Happening

“ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์”
ส่งตรงความอร่อยผ่าน “โรบินฮู้ด” กับ 12 ร้านดังในตำนานที่พร้อมเสิร์ฟถึงบ้านแล้ววันนี้

ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ (Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE) ศูนย์รวมสตรีตฟู้ดระดับตำนาน พร้อมเสิร์ฟสุดยอดความอร่อย 12 ร้านดังผ่าน โรบินฮู้ด (Robinhood) แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย ในเครือเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เพิ่มโอกาสในการขายให้กับร้านค้าด้วยการไม่คิด GP (Gross Profits) พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการสั่งอาหารจากหลายร้านได้ในครั้งเดียว ในราคาเท่าหน้าร้านและปริมาณอาหารไม่ลดลง โดยพร้อมให้บริการแล้ววันนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.30 น. เพื่อร่วมมอบประสบการณ์ในการรับประทานอาหารสตรีตฟู้ดร้านดังโดยไม่ต้องออกจากบ้านและไม่ต้องเข้าแถว ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ ได้เพิ่มการให้บริการอำนวยความสะดวกให้สามารถออร์เดอร์สุดยอดเมนูสตรีตฟู้ดจาก 12 ร้านดัง กว่า 200 เมนู ได้แล้ววันนี้ผ่านแอปพลิเคชั่น โรบินฮู้ด แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทยในเครือเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เพียงค้นหาคำว่า Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE ก็สามารถพบความอร่อยของเมนูจากร้านดัง ได้แก่ เผ็ดเผ็ด เฮ่!, คอหมูพระราม 5, ผิน, ก๋วยเตี๋ยวอนามัย, ลิ้ม เหล่า ซา, ชุมพลปาท่องโก๋, ป้าหงษ์ขนมไทย รวมถึงความอร่อยจากมิชลินแนะนำ ได้แก่ ร้าน ยี่ สับ หลก, ผัดไทยไฟทะลุ ก๋วยจั๊บนายเอ็กซ์, สุกี้เมาเวอริค และบุญเลิศ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โรบินฮู้ด ฟู้ดเดลิเวอรี่ ได้ทั้งบนระบบ iOS และ Android
Editor
30 December 2020
Happening

The Cool Reusable Shopping Bags
ถุงผ้ารักษ์โลกสุดคูล จากแบรนด์มหานคร

มหานคร แบรนด์สินค้าสไตล์สตรีตแฟชั่น ปล่อยเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลคชั่นสุดพิเศษส่งท้ายปี 2020 “The Cool Reusable Shopping Bags” (ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ถุงผ้ารักษ์โลกสุดคูลที่จะทำให้คุณเลิกคิดถึงถุงพลาสติกไปเลยทีเดียว ถุงผ้าดีไซน์เท่ที่มาพร้อมกับ Quote ความหมายดีๆ เก๋ๆ ผลิตจากผ้าไนลอน น้ำหนักเบา พกพาสะดวก พับเก็บง่าย เสริมเทคนิคอัดยับที่เนื้อผ้า ทำให้ได้ผ้าที่มีลวดลายเท็กเจอร์ที่สวยงาม ออกมาเป็นไอเท็มเด็ด มีให้เลือก 4 สี 4 ลาย ได้แก่ถุงผ้าสีแดง ปักตัวอักษร Don’t PANIC It’s not Plastic ถุงผ้าสีเทา ปักตัวอักษร Nothing Changes If Nothing Changes ถุงผ้าสีน้ำเงิน ปักตัวอักษร THE FUTURE IS BRIGHT ถุงผ้าสีเหลือง ปักตัวอักษร MAKE TODAY A GOOD DAY มหานคร พร้อมแล้วที่จะให้คุณเป็นเจ้าของถุงผ้ารักษ์โลกสุดคูล คอลเลคชั่น “The Cool Reusable Shopping Bags” ในราคาเพียงใบละ 290 บาท สไตล์ไหนโดนใจจะซื้อไว้ใช้เอง หรือมอบให้เป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่ก็เทรนด์ดี้ ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ สินค้ามีจำนวนจำกัด สั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Instagram: @mahanakhonshop_bkk Facebook: Mahanakhonshop_bkk Line: @mahanakhonshop_bkk
Editor
29 December 2020
BeautyFeatureGrooming Story

Grooming Story:
ปรับลุคให้หล่อตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
เดตไหนก็รอด

FASHION EDITOR SANSHAI JIRAT SUBPISANKUL PHOTOGRAPHER ONG-ON UPA-IN ปรับลุคให้หล่อตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เดตไหนก็รอด เมื่อทุกโอกาสคือการทำคะแนนให้กับตัวเอง ทุกรายละเอียดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม อย่าลืมว่าผู้หญิงสมัยนี้ไม่ได้มองแค่ความหล่อและข้าวของแบรนด์เนมที่คุณใช้เท่านั้นแล้วนะ Power จึงนำเคล็ดลับสำคัญในการปรับลุคให้ดูหล่อดูคูลมาบอกต่อ เพื่อให้คุณผู้ชายได้เตรียมความพร้อมก่อนออกงาน เป็นการเพิ่มดีกรีความเท่ให้กับตัวเอง สร้างความประทับใจในทุกการเดต ชนิดที่เรียกว่าลุคไหนก็โดนใจ เพียงแค่เพิ่มความเอาใจใส่กับทุกเรื่องราวใดๆ ต่อไปนี้ คาดิโอ...เปิดสมอง เพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระตุ้นการไหลเวียนในร่างกาย ใบหน้าและดวงตาดูสดใสเป็นประกาย ลองหาเวลาไปออกกำลังกายแบบคาดิโอสัก 30-45 นาที หัวสมองที่ปลอดโปร่งหลังออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณพูดคุยได้อย่างชาญฉลาด จะปล่อยมุขไหนก็พลิ้วไหวไหลลื่น หว่านเสน่ห์ได้อย่างเนียนๆ โดยไม่ต้องพยายามให้วุ่นวาย ลุคเถื่อนหลบไป โอปป้าโดนใจกว่า หมดสมัยแล้วกับผู้ชายลุคดิบๆ เถื่อนๆ เพราะสาวๆ ส่วนใหญ่หันไปคลั่งไคล้หนุ่มหน้าใสสไตล์เกาหลีกันแล้ว ฉะนั้นหมั่นใส่ใจบำรุงดูแลผิวกันสักนิด เริ่มจากเลิกล้างหน้าด้วยสบู่ก้อนที่ใช้อาบน้ำ แล้วหันมาใช้เคลนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองแทนซะ ถ้าต้องออกงานหรือออกเดต หลังล้างหน้าอาจเสริมด้วยการมาสก์หน้าสัก 10-15 นาที เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ใบหน้าดูสดใส แต่ถ้าไม่มีมาสก์ให้ใช้น้ำแข็งลูบไล้ใบหน้าเบาๆ จะช่วยปลุกผิวให้ดูสดใสขึ้นได้เช่นกัน อย่าปล่อยให้ ‘ขน’ แย่งซีน หากไม่อยากให้คู่เดตเอาแต่จ้องมองขนจมูกหรือขนบริเวณใบหูที่ยื่นออกมาแย่งซีน ก็ควรหมั่นเช็ก ‘ขน’ ใดๆ ต่อไปนี้ก่อนออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็นขนจมูกหรือขนบริเวณใบหูที่ยาวออกมาจัดการเล็มให้เรียบร้อย หนวดเคราถ้าไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงไว้เพื่อความมีสไตล์ก็ควรโกนเสียให้เกลี้ยงเกลา หรือขนคิ้วถ้ารกเกินไปก็กันออกสักเล็กน้อยให้ได้รูปทรง แต่อย่าเผลอกันออกมากจนเกินไป อาจทำให้หน้าหวานเกินหญิงได้ ปากต้องนุ่มและชุ่มฉ่ำ ริมฝีปากแห้งแตกนอกจากจะไม่น่ามองแล้วยังทำให้เสียบุคลิกอีกต่างหาก ยิ่งถ้ามือไม้ซุกซนคุยไปมือก็แกะริมฝีปากไปด้วย บอกเลยว่าหมดเสน่ห์ ฉะนั้นคนริมฝีปากแห้งควรพกลิบบาล์มติดตัวไว้ และต้องเลือกแบบที่เป็นเนื้อบาล์มเท่านั้น อย่าเลือกเนื้อกลอสเป็นอันขาด เพราะต่อให้ผู้หญิงสมัยนี้ใจกว้างกับความเป็นเมโทรเซ็กชวลแค่ไหน แต่ถ้าผู้ชายเดินปากมันวาวมาแต่ไกล ก็อดเอ๊ะไม่ได้หรอกนะ พูดเลย  เรื่องสิวที่ไม่สิว คงไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถนั่งคุยกับคนที่มีสิวอักเสบโดดเด่นบนใบหน้าได้นานๆ โดยไม่รู้สึกขัดหูขัดตา แต่ก็ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการบีบสิว เพราะจะยิ่งทำให้อักเสบลุกลาม และเป็นแผลเป็นไปอีกนาน ถ้ามีสิวอักเสบให้ใช้คอนซีลเลอร์กลบตรงที่เป็นสิว โดยเลือกแบบที่สีใกล้เคียงสีผิว เพื่อความกลมกลืน และควรหมั่นเช็กรายละเอียดทุกครั้งเวลาเข้าห้องน้ำ สำหรับคนที่มีผิวมัน คอนซีลเลอร์จะลบเลือนหายเร็วกว่าผิวประเภทอื่น ฉะนั้นแนะนำให้พกคอนซีลเลอร์ติดตัวไว้ทัชอัพด้วยจะดีที่สุด เรื่องเล็บไม่ใช่เรื่องเล็ก เล็บมือเล็บเท้าควรตัดให้สั้นและรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้มีคราบดำติดอยู่ตามซอกเล็บ อาจหาเวลาเข้าร้านให้ช่างตัดแต่งเล็บมือเล็บเท้า เล็มหนังรอบเล็บให้บ้าง และที่สำคัญ เลิกไว้เล็บนิ้วก้อยยาวๆ เสียที รู้นะว่าเอาไว้ทำอะไร บอกเลยว่ามันไม่น่ามอง สร้างความประทับใจด้วยกลิ่นหอมๆ เมื่อกลิ่นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการสร้างความประทับใจให้คนรอบข้าง เราจึงควรต้องหมั่นเติมความหอมให้กับสารพัดกลิ่นของเรา ไม่ว่าจะเป็น ‘กลิ่นกาย’ คนเหงื่อเยอะและมีกลิ่นใต้วงแขน ควรใช้ดีโอโดแรนต์ที่ช่วยระงับเหงื่อ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมเพื่อกลบกลิ่นเพราะจะยิ่งชวนเวียนหัว ‘กลิ่นปาก’ เองก็ต้องหมั่นเช็กเช่นกัน แนะนำให้ใช้ Tea Tree Oil หยดใส่น้ำเปล่า 1-2 หยด แล้วกลั้วปาก จะช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่นยาวนาน หรือจะพกสเปรย์ระงับกลิ่นปากไว้ด้วยก็จะดีมาก ส่วนใครที่รู้ตัวว่ามี ‘กลิ่นเท้า’ เท้ามีเหงื่อออกเยอะ ควรฉีดสเปรย์ระงับกลิ่นเท้า หรือโรยผงแป้งก่อนสวมรองเท้า แต่ถ้าฉุกเฉินจริงๆ สเปรย์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนก็สามารถใช้แทนได้เช่นกัน อย่าปล่อยให้ไวน์แดงทิ้งคราบ นอกจากการต้องหมั่นเช็กเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันแล้ว คราบเครื่องดื่มต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะไวน์แดง ซึ่งหากคุณเป็นนักดื่มไวน์แดงตัวยง ควรดื่มน้ำเปล่าตามหลังดื่มไวน์ หรือเข้าห้องน้ำไปบ้วนปากบ่อยๆ เพราะคราบไวน์แดงที่ติดอยู่บริเวณริมฝีปากและซอกฟันนั้นจะทำให้คุณหมดเสน่ห์ไปในทันใด ดูอย่างไรก็ไม่เวิร์ก.
Editor
29 December 2020
Food & DrinksLifestyle

FOOD & DRINKS
New Festive À La Carte Menus
Christmas & New Year Japanese Dinner at Tenshino

PHOTOGRAPHY: TENSHINO RESTAURANT / PULLMAN BANGKOK KING POWER ห้องอาหารเท็นชิโนะ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ พร้อมเสิร์ฟความพิถีพิถันให้คุณและครอบครัวได้เฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขอย่างรื่นรมย์ส่งท้ายปีตลอดเดือนธันวาคมนี้ ด้วยมื้ออาหารสุดพิเศษที่ครบถ้วนทุกรายละเอียดของรสชาติในทุกๆ จาน เพลิดเพลินไปกับเมนู À la carte ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายถึง 23 เมนู รังสรรค์ขึ้นโดย เชฟแพน-ขวัญชนก ศรีธาวัชร ภายใต้แนวคิดเมนูอาหารรับปีใหม่ที่งดงามและเป็นสิริมงคลตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่น เคล้ากลิ่นอายความเป็นยุโรป ผ่านวัตถุดิบชั้นเยี่ยมของโปรดตลอดกาลของใครหลายคนทั้ง 4 ชนิด ดังนี้ Bafun Uni หากวัดกันที่ความรักที่ญี่ปุ่นมีให้ “อูนิ” แล้วล่ะก็ จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายเท่าใดนัก ที่เจ้าวัตถุดิบชนิดนี้คือหนึ่งในของโปรดตลอดกาลประจำห้องอาหารเท็นชิโนะ โดยทางร้านใช้เป็นบาฟุนอูนิเนื้อสดสวย แน่น รสหวาน และด้วยความโชคดีราวกับสวรรค์ประทาน ที่ทำให้เรามีวิธีดื่มด่ำไปกับของขวัญจากท้องทะเลฮอกไกโดนี้ได้นับไม่ถ้วน เชฟแพนจึงไม่รีรอที่จะนำเสนอเมนูอูนิไว้อย่างหลากหลายให้ได้ลิ้มลองกัน Black Winter Truffle นี่คือฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดที่คุณจะได้ลิ้มรสเพชรสีดำแห่งวงการอาหาร เห็ดทรัฟเฟิลสีดำสายพันธุ์ดีจากเมือง Périgord ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเชฟแพนได้นำมาสร้างสรรค์เมนูหลากสไตล์ทั้งคาวหวาน ผสมผสานไปกับวัตถุดิบพรีเมียมนานาชาติ เกิดเป็นอาหารฟิวชั่นร่วมสมัย โดดเด่นด้วยรสชาติแห่งฤดูกาลอันเป็นเอกลักษณ์ที่พลาดไม่ได้ Black Winter Truffle นี่คือฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดที่คุณจะได้ลิ้มรสเพชรสีดำแห่งวงการอาหาร เห็ดทรัฟเฟิลสีดำสายพันธุ์ดีจากเมือง Périgord ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเชฟแพนได้นำมาสร้างสรรค์เมนูหลากสไตล์ทั้งคาวหวาน ผสมผสานไปกับวัตถุดิบพรีเมียมนานาชาติ เกิดเป็นอาหารฟิวชั่นร่วมสมัย โดดเด่นด้วยรสชาติแห่งฤดูกาลอันเป็นเอกลักษณ์ที่พลาดไม่ได้ Périgord Foie Gras คริสต์มาสและปีใหม่จะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองได้เลย หากปราศจากรสชาติของ “ฟัวกราส์” ในมื้ออาหาร เพียงเท่านั้นยังไม่พอ คุณยังสามารถเติมเต็มรสชาติให้สมบูรณ์แบบและมีชีวิตชีวามากขึ้นได้อีก เมื่อรับประทานฟัวกราส์คู่กับผลไม้หรือไวน์สักแก้ว เพราะ Acidity และความสดชื่นที่มาช่วยตัดรสนั้น กลับเข้าคู่กันได้อย่างลงตัวในแบบที่เชฟแพนเองก็มิอาจปฏิเสธ จึงได้รังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษเพื่อคุณ Oscietra Caviar   ไม่ว่ายุคสมัยใด “คาเวียร์” ยังคงเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับงานเลี้ยงได้เสมอมา ห้องอาหารเท็นชิโนะพร้อมยกระดับมื้ออาหารในเทศกาลแห่งความสุขของคุณด้วย “ออสเซียตราคาเวียร์” ไข่ของปลาสเตอร์เจียนระดับพรีเมียม หนึ่งในอาหารที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่าเชฟจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ด้วยความต้องการที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ Oscietra Caviar   ไม่ว่ายุคสมัยใด “คาเวียร์” ยังคงเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับงานเลี้ยงได้เสมอมา ห้องอาหารเท็นชิโนะพร้อมยกระดับมื้ออาหารในเทศกาลแห่งความสุขของคุณด้วย “ออสเซียตราคาเวียร์” ไข่ของปลาสเตอร์เจียนระดับพรีเมียม หนึ่งในอาหารที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่าเชฟจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ด้วยความต้องการที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ เริ่มต้นกันที่เมนูเรียกน้ำย่อย Hot Appetizers จานแนะนำ ได้แก่ Seared Hokkaido Scallops, Mango Yuzu Purée and Oscietra Caviar หอยเชลล์ฮอกไกโดตัวโตที่นำไปเซียร์จนหอม มีมะม่วงและส้มยูสุพูเร่เป็นเครื่องเคียง เสิร์ฟพร้อมครีมชิโสะเอสพูม่าเนื้อเนียนเบา ท็อปด้วยออสเซียตราคาเวียร์ แมงโก้ซัลซา และใบโอบะทอด เมนูอื่นๆ – Chicken Consommé with Black Winter Truffles / Seared Périgord Foie Gras with Mizuna & Rocket Salad Cold Appetizers จานแนะนำ ได้แก่ Toro Nigiri with Black…
Editor
28 December 2020
Happening

พบกับมื้ออาหารพิเศษส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ที่ มหานคร แบงค็อก สกายบาร์

บนห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ ชั้น 76 คิง เพาเวอร์ มหานคร ยังเตรียมความพิเศษให้คุณ ด้วยมื้ออาหารพิเศษส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม 2563 และในวันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564 ในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2563 พบกับมื้ออาหารพิเศษส่งท้ายปี ด้วยดินเนอร์ 5 คอร์ส พบกับเมนูไฮไลต์ ได้แก่ ออสเซียตร้าคาเวียร์นำเข้าจากบอร์กโดซ์ เมนล็อบสเตอร์อบเนยบอร์ดิเยร์ เนื้อออสเตรเลียวากิวเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งพูเรและเห็ดทรัฟเฟิลดำจากแคว้นเบอร์กันดี เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.00 – 00.00 น. ในราคาเพียง 5,900++ บาท/ท่าน* ต้อนรับปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม 2564 ด้วยบรันช์วันปีใหม่ ที่มาพร้อมกับบุฟเฟต์อาหารทะเลจากยุโรป ได้แก่ กุ้งแลงกูสทีนจากสกอตแลนด์ หอยหวานจากฝรั่งเศส (มอง แซง มิเชล) หอยนางรม Mr.Jean-Paul จากฝรั่งเศส (นอร์มังดี) และหอยหลอดจากฮอลแลนด์ เสิร์ฟพร้อมอาหารจานหลักรสเลิศที่สามารถเลือกได้ 1 ชนิด ระหว่าง ออสเตรเลียนวากิวสเต็กริบอาย พานาคอตต้าไข่หอยเม่นฮอกไกโด หรือฟัวกราส์ย่าง ปิดท้ายมื้ออร่อยด้วยของหวานสุดคลาสสิคจากฝรั่งเศส เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.30 - 16.00 น. ในราคาเพียง 2,500++ บาท/ท่าน* หรือเพิ่มความพิเศษเต็มอิ่มกับเครื่องดื่มโพรเซ็กโคแบบไม่จำกัด เพียงชำระเพิ่มเติมในราคา 990++ บาท/ท่าน* หรือเลือกเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบบไม่จำกัด เพียงชำระเพิ่มเติมในราคา 590++ บาท/ท่าน* พิเศษ รับส่วนลดสูงสุดทันที 15%* เมื่อทำการสำรองที่นั่งล่วงหน้าที่เว็บไซต์ https://kingpowermahanakhon.co.th/events/bangkoks-highest-countdown-78th/ หรือโทร 0 2677 8722 คิง เพาเวอร์ มหานคร เดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อมต่อสถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3 ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.kingpowermahanakhon.co.th  หรือเฟซบุ๊ก www.facebook.com/KingPowerMahanakhon *ข้อกำหนดเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ราคาดังกล่าวยังไม่รวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่ม
Editor
28 December 2020
FlashHighlightWhat’s New

WHAT’S NEW WATCHES

VERSATILITY ที่สุดแห่งเรือนเวลาที่มาพร้อมสุดยอดนวัตกรรม PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS IWC IWC ยังคงเป็นตัวจริงในการออกแบบที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ด้วย Pilot Automatic Spitfire เรือนเวลาที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในระดับนักบิน ที่มาพร้อมกลไกการเคลื่อนไหวแบบ CALIBER FAMILY 32000 ซึ่งผลิตโดย IWC เอง มุ่งเน้นที่ความทนทานและความน่าเชื่อถือ สำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง Pilot Automatic Spitfire เรือนนี้ มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสขัดเงาขนาดกำลังดีที่ 39 มิลลิเมตร ให้ความคล่องตัวในยาม สวมใส่  ตัวเรือนด้านในเป็นเหล็กอ่อนช่วยป้องกันการเคลื่อนที่จากสนามแม่เหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระจกแซฟไฟร์ แบบนูนเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน รับกับหน้าปัดสีดำเรืองแสง มาพร้อมสายรัดข้อมือสีเขียวที่ได้รับแรง บันดาลใจจากสีสันในห้องนักบินของ Spitfire ระดับการกันน้ำที่ 6 บาร์ OMEGA ด้วยประสบการณ์ในการไปเยือนดวงจันทร์ถึง 6 ครั้งทำให้ OMEGA รู้จักพื้นผิวของดวงจันทร์ดีกว่าใคร เรือนเวลา Speedmaster สุดประณีตรุ่นนี้ จึงเสมือนยกทั้งท้องฟ้าลงมาบรรจุไว้ในตัวเรือน  ด้วยความงามของดวงจันทร์ที่ให้ความ ละเอียดเหมือนภาพถ่ายของ NASA แสดง Moonphase ที่ 6 นาฬิกา ซึ่งไม่เพียงแต่กลไกการทำงานจะเที่ยงตรงอย่างไร้ที่ติ เท่านั้น OMEGA ยังนำเทคโนโลยีเฉพาะตนอีกมากมาย มาร่วมในการรังสรรค์จนเกิดเป็นเรือนเวลามาตรฐานระดับ Master Chronometer ที่สวยงามที่สุดรุ่นนี้ Speedmaster โดดเด่นด้วยตัวเรือนสแตนเลสสตีลเสริมด้วยวงแหวนขอบเซรามิกสีดำ ขนาด 44.25 มม. พร้อมสเกลวัดความ เร็ว Liquidmetal™ หน้าปัดสีดำซันไชน์พร้อมอินเด็กซ์ชุบโรเดียม ครบครันทั้งการบอก และจับเวลา มาพร้อมสายหนังสีดำ พร้อมตัวล็อคแบบพับได้ ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ OMEGA Co-Axial Master chorometer 9904 ซึ่งได้รับการรับรอง อย่างเป็นทางการจาก METAS PANERAI นวัตกรรมใหม่แห่งเรือนเวลาที่จะพาคุณไปสำรวจสิ่งแวดล้อมในแถบอาร์กติก มาพร้อมคอนเซ็ปต์ในการปกป้องโลก ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นในตำนานของ Panerai  สำหรับภารกิจ ใต้น้ำระดับมืออาชีพ ผลิตเพื่อเป็นเกียรติแก่ Mike Horn นักผจญภัยระดับโลก ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ มายาวนานกว่า 15 ปี Submersible Mike Horn Edition 47mm หรือ PAM00984 มาพร้อมตัวเรือน EcoTitaniumTM ขนาด 47 มิลลิเมตร ซึ่งรับกันได้อย่างพอเหมาะพอเจาะกับสายรัดสังเคราะห์แบบสปอร์ตน้ำหนักเบาที่รีไซเคิลมาจากขวด PET หน้าปัดเรืองแสง ช่วยการมองเห็นได้ดีในที่มืด กันน้ำได้ที่ระดับความลึก 300 เมตร ตัวเรือนด้านหลังสลักลาย Ocean life พร้อมลายเซ็นของ Mike Horn ทำงานด้วยระบบกลไกอัตโนมัติ P.9010 ที่สำรองพลังงานได้นาน 3 วัน
Editor
25 December 2020
Happening

เรื่องราวเบื้องหลังพลังแห่งรอยยิ้ม
ที่พร้อมปลุกพลัง สร้างกำลังใจ
ให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

เมื่อวิกฤตการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลายคนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ที่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบอย่างที่เคยเป็น ภาพยนตร์โฆษณา Thailand Smiles With You “Smiles at Your Home Ground” ได้บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้คนในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในด้านการดูแลเอาใจใส่ ด้านความบันเทิง และด้านการบริการ ซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่น้อยไปกว่าใคร ทว่าพวกเขาเหล่านั้นกลับดูเหมือนว่ายังเปี่ยมไปด้วยพลังใจในการมีชีวิต ยังคงมีรอยยิ้มและความห่วงใยให้แก่กันเสมอ มาทำความรู้จักกับคนธรรมดาที่มีหัวใจพิเศษ ผ่าน 3 รอยยิ้มสู้ชีวิตในภาพยนตร์โฆษณาฯ กับเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มเหล่านั้น ที่ยิ่งตอกย้ำให้เรารู้ว่า “รอยยิ้ม” มีพลังมากกว่าที่คิด เป็นพลังวิเศษที่มีอยู่ในคนไทยทุกคน รอยยิ้มเป็นดั่งกำลังใจที่ส่งไปเมื่อไรก็จะส่งต่อให้กันได้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด และที่สำคัญการกลับลงสู่สนามแห่งชีวิตอีกครั้งนั้น บางทีก็จำเป็นต้องผ่านเส้นทางอุโมงค์ที่มืดมิด ก่อนจะพบกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อีกครั้ง “พี่ไม่เคยท้อ ไม่เคยแอบร้องไห้เลยนะ เพราะพี่เชื่อในอาชีพของพี่ เราอยู่ในครัวกับเพื่อนๆ มานาน อยู่มาสิบห้าปีแล้ว คนอื่นๆ เพื่อนๆ ในครัวก็เริ่มบ่นแล้วว่าอยากกลับเข้าครัวใจจะขาด (หัวเราะ)” กุสุมา ทองคำพูล ยิ้มที่รวมพลัง 15 ปีก่อน สุ-กุสุมา ทองคำพูล ตัดสินใจไปสมัครงานที่ห้องอาหารของโรงละครสยามนิรมิต กรุงเทพ ท่ามกลาง Executive Chef, Sous Chef, Chef de Partie, Demi Chef, Commis I, Commis II และ Cook Helper ที่นั่น เธอเริ่มงานด้วยการทำหน้าที่ล้างจาน งานในครัวนั้นหนักทุกหน้าที่ โดยเฉพาะช่วงที่มีทัวร์จากนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักมา กระทั่งเชฟต้องดึงตัวเธอไปช่วยงาน ด้วยความขยันบวกกับการที่เชฟเห็นแววตอนที่ให้ลองทำอาหารจริง จึงค่อยๆ เลื่อนตำแหน่งให้จนเป็น Commis I ประจำอยู่ที่ครัวไทย ก่อนหน้าเดือนมีนาคมที่โรงละครจะปิดตัวลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ครัวต้องรับลูกค้าวันละเป็นพันคน เครื่องครัว หม้อ กระทะ ล้วนใหญ่และหนักจนไม่สามารถยกได้ด้วยคนคนเดียว แม้จะเหนื่อย แต่ “พี่สุ” มีความสุขทุกครั้งที่เข้าครัว เธอเล่าว่ารักอาชีพนี้มาก เพราะได้ลองทำเมนูใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ได้มีโอกาสช่วยสอนน้องๆ และสนุกที่สุดเวลาได้ทำอาหารพร้อมกับเพื่อนๆ ในครัว ความเปลี่ยนแปลงมาในชั่วข้ามคืน ทุกส่วนได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน หลายคนเลือกที่จะกลับบ้าน ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัว อย่างพี่สุที่ผันตัวไปขายผลไม้เล็กๆ น้อยๆ ที่ศูนย์วัฒนธรรม แต่ไม่ว่าอย่างไรสิ่งที่ทุกคนคิดตรงกันก็คือ เมื่อไรโรงละครสยามนิรมิตจะกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ความคิดถึงทำหน้าที่ของมัน พี่สุหวังลึกๆ ว่า ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน ไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่มันคือความผูกพันกับผู้คนนับร้อยในครัวมากกว่า ระหว่างนี้พี่สุดำเนินชีวิตไปด้วยความหวัง ความเข้าใจ และความเห็นใจ เมื่อยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ก็ไม่เครียดจนทำให้ไม่สบายใจ ท้ายที่สุดพี่สุหวังว่า ถ้าครัวกลับมาเปิดอีกครั้ง แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะไปทำอย่างอื่นกันแล้ว แต่ก็ยังอยากเจอทุกคนอีก “คณะเราอยู่กันแบบครอบครัว ให้กำลังใจกันตลอด ก็บอกกันเสมอว่าอย่าไปท้อ เดี๋ยวสักวันหนึ่งเราก็จะกลับมารวมกันเหมือนเดิม ได้กลับมาทำงานที่เรารัก” อาธากร สุดเวหา ยิ้มที่ไม่มีวันยอมแพ้ ด้วยความรักในวัฒนธรรมไทยและความสนใจในการแสดง ทำให้ ซัน-อาธากร สุดเวหา เลือกเรียนที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ โดยเป็นตัวลิงในการแสดงโขน กระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสมาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านการแสดงที่โรงละครอักษรา จึงมีความฝันว่า สักวันหนึ่งถ้าเรียนจบจะมาสมัครเข้าทำงานที่นี่ให้ได้ จวบจนวันนี้ก็เป็นเวลา 4 ปี แล้ว กับบทบาทของการเป็น “คนเชิดหุ่นละครเล็ก” ประจำโรงละครอักษรา คิง…
Editor
25 December 2020
BeautyBeauty InsiderFeature

Beauty Insider:
10 เรื่องควรรู้ที่หลายคน
อาจจะพลาดไปในการแต่งผิวให้ดูสวย

10 เรื่องควรรู้ที่หลายคนอาจจะพลาดไปในการแต่งผิวให้ดูสวย คงไม่ต้องเสียเวลาเกริ่นให้เยิ่นเย้อ เพราะต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการแต่งผิวคุณผู้หญิงให้ดูสวยเป็นธรรมชาติที่หลายๆ คนอาจยังไม่รู้ รวมไปถึงเคลียร์การเข้าใจแบบผิดๆ ที่อาจทำให้เกิดความพังมากกว่าความสวย 1. อย่ารีบร้อนทาแป้งหรือรองพื้นทั้งๆ ที่สกินแคร์ยังไม่ซึมสู่ผิว เพราะอาจทำให้เมกอัพเป็นคราบได้ คุณสาวๆ ควรทิ้งเวลาให้มอยส์เจอไรเซอร์ได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพด้วยการซึมซาบลงสู่ผิวก่อน โดยอาจจะทาสกินแคร์หนึ่งขั้นตอนก่อน แล้วคั่นจังหวะด้วยการไปเลือกชุดหรือทำโน่นทำนี่ไป แล้วค่อยมาทาสกินแคร์ในขั้นตอนต่อๆ ไป เว้นระยะห่างแต่ละขั้นตอนเล็กน้อยให้สกินแคร์ได้ทำงาน แต่ถ้าเราไม่ได้มีเวลามากนัก พัดลมเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะช่วยให้สกินแคร์ที่ทาไปบนผิวแห้งเร็วขึ้นได้ 2. ไพรเมอร์คือชุดชั้นในเนื้อดีที่ควรใส่ให้กับผิวหน้าก่อนออกนอกบ้าน เพื่อการเติมเต็มร่องผิวให้ผิวหน้าสวยเรียบเนียนดูสุขภาพดี การใช้ไพรเมอร์จึงเปรียบได้กับการสวมใส่ชุดชั้นในให้กับใบหน้า ก่อนที่จะห่มทับด้วยรองพื้นที่เปรียบเสมือนเดรสผ้าซาตินชั้นดีสำหรับผิว ซึ่งการเลือกใช้ไพรเมอร์หรือเบสเมกอัพนั้น หากผิวคุณไม่ได้มีปัญหามากนัก สามารถใช้แทนรองพื้นหรือแป้งได้เลย จะช่วยให้ผิวดูฉ่ำน้ำและย้อนวัยได้ง่ายขึ้น ส่วนเราควรจะเลือกไพรเมอร์แบบไหนให้เข้ากับผิวนั้นมาดูกัน เริ่มกันที่ไพรเมอร์แบบที่เป็นเนื้อซิลิโคนนุ่มๆ ลื่นๆ เน้นช่วยเติมเต็มร่องผิว แบบนี้เหมาะกับคนที่มีปัญหารูขุมขนและริ้วรอยร่องลึก แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวมันมากๆ ส่วนแบบที่เป็นเนื้อครีมสีเนื้อ เน้นปรับสีผิวให้ดูสดใสสุขภาพดี เหมาะกับคนที่ผิวค่อนข้างเหลือง สีผิวไม่สม่ำเสมอ และมีจุดด่างดำค่อนข้างเยอะ อีกแบบคือแบบที่เป็นเนื้อครีมสีขาวผสมชิมเมอร์ เน้นเพิ่มความเปล่งปลั่งด้วยการกระจายแสงยามแสงตกกระทบผิว เหมาะกับคนที่ผิวขาดความชุ่มชื้นและผิวดูหม่นหมองไม่สดใส 3. ใช้ปริมาณรองพื้นแต่พองามก่อนที่จะไม่งาม เชื่อว่าข้อนี้คุณสาวๆ เป็นกันเยอะ นั่นคือ การใช้รองพื้นในปริมาณที่มากเกินจำเป็น โดยเฉพาะรองพื้นที่เป็นแบบหัวปั้ม ที่มักจะติดนิสัยการกดหัวปั้มที่ต้องกดสุด สุดท้ายก็มาลำบากด้วยต้องพยายามใช้รองพื้นที่กดออกมาให้หมด จะปาดทิ้งก็เสียดาย อยากจะบอกว่าเคสแบบนี้คุณต้องเข้มแข็งและตัดใจให้ได้ การพยายามจะใช้ให้หมดในคราวเดียวจะเป็นการเพิ่มภาระให้ผิว  เพราะรองพื้นจะกองอยู่บนผิวมากเกินไป บางทีก็กองเป็นจุดๆ เกลี่ยยาก หรือเกลี่ยแล้วไม่กลืนไปกับผิว วิธีจัดการกับปัญหานี้ที่ดีที่สุดคือ ลองบีบรองพื้นออกมาในปริมาณน้อยๆ ก่อน แบบไม่ต้องกดจนสุดหัวปั้ม ถ้าไม่พอค่อยบีบออกมาใหม่ แบบนี้นอกจากจะช่วยให้คุณทาและเกลี่ยรองพื้นได้ง่ายและเนียนกว่ากันแล้ว ยังช่วยประหยัดรองพื้นที่อาจจะเหลือทิ้งอีกด้วย 4. ก่อนเล่นกีฬายังต้องวอร์มร่างกายก่อน รองพื้นก็เช่นกัน และนี่ก็น่าจะเป็นอีกข้อหนึ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ นั่นคือการวอร์มเนื้อรองพื้นที่หลังฝ่ามือทุกครั้งก่อนทาลงไปบนผิวหน้า ก็เหมือนกับการเล่นกีฬานั่นล่ะ ถ้ามีการวอร์มร่างกายก่อนกล้ามเนื้อก็เกิดความยืดหยุ่นจะขยับท่าไหนก็สมูท รองพื้นก็เช่นกัน หากมีการวอร์มเนื้อรองพื้นกันก่อน อุณหภูมิความร้อนในร่างกายของเราก็จะช่วยให้เนื้อรองพื้นแตกตัวและช่วยให้เกลี่ยรองพื้นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 5. ปลายนิ้วคืออุปกรณ์ที่ดีที่สุดในการเกลี่ยรองพื้น จริงๆ ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนมากกว่า ไม่มีอะไรผิดหรือถูก อย่างถ้าต้องการปกปิดมากให้ใช้ปลายนิ้วค่อยๆ กดแตะ ถ้าต้องการปกปิดปานกลางให้ใช้ฟองน้ำ ส่วนการใช้แปรงนั้นเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ สำหรับใครที่แอดวานซ์หน่อยก็อาจใช้ทั้ง 3 อย่างในการเกลี่ยรองพื้นไปเลย นั่นคือ เริ่มด้วยการใช้ปลายนิ้วกดแตะเบาๆ ไปทั่วหน้า แล้วใช้ฟองน้ำค่อยๆ ซับเอารองพื้นส่วนเกินออก แล้วเก็บรายละเอียดบริเวณไรผม ข้างปีกขมูก และแนวขากรรไกรด้วยแปรง เพื่อกำจัดเอารองพื้นที่ติดตามเส้นขนและไรผมออกนั่นเอง 6. การทารองพื้นหนาเตอะเพื่อปกปิดไม่ได้ช่วยอะไร หลายคนเข้าใจว่าถ้าต้องการปกปิด ควรต้องลงรองพื้นเยอะๆ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะยิ่งปกปิดก็ยิ่งเห็นจุดบกพร่อง จึงควรใช้รองพื้นอย่างชาญฉลาดโดยใช้เท่าที่จำเป็น ถ้าผิวไม่มีปัญหาคุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้รองพื้นเลยก็ได้ คือต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการแต้มคอนซีลเลอร์และลงรองพื้น มีจุดประสงค์หลักเพียงอย่างเดียว คือเพื่อแต่งผิวคุณให้ดูสวยขึ้นด้วยการ ‘อำพราง’ จุดบกพร่องบนใบหน้า ซึ่งเราตั้งใจเลี่ยง คำว่า ‘ปกปิด’ เพราะการแต่งผิวที่ถูกหลัก คือแต่งแล้วผิวดูสวยขึ้น โดยที่ยังสามารถมองเห็นผิวจริงภายใต้เมกอัพอยู่ ฉะนั้นใช้คอนซีลเลอร์และรองพื้นเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะยิ่งเมกอัพหนาเท่าไหร่ ยิ่งเห็นจุดบกพร่องได้ง่ายขึ้นเท่านั้น 7. ควรซื่อสัตย์กับสีผิวของตัวเอง การแอบโกงด้วยการเลือกใช้รองพื้นที่มีสีขาวหรือสว่างกว่าผิว แทนที่หน้าจะขาวจะกลับดูเทาเสียมากกว่า ในขณะเดียวกันการใช้รองพื้นโทนสีชมพูเพื่อหวังให้ผิวดูขาวอมชมพู ทั้งๆ ที่ผิวคนไทยเรามีพื้นผิวในโทนเหลือง จะทำให้เราได้ผิวดูอมเขียวแทนได้  ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อรองพื้นโทนสีเหลือง เพราะเป็นโทนสีที่เหมาะกับแทบทุกโทนสีผิว โดยเฉพาะสีผิวของผู้หญิงเอเชีย ซึ่งเคล็ดลับในการเลือกสีแป้งหรือรองพื้นก็คือ เลือกสีที่คิดว่าใกล้เคียงกับสีผิวของคุณมากที่สุดมา 3 สี แล้วนำมาทาเปรียบเทียบกันตรงช่วงข้างแก้ม สีที่กลืนหายไปกับผิวและมองไม่เห็นนั่นแหละคือสีที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับคุณ 8. เลือกคอนซีลเลอร์แบบไหน...ใช่เลย เราต้องรู้ก่อนว่าคอนเซีลเลอร์สำหรับอำพรางรอยคล้ำใต้ตากับคอนซีลเลอร์ที่ใช้อำพรางจุดด่างดำ รอยจ้ำแดง รอยสิว และรอยแผลเป็นนั้นควรใช้แยกกัน นั่นก็เพราะจุดประสงค์ในการทาคอนซีลเลอร์ใต้ตา คือเพื่อเพิ่มความสว่างเข้าไป ทำให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น คอนซีลเลอร์ที่ใช้ควรเลือกให้มีเนื้อบางและสว่างกว่ารองพื้น ในขณะที่คอนซีลเลอร์สำหรับอำพรางจุดด่างดำและรอยตำหนิต่างๆ ควรมีเนื้อและสีที่กลมกลืนกับรองพื้น เพื่อความเป็นธรรมชาติในการอำพรางจุดบกพร่องบนใบหน้า ทริกเล็กๆ…
Editor
24 December 2020
Happening

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้
กับประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ในการย้ายศูนย์ฝึกซ้อมระดับเวิลด์คลาสไปที่ ‘ซีเกรฟ’

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ จะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ เมื่อสโมสรฯ เตรียมย้ายไปยังสนามฝึกซ้อมแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเลสเตอร์เชียร์ ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สนามฝึกซ้อมสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้แห่งใหม่ที่ ‘ซีเกรฟ’ ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019 ซึ่งจากเดิมเป็นที่ตั้งของ สนามกอล์ฟพาร์ค ฮิลล์ โดยนับเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของสโมสรฯ และครอบครัวศรีวัฒนประภา ตั้งแต่ เข้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2010 เนรมิตให้สนามซ้อมแห่งใหม่นี้ กลายเป็นสนามฝึกซ้อมระดับ เวิลด์คลาส ศูนย์กีฬาที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บนพื้นที่กว่า 180 เอเคอร์ หรือ 455 ไร่ โดยทีมชุดใหญ่จะฝึกซ้อมที่สนามบีเวอร์ ไดร์ฟ ในวันพุธที่ 23 ธันวาคมเป็นวันสุดท้าย และจะเข้าฝึกซ้อมครั้งแรกที่ สนามซ้อมแห่งใหม่ที่ ซีเกรฟ ในวันคริสต์มาสอีฟ 24 ธันวาคมนี้ ก่อนหน้าที่ เลสเตอร์ ซิตี้ จะมีเกมเปิดบ้านต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ในวันบ็อกซิ่งเดย์ 26 ธันวาคมนี้สนามฝึกซ้อมแห่งใหม่นี้ ประกอบไปด้วย อาคาร วิชัย ศรีวัฒนประภา อาคารแห่งนี้เป็นศูนย์กลางหลักของศูนย์ฝึกซ้อม ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับอดีต ประธานสโมสร ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สุดของสโมสร ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่สำคัญของ วิชัย ที่มีต่อสโมสร ซึ่งปัจจุบันได้รับ การสานต่อโดย อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ภายในอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ ทีมฟุตบอลชาย สำนักงาน ที่พัก ห้องอาหารและสันทนาการของทีมชุดใหญ่ ซึ่งมีระเบียงที่สามารถมองเห็น สนามฝึกซ้อมด้านนอกของทีม คิง เพาเวอร์ เซ็นเตอร์ เป็นศูนย์ที่มีสถาปัตยกรรมรูปโดมที่โดดเด่นที่สุดตัดกับภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีสนามหญ้าเทียม ในอาคาร รวมถึงศูนย์ฝึกซ้อมสำหรับเยาวชนตามระดับอายุที่เหมาะสม รวมถึงศูนย์อำนวยการสื่อมวลชน ห้องแถลงข่าว ห้องถ่ายทอดสด และพื้นที่สำหรับสันทนาการต่าง ๆ สนามแข่ง 1 สนามแข่งขันย่อยที่จุผู้ชมได้ถึง 499 ที่นั่ง ใช้สำหรับการแข่งขัน เอฟเอ ยูธ คัพ, พรีเมียร์ลีก 2 และฟุตบอล หญิงเลสเตอร์ ซิตี้ สนามฝึกซ้อม 21 สนาม แบ่งเป็นสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน 14 สนาม สนามกอล์ฟส่วนตัว แบบ 9 หลุม ระบบวิทยาศาสตร์การกีฬาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ศูนย์ฟิตเนสและระบบวารีบำบัดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย (Hydrotherapy) สปอร์ต เทิร์ฟ อะคาเดมี่ Sports Turf Academy (STA) ศูนย์กลางวิจัยอะคาเดมี่แห่งแรก สำหรับการเรียนรู้และ ศึกษาพัฒนานวัตกรรม ในการจัดการสนามหญ้าในการแข่งขัน ให้กับทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สนามกีฬามืออาชีพ จากทั่วโลก สนามฝึกซ้อมของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ แห่งใหม่ ซีเกรฟ จะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของนักเตะทีมชายทั้งหมด รวมถึงอะคาเดมี่ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนสนามซ้อมเดิมที่ บีเวอร์ ไดรฟ์ ซึ่งเป็นสนามฝึกซ้อมของสโมสรฯ มาเกือบ 60 ปี จะกลายเป็นบ้านของทีมฟุตบอลหญิง เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเข้ามาอยู่กับสโมสรเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นทีม ฟุตบอลหญิงอาชีพเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา…
Editor
23 December 2020
BeautyBeauty InsiderFeatureHighlight

Beauty Insider:
สุข สดชื่น สมหวัง
ส่งความหอมให้เป็นของขวัญแทนใจ

สุข สดชื่น สมหวัง ส่งความหอมให้เป็นของขวัญแทนใจ เทศกาลแห่งความสุขช่วงปลายปีใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ในขณะที่หลายๆ คนก็เริ่มที่จะมองหาของขวัญให้ถูกใจคนใกล้ตัวหรือคนพิเศษเช่นกัน Power จึงใช้โอกาสนี้ส่งความหอมสดชื่นของ ‘น้ำหอม’ กลิ่นหรูให้เป็นของขวัญสุดพิเศษที่หลายคนอาจมองข้าม ด้วยน้ำหอมค่อนข้างเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัว แต่ในทางกลับกันถ้าลองมองให้เป็นมิชชั่นฟินๆ ว่าใครคนนั้นจะถูกใจกลิ่นที่เราเลือกให้หรือเปล่า ก็ลองฝ่ากฎเกณฑ์นี้ดูสักตั้ง เพราะถ้าคนรับชอบใจคนให้จะยิ่งฟินมากขึ้นไปอีก...นะ Jo Malone Wood Sage & Sea Salt กลิ่นที่ทำให้หลายต่อหลายคนเกิดอาการสตั้นมาแล้ว เหมือนตกอยู่ในภาวะรักแรกพบ ด้วยเนื้อกลิ่นที่ไม่ธรรมดาและมีความยูนีคมาก ทั้งความหอมสะอาด บางเบา ละเมียดละไม ให้กลิ่นสดชื่นเหมือนไอทะเลที่เจือไปด้วยวู้ดเสจ ให้อารมณ์เหมือนยืนอยู่ท่ามกลางแมกไม้ที่มองออกไปเห็นท้องทะเลกว้างใหญ่ กลิ่นมีความเป็นยูนิเซ็กส์ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ให้บุคลิกแสนสุภาพแบบเมโทรเซ็กชวลของชายหนุ่ม และคุณหนูไฮโซผู้เปี่ยมไปด้วยรสนิยมของหญิงสาว Jo Malone London Poppy & Barley Cologne เซอร์ไพรส์ด้วยกลิ่นสดใสของวัยรุ่นที่เปล่งประกายความลักซ์ชัวรี่ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยกลิ่นหอมนวลๆ ของรวงข้าวบาร์เลย์ เมื่อมาตัดกับกลิ่นฟลอรัลสไตล์ดอกป๊อปปี้ ทำให้กลิ่นที่ได้ไม่รู้สึกถึงความหวาน แต่กลับให้ความบางเบา นุ่มนวล ให้อารมณ์ของคนที่ใช้ชีวิตแบบซิตี้ไลฟ์ สามารถใช้ได้ทุกวัน ทุกโอกาส อีกทั้งยังมีความเป็นยูนิเซ็กส์ที่ให้กลิ่นหอมไม่ซ้ำใครจริงๆ Diptyque Eau Rose สำหรับ Eau Rose ขวดนี้ แม้กลิ่นจะมีความเป็นหญิงสาวมากๆ แต่กลับไม่หวานเลี่ยน ด้วยเป็นการเบลนด์กลิ่นดอกไม้ที่หลากหลายไว้ภายใต้กุหลาบ จึงให้กลิ่นที่หลากหลายเลเยอร์ อีกทั้งยังมีความหอมของแบล็คเคอเรนท์ และลิ้นจี่ที่ค่อนข้างชัดมาก ให้ความหวานกำลังดี ไหนจะมีความเปรี้ยวของมะกรูดมาตัดเลี่ยนเบาๆ จึงทำให้ได้กลิ่นที่เป็นธรรมชาติ สะอาด สดใส สบายจมูก ให้ภาพลักษณ์ของหญิงสาวผู้มองโลกในแง่ดีแฮปปี้เอนดิ้ง ใช้ได้ในทุกวัน Tom Ford Soleil Neige กลิ่นเย็นสดชื่นในวันหิมะตกท่ามกลางแสงแดดอุ่น คือนิยามของความหอมนี้ ด้วยกลิ่นหอมเย็นๆ มีความโปร่งเบา อวลความหอมหวาน เต็มไปด้วยกลิ่นแห่งความลักซ์ชัวรี่จากดอกไม้สีขาวอย่าง ดอกส้ม ดอกมะลิ ตบท้ายด้วยไวท์มัส ทำให้มีความนุ่มนวล เหมาะมากกับ Executive Woman ที่เต็มไปด้วยความฉลาด ทุ่มเท นิสัยดี และมีความแพง เหมาะมากในวันพรีเซนต์งานหรือวันประชุมครั้งสำคัญเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ในขณะที่ก็สร้างความประทับใจแก่ผู้คนไปพร้อมๆ กัน *ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
Editor
23 December 2020