หลายต่อหลายครั้งที่ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นจิตรกรรม บทเพลง บทกวี รวมถึงงานดีไซน์ต่างๆ สามารถเป็นกระบอกเสียงอันทรงพลังจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ครั้งนี้ก็เช่นกัน โควิด-19 บังคับให้พวกเราใช้เวลาอยู่กับบ้าน หลีกเลี่ยงการพบเจอผู้คนให้ได้มากที่สุด ซึ่งทำให้เกิด “ผลข้างเคียง” ในเชิงบวกอย่างหนึ่ง นั่นคือมีคนมากมายต่างลุกขึ้นมาทำสิ่งที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ระหว่างการกักตัว เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สถานการณ์ที่เป็นดั่งฝันร้ายนี้สิ้นสุดในเร็ววัน
The Spoiler Billboard
ในฐานะประชาชนทั่วไป แม้ไม่ใช่บุคลการทางการแพทย์ก็สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้เช่นกัน ทั้งจากการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หรือง่ายที่สุด ไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น แต่ขนาดว่าง่ายแล้ว หลายคนก็ยังละเลยอยู่ดี เพราะคิดแต่เพียงว่า แค่ออกไปเดินเล่นชิลๆ เองไม่เห็นเป็นอะไร ไวรัสหรือจะน่ากลัวเท่าจิตใจที่เหี่ยวเฉา นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ครีเอทีฟชาวไทย 2 คน ต้องใช้ยาแรงมาจัดการกับเรื่องนี้
แซนด์-ภัคณิชา กองเรืองกิจ และ เบรฟ–มติธร ประจวบเหมาะ ชัยมังคโล สองนักศึกษาจาก Miami Ad School เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ซึ่งได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยเมื่อช่วงกลางปีที่แล้วพบว่าหลายคนยังไม่ตระหนักถึงการปฏิบัติตามมาตรการกักตัวอยู่บ้านมากเท่าที่ควร จึงเกิดไอเดียที่สุดแสนจะเรียบง่าย แต่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ โดยทั้งคู่มองว่ากลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาต้องการจะสื่อสารด้วยเป็นพิเศษนั้นคือหนุ่มสาวยุค Millennial เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์และความคิดที่ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง ตลอดจนมีความเชื่อว่าร่างกายที่แข็งแรงกว่าเด็กเล็กๆ และผู้สูงอายุของพวกเขาจะไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตอย่างแน่นอน
จากไอเดียเริ่มต้น ค่อยๆ พัฒนาต่อยอดจนกลายเป็น Spec Ads หรือ โฆษณาที่สร้างขึ้นเองโดยไม่ได้รับการว่าจ้างจากแบรนด์ ในกรณีนี้คือ เมื่อใดที่ก้าวออกจากบ้าน คุณจะเจอกับข้อความสปอยล์หนังและซีรีส์เรื่องดังของ NETFLIX อย่าง Stranger Things, Love is Blind, Narcos รวมถึง Kingdom ไม่กี่วันต่อมาแคมเปญสุดโหดร้ายนี้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก แพร่กระจายเร็วกว่าไวรัสโคโรนาเสียอีก หลายคนเชื่อจริงๆ ว่านี่เป็นโฆษณาของ NETFLIX จนกระทั่งทางแบรนด์ต้องออกมาชี้แจงว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มันเป็นงานของนักศึกษากลุ่มหนึ่งเท่านั้น ซึ่งแซนด์และเบรฟก็ได้นำไอเดียนี้ไปขายกับทาง NETFLIX สิงคโปร์จริงๆ ด้วย เพียงแต่มันยังไม่ผ่าน เนื่องจากทาง NETFLIX ไม่มีนโยบายสปอยล์ซีรีส์ของตัวเอง
อย่างไรก็ตามแซนด์และเบรฟยังคงเดินหน้าพัฒนาไอเดียนี้ต่อไป โดยลึกๆ แล้วเบรฟเชื่อว่า ถ้า NETFLIX กลับลำนโยบายหลักของแบรนด์ แล้วหันมา “สปอยล์เพื่อช่วยโลก” ผู้คนจะชื่นชมและให้การสนับสนุนมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน สุดท้ายทั้งคู่อยากขอโทษทุกคนที่ถูกผลงานของพวกเขาเฉลยตอนจบของซีรีส์ พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายจิตใจใครเลยจริงๆ
Art of Quarantine
แคมเปญนี้สร้างสรรค์ขึ้นโดย Looma ครีเอทีฟโปรดักชั่นเอเจนซี่แห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรมฯ แห่งยูเครน (Ministry of Culture and Information Policy of Ukraine) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อย้ำเตือนให้ผู้คนตระหนักว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรท่ามกลางสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสทุกวันนี้
Looma เชื่อว่า การใช้ชีวิตในช่วงการกักตัวเพื่อควบคุมโรคถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง นั่นจึงเป็นที่มาของแคมเปญ “Art of Quarantine” ที่นำผลงานมาสเตอร์พีซระดับโลกมาปรับโฉมใหม่ เพื่อแนะนำวิธีที่จะช่วยหยุดการระบาดของโควิด-19 เพราะถึงแม้ว่าจะมีคำแนะนำหรือการรณรงค์ให้เห็นอยู่ทั่วไป แต่ก็ดูเหมือนว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง ดังนั้น เพื่อที่จะเป็นจุดสนใจ เพื่อที่จะให้ง่ายต่อการจดจำ ศิลปะที่หลายคนคุ้นตาจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
งานจิตรกรรมสุดคลาสสิกจากหลากหลายศิลปินหลากหลายยุคทั้ง 9 ภาพ ถูกนำมาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ ฉาบเคลือบด้วยอารมณ์ขันบางๆ ให้เข้าถึงง่าย อย่างเช่น “SOCIAL DISTANCING” ซึ่งต้นฉบับเป็นผลงานของ Leonardo da Vinci จิตรกรเอกของโลกจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) ที่มีชื่อว่า The Last Supper ภาพโต๊ะอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู ที่เดิมทีพระองค์จะถูกรายล้อมไปด้วยพระสาวกทั้งสิบสอง มาบัดนี้พระองค์กลับต้องเสวยเพียงลำพัง เพราะต่างคนต่างอยู่ที่บ้านของตัวเองกันหมด
ในขณะที่ “USE HAND SANITIZER” ดัดแปลงมาจาก The Creation of Adam ผลงานของมิเกลันเจโล ศิลปินเลื่องชื่ออีกคนหนึ่งจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ถ้าสังเกตดีๆ ภาพของพระผู้เป็นเจ้ากำลังสร้างมนุษย์คนแรกนี้ อาจนับได้ว่าเป็นภาพที่ถูกนำไปล้อเลียนมากที่สุดภาพหนึ่งของโลกก็ว่าได้ มาคราวนี้ จากพระหัตถ์ของพระเจ้าที่กำลังมอบชีวิตให้กับอดัม กลายเป็นหยิบยื่นสเปรย์แอลกอฮอล์ให้ด้วยความหวังดี เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของการล้างมือให้สะอาดและปลอดเชื้ออยู่เสมอ รวมไปถึง “USE DELIVERY” จากผลงานขึ้นหิ้งของ Jacques-Louis David จิตรกรแห่งยุคนีโอคลาสสิกชาวฝรั่งเศส ภาพของนโปเลียนโบนาปาร์ตผู้ยิ่งใหญ่กำลังขี่ม้าข้ามเทือกเขาแอลป์ยังคงทรงพลังเฉกเช่นเคย แต่ก็มีบางอย่างเปลี่ยนไปเล็กน้อย บางอย่างที่บอกให้เราใช้บริการจัดส่งที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อนั่นเอง
สามารถชมภาพอื่นๆ ของแคมเปญ Art of Quarantine รวมไปถึงผลงานที่น่าสนใจอื่นๆ ของพวกเขาได้ที่ https://looma.pro/portfolio/art-of-quarantine/
It’s Easier to Win at Home
David เอเจนซี่โฆษณาในกรุงมาดริด ได้สร้างสรรค์ผลงานให้กับ Líbero นิตยสารฟุตบอลชื่อดังของสเปน โดยพวกเขาใช้เกมกีฬายอดนิยมของโลกนี้มาเป็นสื่อกลางในการร่วมรณรงค์ให้ทุกคนอยู่บ้าน และการที่สเปนประเทศที่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอลระดับโลกทั้งในนามของสโมสรและทีมชาติ ออกมาบอกเคล็ดลับแห่งชัยชนะในโอกาสนี้ จะไม่ตั้งใจฟังแล้วนำไปปฏิบัติตามกันหน่อยหรือ
แฟนฟุตบอลต่างรู้ดีว่า เมื่อไรก็ตามที่ทีมรักของตนเปิดสนามรับการมาเยือนของทีมอื่น จะทีมไหนก็ไม่หวั่น เจ้าถิ่นอย่างพวกเขาจะมีโอกาสชนะสูงมาก เพราะกุมความได้เปรียบโดยอัตโนมัติ จากเสียงเชียร์ บรรยากาศ ไปจนถึงความคุ้นเคยกับสภาพสนาม ทาง Líbero จึงนำสถิติของเหล่าซูเปอร์สตาร์ในสเปนมาให้ดูกันชัดๆ ดังนี้
- Atlético Madrid ยอดทีมจาก ลา ลีกา สามารถเก็บชัยชนะในฤดูกาล 2019/20 ในบ้านได้ถึง 53% นอกบ้านเพียง 23%
- Real Madrid สามารถเก็บชัยชนะในเกม El Clásico กับ Barcelona ได้ถึง 65 เกม เมื่อแข่งที่บ้าน ในขณะที่เมื่อออกไปเยือนพวกเขาชนะเพียง 27 เกม
- Lionel Messi ยิงประตูในบ้านได้ถึง 369 ประตู ยิงนอกบ้านได้ 258 ประตู
- ปีที่ผ่านมาทีมชาติสเปนเก็บชัยชนะในบ้านได้ถึง 21 เกม นอกบ้านเพียง 10 เกม
- Jan Oblak ผู้รักษาประตูของทีม Atlético Madrid ไม่เสียประตูในบ้านถึง 57 เกม ส่วนสถิตินอกบ้านอยู่ที่ 42 เกม
สามารถติดตามผลงานที่น่าสนใจอื่นๆ ของพวกเขาได้ที่ https://www.facebook.com/weareDAVIDmad/
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ความคิดสร้างสรรค์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ ศิลปะยังคงเป็นภาษาสากลที่เข้าถึงได้ง่าย เป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลังหากนำมาใช้อย่างถูกวิธี ถูกที่ ถูกเวลา ใครจะคาดคิดว่าไอเดียดีๆ ก็มีส่วนช่วยให้ทุกคนได้มีชิวิตอยู่อย่างปลอดภัยต่อไป