WHAT'S NEW WATCHES
THE PROFESSIONAL
โลกนี้มีแบรนด์นาฬิกามากมายหลายร้อยแบรนด์ แต่แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับเชื่อถือจากเหล่า “มืออาชีพ”
ในสาขาต่างๆ นั้นมีเพียงไม่กี่สิบแบรนด์ และ 3 เรือนจาก 3 แบรนด์ต่อไปนี้ คือตัวอย่างที่ดี
STORY: SOMPOL MINGKHUAN
PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS
OMEGA
Omega Speedmaster คือเพื่อนแท้คู่ข้อมือในภารกิจพิชิตดวงจันทร์ของยาน Apollo 11 เมื่อ 50 ปีก่อน และเป็นนาฬิกาเพียงคอลเลคชั่นเดียวที่องค์การนาซ่าวางใจให้ร่วมในทุกภารกิจอวกาศมาจนปัจจุบัน และนี่คือ Speedmaster Professional ‘Moonwatch’ ที่ถอดแบบมาจากเรือนประวัติศาสตร์ในปีค.ศ. 1969 โดยคราวนี้มาในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 42.0 มิลลิเมตร พร้อมสายสเตนเลสสตีล อวดการทำงานของกลไกไขลานโครโนกราฟ Cal.1863 สุดคลาสสิกผ่านฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ และมีสาย Nato แบบของนักบินอวกาศมาไว้ให้สลับใช้งาน
PANERAI
ขึ้นชื่อด้านนาฬิกาดำน้ำมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ล่าสุด Panerai เปิดตัว Submersible Carbotech รหัส PAM01616 ที่ผลิตตัวเรือนขนาด 47.0 มิลลิเมตร และขอบเรือนแบบหมุนได้ทิศทางเดียวด้วย “Carbotech” วัสดุไฮเทคที่เบากว่าไทเทเนียม แต่ทนแรงกระเทือนและการกัดกร่อนได้ดีกว่า สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร อ่านค่าอย่างชัดเจนแม้ในที่มืดด้วยสารเรืองแสงสีฟ้าสดที่เคลือบอยู่บนเข็มชี้และหลักชั่วโมงขนาดใหญ่ ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติที่สำรองพลังงานได้นานถึง 3 วัน
IWC
หนึ่งในนาฬิกานักบินที่ครองใจผู้คนมานานคือ Pilot’s Watch จาก IWC และนี่คือ Pilot’s Watch Chronograph Edition ‘Antoine de Saint-Exupéry’ ที่ผลิตเพื่อรำลึกถึงนักบินและนักประพันธ์คนดัง Antoine de Saint-Exupéry เจ้าของผลงาน “เจ้าชายน้อย” นวนิยายสุดคลาสสิกที่ขายดีติดอันดับโลก ผลิตตัวเรือนขนาด 43.0 มิลลิเมตรด้วยสเตนเลสสตีล พร้อมตัวเรือนเหล็กอ่อนชั้นในที่ปกป้องกลไกจากสนามแม่เหล็ก บอกและจับเวลาผ่านพื้นหน้าปัดสีช็อกโกแลตด้วยกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติ จับคู่กับสายหนังลูกวัวสไตล์นักบิน
THE LUXURY
อีกหน้าที่หนึ่งของนาฬิกา นอกเหนือจากการบอกเวลา คือการเป็นเครื่องแสดงฐานะ
แบรนด์แฟชั่นและเครื่องประดับสุดหรูหลายแบรนด์จึงมุ่งผลิตเรือนเวลาชั้นดี ในขณะที่แบรนด์นาฬิกาเนื้อแท้
ก็ขอลงตลาดด้วยความหรูทรงคุณค่าไม่แพ้กัน
CHOPARD
แบรนด์หรู Chopard เป็นผู้สนับสนุนหลักของรายการแข่งรถโบราณทางไกล “Mille Miglia” ที่แข่งขันบนถนนสวยๆ ในอิตาลีรวมระยะทางถึง 1,000 ไมล์ โดยในปีค.ศ. 2018 เป็นการสนับสนุนปีที่ 30 ทาง Chopard จึงเปิดตัว Mille Miglia Racing Colours ที่มีสีพื้นหน้าปัดให้เลือกถึง 5 สี ในภาพคือรุ่นสีเขียว “British Racing Green” ที่จำกัดจำนวนผลิตไว้เพียง 300 เรือน บอกและจับเวลาอย่างเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ด้วยกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติที่บรรจุอยู่ในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 42.0 มิลลิเมตร
BVLGARI
ถึงเวลานี้ชื่อคอลเลคชั่น Octo Finissimo จากแบรนด์หรูสัญชาติอิตาลี Bvlgari ได้สื่อถึงความหมาย “บางที่สุดในโลก” ไปแล้ว เพราะออกผลงานทำลายสถิติมาโดยตลอด และผลงานล่าสุด Octo Finissimo Skeleton เรือนนี้ก็มาพร้อมกลไกไขลานที่บางเฉียบเพียง 2.35 มิลลิเมตร แต่สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 65 ชั่วโมง อวดการทำงานผ่านแผ่นคริสตัลแซฟไฟร์ที่กรุไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเรือนไทเทเนียมทรงแปดเหลี่ยมขนาด 40.0 มิลลิเมตร ให้เห็นอย่างเต็มตาในแบบ Skeleton
JAEGER-LECOULTRE
แม้คอลเลคชั่น Polaris ของ Jaeger-LeCoultre จะถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นนาฬิกาสปอร์ตเต็มรูปแบบ แต่เรือนสปอร์ตจับเวลา Polaris Chronograph ในตัวเรือนทองชมพู 18K ขนาด 42.0 มิลลิเมตร ที่เห็นในภาพนี้ก็หรูหราสง่ามากทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อมาจับคู่กับหน้าปัดสีเทาและสายหนังจระเข้สีน้ำตาลไหม้ ในขณะที่ด้านประสิทธิภาพก็เยี่ยมสุดๆ ด้วยกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดยาวนานถึง 1,000 ชั่วโมง และความสามารถในการกันน้ำได้เทียบเท่าระดับความลึก 100 เมตร
THE RUNWAY
ใครว่าผลงานจากแบรนด์แฟชั่นชื่อดังต่างๆ จะมีแต่ความหวือหวาเฉิดฉายอยู่บนรันเวย์ เพราะการออกแบบที่ดีนั้น
จะต้องดูดีแม้ในยามสวมใส่เดินถนนในชีวิตประจำวัน เรียกว่าไม่ว่าจะใส่ไปไหน ทุกที่ก็กลายเป็นรันเวย์ได้ทั้งหมด
EMPORIO ARMANI
Renato Ref.AR11215 คือเรือนสปอร์ตมาดเท่จาก Emporio Armani ที่สะดุดตาด้วยคู่สีเทา-น้ำเงินจากตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตรและสายสเตนเลสสตีลที่เคลือบเป็นสีเทา Gunmetal ตัดกันอย่างงดงามกับพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินสดที่ตกแต่งอย่างมีมิติ พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 50 เมตร บอกและจับเวลาอย่างเที่ยงตรงด้วยเครื่องควอตซ์โครโนกราฟ พร้อมการแสดงเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ในวงหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ปกป้องพื้นหน้าปัดด้วยกระจก Mineral Glass
FOSSIL
เกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง จึงต้องนำเรือนเท่จาก Fossil มานำเสนอพร้อมกัน 2 เรือน เริ่มจากความเรียบง่ายของ Belmar Quartz Ref.FS5530 ที่เสริมแต่งตัวเรือนขนาดใหญ่ถึง 44 มิลลิเมตร และสายสเตนเลสสตีลขัดเงาให้น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยขอบหน้าปัดชั้นนอกสีดำที่ตกแต่งด้วยสเกล 60 นาที เลียนแบบดีไซน์ของนาฬิกาดำน้ำ แสดงเวลาแบบ 3 เข็มอย่างเที่ยงตรง พร้อมการแสดงวันที่ผ่านพื้นหน้าปัดสีดำสนิทด้วยเครื่องควอตซ์ กันน้ำได้ลึก 50 เมตร พร้อมการรับประกัน 2 ปี
FOSSIL
เรือนต่อมา คือความเท่ในสไตล์ Sport Retro ของ Townsman Ref.FS5522 ที่ลงตัว อย่างคลาสสิกสไตล์ย้อนยุค ด้วยวงหน้าปัดย่อย 2 วง ในตำแหน่ง 6 และ 12 นาฬิกา อย่างที่เรียกกันว่า “Bicompax” บอกและจับเวลาได้ต่อเนื่อง 60 นาทีด้วยเครื่องควอตซ์โครโนกราฟที่บรรจุอยู่ในตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร กันน้ำได้ลึก 50 เมตร ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีลที่เคลือบเป็นสีเทา Gunmetal ซึ่งรับกันเป็นอย่างดีกับพื้นหน้าปัดสีเทาที่ตัดด้วยหน้าปัดย่อยสีดำ