BeautyBeauty 128FeatureGrooming StoryNumber 128

Grooming Story:
Perfect Skin

By 10 June 2019 No Comments

PERFECT SKIN

FASHION EDITOR

SANSHAI
JIRAT SUBPISANKUL

PHOTOGRAPHER

AEKARAT UBONSRI

STORY

PILAN SRIVEERAKUL

หลักการดูแลผิวให้หล่อใส 4 ขั้นตอน
ที่คุณจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเป็นประจำทุกวัน 

1. Clean:

การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในแต่ละวันผิวของเราต้องเจอทั้งฝุ่นควัน เชื้อแบคทีเรีย และมลพิษในอากาศตลอดเวลา ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง คือเช้ากับก่อนนอน เพราะการล้างหน้าบ่อยเกินไป นอกจากจะเป็นการรบกวนผิวแล้ว ยังส่งผลให้ผิวแห้งตึงอีกด้วย หากรู้สึกว่าหน้ามันในระหว่างวัน ให้ใช้กระดาษทิชชูหรือกระดาษซับมันค่อยๆ ซับ ไม่ใช่ถู และควรเลือกใช้กระดาษซับมันแบบไม่มีแป้ง นอกจากนั้นควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ควรใช้น้ำอุ่นจัดหรือเย็นจัดล้างหน้า หลังล้างหน้าเสร็จแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูเนื้อนุ่มซับเบาๆ ไม่ถูเช็ดหน้าแรงๆ เพราะจะส่งผลให้ผิวหยาบกร้านและเกิดริ้วรอยก่อนวัย ถ้าคุณมีผิวแห้ง แนะนำให้ใช้แค่น้ำเปล่าล้างหน้าในตอนเช้าก็พอ เพื่อรักษาสมดุลผิวไม่ให้แห้งตึงเกินไป การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเป็นสบู่ล้างหน้าแบบก้อน จะชะล้างคราบไขมันได้ดี แต่มักทำให้ผิวแห้งตึง ขาดสมดุล ไม่ควรใช้สบู่ถูตัวมาทำความสะอาดผิวหน้า ถ้าผิวแห้งมาก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบไร้ฟอง ซึ่งมักผสมสารให้ความชุ่มชื่น หลังล้างหน้าแล้วอาจรู้สึกผิวลื่นๆ เหมือนล้างไม่สะอาด แต่จริงๆ สะอาดแล้วและดีกับผิว 

2. Protect:

ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของผิว คือรังสียูวี การปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดจึงสำคัญมาก เพราะช่วยปกป้องทั้งริ้วรอยและช่วยป้องกันเรื่องผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำ จึงควรทาครีมกันแดดทุกวัน ไม่ใช่ทาเฉพาะตอนออกกำลังกายกลางแจ้งหรือไปเที่ยวทะเล แม้ในวันที่ฝนตกก็ต้องทา ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ แนะนำให้ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 20 นาที ถ้าต้องโดนแดดมากๆ ปริมาณในการทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ คือรัศมีวงกว้างเท่ากับเหรียญ 10 บาท ถ้าอยู่ทะเล ว่ายน้ำ หรือเหงื่อออกมาก ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง และเลือกครีมกันแดดแบบ Water Resistant

3. Moisturise:

แม้คุณจะเป็นคนผิวมัน ก็ยังต้องทามอยส์เจอไรเซอร์เติมความชุ่มชื่นให้ผิว เพราะความชุ่มชื่นเป็นปัจจัยสำคัญของผิวหล่อเนียนใสดูอ่อนเยาว์ และแม้ผิวจะมันแค่ไหน ก็สามารถขาดความชุ่มชื่นได้ เพราะความมันกับความชุ่มชื่นเป็นคนละส่วนกัน น้ำมันในผิวเป็นเรื่องของความยืดหยุ่น ส่วนความชุ่มชื่นเป็นเรื่องของระดับน้ำในผิว ถ้าคุณเป็นคนผิวมัน ให้เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตรที่เป็นเนื้อออยล์ฟรี และมีความบางเบา เน้นสารประกอบเป็นกลุ่มของน้ำ ไม่ใช่น้ำมัน เพื่อป้องกันความเหนอะหนะ สังเกตง่ายๆ ตรงชื่อผลิตภัณฑ์ที่มักมีคำที่สื่อถึงน้ำ เช่น Aqua, Water หรือ Hydra ส่วนผิวผสมถึงผิวแห้งอาจเลือกที่มีสารให้ความชุ่มชื่นกลุ่มซิลิโคน เช่น Cyclomethicone, Dimethicone สำหรับคนผิวแห้งมาก ให้มองหาส่วนผสมของน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื่น แต่ไม่ทำให้ผิวอุดตัน เช่น Omega-3 หรือ Grapeseed Oil เป็นต้น

4. Nourish:

นอกจากเติมความชุ่มชื่นให้ผิวแล้ว คุณสามารถบำรุงผิวตามความกังวล ซึ่งขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน ถ้ากังวลเรื่องสิวและความมัน ให้เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide, Salicylic Acid, Witch Hazel หรือ Tea Tree Oil เหล่านี้ช่วยลดการอักเสบ และช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว พร้อมควบคุมความมัน ถ้ากังวลเรื่องริ้วรอย ให้เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มเปปไทด์อย่าง Acetyl Hexapeptide-3 หรือ Retinol ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ถ้ากังวลเรื่องความหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์กลุ่มไบรเทนนิ่งที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น Arbutin, Vitamin B3, Kojic Acid หรือ Licorice 

EDITOR’S PICK

GROOMING STORY

*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า