Highlight

ELEGANCE ล้ำค่าเหนือกาลเวลา ความเลอค่าที่ไม่เคยตกยุค PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS BLANCPAIN อีกหนึ่งความคลาสสิกอันทรงคุณค่าเหนือการเวลาที่ผ่านการตีความใหม่ของ Blancpain  ด้วยการปลุกฟื้นความงามระดับ ตำนานของเรือนเวลาหรู คอลเลคชั่นสุดโด่งดังอย่าง Villeret มรดกทางวัฒนธรรมที่พร้อมมัดใจคนรักเรือนเวลาทั่วโลก ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งนี้มาพร้อมภาพลักษณ์เลอค่า ด้วยหน้าปัดกลมมนเล่นระดับ ให้ความหรูหราด้วยกรอบประดับเพชร เจียระไน 48 เม็ด พื้นหน้าปัดสีขาว แสดงวันที่ผ่านช่องหน้าต่างทรงรี และเข็มชี้รูปทรงใบไม้ ที่จัดวางได้อย่างสมดุล ภายใต้เอกลักษณ์ของ ตัวเรือนสตีลขนาด 33.2 มิลลิเมตร ที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสายหนังจระเข้สีเขียวเรียบหรู มาพร้อมกลไก calibre 1151 ซึ่งสามารถสํารองพลังงานได้นานสี่วัน ระดับการกันน้ำที่ 3 บาร์ พร้อมทั้งติดตั้ง silicon balance-spring ที่มีความเที่ยงตรงสูง ซึ่งสามารถชมกลไกการทํางานอันประณีตนี้ได้ผ่านฝาหลังกระจกคริสตัลแซพไฟร์ โดยเฉพาะเสน่ห์ของ โรเตอร์ที่ตกแต่งด้วย เทคนิค guilloché สะท้อนเป็นลวดลายรวงผึ้ง ให้ผลลัพธ์เป็นความงามสง่าที่ควรค่าให้คุณสุภาพสตรีคู่ควร PIAGET ความเชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ของ Piaget ไม่เคยทำให้ผิดหวังได้สักครั้ง ด้วยผลลัพธ์อันงามสง่าของเรือนเวลาหรู ที่มาในตัวเรือนไวต์โกลด์ 18K ขนาด 26 มิลลิเมตรเรือนนี้ ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบย้อนยุคที่ไม่เคยตกยุค Piaget Traditional Gold สะท้อนเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพสตรีด้วยหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีชมพู ประดับเพชรเจียระไน แบบเหลี่ยมเกสร 12 เม็ด ที่ตำแหน่งบอกชั่วโมง และอีก 42 เม็ด รอบกรอบหน้าปัดทรงกลมมน ให้ประกายระยิบระยับ ล้อแสงไฟ เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสร้อยข้อมือไวต์โกลด์ 18K ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยเส้นเกลียวที่เชื่อมกันได้อย่าง ประณีต มาพร้อมกลไกการเคลื่อนไหว แบบ Manufacture Piaget 430P ความพิเศษนี้สำหรับสุภาพสตรีที่คู่ควรเพียง 300 เรือนเท่านั้น VACHERON CONSTANTIN อีกหนึ่งความคลาสสิกในแบบวินเทจคอลเลคชั่นที่ Vacheron ผลิตขึ้นเพื่อสดุดีศาสตร์และศิลป์แห่งการประดิษฐ์เรือนเวลา แห่งประวัติศาสตร์ของแบรนด์ สื่อความงามสง่าด้วยตัวเรือนแบบทริปเปิ้ลกาดรูน สอดรับกับขาของตัวเรือนที่มีลักษณะเป็น กงเล็บ เน้นฟังก์ชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งรูปลักษณ์อันประณีต Historiques Triple Calendrier 1942 มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลส ขนาด 40 มิลลิเมตร ที่มีความหนาเพียง 10.35 มิลลิเมตร เพื่อให้มีความร่วมสมัยเหมาะกับยุคปัจจุบัน แต่ยังคงออกแบบกระจกหน้าปัดให้มีลักษณะเป็นทรงกล่อง เพื่อรักษาดีไซน์ แบบดั้งเดิมเอาไว้ เข้ากันได้ดีกับสายรัดหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มแบบหัวเข็มขัด  กลไกเป็นแบบไขลาน CALIBER 4400 QC สำรองพลังงานได้เกือบ 3 วัน แสดงวินาทีด้วยเข็มขนาดเล็ก พร้อมฟังก์ชั่น ‘คอมพลีท คาเลนดาร์’ แสดงวันที่ด้วยเข็มกลาง สีเงินปลายศรสีแดง และแสดงวันกับเดือนผ่านช่องหน้าต่างที่สร้างขึ้นมาใหม่ ฝาหลังผนึกด้วยกระจกแซฟไฟร์ใสเพื่อให้ มองเห็นกลไกที่ได้รับการตกแต่งมาอย่างงดงาม กันน้ำที่ระดับ 3 บาร์  ผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน อันเข้มงวด ฮอลล์มาร์ค ออฟ เจนีวา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

VERSATILITY ที่สุดแห่งเรือนเวลาที่มาพร้อมสุดยอดนวัตกรรม PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS IWC IWC ยังคงเป็นตัวจริงในการออกแบบที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ด้วย Pilot Automatic Spitfire เรือนเวลาที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในระดับนักบิน ที่มาพร้อมกลไกการเคลื่อนไหวแบบ CALIBER FAMILY 32000 ซึ่งผลิตโดย IWC เอง มุ่งเน้นที่ความทนทานและความน่าเชื่อถือ สำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง Pilot Automatic Spitfire เรือนนี้ มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสขัดเงาขนาดกำลังดีที่ 39 มิลลิเมตร ให้ความคล่องตัวในยาม สวมใส่  ตัวเรือนด้านในเป็นเหล็กอ่อนช่วยป้องกันการเคลื่อนที่จากสนามแม่เหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระจกแซฟไฟร์ แบบนูนเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน รับกับหน้าปัดสีดำเรืองแสง มาพร้อมสายรัดข้อมือสีเขียวที่ได้รับแรง บันดาลใจจากสีสันในห้องนักบินของ Spitfire ระดับการกันน้ำที่ 6 บาร์ OMEGA ด้วยประสบการณ์ในการไปเยือนดวงจันทร์ถึง 6 ครั้งทำให้ OMEGA รู้จักพื้นผิวของดวงจันทร์ดีกว่าใคร เรือนเวลา Speedmaster สุดประณีตรุ่นนี้ จึงเสมือนยกทั้งท้องฟ้าลงมาบรรจุไว้ในตัวเรือน  ด้วยความงามของดวงจันทร์ที่ให้ความ ละเอียดเหมือนภาพถ่ายของ NASA แสดง Moonphase ที่ 6 นาฬิกา ซึ่งไม่เพียงแต่กลไกการทำงานจะเที่ยงตรงอย่างไร้ที่ติ เท่านั้น OMEGA ยังนำเทคโนโลยีเฉพาะตนอีกมากมาย มาร่วมในการรังสรรค์จนเกิดเป็นเรือนเวลามาตรฐานระดับ Master Chronometer ที่สวยงามที่สุดรุ่นนี้ Speedmaster โดดเด่นด้วยตัวเรือนสแตนเลสสตีลเสริมด้วยวงแหวนขอบเซรามิกสีดำ ขนาด 44.25 มม. พร้อมสเกลวัดความ เร็ว Liquidmetal™ หน้าปัดสีดำซันไชน์พร้อมอินเด็กซ์ชุบโรเดียม ครบครันทั้งการบอก และจับเวลา มาพร้อมสายหนังสีดำ พร้อมตัวล็อคแบบพับได้ ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ OMEGA Co-Axial Master chorometer 9904 ซึ่งได้รับการรับรอง อย่างเป็นทางการจาก METAS PANERAI นวัตกรรมใหม่แห่งเรือนเวลาที่จะพาคุณไปสำรวจสิ่งแวดล้อมในแถบอาร์กติก มาพร้อมคอนเซ็ปต์ในการปกป้องโลก ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นในตำนานของ Panerai  สำหรับภารกิจ ใต้น้ำระดับมืออาชีพ ผลิตเพื่อเป็นเกียรติแก่ Mike Horn นักผจญภัยระดับโลก ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ มายาวนานกว่า 15 ปี Submersible Mike Horn Edition 47mm หรือ PAM00984 มาพร้อมตัวเรือน EcoTitaniumTM ขนาด 47 มิลลิเมตร ซึ่งรับกันได้อย่างพอเหมาะพอเจาะกับสายรัดสังเคราะห์แบบสปอร์ตน้ำหนักเบาที่รีไซเคิลมาจากขวด PET หน้าปัดเรืองแสง ช่วยการมองเห็นได้ดีในที่มืด กันน้ำได้ที่ระดับความลึก 300 เมตร ตัวเรือนด้านหลังสลักลาย Ocean life พร้อมลายเซ็นของ Mike Horn ทำงานด้วยระบบกลไกอัตโนมัติ P.9010 ที่สำรองพลังงานได้นาน 3 วัน