Fashion InsiderFlashFlash 120Number 120

Fashion Insider: Delightful Women

By 26 February 2018 No Comments

พบกับคอลเลคชั่นรีสอร์ทครั้งแรกของแบรนด์ดังสัญชาติอิตาลีอย่าง Prada ที่นำเสนอมุมมองความขัดแย้งของไอเดีย
การออกแบบที่หลากหลาย ผสมผสานกับความเป็นเฟมินีนอย่างสุดขั้ว ผลที่ได้คือคอลเลคชั่นสุดยอดเยี่ยมที่ทุกคนต่างชื่นชม

STORY

TAWAN KONKAEW

PHOTOGRAPHY

COURTESY OF BRANDS

ย้อนกลับไปเมื่อ ค.ศ. 1978 Miuccia Prada หลานสาวของผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องหนัง Prada ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำธุรกิจครอบครัวนี้

ต่อจากแม่และตาของเธอ Miuccia คนนี้เองเป็นผู้นำเสนอกระเป๋าผ้าไนล่อน วัสดุที่ไม่มีแบรนด์เครื่องหนังชั้นสูงแบรนด์ไหนกล้าเลือกใช้ ออกสู่สายตาชาวโลก จนเป็นที่ฮ็อตฮิตอย่างมากในช่วง ค.ศ. 1980 ไม่นานหลังจากที่สร้างผลกำไรและชื่อเสียงให้กับแบรนด์ เธอได้เริ่มนำเสนอคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสำเร็จรูปของผู้หญิงใน ค.ศ. 1989 ต่อมาใน ค.ศ. 1992 เธอได้ออกไลน์เสื้อผ้าที่มีคาแร็กเตอร์สนุกสนานและเป็นตัวเธอมากกว่า ซึ่งตั้งชื่อแบรนด์ตามชื่อเล่นของเธอ คือ Miu Miu จากนั้นใน ค.ศ. 1995 ก็สยายปีกทางธุรกิจสู่กลุ่มแฟชั่นผู้ชาย ทุกวันนี้ภายใต้อาณาจักร Prada มีครบทุกสิ่งให้เหล่าสาวกได้เลือกช้อป ทั้งไลน์เสื้อผ้าผู้ชาย ผู้หญิงเครื่องหนัง รองเท้า กระเป๋าเดินทาง แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม เรื่อยไปจนถึงการออกแบบเคสมือถือ อันแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการออกแบบอันเยี่ยมยอดและวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่ไม่ด้อยกว่าใครของ Miuccia Prada

และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ Prada ได้กระโดดเข้าร่วมแข่งขันในคอลเลคชั่น Resort จากเดิมที่ไม่เคยทำมาก่อน เพราะในแต่ละปี Prada นำเสนอแฟชั่นโชว์ปีละ 2 ครั้ง คือ Spring/Summer และ Autumn/Winter เท่านั้น ครั้งนี้ทั้งสื่อมวลชนและแฟนคลับต่างจับจ้องกันอย่างใจจดใจจ่อว่าคอลเลคชั่น Resort ของ Prada นั้นจะเปรี้ยวล้ำหรือมีหน้าตาเป็นเช่นไร

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ Prada ได้กระโดดเข้าร่วมแข่งขันในคอลเลคชั่น Resort จากเดิมที่ไม่เคยทำมาก่อนเพราะในแต่ละปี Prada นำเสนอแฟชั่นโชว์ปีละ 2 ครั้ง

จุดเด่นของการออกแบบเสื้อผ้าของ Miuccia นั้น คือการผสมผสานสิ่งที่ขัดแย้งกันมากๆ เข้าไว้ด้วยกัน แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

แฟชั่นโชว์ครั้งนี้มีขึ้น ณ Galleria Vittorio Emanuele II กลุ่มอาคารที่สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1877 ภายในพื้นที่จัดแสดงที่เรียกว่า Milan Osservatorio รันเวย์แฟชั่นจัดในห้องโล่งที่โดดเด่นด้วยโครงสร้างกระจก เปิดเผยให้เห็นสถาปัตยกรรมอันสวยงามภายนอก ภายในจัดวางม้านั่งแถวเดียว จุแขกระดับซูเปอร์วีไอพีไม่กี่ร้อยคน ที่บินตรงมาจากทั่วโลกเพื่อชมแฟชั่นโชว์ครั้งนี้

แฟนๆ Prada จะรู้ดีว่าจุดเด่นของการออกแบบเสื้อผ้าของ Miuccia นั้น คือการผสมผสานสิ่งที่ขัดแย้งกันมากๆ เข้าไว้ด้วยกัน แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อย่างหนังกลับกับพลาสติก ขนเฟอร์เทียมกับผ้าไหมซาติน เป็นต้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน Prada หยิบยกเสื้อผ้าแบบสปอร์ตแวร์มาจับคู่กับเสื้อผ้าที่ดูเป็นผู้หญิงมากๆ อย่างชุดกระโปรงเข้ารูป กระโปรงทรงสอบ หรือเสื้อโค้ตเข้าเอว ในโทนสีอย่างม่วงไลแล็ก ส้มแอปริคอต ชมพู เทา ไปจนถึงลูกเล่นอย่างการใส่ถุงเท้าสูงแบบสปอร์ต (แต่ทอลวดลายแบบ Art Deco) เข้ากับรองเท้าส้นสูง สลับกับรองเท้าผ้าใบ การปักตกแต่งเลื่อม และการเล่นจับจีบผ้าไหมออร์แกนซ่าในรูปครึ่งวงกลม แต่ก็มีลูกเล่นอย่างแผ่นพลาสติกปั๊มลาย Prada แบบสปอร์ตๆ ตัดความเลี่ยนเข้าไป

อีกหนึ่งซีนประทับใจ คือลุคแรกที่ปรากฏบนรันเวย์ Miuccia ได้ย้อนกลับไปหยิบผ้าไนล่อนที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตธุรกิจของเธอมานำเสนออีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในรูปแบบของกระเป๋า เธอเลือกนำเสนอแจ็กเก็ตสปอร์ตแบบโอเวอร์ไซส์ทำจากผ้าไนล่อน แต่ก็แฝงความเซ็กซี่ด้วยดีไซน์ไหล่ปาดเปิดให้เห็นผิวของผู้หญิงอย่างเย้ายวน และด้านล่างจับคู่กับกระโปรงผ้าชีฟองบางเบา หรือชุดเสื้อแขนยาวผ้านิตเข้ารูปคล้ายกับชุดนักกีฬาว่ายน้ำ เข้าคู่กับกระโปรงทรงสอบในวัสดุเดียวกัน ก็ดูโดดเด่นน่าสนใจเป็นอย่างมาก เท่านั้นยังไม่พอ เครื่องประดับสไตล์ Art Deco ก็ถูกนำมาใช้เพิ่มความแปลกตาให้กับลุค ทั้งที่คาดผมประดับขนนกสีหวาน สร้อยคอระย้า และสร้อยข้อมือสีทองวิบวับ ทั้งหมดทั้งมวลยิ่งตอกย้ำความเก่งกาจในการใช้สิ่งที่ไม่เข้ากันมานำเสนอให้เข้ากันในแบบของ Prada ได้อย่างชัดเจน

อีกหนึ่งธรรมเนียมสำหรับแบรนด์สัญชาติอิตาลีแบรนด์นี้ คือแต่ละคอลเลคชั่นจะร่วมมือกับศิลปินชื่อดังในการออกแบบลวดลาย และครั้งนี้ Prada ได้นำเสนอลายพิมพ์รูปกระต่ายและดอกลิลลี่ ที่มีชื่อว่าลาย “Bauletto” ฝีมือของนักวาดภาพประกอบ James Jean ในโทนสีอ่อนหวานอย่างสีชมพูและสีงาช้าง ซึ่งนำมาใช้ทั้งบนเสื้อผ้าหลายลุค และเป็นลวดลายหลักบนกระเป๋าใบเด่นหลากหลายทรง ทั้งกระเป๋าใส่เอกสาร กระเป๋าถือทรงสี่เหลี่ยมพร้อมสายสะพาย และกระเป๋าเงินทรงยาว ก็มีให้สาวๆ ได้เลือกซื้อ

ด้านรองเท้าก็น่าสนใจ ด้วยการพิมพ์ลายโลโก้สีฟ้าอ่อนไว้บนโบว์ที่ประดับรองเท้าส้นสูงหัวแหลม ดูเรียบหรูและคุ้มค่ากับการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะรองเท้า Prada เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ขึ้นชื่อว่าใส่สบายจริงๆ