BeautyBeauty 119Beauty InsiderFeatureHighlight 119Number 119

Beauty Insider: Before Landing

สวยพร้อมก่อนแลนดิ้งอย่างมั่นใจในช่วงฮอลิเดย์ซีซั่นที่กำลังจะมาถึงนี้ ด้วยเคล็ดลับดีๆ ในการรับมือกับอากาศแห้งแสนแห้งบนเครื่องบิน ที่เรารวบรวมมาฝาก
Editor
8 January 2018
BeautyBeauty 119Beauty TrendNumber 119Trend

Beauty Trend: Let the Party Begin

ไอเดียการแต่งหน้าให้เข้ากับธีมปาร์ตี้สนุกๆ มันๆ 4 สไตล์ เพื่อให้คุณดูโดดเด่นที่สุดในปาร์ตี้ซีซั่นที่กำลังจะมาถึงนี้
Editor
8 January 2018
Exclusive InterviewFashionFashion 119Number 119

Exclusive Interview: Mellow Mario

MELLOW MARIO นับตั้งแต่แฟนๆ ได้รู้จักกับหนุ่มน้อยหน้าละอ่อน แววตาแฝงไปด้วยความน่าเอ็นดู นามว่า “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ เรื่อง “รักแห่งสยาม” เผลอแผล็บเดียวผ่านไป 10 กว่าปีแล้ว ที่พระเอกหนุ่มวัยทีนโลดแล่นอยู่ในวงการ จนถ้าเจ้าตัวไม่เฉลย ก็แทบไม่เชื่อเลยว่า ตอนนี้มาริโอ้อายุ 29 ปีแล้ว แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความน่ารักของมาริโอ้ยังคงเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน ล่าสุด เราได้พบกับมาริโอ้ในบทบาทใหม่แกะกล่อง กับฐานะพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของ คิง เพาเวอร์ ซึ่งงานนี้เจ้าตัวยอมรับแบบไม่กลัวเสียฟอร์มว่า “รู้สึกตื่นเต้น และเป็นเกียรติมากๆ ที่ผ่านมา โอ้ได้มีโอกาสร่วมงานกับ คิง เพาเวอร์ มาหลายครั้ง ทั้งถ่ายแบบ โชว์ตัวแต่ครั้งนี้ได้มารับหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ ซึ่งโอ้คิดว่า แฟนๆ ทั้งชาวไทยและชาวจีนจากนี้ไปคงจะได้เห็นโอ้บ่อยขึ้นแน่นอน” ใครที่เป็นแฟนคลับของนักแสดงหนุ่มหน้าใสมาตั้งแต่แจ้งเกิดในวงการ กระทั่งก้าวสู่การเป็นพระเอกพันล้าน คงเห็นถึงพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของมาริโอ้ที่ก้าวหน้าขึ้นมาก แต่หนุ่มน้อยไม่ขอโฟกัสเรื่องฝีมือการแสดง ปล่อยให้แฟนๆ เป็นคนตัดสิน เขากลับมองว่า ประสบการณ์ชีวิตสอนให้อดทนและเข้มแข็งขึ้น “สมัยเข้าวงการใหม่ๆ อาจเพราะด้วยความที่เรายังเป็นเด็ก ยังไม่ได้เห็นคุณค่าของสิ่งที่ทำอยู่มากพอบางครั้งก็ยังมีงอแง ยังมีบ่นว่าเหนื่อยบ้าง จนพอทำงานมาสักพัก โอ้เห็นคุณแม่ ซึ่งท่านเป็นเวิร์กกิ้ง วูแมนท่านเป็นนักสู้มากๆ ถึงตอนนี้อายุเข้าเลข 7 นำหน้าแล้ว ก็ยังซิ่ง ทุกครั้งที่เห็นแม่ เหมือนเป็นพลังกระตุ้น ทำให้โอ้บอกตัวเองเสมอว่า เราไม่มีเหตุผลที่จะไม่สู้ และไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของเรา” ด้วยความตั้งใจนี้เอง ทำให้ที่ผ่านมา นักแสดงหนุ่มไฟแรงไม่เคยปิดรับทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ล่าสุด เขายังพาตัวเองก้าวผ่านความกลัว ท้าทายคำว่า “ทำไม่ได้” ด้วยการโชว์เสียงร้องเพลงประกอบละคร “บัลลังก์ดอกไม้” เป็นครั้งแรก “มีคนติดต่อมาเยอะนะครับให้ผมร้องเพลงแต่ผมเองที่ปฏิเสธไป เพราะเคยร้องเพลงแล้วเจอติว่าร้องไม่ดี เลยฝังใจ แต่สุดท้ายมีเพื่อนสนิทให้กำลังใจ พอมีโอกาสเข้ามาอีกครั้ง โอ้เลยอยากจะลองก้าวผ่านความกลัวนั้นมาให้ได้ โอ้ตัดสินใจร้องเพลงประกอบละครเป็นครั้งแรก ถึงเพลงจะไม่ได้ดังมาก แต่สำหรับโอ้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะอย่างน้อยเราก็ก้าวผ่านความไม่มั่นใจนั้นมาได้” พลังล้นเหลือแบบนี้นี่เอง ถึงทำให้ติดอันดับพระเอกสุดฮ็อตของเมืองไทยอย่างไม่ต้องสงสัยแต่แม้คิวงานจะแน่น บางครั้งทำงาน 7 วัน แต่ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ หนุ่มหน้าใสขอเทเวลาให้กับงานอดิเรกสุดเลิฟอย่างการขี่มอเตอร์ไซค์ ที่แม้จะดูสวนทางกับหน้าใสๆ แต่เป็นกิจกรรมที่โอ้รักมาก นอกจากจะชอบขี่รถเที่ยวแล้ว การเดินทางถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมโปรดของนักแสดงหนุ่ม โดยประเทศที่เขาหมายมั่นอยากปักหมุดสักครั้ง คือ เยอรมนี เพราะเป็นดินแดนแห่งยานยนต์ แต่หากต้องเลือกสถานที่ที่แนะนำให้ผู้อ่านตามรอย คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากนครวาติกัน “โอ้เป็นคริสตังครับ ในฐานะชาวคริสต์ นครวาติกัน ถือว่าเป็นที่สุดจริงๆ ทั้งในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ความวิจิตรของจิตรกรรม ซึ่งโอ้ว่าถึงไม่ใช่ชาวคริสต์ก็ควรค่าแก่การไปเยือนอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่เดินทางโอ้มี คิง เพาเวอร์ เป็นเพื่อนรู้ใจที่คอยเติมเต็มการเดินทางของโอ้ โซนที่พลาดไม่ได้ คือ นาฬิกา แว่นกันแดดและน้ำหอม คิง เพาเวอร์ ช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น ให้เราได้ซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ และวางใจได้ในเรื่องราคา มาที่เดียวได้ครบทุกความต้องการจริงๆ เป็นวันสต็อปเซอร์วิสของนักเดินทางที่ไม่ควรพลาด” สุดท้ายนี้ มาริโอ้ยังถือโอกาสกล่าวเชิญชวนแฟนๆ มาสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โฉมใหม่ ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่ทุกคนกำลังมองหา ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายแบรนด์ดัง ความบันเทิงเต็มรูปแบบตระการตาด้วยแสง สี เสียง และประสบการณ์มื้ออาหารแสนอร่อยทั้งจากทั่วไทยและทั่วโลก PHOTOGRAPHER: TADA VARICH FASHION EDITOR: SANSHAI JIRAT SUBPISANKUL
Editor
8 January 2018
FashionFashion 119Highlight 119Men’s FashionNumber 119

Men’s Fashion: True Leader

เสื้อยืดแขนสั้นคอกลมลายทาง เสื้อแจ็กเก็ตผ้านิตติ้ง และกางเกงขายาวทรงกระบอก ทั้งหมดจาก Polo Ralph Lauren เสื้อแจ็กเก็ตตกแต่งซิปด้านหน้า จาก Boss แว่นกันแดด จาก Prada
Editor
8 January 2018
Fashion InsiderFlashFlash 119Highlight 119Number 119

Fashion Insider: Minus Chic

MINUS CHIC ทำความรู้จักกับ Moncler แบรนด์เครื่องกันหนาวสุดหรูหราจากประเทศฝรั่งเศส ที่แฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณของนักเดินทาง ผสานเข้ากับผลงานการดีไซน์ที่สวยงามลงตัว เหมาะกับการใช้งานได้จริงเมื่อกระแสลมหนาวมาเยือน STORY  TAWAN KONKAEW • PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบากว่าเสื้อโค้ตผ้าวูล แต่ให้ความอบอุ่นได้ไม่แพ้กัน จึงกลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ครั้งแรกที่คุณเห็นดาวน์แจ็กเก็ตหรือเสื้อกันหนาวผ้าร่มเย็บลายนั้นคือเมื่อไหร่ และที่ไหน หลายคนอาจไม่รู้ที่มาที่ไปของประดิษฐกรรมการออกแบบชิ้นเอกนี้ ที่ได้สร้างเสื้อผ้าชิ้นใหม่ให้กับผู้คนที่เดินทางในสภาพอากาศหนาวเหน็บทั่วโลก ว่าเกิดขึ้นจากแบรนด์ Moncler นี้เอง ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1952 René Ramillon และ André Vincent สองคู่หูได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทผลิตเครื่องนอน เต็นท์ และอุปกรณ์เดินทางในเมืองหนาวขึ้น โดยตั้งชื่อว่า Monestier-de-Clermont ตามชื่อหมู่บ้านเล็กๆ ในเทือกเขาสูงของประเทศฝรั่งเศส เดิมทีนั้นเสื้อดาวน์แจ็กเก็ตที่ใช้ขนห่านบุด้านในแล้วเย็บด้านนอกด้วยวัสดุกันลม ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องแบบกันหนาวในช่วงฤดูหนาวให้กับพนักงานในบริษัท ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบากว่าเสื้อโค้ตผ้าวูลแบบดั้งเดิม แต่ให้ความอบอุ่นได้ไม่แพ้กัน จึงกลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เพียง 3 ปีหลังจากนั้น เสื้อดาวน์แจ็กเก็ตก็ถูกเลือกใช้เป็นเสื้อกันหนาวของคณะสำรวจอิตาลีที่เข้าไปทำวิจัยในเขตที่ราบสูง Karakorum ในประเทศมองโกเลีย หนึ่งในพื้นที่ที่มีความแปรปรวนด้านภูมิอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และต่อมาคณะสำรวจสัญชาติฝรั่งเศสก็ไว้วางใจเลือกใช้เสื้อของ Moncler ในการสำรวจยอดเขา Makalu บนเทือกเขาหิมาลัย แบบยกทีมเช่นกัน ไม่เพียงแต่คณะสำรวจ ยอดนักปีนเขาชื่อดังอย่าง Lionel Terray ก็เลือกเสื้อดาวน์แจ็กเก็ตทุกครั้งที่เขาพิชิตยอดเขาต่างๆ ซึ่งเป็นการการันตีได้ถึงคุณภาพอันเยี่ยมยอดและดีไซน์การออกแบบที่เหมาะสำหรับการเดินทางอย่างแท้จริง ทุกวันนี้ Moncler ขยายอาณาจักรแฟชั่นไปอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยตลาดที่มีมูลค่าสูงเกือบ 4,000 ล้านยูโร พร้อมสาขาตามหัวเมืองใหญ่ทั่วทุกห้างดัง เท่านั้นยังไม่พอ ชื่อเสียงของแบรนด์ได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น โดยเมื่อปีค.ศ. 1968 Moncler ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนเสื้อผ้าหลักของนักกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวทีมชาติฝรั่งเศส  ผลลัพธ์คือ โลโก้รูปไก่และยอดเขาซ้อนกันเป็นรูปตัว M ติดตาผู้คนอย่างห้ามไม่ได้ ผ่านการถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกไปทั่วโลก แม้ชื่อเสียงที่สุดยอดในกิจกรรมกีฬาและการเดินทางจะไม่แพ้ใครอยู่แล้ว แต่ในช่วงปีค.ศ. 1980 แบรนด์ได้สร้างไดเร็กชั่นใหม่เพื่อบุกตลาดแฟชั่นให้มากยิ่งขึ้น ผ่านมุมมองของดีไซเนอร์ปารีเซียงอย่าง Chantal Thomass ที่ช่วยปัดฝุ่นแจ็กเก็ตต้านลมหนาวให้ดูเปรี้ยวขึ้นผ่านเทคนิคการเคลือบเงาผิวผ้า “Lacquered” ให้ตัวเสื้อมันวาว และการเสริมเฟอร์ ผ้าไหมซาติน และกระดุม แทนที่ซิปและยางยืดแบบดั้งเดิม ถือเป็นการเปิดตัว Moncler ในสังเวียนแฟชั่นของปารีสได้อย่างน่าสนใจ การเปลี่ยนแปลงนั้นย่อมนำมาซึ่งพลังใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการแฟชั่นนั้นมีการเปลี่ยแปลงเป็นว่าเล่นแทบจะทุก 6 เดือนด้วยซ้ำ ในปีค.ศ. 2003 นายทุนชาวอิตาลี Remo Ruffini ได้เข้าซื้อบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสนี้และนั่งบริหารในฐานะประธานกรรมการ วิสัยทัศน์ของ Remo ได้นำแบรนด์ Moncler สู่มาตรฐานระดับโลก ด้วยการคัดสรรเหล่านักออกแบบชั้นนำที่จะมาร่วมงานกับแบรนด์ แตกไลน์สินค้าให้หลากหลายตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค วิจัยและสนับสนุนการสร้างสรรค์วัสดุใหม่ๆ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ การสร้างสรรค์ผลงานทั้งหมดในยุโรปเพื่อมาตรฐานของแบรนด์จะได้คงที่ตามที่ควรจะเป็นในปีค.ศ. 2006 แบรนด์ได้นำเสนอไลน์เสื้อผ้าชั้นสูงระดับ Haute Couture ในชื่อ Moncler Gamme Rouge ภายใต้การออกแบบของกูตูริเยร์ชื่อดัง Giambattista Valli ผู้มีเอกลักษณ์ในการออกแบบชุดผู้หญิงได้อย่างหรูหรา สง่างาม และเย้ายวนในแบบอิตาเลียน แต่ก็แปลกใหม่และใช้แพ็ตเทิร์นได้อย่าง ยอดเยี่ยมในแบบชาวฝรั่งเศสเช่นกัน ต่อมาในปีค.ศ. 2009 หรือ 3 ปีหลังจากนั้น ก็ถึงเวลาของชายหนุ่มบ้าง กับการเปิดตัว Moncler Gamme Bleu สำหรับชายผู้เปี่ยมรสนิยม ภายใต้การผสมผสานดีเอ็นเอแบบสปอร์ตของแบรนด์ กับมุมมองทางด้านเสื้อเทเลอร์เมดของดีไซเนอร์สัญชาติอเมริกันอย่าง Thom Browne ส่วนในปีค.ศ. 2010 ไลน์ Moncler Grenoble ซึ่งเป็นไลน์เสื้อผ้าหลักสำหรับชายและหญิง ได้ปรับปรุงภาพลักษณ์และดีไซน์ใหม่ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับกิจกรรมต่างๆ…
Editor
8 January 2018
Fashion InsiderFlashFlash 119Highlight 119Number 119

Fashion Insider: Italian Master

ITALIAN MASTER คนรักแฟชั่นไม่มีใครไม่รู้จัก Mr. Giorgio Armani แล้วอะไรที่ทำให้อาณาจักรแฟชั่น และสินค้าของเขาเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ เชิญพบกับอีกหนึ่งเรื่องราวของแบรนด์ Emporio Armani ตัวแทนของความร่วมสมัยของผู้คนยุคใหม่จาก Armani Group STORY TAWAN KONKAEW PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1980 แบรนด์แฟชั่นที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกนั้นต้องยกให้ Armani ที่ทุกคนต่างควานหาชุดสูทไหล่กว้างคัตติ้งคมกริบ เหมือนกับที่ตัวละครเอกจากภาพยนตร์ American Gigolo สวมใส่ แต่ทว่าอะไรคือความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้นักออกแบบคนนี้ ที่พาให้แบรนด์ของเขายังเป็นที่นิยมและสวมใส่ได้จริงในยุคดิจิตอลแบบสี่จุดศูนย์ Mr. Giorgio Armani เกิดเมื่อปีค.ศ. 1934 ในเมือง Piacenza ทางตอนเหนือของอิตาลี ก่อนที่จะมาเป็นดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกนั้น เขาเคยเข้ารับราชการทหารที่โรงพยาบาลทหารเมือง Verona ที่นั่นเองเขามีโอกาสได้ชมการแสดงอันแปลกตา ณ อัฒจันทร์กลางแจ้ง  Arena di Verona ซึ่งจุดประกายความฝันในงานสายแฟชั่นของเขาขึ้นมา อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงและทำให้คนทั่วโลกรู้จักอาณาจักรแฟชั่นแห่งนี้ คือ Emporio Armani Armani ได้เริ่มทำงานที่ห้างสรรพสินค้า La Rinascente ในฐานะคนจัดวินโดว์ดิสเพลย์ ในปีค.ศ. 1957 แล้วจึงย้ายมาเป็นพนักงานขายในแผนกเสื้อผ้าผู้ชาย ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าทำงานที่บริษัท Nino Cerruti ในฐานะผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ จะเห็นได้ว่า Armani ผ่านประสบการณ์การทำงานในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่จุดที่เล็กที่สุด มาจนถึงตำแหน่งดีไซเนอร์ ด้วยความเข้าใจในระบบอย่างลึกซึ้งและเข้าใจถึงธรรมชาติของลูกค้านั่นเอง ทำให้ในปีค.ศ. 1975 เขาได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัท Giorgio Armani S.p.A. ในมิลาน เพื่อจัดจำหน่ายเสื้อผ้าผู้ชายภายใต้ชื่อของเขา และไลน์เสื้อผ้าผู้หญิงในปีถัดมาความสำเร็จอีกขั้นของเขา คือการขยายจากธุรกิจแฟชั่นไปยังโลกน้ำหอม ด้วยการจับมือกับบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ในฝรั่งเศส L’Oréal เปิดตัวน้ำหอม พร้อมกันนั้นก็ได้ออกไลน์แฟชั่นต่างๆ ตามมาอีกมากมาย ทั้ง Emporio Armani, Armani Junior, Armani Jeans และ Emporio Underwear ยังไม่นับรวมถึงบทบาทสำคัญในการแต่งตัวและสนับสนุนให้ดาราฮอลลีวู้ดแถวหน้าได้สวมใส่ชุดของเขาด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ยุคทองของ Armani คือช่วงทศวรรษนี้จริงๆ แต่นักธุรกิจและนักออกแบบระดับเขาไม่เคยหยุดนิ่งกับความสำเร็จ และยังคงมุ่งไปข้างหน้าเสมอด้วยการบุกตลาดเอเชียผ่านประเทศญี่ปุ่นในช่วงปีค.ศ. 1988 และตลาดระดับกลางค่อนบนของสหรัฐอเมริกา ด้วยการออกไลน์ A/X Armani Exchange ที่มุ่งเน้นไปยังผู้บริโภคกลุ่มกว้างซึ่งต้องการเสื้อผ้าที่มีดีไซน์ แต่สวมใส่สบายและราคาสมเหตุสมผล ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเพื่อจะเน้นย้ำให้เห็นโครงสร้างทางธุรกิจของบริษัทที่มียอดขายมากกว่า 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ว่าผ่านระยะเวลาและการบ่มเพาะมานานแค่ไหน แม้ว่าจุดสูงสุดของแบรนด์คือ Armani Privé ไลน์เสื้อผ้าชั้นสูงระดับ Haute Couture ก่อนจะไล่ลงมาเป็น Giorgio Armani ไลน์แฟชั่นชื่อเดียวกับเจ้าของแบรนด์ เน้นย้ำที่ดีไซน์โก้หรูและมาตรฐานระดับอิตาเลียนที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงและทำให้คนทั่วโลกรู้จักอาณาจักรแฟชั่นแห่งนี้มากที่สุด คือ Emporio Armani ไลน์เสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับชายและหญิง ที่สร้างสรรค์ไปจนถึงเครื่องหนัง รองเท้า เครื่องประดับ และนาฬิกายอดฮิต Emporio Armani เน้นไปที่เทรนด์แฟชั่นสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการดีเทลที่ไม่เหมือนใคร แต่คงไว้ด้วยฝีมือการตัดเย็บและคัตติ้งสุดเนี้ยบตามแบบฉบับ Armani อีกทั้งยังมีจุดยืนในการออกแบบเสื้อผ้าที่ปรับเปลี่ยนง่าย เคลื่อนไหวสะดวก เพื่อหนุ่มสาวที่มีกิจกรรมหลากหลายในหนึ่งวัน ซึ่ง Emporio Armani ถือเป็นหนึ่งในสามไลน์หลักที่ Mr. Armani ยังคงออกแบบและควบคุมการออกแบบด้วยตัวเองทุกคอลเลคชั่น ต่างจากไลน์ที่รองๆ…
Editor
8 January 2018
Fashion Shop The TrendsFlashFlash 119Number 119

Fashion Shop The Trends: Shining Moment

นาฬิกาเรือนหรูหลากสไตล์และเครื่องประดับล้ำค่า เหมาะแก่การเลือกหาเป็นของขวัญให้ตัวเองและคนพิเศษ ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
Editor
8 January 2018
FlashFlash 119New ItemsNumber 119

New Items: Gadgets Update

GADGETS UPDATE คิง เพาเวอร์ คัดสรรสินค้าคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ดัง มาให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝาก หรือของใช้ส่วนตัว PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS CANON EOS M100 (BLACK / GREIGE / WHITE) ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 7, เซ็นเซอร์ APS-C CMOS, ความละเอียด 24.2 MP, หน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีนขนาด 3.0”, รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth และ NFC FUJIFILM X-E3 (BLACK / SILVER) ความละเอียด 24.3 MP มาพร้อมเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายแบบ Bluetooth สามารถจับคู่กล้องกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเพื่อถ่ายโอนภาพได้ OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III (BLACK / SILVER) ดีไซน์สุดคลาสสิก ถ่ายง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ได้ภาพคมชัดคุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยีกันสั่น 5 แกนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติเต็มรูปแบบ PHILIPS STAR WARS EDITION SHAVER (SW170/04 / SW5700/07 / SW6700/14) เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีให้เลือก 3 รุ่น 3 สไตล์ NIKON D7500 ความละเอียด 20.9 MP ระบบประมวลผล EXPEED 5 ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง 8 ภาพต่อวินาที พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติ 51 จุด Wi-Fi/Bluetooth ในตัว รองรับการถ่ายโอนข้อมูลไปยังสมาร์ทดีไวซ์ GOPRO HERO6 BLACK มีฟีเจอร์กันสั่นที่ดีที่สุด กันน้ำลึกไม่เกิน 10 เมตร โหมด QuickStories อัดวิดีโอสั้นเพื่อแชร์สู่อินเทอร์เน็ตผ่านแอพบนมือถือ โหมด HDR และ RAW รองรับ 5G Wi-Fi ส่งไฟล์ได้เร็วขึ้น 3 เท่า SAMSUNG GALAXY NOTE8 (MIDNIGHT BLACK, MAPLE GOLD, ORCHID GRAY) ดีไซน์เต็มตาสุดขอบ เพื่อชีวิตไร้กรอบ พร้อม S Pen ปากกาอัจฉริยะ ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดแม้กระทั่งในที่ซึ่งมีแสงน้อย HUAWEI NOVA 2I (GOLD / BLACK) ขนาดหน้าจอ 5.9 นิ้ว กล้องหลังแบบคู่ 16 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้าแบบคู่ 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล พร้อม Softlight เพิ่มหน่วยความจำภายในได้ถึง 128GB…
Editor
7 January 2018
FlashFlash 119New ItemsNumber 119

New Items: Beauty Update

YVES SAINT LAURENT TOUCHE ÉCLAT CUSHION คุชชั่นสูตรบางเบาที่ช่วยปกปิดพร้อมสร้างความเปล่งปลั่งสว่างใสให้กับผิว มาในตลับสีทองให้สัมผัสหรูหรา พร้อมพัฟฟ์สองเนื้อ และ Micro-net Delivery System ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Yves Saint Laurent (2,125 Baht / Available in 4 shades) BOBBI BROWN EVENING GLOW EYE SHADOW PALETTE LIMITED EDITION พาเล็ตต์อายแชโดว์ที่มีตั้งแต่เฉดสีชมพูกุหลาบ สโมคกี้เกรย์ ไปจนถึงเฉดสีน้ำตาล เพื่อการสร้างสรรค์เปลือกตาให้เปล่งประกายได้สารพัดลุค (1,700 Baht) GIVENCHY PRISME LIBRE LOOSE POWDER ECLATS DE ROSE LIMITED EDITION แป้งฝุ่นที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน มีออร่าอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเนื้อแป้งละเอียดบางเบาเฉดสีชมพู ที่มีตั้งแต่ Ivory Pink สีบางเบา ไปจนถึง Candy Pink สีสดใส (2,120 Baht) TOM FORD LIP COLOR ลิปสติกเนื้อเนียนนุ่มที่ช่วยแต่งแต้มเติมเสน่ห์พร้อมบำรุงริมฝีปากสำหรับซีซั่นนี้ ที่เหล่าลิปสติกเลิฟเวอร์จะต้องตาลุกวาวด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกอย่างจุใจถึง 32 เฉดสี (1,700 Baht / Available in 32 Shades) BEAUTY UPDATE PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS บิวตี้ไอเท็มชิ้นใหม่ล่าสุด จากหลากหลายแบรนด์ดัง ที่จะช่วยให้คุณสวยโดดเด่น กว่าใครๆ ตลอดฤดูกาลนี้ NARS AQUA GLOW CUSHION FOUNDATION SPF 23 / PA++ คุชชั่นสูตรเพิ่มระดับการปกปิด จากแบบธรรมชาติถึงปกปิดปานกลาง ช่วยเก็บกักน้ำและเพิ่มความชุ่มชื่นกระจ่างใส พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด (1,190 Baht / Available in 6 shades) ESTÉE LAUDER PURE COLOR ENVY MATTE SCULPTING LIPSTICK ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่จะสร้างสีสันพร้อมเติมความชุ่มชื่นให้กับริมฝีปากด้วยเนื้อครีมนุ่มเบา เรียบรื่น เม็ดสีชัด ช่วยสร้างความสดใสได้ทันใจในการทาเพียงแค่ครั้งเดียว (1,105 Baht / Available in 28 Shades) CLARINS EVERLASTING CUSHION FOUNDATION SPF 50 คุชชั่นเนื้อบางเบาที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด อุดมด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีคุณค่าบำรุง และช่วยปกป้องผิวได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องทาซ้ำ (1,500 Baht / Available in 4 Shades) SISLEY PARIS PHYTO-SOURCILS FIX THICKENING SETTING GEL มาสคาร่าสูตรพิเศษ อุดมไปด้วยส่วนผสมของไนลอนไฟเบอร์ ที่จะช่วยเพิ่มวอลุ่มให้ขนตาดูหนาและยาวสวยเรียงเส้นอย่างเป็นธรรมชาติ ติดทนนานทั้งวัน ไม่จับตัวเป็นก้อน และไม่ทิ้งคราบดำกวนใจ (1,440…
Editor
7 January 2018