ในยุคที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงการลด ละ เลิกการบริโภคที่เกินความจำเป็น หรือการเลือกใช้สิ่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะทำ แบรนด์แฟชั่นเองก็พยายามมองหาจุดยืนและมุมที่ตัวเองจะช่วยรักษาโลกนี้ไปร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ ฉบับนี้เราขอแนะนำเรื่องราวของแบรนด์แฟชั่นที่ต่าง Go Green กันอย่างพร้อมเพรียงในซีซั่นนี้
STORY
TAWAN KONKAEW
PHOTOGRAPHY
COURTESY OF BRANDS
DIOR
หลังจากโชว์คอลเลคชั่น Spring-Summer 2020 ในปารีสแฟชั่นวีคของแบรนด์หรูจบลง ต้นไม้ที่ใช้จัดเซ็ตติ้งในโชว์นี้หลายร้อยต้นจะถูกนำไปปลูกทั่วกรุงปารีสเพื่อลดสภาวะโลกร้อน และปัญหาการใช้หลอดพลาสติกที่ทุกคนได้รับรู้ แบรนด์หรูอย่าง Dior ก็ได้ร่วมลดการใช้หลอดพลาสติกด้วยการออกคอลเลคชั่น Toile de Jouy Straws เซ็ตหลอดแก้วที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมด สนนราคาอยู่ที่เซ็ตละ 150 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ใน 1 เซ็ตแบ่งเป็นหลอดแก้วเคลือบสีทอง 3 หลอด และหลอดแก้วใสเดินลายเกลียวสีทองอีก 3 หลอด สลักชื่อแบรนด์ไว้ตรงกลางและปลายหลอด บรรจุอยู่ในกล่องสไตล์วินเทจสีสวยสดใส
ภายในปี ค.ศ. 2021 Prada จะเปลี่ยนไปใช้ไนลอนที่ผลิตจากการรีไซเคิลทั้งหมดในการสร้างสรรค์ผลงานของแบรนด์ เพื่อช่วยลดขยะและมลภาวะทางทะเล
PRADA
เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักกระเป๋าไนลอนของ Prada ที่ในยุค 1990s คนรักแฟชั่นทุกคนต้องมีไว้ในครอบครอง แบรนด์อิตาลีหัวก้าวหน้าแบรนด์นี้ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี ค.ศ. 2021 Prada จะเปลี่ยนไปใช้ไนลอนที่ผลิตจากการรีไซเคิลทั้งหมดในการสร้างสรรค์ผลงานของแบรนด์ เพื่อช่วยลดขยะและมลภาวะทางทะเล ซึ่งตอนนี้ได้ประเดิมด้วยคอลเลคชั่น “Re-Nylon” อันประกอบไปด้วยกระเป๋าคาดเอว กระเป๋าหิ้วใบใหญ่ กระเป๋าสะพายไหล่ และกระเป๋าเป้สะพายหลัง ทั้งหมดนี้ผลิตจากวัสดุไนลอนรีไซเคิลที่เรียกว่า ECONYL® ที่ทำมาจากเศษขยะพลาสติกก้นทะเล เช่น ตาข่ายจับปลา และขยะเส้นใยสิ่งทอ นำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างปลอดภัย ไม่มีสารพิษตกค้าง
STELLA MCCARTNEY
แบรนด์แฟชั่นระดับลักซ์ชัวรี่สัญชาติอังกฤษที่ออกตัวตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์แล้วว่าเป็นแบรนด์แฟชั่นเพื่อสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นที่การงดใช้หนังสัตว์ในทุกกระบวนการผลิต และคอลเลคชั่นล่าสุดของ Stella McCartney ว่ากันว่าเป็นคอลเลคชั่นซึ่งใช้วัสดุที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยฝ้าย ลินิน และผ้าไหมที่แบรนด์เลือกใช้กว่า 75% ของวัสดุทั้งหมดในคอลเลคชั่นนี้ เป็น Eco-friendly Fabrication
Max Mara ได้ร่วมมือกับองค์กร Camera Nazionale della Moda Italiana เพื่อร่วมกันออกแบบเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณขยะในอุตสาหกรรมแฟชั่น
MAX MARA
แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากอิตาลีที่ผลิตเสื้อโค้ตชิ้นคลาสสิกด้วยวัสดุใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า “CameLuxe” ซึ่ง Max Mara ได้ร่วมมือกับองค์กร Camera Nazionale della Moda Italiana เพื่อร่วมกันออกแบบเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณขยะในอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งกระบวนการนั้นสรุปสั้นๆ ได้ 3 ขั้นตอน คือหนึ่ง คัดแยกวัสดุที่เหลือใช้จากโรงงานในประเทศอิตาลี สอง นำวัสดุไปแปรสภาพเป็นเส้นใยสังเคราะห์คุณภาพสูง และสุดท้าย คือการนำเส้นใยไปผสมโพลีเอสเตอร์ที่มาจากการรีไซเคิล พร้อมกับสร้างฉนวนกันความร้อน กลายเป็นเส้นใยที่มีความยืดหยุ่นสูง ให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นกระบวนการนี้ยังใช้พลังงานน้อยกว่าและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อันเป็นสาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจกอีกด้วย
ZARA
ปิดท้ายด้วยแบรนด์ Fast Fashion อย่าง Zara ที่ประกาศเตรียมแผนสร้างคอลเลคชั่นเสื้อผ้าที่ทำจากสิ่งทอซึ่งผ่านกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน รวมถึงเส้นใยผ้าที่ทำจากขยะรีไซเคิล 100% ซึ่งปัจจุบันคอลเลคชั่นเสื้อผ้าทั้งหมดของแบรนด์ มีเพียง 20% ที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ แต่ในอนาคตจะมีการเพิ่มสัดส่วนให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นจะมีการปรับปรุงร้านที่มีสาขากว่า 7,500 แห่งให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายในปี ค.ศ. 2025 คือเริ่มผลิตสินค้าจากขยะรีไซเคิลสำหรับใช้เองในร้าน โดยมีแนวทางเลิกมอบถุงพลาสติกใช้แล้วทิ้ง เปลี่ยนเป็นกล่องกระดาษรีไซเคิลในการแพ็กสินค้าและขนส่ง รวมถึงการใช้พลังงานทดแทนในองค์กร ทำให้แบรนด์โดยรวมสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน