จากความมุ่งมั่นตามฝันอย่างไม่ย่อท้อที่ว่าอยากได้สนามฟุตบอลหญ้าเทียมให้ลูกหลานชาวเกาะยาวใหญ่ ผลักดันให้ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ยังคงก้าวสานฝันเด็กไทยแม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ด้วยการข้ามน้ำข้ามทะเลเนรมิตสนามฟุตบอลหญ้าเทียมสีน้ำเงินมาตรฐานสากล ขนาด 7 คนเล่น บนเกาะยาวใหญ่ ณ โรงเรียนอ่าวกะพ้อ จังหวัดพังงา เพื่อให้เยาวชนได้ใช้ฝึกซ้อมก้าวสู่การเป็นนักเตะมืออาชีพในอนาคต อีกทั้งให้คนในชุมชนได้มีพื้นที่ในการออกกำลังกาย และทำกิจกรรมร่วมกัน
โดยพิธีเปิดสนามฟุตบอลหญ้าเทียมอย่างเป็นทางการ มีขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมี จุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ ผู้แทนรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, อรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, โชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา, สมภาพ นาคพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา, อุดม กูลดี ผู้อำนวยการโรงเรียนอ่าวกะพ้อ จังหวัดพังงา รวมถึงผู้สร้างแรงบันดาลใจด้านกีฬาอย่าง ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย, ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ และทีมก้าวคนละก้าว พร้อมดารานักแสดง อาทิ ออย-ธนา อาจาริยางกูล เข้าร่วมงาน โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ด้วยการแสดงลิเกฮูลู ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวใต้ จากนักเรียนโรงเรียนอ่าวกะพ้อ
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมไฮไลต์สุดพิเศษ คือ การแข่งขันฟุตบอลแมตช์พิเศษระหว่าง พี่ตูน, ทีมก้าวคนละก้าว, คณะสื่อมวลชน และทีมนักบอลเยาวชนจากโรงเรียนอ่าวกะพ้อ ที่มาดวลแข้ง สร้างความสุขและรอยยิ้มกันอย่างสนุกสนาน พร้อมแจกฟุตบอลกว่า 1,000 ลูก ให้กับน้องๆ ทุกโรงเรียนบนพื้นที่เกาะยาวใหญ่อีกด้วย
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “โครงการ ‘100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย’ เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นตอบแทนสังคมไทย ด้วยการมอบโอกาสให้เยาวชนได้รับการส่งเสริมศักยภาพ เกิดการพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตบอลอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ ซึ่งเป็นกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ โดยโรงเรียนอ่าวกะพ้อ จังหวัดพังงาแห่งนี้ เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนเกาะที่ได้รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมเป็นแห่งแรกของโครงการฯ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ คิง เพาเวอร์ รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการมอบโอกาสที่ดีให้แก่เยาวชนและคนในชุมชน ซึ่งไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดของประเทศไทย เช่น บนเกาะที่ห่างไกลและขาดสนามฟุตบอลที่มีมาตรฐาน เมื่อมีโอกาส คิง เพาเวอร์ ก็พร้อมสนับสนุนขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้ใช้สนามนี้พัฒนาตนเอง เพื่อโอกาสในการเป็นนักเตะมืออาชีพในอนาคต และส่งเสริมการสร้างสุขภาพแข็งแรงให้แก่คนในชุมชน”
อุดม กูลดี ผู้อำนวยการโรงเรียนอ่าวกะพ้อ กล่าวว่า “ชาวเกาะยาวใหญ่ต้องขอขอบคุณ คิง เพาเวอร์ ที่สนับสนุนการสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมบนเกาะอย่างเต็มที่ ขนอุปกรณ์ต่างๆ มาด้วยความยากลำบาก เพื่อให้เด็กๆ มีพื้นที่ในการฝึกซ้อมเตะฟุตบอลให้เก่งยิ่งขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เด็กๆ ต้องเตะฟุตบอลบนสนามดินที่ไม่ได้มาตรฐาน หากฝนตกสนามจะกลายเป็นดินโคลนทันที เด็กๆ จึงต้องย้ายไปเตะฟุตบอลริมชายหาดแทน ดังนั้นสนามฟุตบอลหญ้าเทียมจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอย และเชื่อว่าสนามแห่งนี้จะสร้างนักเตะสู่ทีมชาติไทยได้อย่างแน่นอน พร้อมจะช่วยกันดูแลรักษาสนามฟุตบอลให้อยู่คู่กับเกาะยาวใหญ่ให้ได้นานที่สุด เราเข้าใจว่าการเดินทางมาสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมบนเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะต้องขนส่งอุปกรณ์ต่างๆ ในการก่อสร้างขึ้นเรือข้ามฝั่งไปยังเกาะยาวใหญ่ ใช้ระยะเวลาในการขนทั้งหมด 6 รอบ รอบละ 2 ชั่วโมง ประกอบกับช่วงที่ก่อสร้างทางภาคใต้มีฝนตกหนัก ทำให้ระยะเวลาในการสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมใช้เวลานานขึ้นจาก 60 วัน เป็น 75 วัน นอกจากนี้ในช่วงการก่อสร้างยังได้ความร่วมมือจากนักเรียน คุณครู รวมไปถึงคนในชุมชน อาสาเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก และมีส่วนร่วมในการสร้างสนามฟุตบอลของพวกเขา ช่วยกันหยิบจับคนละไม้คนละมือ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นด้วยพลังของชุมชน”
ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย กล่าวว่า “สนามฟุตบอลระดับมาตรฐานบนเกาะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเด็กๆ บนเกาะมีความสามารถ และเฝ้ารอโอกาสที่อยากจะได้เครื่องมือที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการเล่นกีฬาฟุตบอล ที่สำคัญสนามฟุตบอลบนเกาะแห่งนี้ เป็นสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอคอยเสมอมา ผมรู้สึกดีใจไปด้วยกับโรงเรียนนี้ที่ได้มีสนามดีๆ ใช้ ขอบคุณ คิง เพาเวอร์ แทนน้องๆ ชาวเกาะยาวใหญ่ที่มอบโอกาสอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้”
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก King Power Thai Power พลังคนไทย
#KingpowerThaipowerพลังคนไทย
#WeBelieveInThaiPower
#เชื่อในพลังคนไทย
#SportPower