Mount Cook National Park (© Sealy Tarns)
DRIVING IN NEW ZEALAND
Why New Zealand? คำถามที่มีคำตอบยาวเหยียดของเรา เกิดขึ้นเมื่อมีโจทย์ว่า 3 เจเนอเรชั่นของบ้าน–พ่อ แม่ ลูก และคุณยาย อยากไปเที่ยวกันแบบสบายๆ ไม่เน้นเมือง ไม่เน้นช้อปปิ้ง
STORY
NISARAT SITASUWAN
PHOTOGRAPHY
NEW ZEALAND TOURISM, CHRISTCHURCH & CANTERBURY TOURISM
คุณพ่อขอวิวสวยๆ เพื่อถ่ายรูป ฝ่ายแม่ยังไงก็ได้ ขอมีอาหารอร่อยให้ชิม ด้านคุณยายไปไหนก็ได้แต่ขอที่นอนสบายๆ ขอที่นั่งจิบชายามบ่ายชิลล์ๆ ส่วนลูกอายุไม่ถึง 10 ขวบ ยังไม่มีสิทธิ์ออกเสียง แต่เราอยากให้ได้ออกจากห้องสี่เหลี่ยม ไปสัมผัสธรรมชาติ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง
ด้วยโจทย์ที่ว่ามา นิวซีแลนด์จึงเป็นตัวเลือกอันดับแรกของเรา และการขับรถเที่ยวเองก็เป็นวิธีเดินทางที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด โดยใช้รถธรรมดาไม่ใช้รถบ้าน และไปพักตามโรงแรม โมเต็ล บีแอนด์บี ฯลฯ ระหว่างทาง และเราเลือกเกาะใต้เป็นจุดหมายปลายทาง ด้วยเป้าหมายวิวสุดสวยเพื่อเอาใจคุณพ่อที่รับหน้าที่ขับรถตลอดทริป ซึ่งคุณพ่อก็ประกาศก้องว่า “ตรงไหนวิวสวย ผมจอดนะ”
จากนั้นฝ่ายแม่ก็ทำการวางแผนทริป จองทุกสิ่งที่พึงจอง–รถ โรงแรม เรือ ร้านอาหาร (บางร้านที่เป็น A Must) เปิดสารพัดเว็บเพื่อเทียบข้อมูลให้พร้อมที่สุดก่อนออกเดินทาง
CHRISTCHURCH
การเดินทางเริ่มต้นจากสนามบินไครสต์เชิร์ชที่ถ้าเราไม่ได้พกอาหารสดอาหารแห้งไป ก็ไม่ต้องตรวจตราอะไรให้ช้า เพียงแพล็บเดียวสามารถออกไปติดต่อรับรถเช่าที่จองเอาไว้ แล้วก็ขับเข้าตัวเมืองไครสต์เชิร์ชไปได้เลย ซึ่งพอถึงโรงแรมได้เช็กอินแล้ว เราไปหาอะไรรองท้องกันก่อนแล้วไปเดินเล่นในเมือง ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างก็ใกล้กลับเข้าที่เข้าทางเดิมแล้วหลังจากแผ่นดินไหวใหญ่ไป 2 รอบ คุณยายที่เคยมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อกว่า 10 ปีก่อน บอกว่าไครสต์เชิร์ชเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน แต่แม่น้ำเอวอนยังมีเรือถ่อเหมือนเดิม พอถามคุณยายว่าจะนั่งเรือไหม คุณยายกลับว่าไปช้อปปิ้งดีกว่า (อ้าว ไหงงั้นคะ แม่!!) จุดที่คุณยายอยากไปด คือ Bridge of Remembrance อนุสรณ์รำลึกถึงทหารที่สูญเสียไปในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งคราวที่แล้วมากับทัวร์ คณะเพื่อนๆ ได้ไปถ่ายรูปหมู่กันที่นั่น พอกลับบ้านไปไม่ถึงเดือน เกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ที่ไครสต์เชิร์ช มีข่าวว่าซุ้มประตูพังเสียหาย คุณยายได้แต่นั่งบ่นเสียดายๆ และเฝ้าตามข่าวจนรู้ว่า เขาสร้างกลับมาใหม่ได้เหมือนเดิมแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ดังนั้นเมื่อมาถึงจึงอยากกลับไปดูอีกที
คืนแรกเราหาอะไรง่ายๆ รับประทานใกล้ๆ โรงแรม แล้วกลับไปพักกันแต่หัววัน เพราะพรุ่งนี้จะลุยกันแต่เช้า
การเดินทางเริ่มต้นจากสนามบินไครสต์เชิร์ช ที่ถ้าเราไม่ได้พกอาหารสดอาหารแห้งไป ก็ไม่ต้องตรวจตราอะไรให้ช้า
KAIKOURA
จากไครสต์เชิร์ช ต้องใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงเศษจึงจะถึงไคคูรา เราจะไปดูวาฬกันที่นั่น
การดูวาฬทางเรือมีเป็นรอบๆ ตั้งแต่เช้า เราจองรอบ 12.45 น. ไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องรีบร้อน มาถึงไคคูราแล้วก็หาอะไรรองท้องเบาๆ (ต้องไม่หนักนัก เผื่อเมาเรือ) เมื่อติดต่อแลกตั๋วแลกบัตรอะไรแล้วถึงเวลาก็ไปลงเรือ ใช้เวลาล่องเรือกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง คลื่นลมไม่แรง จึงไม่มีการเมาเรืออย่างที่กลัวกัน ลูกชายสนุกมากกับโลมาที่ว่ายน้ำตามเรือเป็นฝูงใหญ่ขณะที่ผู้ใหญ่นั่งบ่นกันว่าวาฬไปไหนหมด จนเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่งผ่านไป จึงได้มีเสียงกิ๊วก๊าวว่าเห็นวาฬแล้วๆๆๆ วาฬที่เห็นเป็นวาฬหลังค่อมตัวไม่ใหญ่นัก โผล่ขึ้นมาลอยโชว์ตัวอยู่พักใหญ่ แล้วก็มุดน้ำทำหางกระดกท่าซิกเนเจอร์ของวาฬ แล้วหายไปไม่กลับมาอีกเลย
หลายคนอาจรู้สึกว่ามาตั้งไกล เห็นวาฬแพล็บเดียว ไม่คุ้ม อย่างเราก็เห็นแค่ตัวเดียว แบบนี้ดูในสวนสัตว์ดีกว่า แต่ว่าการเห็นสัตว์ในธรรมชาติกับในสวนสัตว์นี่อารมณ์ต่างกันจริงๆ ลูกชายยังพูดเลยว่าวาฬกับโลมาที่นี่ดูร่าเริงกว่าที่สวนสัตว์น้ำนะครับแม่
พอขึ้นจากเรือก็ถึงรายการของดิฉันละค่ะ มาไคคูราทั้งที ต้องชิมกั้งเครย์ฟิชสินะ จะพลาดได้อย่างไรกัน เพราะในภาษาเมารี “ไคคูรา” แปลว่า “กินกั้ง” ซึ่งเขาว่าถ้าจะให้ได้อารมณ์ ต้องไปชิมตามร้านแบบซุ้มเล็กๆ ริมถนน ซึ่งเราก็เลือกจอดตรงร้านที่เรารู้สึกว่า “ดูดี” นอกจากกั้งแล้วก็มีอาหารทะเลชนิดอื่นๆ เสิร์ฟด้วย ทำง่ายๆ แบบบาร์บีคิว เนื้อๆ เน้นๆ กันไป คุณยายไม่บ่นอะไร แต่ลูกชายแอบคิดถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดออกมาเสียงดังๆ ซะอย่างนั้น
คืนนั้นเรากลับไปนอนไครสต์เชิร์ชอีกคืนและรับประทานอาหารค่ำที่ร้านจีนกัน (หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวเป้งผัดเต้าซี่นี่เร้าใจจริงๆ)
คุณพ่อคุณลูกก็ไปดูดาวกัน (พร้อมเครื่องกันหนาวเต็มยศ) หายไปไม่นานก็กลับมา บอกว่า “ฟินแล้ว” เพราะ ฟ้าที่นั่นมืดดีจริงๆ เห็นดาวเต็มฟ้า
TEKAPO
กูเกิลแม็พบอกว่าจะต้องใช้เวลาขับรถ 2 ชั่วโมง 50 นาที จากไครสต์เชิร์ชถึงเทคาโป แต่ไปเรื่อยๆ เมื่อยก็พัก แวะทุกที่แบบเรา ก็คงไปถึงเอาหลังเที่ยง เราแวะแอชเบอร์ตัน ซื้อผลไม้และขนมขบเคี้ยว เมื่อไปถึงเทคาโป เราไปดูโบสถ์ Good Shepherd ซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนต้องเช็กอิน จากนั้นก็ขับรถขึ้นไปที่ Mt.John ซึ่งมีหอสังเกตการณ์ดูดาว และมีวิวสวยมากๆ (ต้องเสียค่าผ่านทาง) และนั่งรับประทานอาหารกลางวันที่คาเฟ่บนนั้น
สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปอาจจะแวะเทคาโปเพียงแค่นั้น โดยไม่พักค้าง แต่เพื่อคุณพ่อที่มีความใฝ่ฝันขั้นสูงสุดว่าจะได้ถ่ายรูปดาว โดยมีโบสถ์ Good Shepherd เป็นโฟร์กราวด์ ขนาดหอบขาตั้งกล้องอันใหญ่มา เราจึงหยุดที่นี่ 1 คืน เมื่อเข้าที่พักได้ คุณพ่อก็พาลูกชายไปเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูป ขณะที่แม่กับคุณยายเอ็นจอยกับวิวดีๆ กับอากาศดีๆ ตรงแถวที่พัก หลังอาหารค่ำคุณพ่อคุณลูกก็ไปดูดาวกัน (พร้อมเครื่องกันหนาวเต็มยศ) หายไปไม่นานก็กลับมา บอกว่า “ฟินแล้ว” เพราะฟ้าที่นั่นมืดดีจริงๆ เห็นดาวเต็มฟ้า แต่ก็หนาวจับใจจนอยู่กันได้ไม่นาน
เส้นทางเลียบทะเลสาบเทคาโปและปูคากิ (Pukaki) ที่เราใช้เดินทางสู่เมาท์คุก ต้องบอกว่าสวยขาดใจจริงๆ ตรงไหนก็สวยไปหมด
MOUNT COOK
แผนที่บอกระยะทางจากเทคาโปไปเมาท์คุกวิลเลจว่าไม่ได้ไกลนัก ไม่น่าเกิน 2 ชั่วโมง บวกเวลาให้คุณพ่อแวะถ่ายรูปด้วยยังได้ วันนี้จึงเป็นวันสบายๆ ที่ออกเดินทางกันแบบไม่ต้องรีบ เพียงไปให้ทันเฮลิคอปเตอร์ดูเมาท์คุกแบบลงจอดบนธารน้ำแข็งที่จองรอบบ่าย 2 โมงไว้เท่านั้น
เส้นทางเลียบทะเลสาบเทคาโปและปูคากิ (Pukaki) ที่เราใช้เดินทางสู่เมาท์คุก ต้องบอกว่าสวยขาดใจจริงๆ ตรงไหนก็สวยไปหมด คุณพ่อแวะจอดไปเรื่อยๆ และรำพึงว่าน่าจะเอากล้องฟิล์มมาด้วย เพราะมีเวลาประดิษฐ์ภาพได้ตามใจ
เราไปถึงเมาท์คุกวิลเลจตอนเที่ยง มีเวลารับประทานอาหารกลางวันก่อนไปที่ออฟฟิศเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเราต้องผ่านการชั่งน้ำหนักและดูเรื่องเซฟตี้ก่อนขึ้นบิน ระยะเวลาในการบินทั้งหมด 50 นาที รวมแวะจอดบนธารน้ำแข็ง 10 นาทีตอนจอดลงบนธารน้ำแข็งก็ตื่นเต้นดี พื้นเป็นหิมะฟูๆ นุ่มๆ ลูกชายสนุกใหญ่ คุณยายก็สนุกไม่แพ้กัน
เมื่อลงจากเฮลิคอปเตอร์ เข้าที่พักอันเป็นโรงแรมชื่อดังสุดคลาสสิกของที่นั่น เราก็ไปเดินเล่นกัน อากาศที่นี่ดีเหลือเกิน จนอยากเก็บใส่กระป๋องกลับบ้านเสียจริงๆ
QUEENSTOWN
เส้นทางจากเมาท์คุกต่อไปยังควีนส์ทาวน์ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง แต่ก็แบบเราๆ คือไปเรื่อยๆ อยากแวะตรงไหนก็แวะ ซึ่งเป็นข้อดีจริงๆ ของการขับรถเที่ยวเอง เราแวะทวิเซล (Twizel) เที่ยวฟาร์มปลาแซลมอน (แซลมอนรมควันอร่อยมาก) แวะถ่ายรูปที่ทะเลสาบวานากา (Wanaka) มารับประทานอาหารกลางวันตอนต้นบ่ายที่เมืองครอมเวลล์ (Cromwell) แล้วยังมาแวะชิมสโคนกับน้ำชาที่แอร์โรทาวน์ (Arrowtown) อีก กว่าจะถึงควีนส์ทาวน์ก็เย็นทีเดียว
ควีนส์ทาวน์เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเกาะใต้ มีโรงแรมให้เลือกเยอะมาก เราเลือกโรงแรมกลางเมืองเพื่อให้คุณยายเดินเล่นเองได้ในวันที่เราจะออกไปทำกิจกรรมแบบที่คุณยายไม่ไปด้วยแน่ๆ และเราเองก็เดินเล่นในเมืองกันได้จนดึกด้วย
วันรุ่งขึ้น เราไปเก็บกิจกรรมที่ขึ้นชื่อของนิวซีแลนด์อย่างบันจี้จัมพ์ที่สะพานคาวารัว (อันนี้แค่ดู) ซิปไลน์ข้ามแม่น้ำ (คุณพ่อเล่น) นั่งเรือช็อตโอเวอร์เจ็ต (ทั้งครอบครัว) แล้วก็ขับรถเที่ยวเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จนกลับมาพบคุณยายตามนัดที่โรงแรม ซึ่งปรากฏว่าเมื่อเช้าพอเราออกเดินทาง คุณยายก็ออกบ้างไปนั่งเรือล่องทะเลสาบวาคาติปู (Wakatipu) ที่ท่าเรืออยู่หน้าเมือง และไปฟาร์มแกะมาด้วยเชียวนะ
ช่วงบ่ายๆ เรานั่งกระเช้าสกายไลน์ขึ้นไปบนเขาเหนือเมือง พาคุณยายไปนั่งเล่นสบายๆ ระหว่างคุณพ่อพาลูกชายไปเล่นลูจ (Luge) ที่เหมือนขับรถลงเขาไปตามทางโดยไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ เล่นกันอยู่ 2 รอบก็ได้เวลาอาหาร ซึ่งเราจองไว้ที่ภัตตาคารบนเขาเป็นมื้อแบบวิวหลักล้านที่ใครๆ ก็บอกว่า “ต้อง” มาดูให้ได้
คืนสุดท้ายของการขับรถเที่ยวนิวซีแลนด์แบบชิลล์ๆ 3 รุ่นของเรา คือการกินไอศกรีมฉลองปิดทริปที่ร้านดังของควีนส์ทาวน์ คุณยายที่ว่าอิ่มบุฟเฟต์แต่พอเจอไอศกรีมแสนอร่อยเข้มข้นของที่นี่ ก็สู้ตายเหมือนกัน
เราขับรถไปคืนที่สนามบินควีนส์ทาวน์ ก่อนออกเดินทางกลับบ้านตอนสายๆ วันถัดมา ยังเสียดายที่เรามีเวลาแค่นี้ ทำให้ไปได้ไม่ทั่วเกาะใต้อย่างที่อยาก ลูกชายบอกว่าอีก 4-5 ปีมาใหม่นะแม่ ผมจะได้เล่นบันจี้!!!
USEFUL INFORMATION
VISA
ต้องขอวีซ่าเพื่อท่องเที่ยว ดูรายละเอียดได้ที่ www.ttsnzvisa.com
DRIVING LICENSE
ทำใบขับขี่ระหว่างประเทศที่กรมการขนส่งทางบก (www.dlt.go.th) ผู้ขับรถเช่าได้ จะต้องอายุ 20 ปีขึ้นไป และต้องนำใบขับขี่ตัวจริงไปด้วย
CARD & PIN
ปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่เป็นแบบบริการตนเอง ใช้เครดิตการ์ดที่ต้องมี Pin เลข 4 ตัวด้วย ให้ตรวจสอบกับผู้ให้บริการบัตรเครดิตก่อนเดินทาง
NO FOOD
นิวซีแลนด์เข้มงวดเรื่องการนำอาหารสด ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เข้าประเทศ ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาในการตรวจคนเข้าเมือง
CLOTHING
แม้ในฤดูร้อน ถ้าไปอยู่กลางแจ้งหรือเขตภูเขา อากาศยามกลางคืนที่เกาะใต้ ก็อาจเย็นลงจนถึงเลขตัวเดียวได้ ในขณะที่ฤดูหนาว กลางวันอาจลดต่ำกว่า 0 องศา จึงควรเตรียมเสื้อผ้าเผื่อไว้เสมอ
TRAVEL INFO
www.newzealand.com