เพราะความสวยนั้นสร้างได้ให้พร้อมเฉิดฉายในทุกสถานการณ์ แม้ในช่วงปลายฤดูร้อนต้นฤดูฝนอย่างนี้ ที่ต้องเจอทั้งเหงื่อไคล ทั้งสายฝน จนอาจพาให้ละเหี่ยใจ แต่อย่างไรเสียผู้หญิงก็ไม่ควรหยุดสวย Power จึงมีเคล็ดลับในการเมกอัพลุครับหน้าฝน ที่บอกได้เลยว่ายืนหนึ่งแบบสวยๆ ได้ตลอดทั้งซีซั่น
1. ลดขั้นตอนการดูแลผิวในยามเช้าให้น้อยที่สุด แต่ต้องไม่ละเลยการบำรุง
ด้วยการบำรุงนั้นยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับผิวพรรณในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศช่วงนี้ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว ทำให้อากาศค่อนข้างชื้น แนะนำว่าควรให้ความสำคัญกับการดูแลผิวในยามค่ำคืน ให้มากกว่าจดจ่อกับการประโคมทุกการบำรุงในยามเช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีผิวมัน เพราะในระหว่างวันที่ต้องเจอทั้งเหงื่อทั้งฝนนั้น การดูแลผิวด้วยเจลหรือโลชั่นชนิดบางเบา และดูดซึมได้เร็ว ไม่ทิ้งคราบหรือความเหนียวเหนอะหนะไว้บนใบหน้า หรือการใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ SPF ไปในตัว โดยไม่จำเป็นต้องใช้สกินแคร์ในทุกขั้นตอนการบำรุงนั้น ถือว่ากำลังพอเหมาะพอดีในการเตรียมผิวรับหน้าฝน
ข้อแนะนำ มอยซ์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับอากาศชื้น คือมอยซ์เจอไรเซอร์สูตรน้ำที่มีน้ำหนักเบา ซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย ช่วยให้ผิวดูดซับน้ำมันตามธรรมชาติ ในขณะที่ยังคงให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างสม่ำเสมอ
2. การรองพื้นเป็นสิ่งจำเป็น
สาวๆ หลายคนอาจจะมองข้ามการใช้ไพรเมอร์ แต่ในภาวะที่เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออกเช่นนี้ ไพรเมอร์ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้หน้าของคุณไม่ละลาย ช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผิวก่อนแต่งหน้าได้ดี ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวหน้าของคุณเรียบเนียนขึ้นแล้ว ยังช่วยล็อกเมกอัพให้ติดทนนานยิ่งขึ้นด้วย จากนั้นตามด้วยรองพื้นที่แน่นแต่ไม่หนา ให้ความรู้สึกเหมือน Make Up No Make Up เพื่อผิวที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ
ข้อแนะนำ เลี่ยงรองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะมีแนวโน้มที่จะละลายออกจากผิวได้ง่าย อีกทั้งยังอุดตันรูขุมขนอีกด้วย เพื่อผิวที่ไม่หนักจนเกินไปอาจเปลี่ยนมาใช้คอนซีลเลอร์แบบปกปิดสูง บีบีหรือซีซีครีมแทนได้ หรืออาจเลือกใช้รองพื้นชนิดแป้งซึ่งติดทนได้ดีกว่าในสภาพอากาศชื้น
3. แป้งฝุ่นช่วยคุณได้
แป้งคืออีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้ ยิ่งในช่วงฤดูมรสุมแบบนี้ เราอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นครีมแล้วทาแป้งแทน เพื่อให้ได้ผิวหน้าแบบแมตต์ เพราะแป้งจะช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า ช่วยไม่ให้รองพื้นไหลเยิ้มระหว่างวัน ที่สำคัญอย่าทารองพื้นและคอนซีลเลอร์มากเกินไป แต่ให้ใช้แป้งเป็นเบสในการแต่งหน้า โดยเฉพาะจุดทีโซน
ข้อแนะนำ สามารถผสมครีมและแป้งแต่งหน้าเข้าด้วยกันได้ เพื่อการเกาะติดผิวหน้าที่ดีกว่า ให้ผลลัพธ์เสมือนเป็นไพรเมอร์
4. ใช้เมกอัพแบบกันน้ำ
มองหาข้อความ Waterproof บนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อายไลเนอร์หรือมาสคาร่า เพื่อช่วยเสริมความมั่นใจว่าเมกอัพสวยๆ ของคุณจะคงทนไปตลอดทั้งวัน ไม่กลายเป็นหมีแพนด้าไปเสียก่อน
ข้อแนะนำ หลีกเลี่ยงดินสอเขียนขอบตาแม้ว่าจะกันน้ำได้ก็ตาม เพราะดินสอเขียนขอบตามักมีนำมันเป็นส่วนผสม จึงละลายได้ง่าย ลองเปลี่ยนเป็นอายไลเนอร์แบบลิควิดหรือเจลจะดีกว่า
5. เปลี่ยนความเคยชินให้แก้มและเปลือกตา
จากที่เคยเลือกใช้บลัชออนหรืออายแชโดว์แบบฝุ่นมาตลอด หน้าฝนนี้ลองเปลี่ยนมาใช้แบบเนื้อครีมแทนน่าจะดีกว่า เพราะจะช่วยให้เมกอัพติดทนนานขึ้น หรือถ้ายังไม่มีในกระเป๋าเครื่องสำอาง อาจใช้ไพรเมอร์ลงที่เปลือกตาก่อนลงอายแชโดว์แบบแข็งหรือแบบแป้ง ก็จะช่วยให้ติดทนขึ้น ไม่ทำให้เกิดคราบหรือละลายหายไปกับสายฝนได้เช่นกัน
ข้อแนะนำ เลือกใช้สีซอฟต์แมตต์เฉดสีชมพู น้ำตาลอ่อน ครีมหรือเบจ ซึ่งเข้ากันได้ดีในซีซั่นนี้
6. บอกลาลิปกลอสในหน้ามรสุม
เพราะทางออกที่ดีที่สุดสำหรับริมฝีปากสวยๆ ของคุณในหน้าฝนนี้ ก็คือลิปเนื้อแมตต์หรือลิปทินต์ ซึ่งจะติดทนนานกว่าลิปกลอสที่นอกจากจะไม่ติดทนแล้วยังอาจทำให้เปรอะเปื้อนหน้ากากอนามัยได้ง่ายอีกด้วย
ข้อแนะนำ ควรทาครีมบำรุงริมฝีปากก่อนทาลิปเพื่อให้ริมฝีปากดูนุ่มชุ่มชื้น และต้องไม่ลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ปราศจากน้ำมัน เพื่อกันเมกอัพละลายไปกับสายฝน
BEAUTY INSIDER
*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า