SKINCARE 101
FASHION EDITOR
SANSHAI
JIRAT SUBPISANKUL
PHOTOGRAPHER
SURAT JARIYAWATTANAVIJTR
STORY
PILAN SRIVEERAKUL
อยากหล่อผิวดี เบสิกต้องแน่น
เรื่องเบสิกๆ ของสกินแคร์ที่ผู้ชายหลายคนอาจยังไม่รู้และสับสน เช่น ปริมาณ วิธีทา และลำดับการใช้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าใช้ผิดก็อาจทำให้ครีมราคาแพงที่ซื้อมาด้อยค่าลงไปโดยไม่รู้ตัว ลองมาเช็กความรู้เบื้องต้นกันให้พื้นฐานแน่นขึ้นอีกนิดก่อนทาสกินแคร์ รับรองว่าผิวดีมีได้ไม่ยาก
Step-by-Step
เรียงลำดับการบำรุงผิวหน้าให้ดี หลักง่ายๆ คือเรียงลำดับเนื้อสัมผัสจากบางเบาขึ้นไปหาเนื้อหนัก เพื่อที่ส่วนผสมจะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่มีสะดุด
1. Cleanse ก่อนทาสกินแคร์ ต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดเสียก่อน ควรเลือกเคลนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว และไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ถ้ามีผิวมันหรือปัญหาสิว ควรเลือกเคลนเซอร์ชนิดเจล หรือที่ระบุไว้ในฉลากว่า Non-comedogenic หรือไม่อุดตันรูขุมขน ความร้อนเย็นของน้ำที่ใช้ล้างหน้าก็สำคัญไม่แพ้กัน ระดับอุณหภูมิของน้ำในการล้างหน้าที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ คือน้ำระดับอุณหภูมิปกติ หรือระดับอุณหภูมิห้อง
2. Essence Lotion หลังล้างหน้าเสร็จ ควรเติมความชุ่มชื่นกลับเข้าสู่ผิวทันทีด้วยเอสเซนส์โลชั่นหรือน้ำตบ ที่ทำหน้าที่เหมือนใบเบิกทางของผิวสุขภาพดี เพราะอุดมไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นและสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว เป็นการเติมน้ำและสารอาหารให้ผิวหลังจากล้างหน้าเปิดรูขุมขนไปแล้ว เตรียมพร้อมผิวเพื่อให้ครีมบำรุงต่างๆ ซึมลงสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น
3. Serum จากนั้นตามด้วยเซรั่มหรือเอสเซนส์ ซึ่งมีสารบำรุงผิวเข้มข้นที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย สำหรับช่วงเช้า ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมช่วยแอนตี้ออกซิแดนต์ เพื่อให้ผิวรับมือกับรังสียูวีและมลภาวะได้ดียิ่งขึ้น ในตอนกลางคืนอาจเลือกใช้สูตรที่มีส่วนผสมช่วยเติมความชุ่มชื่น เพิ่มความกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย
ครีมกันแดดถือเป็นสกินแคร์ขั้นตอนสุดท้ายในตอนเช้า ย้ำอีกครั้งว่าคุณจะไม่ทาอะไรก็ได้ในตอนเช้า
แต่ควรทาครีมกันแดด เพราะนอกจากทำหน้าที่กันแดดแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นครีมชะลอริ้วรอยไปด้วยในตัว
4. Eye Cream ระหว่างรอให้เนื้อเซรั่มซึมสู่ผิว ให้ทาอายครีมเพื่อป้องกันริ้วรอยและลดอาการบวมของถุงน้ำใต้ตา รวมถึงรอยคล้ำซึ่งเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แนะนำให้ใช้ปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียวก็พอ โดยแต้มอายครีมด้วยนิ้วนางทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นนิ้วที่มีน้ำหนักเบาที่สุด ให้แตะอายครีมที่ใต้ตาเป็นจุดเล็กๆ 5 จุดจากหัวตาไปหางตา แล้วค่อยๆ ใช้นิ้วนางลูบจากหัวตาไปหางตา ครีมที่เหลือติดปลายนิ้วให้นำมาแตะที่เปลือกตา จำไว้ว่าต้องทาอายครีมอย่างเบามือที่สุด เพราะผิวรอบดวงตาบอบบางกว่าผิวหน้าหลายเท่านัก
5. Moisturiser หน้าที่หลักของมอยส์เจอไรเซอร์ คือการให้ความชุ่มชื่น ซึ่งจะทำหน้าที่เคลือบชั้นผิวเพื่อลดการระเหยของน้ำ ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื่น ดูสุขภาพดี และช่วยปิดล็อกเอสเซนส์โลชั่นและเซรั่มไว้ในผิว เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องยิ่งขึ้น ไม่ควรนำครีมบำรุงที่ระบุให้ใช้ตอนเช้ามาใช้ในเวลากลางคืน และใช้ครีมสำหรับกลางคืนในตอนเช้า เพราะส่วนใหญ่ครีมสำหรับตอนเช้ามักมีส่วนผสมของสารกันแดด ซึ่งทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้อุดตันผิวได้ เช่นเดียวกันกับครีมสำหรับกลางคืน ซึ่งอาจมีส่วนผสมของสารที่ไม่ควรโดนแสงแดด เช่น เรตินอล ที่อาจลดประสิทธิภาพลงเมื่อเจอแสงแดด
6. Sunscreen ครีมกันแดดถือเป็นสกินแคร์ขั้นตอนสุดท้ายในตอนเช้า ย้ำอีกครั้งว่าคุณจะไม่ทาอะไรก็ได้ในตอนเช้า แต่ควรทาครีมกันแดด เพราะนอกจากทำหน้าที่กันแดดแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นครีมชะลอริ้วรอยไปด้วยในตัว เนื่องจากช่วยแอนตี้ออกซิแดนต์ ซึ่งเป็นที่มาของริ้วรอยก่อนวัย เพราะต่อให้คุณใช้สกินแคร์แพงและดีแค่ไหน หรือทำตามขั้นตอนทั้ง 5 ข้อก่อนหน้านี้ถูกต้องทั้งหมด แต่ถ้าไม่ทาครีมกันแดด ก็ถือเป็นโมฆะ
EDITOR’S PICK
Biotherm Homme
AquaPower Fermented Clear Essence
(100ml 1,360 Baht) SHOP NOW
เอสเซนส์หรือน้ำตบเสริมความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นบำรุงผิวอ่อนล้าและหมองคล้ำให้กลับมาดูมีชีวิตชีวา
FRESH
Vitamin Nectar Glow Juice Antioxidant Face Serum
(3 x 15ml 2,500 Baht) SHOP NOW
เซรั่มฟื้นฟูผิวหน้าอย่างล้ำลึกที่ได้แรงบันดาลใจจากน้ำผลไม้สกัดเย็น ผสานส่วนผสมจากน้ำมันมะพร้าว วิตามินซี และวิตามินอี
PHILOSOPHY
Ultimate Miracle Worker Fix Eye Power-Treatment Fill & Firm
(15ml 1,680 Baht)
อายทรีตเมนต์เข้มข้นเสริมความกระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยหมองคล้ำรอบดวงตา
GROOMING STORY
*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า