindeer-Himalaya ก็ได้รับการบันทึกไว้โดย Sir Edmund Hillary ปัจจุบันรองเท้าที่เขาใส่นั้นจัดแสดงอยู่ใน Bally Museum ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และกลายเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจที่สุดของ Bally

สำหรับคอลเลคชั่น Autumn-Winter 2017 นี้ Bally ยังคงนำเอาผลงานการออกแบบจากช่วงปลายทศวรรษที่ 20 ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเคยปรากฏในรองเท้าบู๊ต ของ Tenzing Norgay มาพลิกแพลง เราจะได้เห็นพื้นรองเท้าดีไซน์พิเศษแบบ Sparta ที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นได้ดี โดยเฉพาะบนพื้นหิมะ ปรากฏในรองเท้าบู๊ตปีนเขารุ่น Chamonix (Charls, Champions) แต่ครั้งนี้พื้นรองเท้า ดีไซน์พิเศษแบบ Sparta จะมีน้ำหนักเบาขึ้น เพราะทำจาก ยางคุณภาพสูงที่มีน้ำหนักเบา แต่ยังคงยึดเกาะพื้นและ ป้องกันการลื่นล้มได้ดี นอกจากนั้นยังได้รับการออกแบบ ให้ดูทันสมัย เหมาะจะสวมใส่ในเมืองได้ และมีหลากสี หลายสไตล์ให้เลือกสรร ส่วนรองเท้าบู๊ตปีนเขารุ่น Medison นั้น ออกแบบมาใหม่ล่าสุดเพื่อผู้ชายยุคใหม่ที่ต้องการรองเท้าบู๊ตสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน โดยมาในสีอย่างดำ น้ำผึ้ง และม่วงเข้ม

ทั้งหมดนี้ ถือเป็นการต่อยอดการออกแบบรองเท้าผู้ชาย ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สำหรับแบรนด์เครื่องหนังเก่าแก่ ที่ผู้ชายเกือบทุกคนบนโลกต้องเคยเป็นเจ้าของอย่างน้อย 1 คู่ในชีวิต

นอกจากรองเท้า รุ่น Scribe แล้ว Bally ยังสร้างปรากฏการณ์
ให้เกิดขึ้นกับรองเท้าบู๊ตปีนเขาที่มีประวัติ น่าตื่นตาตื่นใจ