หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เรื่องการดูแลมือและเล็บของคุณผู้ชาย ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกลตัว เพราะความแมนแอนด์แฮนด์ซั่มนั้นมักมาพร้อมภาพลักษณ์แบบดิบๆ เรื่องที่จะให้มาห่วงหล่อกันทุกกระเบียดนิ้ว อาจทำให้ดู ‘ไม่แมน’ แต่ดูเอาเถอะ ปัจจุบันนี้คุณผู้ชายต่างหันมาดูแลใส่ใจตัวเองกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลผิวพรรณ เสื้อผ้าหน้าผม เมกอัพ สกินแคร์ต่างๆ เรียกได้ว่าปรณเปรอตัวเองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ากันเลยทีเดียว ดังนั้นการดูแลมือและเล็บ เลยเถิดไปถึงเล็บเท้า จึงนับเป็นเรื่องปกติที่ไม่อาจละเลย ยิ่งในยุคที่ต้องอยู่กับโควิด-19 อย่างนี้ด้วยแล้ว การมีมือและเล็บที่สะอาด มีสุขอนามัยที่ดี ย่อมมีชัยไปแล้วกว่าครึ่ง ดังว่า ‘ถ้าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ มือและเล็บที่สะอาดก็คือ สุขอนามัยที่คุณสาวๆ นั้นคู่ควร’
สำหรับคุณผู้ชายที่อยากหันมาใส่ใจตัวเอง แต่อาจยังไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มต้นในการดูแลมือและเล็บของตนเองอย่างไร ให้ถูกสุขอนามัย ถูกตาต้องใจสาวๆ Power มีแนวทางปฏิบัติง่ายๆ สำหรับมือใหม่มาฝากกัน
1. หมั่นทำความสะอาดมือและเล็บให้สะอาดอยู่เสมอ
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือโดยเฉพาะออกมามากมายหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ หาซื้อได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญมีหลายสูตรเพื่อความเหมาะสมกับผิวของเรา แถมบางยี่ห้อก็มีวิตามินบำรุงมือไปในตัวอีกด้วย เรียกว่าจบในขั้นตอนเดียว ได้ทั้งความสะอาด แถมเพิ่มความชุ่มชื่น ให้มือของคุณเนียนนุ่มอีกด้วย
ข้อแนะนำ: จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เราต้องอยู่กับภาวะอันน่าวิตกกังวลของโควิด-19 ในช่วงนี้ ให้หมั่นล้างมือบ่อยๆ และเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่มีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส เพื่อสุขอนามัยที่ดี
2. เติมความชุ่มชื้นให้มือและเสริมความแข็งแรงให้เล็บ
เมื่อมือนุ่มๆ คือหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่พร้อมจะสร้างความประทับใจในยามสกินชิพ ตัวช่วยที่ดีที่สุดแบบไม่มีทางลัดก็คือ ครีมบำรุงมือ ที่คุณผู้ชายส่วนใหญ่มักส่ายหน้า เพราะนอกจากจะขี้เกียจทาแล้ว ยังไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะ ที่ติดอยู่บนมืออีกด้วย บางคนอาจสงสัยว่า ใช้โลชั่นทาผิวกายมาทามือได้ไหม? ก็ต้องตอบว่า ทาได้ เพียงแต่ความชุ่มชื้นจะคงอยู่ไม่นาน ต่างจากแฮนด์ครีมที่มีความเข้มข้นสูง ด้วยส่วนผสมที่บำรุงมือและเล็บโดยเฉพาะ เรียกว่าบำรุงได้ตรงจุดกว่า การทาก็ควรทาให้ทั่วทั้งมือ รวมถึงปลายนิ้วและเล็บมือด้วยจะดีมาก ยิ่งถ้าแฮนด์ครีมนั้นมีส่วนผสมของวิตามินอี มือของคุณจะนุ่มน่าสัมผัส อีกทั้งยังเสริมความแข็งแรงให้กับเล็บอีกด้วย นอกจากนี้เรายังสามารถเพิ่มความเงางามให้กับเล็บได้ด้วยการเคลือบน้ำยาทาเล็บแบบใส เพื่อเล็บที่ดูสะอาด เงางาม แลดูสุขภาพดี
ข้อแนะนำ: สำหรับคนที่พอมีเวลาในการดูแลมือให้เนียนนุ่มด้วยการลงทุนที่ไม่สูงนัก สามารถแช่มือในน้ำอุ่นที่ผสมเบบี้ออยล์ ในอัตราส่วนเบบี้ออยล์ 1 หยด ต่อน้ำอุ่น 250 มล. หรือนำเบบี้ออยล์ผสมน้ำตาลทรายใช้ขัดมือก็ได้เช่นกัน จะช่วยลดความหยาบกร้านของมือได้
3. หากไม่สะดวกที่จะดูแลด้วยตัวเอง การเข้าร้านทำเล็บคือคำตอบ
ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ถ้าผู้ชายจะเข้าร้านทำเล็บ เพราะการดูแลมือและเล็บให้สะอาดก็เป็นเรื่องที่ดีที่ควรปฎิบัติกันอยู่แล้ว ซึ่งบางส่วนอาจจะขาดทักษะในการตัดเล็บ ตะไบเล็บ รวมถึงการตัดหนังกำพร้าที่แข็งแห้งบริเวณจมูกเล็บ ดังนั้นการเข้ารับบริการในร้านที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ก็จะเพิ่มความมั่นใจในเรื่องการตัดแต่งเล็บที่ถูกวิธี ช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง อย่างที่เราเรียกกันว่า เล็บขบ เพราะนอกจากจะสร้างความเจ็บปวดแล้ว บางรายอาจจะต้องรักษากันระยะยาว หากเกิดการอักเสบติดเชื้อ
ข้อแนะนำ: หากมีเวลาเหลือๆ อาจจะเพิ่มการสปาพาราฟินมือ-เท้า เพราะนอกจากจะได้ความสบาย ผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการกล้ามเนื้ออักเสบ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตอีกด้วย
4. เลือกรับประทานอาหารที่ดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
YOU ARE WHAT YOU EAT กินอะไรก็ได้อย่างนั้น ประโยคอมตะที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ เพราะอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย จะส่งผลให้เล็บของเราแข็งแรง ไม่เปราะแตก หักง่าย เลือกรับประทานอาหารประเภทโปรตีน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ปลาแซลมอน ไข่แดง และอาหารทะเล รวมไปถึงธาตุเหล็กต่างๆ เพื่อสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
ข้อแนะนำ: วิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวไกลเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จึงมีอาหารเสริมบำรุงเล็บโดยเฉพาะออกมาจำหน่าย ทั้งรูปแบบเม็ดหรือกัมมี่ เพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค โดยมีปริมาณวิตามินเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ในแต่ละวัน เพื่อการบำรุงเล็บให้แข็งแรงอย่างสมบูรณ์แบบ
ส่งท้ายด้วยทริคเล็กๆ ในการดูแลความสะอาดเท้า อย่าปล่อยให้ ‘กลิ่น’ กลายเป็นปัญหาที่ไม่รู้จักจบสิ้น
นอกจากมือที่เราต้องดูแล เรื่องของเท้าก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่คุณผู้ชายไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเรื่องของกลิ่น ซึ่งเราสามารถดูแลเรื่องกลิ่นได้หลายแบบ ง่ายๆ เลยก็คือเริ่มที่ ‘รองเท้า’ ให้หมั่นนำมาทำความสะอาด ตากลมให้แห้ง และควรมีรองเท้าหลายคู่สักหน่อยเอาไว้ใส่สลับกันไป สำหรับใครที่สามารถเปลี่ยนรองเท้าระหว่างวันทำงานได้ ก็อาจใส่เป็นรองเท้าสลิปเปอร์แทนได้ เพื่อไม่ให้เท้าอับจนเกินไปจากการใส่รองเท้าตลอดทั้งวัน รวมถึงหลีกเลี่ยงการใส่ถุงเท้าซ้ำด้วย
ข้อแนะนำ สำหรับคนที่มีปัญหากลิ่นเท้าจากร่างกายตัวเอง ให้แช่น้ำที่ผสมเดทตอล น้ำยาฆ่าเชื้อโรค สัปดาห์ละประมาณ 2 ครั้ง แช่ครั้งละ 15 นาที แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลา ให้ผสมเดทตอลกับน้ำเปล่า แล้วใส่ลงในขวดสเปรย์ สเปรย์ใส่เท้า รอให้แห้งก่อนใส่รองเท้า จะช่วยลดกลิ่นเท้าได้ดี และช่วยฆ่าเชื้อได้อีกด้วย
GROOMING STORY
*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า