What’s New

ELEGANCE คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทน แห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS CHOPARD Chopard ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเรือนเวลาหรู ได้นำเสนอความสุขอันเป็นนิรันดร์ผ่านการผสมผสานชั้นเลิศ ระหว่างทักษะและความชำนาญขั้นสูงในการผลิตเรือนเวลา และการผลิตชิ้นงานประดับเพชรระดับสูงเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ยังคงให้ผลงานที่เต็มไปด้วยความเลอค่าสง่างาม หากก็รู้สึกได้ถึงความสปอร์ตและทันสมัยในเวลาเดียวกัน พร้อมจะเป็นเรือนเวลาคู่ใจคุณสภาพสตรีในทุกๆ โอกาส ‘เพชรจะมีความสุขมากขึ้นเมื่อสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ’ ยืนยันคำกล่าวนี้ด้วย Chopard Happy Sport เรือนนี้ ซึ่งมาพร้อมตัวเรือนทองกุหลาบ 18K ขนาด 33.0 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีแดง ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยการสะท้อนของแสงที่ตกกระทบหน้าปัด และเปล่งประกายยิ่งขึ้นด้วยเพชรน้ำงาม 8 เม็ด อันสื่อถึงตัวเลขนำโชค ที่กลิ้งตัวพลิ้วไหวไปมาภายใต้กระจกแซฟไฟร์ได้อย่างอิสระ มาพร้อมสายหนังจระเข้สีแดงมันวาว มีตัวล็อกแบบหัวเข็มขัด ระดับการกันน้ำที่ 3 บาร์ (30 เมตร) ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Chopard 09.01-C VACHERON CONSTANTIN คอลเลคชั่น Traditionnelle ถือกำเนิดขึ้นจากสายการผลิตเรือนเวลาชั้นเลิศอันทรงเกียรติซึ่งถ่ายทอดผ่านรุ่นสู่รุ่นมากว่า 260 ปี โดยตลอดมาได้พยายามยกระดับงานศิลปะของช่างฝีมือแห่งเรือนเวลาของเจนีวามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชื่อเสียงแห่งความเป็นเลิศนี้ยังคงอยู่ต่อไปและฝังอยู่ในจิตวิญญาณอันแน่วแน่ คอลเลคชั่น Traditionnelle จึงเหมือนเป็นตัวแทนของความงามสง่าเหนือกาลเวลาที่มาพร้อมความเข้มงวดอย่างร่วมสมัย ที่มีเพียงช่างฝีมือมากความสามารถเท่านั้น ที่จะสามารถรังสรรค์ผลงานศิลปะแห่งกลไกมาสู่ชีวิตได้อย่างที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต Traditionnelle Quartz เรือนนี้ยังคงได้รับการออกแบบอย่างประณีตและสง่างาม ด้วยตัวเรือนทองชมพู 18K 5N ขนาด 30 มิลลิเมตร เรียบหรูด้วยหน้าปัดหอยมุกประดับเพชรเจียระไนทรงกลม 64 เม็ดโดยรอบกรอบหน้าปัด มาพร้อมสายรัดหนังจระเข้สีวอร์มเกรย์ ตัวล็อกแบบหัวเข็มขัด ขับเคลื่อนด้วยพลังงานควอตซ์ และการกันน้ำที่ระดับ 3 บาร์ (30 เมตร) VERSATILITY ดึงดูดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านเรือนเวลาสุดโปรดที่บ่งบอกความเป็นตัวตน IWC คอลเลคชั่น Pilot’s Watch Spitfire ของ IWC ได้รับการยกย่องในเรื่องของความสง่างามและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของเครื่องบินรบในตำนานตั้งแต่ปี 2546 และยังคงประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน IWC ยังคงผสมผสานรูปแบบและฟังก์ชันได้อย่างลงตัวอีกเช่นเคย ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกานำทางอย่าง Mark 11 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมที่ไม่เหมือนใครของนักออกแบบ Spitfire จาก IWC Pilot's Watch Chronograph Spitfire สุดยอดเรือนเวลาที่มาพร้อมคุณสมบัติโดดเด่นของนักบินเรือนนี้ มาในตัวเรือนสแตนเลสชั้นเยี่ยม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 41.0 มิลลิเมตร หน้าปัดสีดำเรืองแสง แสดงวันและวันที่ พร้อมฟังก์ชั่นโครโนกราฟบอกชั่วโมง นาทีและวินาที เคลื่อนไหวด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติที่ผลิตโดย IWC เองเป็นการเฉพาะ สำรองพลังงานได้ถึง 46 ชั่วโมง เคสด้านในทำจากวัสดุป้องกันสนามแม่เหล็ก ภายใต้กระจกแซฟไฟร์ป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน การกันน้ำที่ระดับ 6 บาร์ (60 เมตร) มาพร้อมสายรัดผ้าสีเขียวเพิ่มความเท่สุขุมได้อย่างมีระดับ MONTBLANC เรือนเวลาหรูจาก Montblanc เรือนนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาข้อมือสุดคลาสสิกของ Minerva ในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 ซึ่งเป็นสายผลิตภัณฑ์ Heritage ที่ผสมผสานความสง่างามในอดีตของการผลิตนาฬิกาเข้ากับรหัสและเทคโนโลยีการออกแบบที่โดดเด่นในปัจจุบัน Montblanc Heritage Automatic มาในตัวเรือนสแตนเลสชั้นดี ขนาด 40 มิลลิเมตร…

ELEGANCE ล้ำค่าเหนือกาลเวลา ความเลอค่าที่ไม่เคยตกยุค PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS BLANCPAIN อีกหนึ่งความคลาสสิกอันทรงคุณค่าเหนือการเวลาที่ผ่านการตีความใหม่ของ Blancpain  ด้วยการปลุกฟื้นความงามระดับ ตำนานของเรือนเวลาหรู คอลเลคชั่นสุดโด่งดังอย่าง Villeret มรดกทางวัฒนธรรมที่พร้อมมัดใจคนรักเรือนเวลาทั่วโลก ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งนี้มาพร้อมภาพลักษณ์เลอค่า ด้วยหน้าปัดกลมมนเล่นระดับ ให้ความหรูหราด้วยกรอบประดับเพชร เจียระไน 48 เม็ด พื้นหน้าปัดสีขาว แสดงวันที่ผ่านช่องหน้าต่างทรงรี และเข็มชี้รูปทรงใบไม้ ที่จัดวางได้อย่างสมดุล ภายใต้เอกลักษณ์ของ ตัวเรือนสตีลขนาด 33.2 มิลลิเมตร ที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสายหนังจระเข้สีเขียวเรียบหรู มาพร้อมกลไก calibre 1151 ซึ่งสามารถสํารองพลังงานได้นานสี่วัน ระดับการกันน้ำที่ 3 บาร์ พร้อมทั้งติดตั้ง silicon balance-spring ที่มีความเที่ยงตรงสูง ซึ่งสามารถชมกลไกการทํางานอันประณีตนี้ได้ผ่านฝาหลังกระจกคริสตัลแซพไฟร์ โดยเฉพาะเสน่ห์ของ โรเตอร์ที่ตกแต่งด้วย เทคนิค guilloché สะท้อนเป็นลวดลายรวงผึ้ง ให้ผลลัพธ์เป็นความงามสง่าที่ควรค่าให้คุณสุภาพสตรีคู่ควร PIAGET ความเชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ของ Piaget ไม่เคยทำให้ผิดหวังได้สักครั้ง ด้วยผลลัพธ์อันงามสง่าของเรือนเวลาหรู ที่มาในตัวเรือนไวต์โกลด์ 18K ขนาด 26 มิลลิเมตรเรือนนี้ ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบย้อนยุคที่ไม่เคยตกยุค Piaget Traditional Gold สะท้อนเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพสตรีด้วยหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีชมพู ประดับเพชรเจียระไน แบบเหลี่ยมเกสร 12 เม็ด ที่ตำแหน่งบอกชั่วโมง และอีก 42 เม็ด รอบกรอบหน้าปัดทรงกลมมน ให้ประกายระยิบระยับ ล้อแสงไฟ เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสร้อยข้อมือไวต์โกลด์ 18K ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยเส้นเกลียวที่เชื่อมกันได้อย่าง ประณีต มาพร้อมกลไกการเคลื่อนไหว แบบ Manufacture Piaget 430P ความพิเศษนี้สำหรับสุภาพสตรีที่คู่ควรเพียง 300 เรือนเท่านั้น VACHERON CONSTANTIN อีกหนึ่งความคลาสสิกในแบบวินเทจคอลเลคชั่นที่ Vacheron ผลิตขึ้นเพื่อสดุดีศาสตร์และศิลป์แห่งการประดิษฐ์เรือนเวลา แห่งประวัติศาสตร์ของแบรนด์ สื่อความงามสง่าด้วยตัวเรือนแบบทริปเปิ้ลกาดรูน สอดรับกับขาของตัวเรือนที่มีลักษณะเป็น กงเล็บ เน้นฟังก์ชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งรูปลักษณ์อันประณีต Historiques Triple Calendrier 1942 มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลส ขนาด 40 มิลลิเมตร ที่มีความหนาเพียง 10.35 มิลลิเมตร เพื่อให้มีความร่วมสมัยเหมาะกับยุคปัจจุบัน แต่ยังคงออกแบบกระจกหน้าปัดให้มีลักษณะเป็นทรงกล่อง เพื่อรักษาดีไซน์ แบบดั้งเดิมเอาไว้ เข้ากันได้ดีกับสายรัดหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มแบบหัวเข็มขัด  กลไกเป็นแบบไขลาน CALIBER 4400 QC สำรองพลังงานได้เกือบ 3 วัน แสดงวินาทีด้วยเข็มขนาดเล็ก พร้อมฟังก์ชั่น ‘คอมพลีท คาเลนดาร์’ แสดงวันที่ด้วยเข็มกลาง สีเงินปลายศรสีแดง และแสดงวันกับเดือนผ่านช่องหน้าต่างที่สร้างขึ้นมาใหม่ ฝาหลังผนึกด้วยกระจกแซฟไฟร์ใสเพื่อให้ มองเห็นกลไกที่ได้รับการตกแต่งมาอย่างงดงาม กันน้ำที่ระดับ 3 บาร์  ผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน อันเข้มงวด ฮอลล์มาร์ค ออฟ เจนีวา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

VERSATILITY ที่สุดแห่งเรือนเวลาที่มาพร้อมสุดยอดนวัตกรรม PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS IWC IWC ยังคงเป็นตัวจริงในการออกแบบที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ด้วย Pilot Automatic Spitfire เรือนเวลาที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในระดับนักบิน ที่มาพร้อมกลไกการเคลื่อนไหวแบบ CALIBER FAMILY 32000 ซึ่งผลิตโดย IWC เอง มุ่งเน้นที่ความทนทานและความน่าเชื่อถือ สำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง Pilot Automatic Spitfire เรือนนี้ มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสขัดเงาขนาดกำลังดีที่ 39 มิลลิเมตร ให้ความคล่องตัวในยาม สวมใส่  ตัวเรือนด้านในเป็นเหล็กอ่อนช่วยป้องกันการเคลื่อนที่จากสนามแม่เหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระจกแซฟไฟร์ แบบนูนเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน รับกับหน้าปัดสีดำเรืองแสง มาพร้อมสายรัดข้อมือสีเขียวที่ได้รับแรง บันดาลใจจากสีสันในห้องนักบินของ Spitfire ระดับการกันน้ำที่ 6 บาร์ OMEGA ด้วยประสบการณ์ในการไปเยือนดวงจันทร์ถึง 6 ครั้งทำให้ OMEGA รู้จักพื้นผิวของดวงจันทร์ดีกว่าใคร เรือนเวลา Speedmaster สุดประณีตรุ่นนี้ จึงเสมือนยกทั้งท้องฟ้าลงมาบรรจุไว้ในตัวเรือน  ด้วยความงามของดวงจันทร์ที่ให้ความ ละเอียดเหมือนภาพถ่ายของ NASA แสดง Moonphase ที่ 6 นาฬิกา ซึ่งไม่เพียงแต่กลไกการทำงานจะเที่ยงตรงอย่างไร้ที่ติ เท่านั้น OMEGA ยังนำเทคโนโลยีเฉพาะตนอีกมากมาย มาร่วมในการรังสรรค์จนเกิดเป็นเรือนเวลามาตรฐานระดับ Master Chronometer ที่สวยงามที่สุดรุ่นนี้ Speedmaster โดดเด่นด้วยตัวเรือนสแตนเลสสตีลเสริมด้วยวงแหวนขอบเซรามิกสีดำ ขนาด 44.25 มม. พร้อมสเกลวัดความ เร็ว Liquidmetal™ หน้าปัดสีดำซันไชน์พร้อมอินเด็กซ์ชุบโรเดียม ครบครันทั้งการบอก และจับเวลา มาพร้อมสายหนังสีดำ พร้อมตัวล็อคแบบพับได้ ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ OMEGA Co-Axial Master chorometer 9904 ซึ่งได้รับการรับรอง อย่างเป็นทางการจาก METAS PANERAI นวัตกรรมใหม่แห่งเรือนเวลาที่จะพาคุณไปสำรวจสิ่งแวดล้อมในแถบอาร์กติก มาพร้อมคอนเซ็ปต์ในการปกป้องโลก ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นในตำนานของ Panerai  สำหรับภารกิจ ใต้น้ำระดับมืออาชีพ ผลิตเพื่อเป็นเกียรติแก่ Mike Horn นักผจญภัยระดับโลก ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ มายาวนานกว่า 15 ปี Submersible Mike Horn Edition 47mm หรือ PAM00984 มาพร้อมตัวเรือน EcoTitaniumTM ขนาด 47 มิลลิเมตร ซึ่งรับกันได้อย่างพอเหมาะพอเจาะกับสายรัดสังเคราะห์แบบสปอร์ตน้ำหนักเบาที่รีไซเคิลมาจากขวด PET หน้าปัดเรืองแสง ช่วยการมองเห็นได้ดีในที่มืด กันน้ำได้ที่ระดับความลึก 300 เมตร ตัวเรือนด้านหลังสลักลาย Ocean life พร้อมลายเซ็นของ Mike Horn ทำงานด้วยระบบกลไกอัตโนมัติ P.9010 ที่สำรองพลังงานได้นาน 3 วัน

MOST-COVETED TIMEPIECES นาฬิกาที่พร้อมไปกับคุณได้ทุกที่ คล่องตัว เปี่ยมสไตล์ ประทับใจจนน่าเป็นเจ้าของ PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS LONGINES Longines Hydroconquest Grey Ceramic 80,800 บาท RADO Captain cook automatic 68,600 บาท EMPORIO ARMANI E.ARMANI AR11265 11,800 บาท *ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

VERSATILITY ดึงดูดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านเรือนเวลาสุดโปรดที่บ่งบอกความเป็นตัวตน PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS PIAGET เรือนเวลาประดับเพชรของ Piaget Polo เรือนนี้ ให้อารมณ์ทั้งล้ำค่าและเรียบง่าย ในขณะที่ยังคงความเท่แบบสปอร์ตไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการเสริมคุณค่าของตัวเรือนทองกุหลาบ 18K ขนาด 42 มิลลิเมตรให้เก๋ไก๋ยิ่งขึ้น จากการผสานขอบตัวเรือนทรงหมอนลงในตัวเรือนทรงกลม ประดับรอบขอบตัวเรือนด้วยเพชรเม็ดงาม 56 เม็ด โดยไม่ลืมความสามารถในการกันน้ำ 100 เมตร ให้สมกับความสปอร์ตแห่งเรือนเวลา อวดการทำงานของกลไกอัตโนมัติแบบ In-house ที่สำรองพลังงานได้นาน 50 ชั่วโมง ผ่านฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์เผยให้เห็นกลไกไขลานของ Manufacture Piaget 1110P ที่แกะสลักอย่างสวยงาม มาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำเงินพร้อมตัวล็อคแบบพับได้เช่นเดียวกับสายที่สองในโทนสีมะฮอกกานีอบอุ่น PANERAI ยังคงเป็นเรือนเวลาที่ดึงดูดนักสะสมทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่อย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยเสน่ห์แห่งสไตล์การผสมผสานของนวัตกรรมใหม่ที่ดีที่สุดไปจนถึงประสบการณ์ดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ Panerai Submersible Carbotech รุ่น PAM00960 ที่ถูกลดขนาดลงเหลือ 42 มิลลิเมตรเรือนนี้ แตกต่างจากเรือนเวลาดำน้ำส่วนใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะครองพื้นที่ภายในใจของเหล่าผู้ที่ชื่นชอบ Panerai ในทุกการกลับมาได้ไม่ยาก Panerai Submersible ผลิตจาก Carbotech วัสดุไฮเทคที่เบากว่าไทเทเนียม แต่ทนแรงกระเทือนและการกัดกร่อนได้ดีกว่า สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร โดดเด่นด้วยการอ่านค่าอย่างชัดเจนภายใต้สภาวะที่มืดที่สุด ด้วยสารเรืองแสงสีฟ้าสด Super-LumiNova ที่เคลือบอยู่บนเข็มชี้และหลักชั่วโมงขนาดใหญ่บนหน้าปัดสีดำด้าน ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติที่สำรองพลังงานได้นานถึง 3 วัน ในส่วนของสายรัดก็สามารถถอดเปลี่ยนสลับเล่นสีสันได้ ทำให้ทุกการดำดิ่งสู่โลกของ  Panerai เป็นเรื่องง่ายที่มีสไตล์อย่างแท้จริง IWC ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาเรือนเวลาตระกูล Portofino ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ IWC มาไม่ใช่น้อยและเป็นที่นิยมของคุณสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีอย่างมากไม่แพ้กัน ด้วยสะดุดใจกับความคลาสสิกและการออกแบบที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน  ทั้งความเรียบง่ายของหน้าปัดที่ให้อารมณ์ ‘น้อยแต่มาก’ ไม่แต่งเสริมเติมแต่งจนรกเรื้อ บ่งบอกรสนิยมเรียบหรูของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของด้านหลังตัวเรือนวิจิตรบรรจงด้วยงานแกะสลักที่เน้นวิถีชีวิตอันสุขสงบในแบบของชาวเมดิเตอร์เรเนียนแท้ๆ เข้ากันได้ดีกับตัวเรือนสแตนเลสเรียบหรูขนาด 40 มิลลิเมตร กระจกแซฟไฟร์นูนเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน มาพร้อมสายหนังจะเข้สีดำ สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง และกันน้ำที่ระดับ 3 บาร์ ELEGANCE คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทนแห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว OMEGA ยังคงสวยสง่าและโดดเด่นไปทุกมุมมองสำหรับ Seamaster Aqua Terra 150M จาก Omega เรือนนี้ ที่การันตีว่าไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังให้ความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer เพราะทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติแบบ Co-Axial พร้อมการป้องกันสนามแม่เหล็ก บรรจุในตัวเรือนทอง SednaTM 18K ขนาด 34 มิลลิเมตร ที่กันน้ำได้ 150 เมตร ล้อมรอบกรอบตัวเรือนด้วยเพชรเจียระไนเม็ดงามพราวระยับ อีกทั้งยังชวนหลงใหลด้วยดีไซน์เกินต้านของหน้าปัดสลักลายริ้วคลื่นประดับเพชรต่างขนาดที่ออกแบบมาได้อย่างน่าสนใจ โดดเด่นด้วยทับทิมทรงมาคีส์สีแดงสดที่ประดับแทนหลักชั่วโมง รับกับสายหนังจระเข้สีแดงวาววับที่เข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว ที่ดูอย่างไรก็จับจิตจับใจ CHOPARD นับตั้งแต่ปี 1993 “Happy Sport” ได้ผสมผสานองค์ประกอบอันเป็นนิรันดร์ของสแตนเลสและเพชรเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างมีสไตล์ เต็มไปด้วยความสนุกสนาน อิสระ และขี้เล่น ให้ความอ่อนไหวและแปลกใหม่ ในขณะที่ดูมีความสปอร์ตไปพร้อมๆ กัน และด้วยการออกแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์อันสุขุมและสง่างาม ผ่านสไตล์การกลั่นกรองที่เป็นเอกลักษณ์ของ CHOPARD จึงทำให้ HAPPY SPORT SNOWFLAKES กลายเป็นเรือนเวลารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นที่เต็มไปด้วยคำว่า ‘คลาสสิก’ ตลอดกาล ด้วยตัวเรือนขนาดกำลังดีที่ 36…

VERSATILITY ดึงดูดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านเรือนเวลาสุดโปรดที่บ่งบอกความเป็นตัวตน PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS BVLGARI การกลับมาของไอคอนมือรางวัลอย่าง Bvlgari ในปี 2020 สร้างความแปลกใหม่ครั้งใหญ่ให้กับ Bvlgari Aluminium ด้วยการใช้อลูมิเนียมและยางวัสดุที่มักไม่เข้าพวกในยามที่นึกถึงเรือนเวลาหรู แต่กลับนำมาผสมผสานกันจนได้เรือนเวลาแบบสปอร์ตที่ทั้งให้น้ำหนักเบาสบายในยามสวมใส่ อีกทั้งยังดึงดูดสะกดทุกสายตาด้วยจิตวิญญาณของความเป็นอิตาเลียนโดยแท้ จากสไตล์ขอบหน้าปัดอันโดดเด่นด้วยการสลักตราประทับ Bvlgari บนกรอบยางแบบหนา มาพร้อมสายรัดยางที่มีข้อต่ออะลูมิเนียมตรงกลาง สอดแบบหัวเข็มขัด องค์ประกอบต่างๆ บนหน้าปัดถูกออกแบบให้รู้สึกถึงความแข็งแรง ด้วยตัวเลขตำแหน่งที่ 12 และ 6 นาฬิกา ที่มีขนาดใหญ่และหนาเช่นเดียวกับเครื่องหมายบอกชั่วโมงสีดำที่เด่นชัด ตัดกับหน้าปัดเรืองแสงโทนสีอบอุ่นอย่างออฟไวท์หรือเบจ ทำให้ไม่ดูแข็งกร้าวจนเกินไปนัก มีกลไลการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ และอัพเกรดระดับการกันน้ำได้ถึง 100 เมตร OMEGA หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในสแตนเลสสตีลและสีน้ำเงินของ OMEGA Seamaster Diver 300M แบบดั้งเดิม เราเชื่อว่าคุณจะเปิดใจให้กับโครโนกราฟคอลเลคชั่นใหม่เรือนนี้ได้ไม่ยาก ด้วยยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกอันเรียบหรูแต่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยปุ่มกดเซรามิกสีน้ำเงินที่ดูมีสไตล์เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสีของหน้าปัด โครโนกราฟสแตนเลสสตีลเรือนนี้มีขนาด 44 มิลลิเมตร มาพร้อมขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินและสเกลดำน้ำอีนาเมลสีขาว หน้าปัดสีเทาตกแต่งด้วยเลเซอร์ลวดลายคลื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Diver 300M ในส่วนของสายสแตนเลสสตีลขัดเงาได้รับการติดตั้งด้วยสิทธิบัตรระบบปรับความยาวสายแบบ rack-and-pusher ด้วยปุ่มกดและเลื่อนของชิ้นส่วนพับล็อค สำหรับให้เรือนเวลายืดหยุ่นกับการใช้งานในกิจกรรมใต้น้ำได้ ฝาหลังเรือนเวลาเป็นกระจกแซฟไฟร์ ทำให้สามารถยลโฉมกลไก OMEGA Master Chronometer Calibre 9900 ที่ติดตั้งอยู่ภายในได้ คำว่า ‘ไร้ที่ติ’ จึงไม่น่าจะเกินจริงไปสำหรับเรือนเวลาเรือนนี้ IWC IWC ยังคงสร้างความประทับใจได้อย่างไม่สิ้นสุด ด้วยดีไซน์สไตล์คลาสสิกอันโดดเด่นเหนือกาลเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของตระกูล PORTUGIESER ที่เน้นหน้าปัดเรียบหรู กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ Calibre 89361 มาพร้อมฟังก์ชั่นการจับเวลาแบบ Flyback Chronograph ที่สามารถเริ่มต้นจับเวลาใหม่ได้โดยกดปุ่มรีเซ็ตขณะจับเวลา และสามารถจับเวลาได้นานถึง 12 ชั่วโมง โดยแสดงบนหน้าปัดภายในผ่านตัวเรือนแซฟไฟร์ทรงโดมป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน PORTUGIESER CHRONOGRAPH CLASSIC เรือนนี้มาพร้อมตัวเรือนทอง 18K ขนาด 42 มิลลิเมตร หน้าปัดชุบเงินและสายหนังจระเข้สีน้ำตาล ผู้ที่ชื่นชอบสไตล์คลาสสิกที่มาพร้อมฟังก์ชั่นครบครันจึงไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง ELEGANCE คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทนแห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว CHOPARD เมื่อทุกความโดดเด่นถูกผนวกเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ Chopard Happy Fish เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจอันเลอค่าที่เผยให้เห็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ของมหาสมุทรอันกว้างไกล ผ่านความงดงามของตัวปลาสีทองอันโดดเด่นที่แหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลสีเทอควอยซ์ บนหน้าปัดของเรือนเวลาโรสโกลด์ 18k  ขนาด 36 มิลลิเมตร ล้อไปกับประกายเพชรเจียระไนหลากหลายขนาดที่นำมาประดับบนตัวเรือน เกิดเป็นความงามราวภาพวาด มาพร้อมสายรัดหนังจระเข้สีน้ำเงินมันวาว กลไกไขลานอัตโนมัติ ถือได้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น เพราะมีเพียงคนพิเศษแค่ 25 คนในโลกเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง JAEGER LECOULTRE หนึ่งในเรือนเวลาโปรดของคนรัก Jaeger-LeCoultre คงขาด  Master Ultra Thin  Moon ไปไม่ได้ ด้วยความโดดเด่นของสัดส่วนและความเรียบง่ายแต่หรูหรา ของตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาดกำลังพอเหมาะที่ 34 มิลลิเมตร ประดับเพชรเจียระไนชั้นยอดที่รายรอบขอบหน้าปัดสีเงิน เติมเสน่ห์บนหน้าปัดด้วยความซับซ้อนอันเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือระยะการเปลี่ยนตำแหน่งของดวงจันทร์ในรูรับแสงที่ 6 นาฬิกา ที่หมุนรอบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ได้ภาพเสมือนข้างขึ้นข้างแรมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจเพียงแค่เหลือบมอง เคลื่อนไหวด้วยกลไกอัตโนมัติ กันน้ำได้ที่ระดับ 5 บาร์ มาพร้อมสายรัดหนังจระเข้สีน้ำเงิน เพิ่มความงามสง่าให้กับคุณสุภาพสตรีได้อย่างแท้จริง VACHERON CONSTANTIN บริสุทธิ์และสง่างามเหนือกาลเวลา…

RADO True Square Automatic Open Heart 68,600 บาท LONGINES HydroConquest Green Ceramic 52,700 บาท SEIKO Prosprex King Turtle Save The Ocean#4 Special Edition รุ่น SRPE07K 20,280 บาท MOST-COVETED TIMEPIECES ดึงดูดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านเรือนเวลาสุดโปรดที่บ่งบอกความเป็นตัวตน PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS SEIKO Prospex Monster Save The Ocean#4 Special Edition รุ่น SRPE09K 17,490 บาท EMPORIO ARMANI RENATO รุ่น AR11180 9,800 บาท *ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า