สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเผยโฉมคอลเลคชั่นทรงออกแบบ สปริง-ซัมเมอร์ 2020 ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME
STORY
TAWAN KONKAEW
PHOTOGRAPHY
COURTESY OF BRANDS
คอลเลคชั่นทรงออกแบบล่าสุดจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI ภายใต้ชื่อ Mythos Poética (มิทโธส์ โพเอติก้า) เปรียบเสมือนบทสรุปที่รวบรวมดีเอ็นเอผลงานทรงออกแบบสุดสร้างสรรค์ตลอด 15 ปีของแบรนด์
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีพระดำรัสว่า “ปีนี้นับว่าเป็นปีที่แบรนด์ SIRIVANNAVARI มีอายุครบ 15 ปี ซึ่งตลอดทั้งปีนี้ ข้าพเจ้าคงจะได้ทำโปรเจกต์พิเศษหลากหลายรูปแบบเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 15 ปีของแบรนด์ แน่นอนว่าข้าพเจ้าคงต้องเริ่มต้นที่คอลเลคชั่นสปริง-ซัมเมอร์ 2020 ซึ่งสำหรับคอลเลคชั่นนี้ คงต้องบอกว่ามีแรงบันดาลใจในการออกแบบที่ซับซ้อนหลากหลายมาก จึงต้องมีการเรียบเรียงความคิดให้เป็นขั้นเป็นตอนอย่างละเอียด โดยเริ่มแรก การออกแบบของข้าพเจ้าเริ่มจากความคิดและเรื่องราวที่มาจากบทกวีทั้ง 5 บทที่ข้าพเจ้าแต่งขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างใช้จินตนาการเยอะมาก เพราะเป็นเรื่องราวของการพบรักกันของหนุ่มสาวคู่หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ ที่ความสัมพันธ์ดูแฟนซีราวกับความฝัน ส่วนเรื่องราวจะจบอย่างไร ทุกท่านสามารถตีความกันเองได้ ขณะที่คิดถึงคอนเซ็ปต์คอลเลคชั่นนั้น ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะให้คอลเลคชั่นนี้บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ตลอดระยะเวลา 15 ปีด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วข้าพเจ้าได้นำเอาทั้งงานดีไซน์และเอกลักษณ์ของหลายๆ คอลเลคชั่นที่ทำไปแล้วมาต่อยอดและปรับให้โมเดิร์นขึ้น และยังนำงานในอดีตที่เคยคิดไว้ แต่ไม่เคยได้ทำออกมาจริงๆ รวมไปถึงงานดีไซน์ที่ทำจัดแสดงตอนเรียนจบที่ปารีส แต่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหน มาผสมผสานเข้าไว้ด้วยกัน โดยอยู่ภายใต้ธีมของคอลเลคชั่นล่าสุดนี้”
เปิดโชว์ด้วยชุดค็อกเทลรูปหัวใจสีชมพูที่ตัดเย็บจากผ้าบุหงาสีชมพูเลเยอร์ทับผ้าลูกไม้และสร้างความดราม่าด้วยแขนเสื้อพองขนาดโอเวอร์ไซส์ พร้อมเข็มขัดสีเงินเมทัลลิก
เปิดโชว์ด้วยชุดค็อกเทลรูปหัวใจสีชมพูที่ตัดเย็บจากผ้าบุหงาสีชมพูเลเยอร์ทับผ้าลูกไม้และสร้างความดราม่าด้วยแขนเสื้อพองขนาดโอเวอร์ไซส์ พร้อมเข็มขัดสีเงินเมทัลลิก ก่อนตามมาด้วยดีเทลจากผลงานทรงออกแบบในอดีต เช่น แขนเสื้อทรงพองและกางเกงทรงโจงกระเบนที่เป็นคีย์ลุคจากคอลเลคชั่น Presence of The Past ในปี ค.ศ. 2008 ที่นำมาปรับใหม่โดยนำผ้าไหมชีฟองสีงาช้างมาตัดเย็บเป็นเสื้อตัวสั้นไหล่เฉลียงแขนพองสุดโมเดิร์น ที่นำมาเข้าคู่กับกางเกงรูปทรงโจงกระเบนที่เพิ่มความเท่ด้วยรายละเอียดสไตล์ไบเกอร์ หรือจะเป็นเทคนิคการทำพู่ระย้า ซึ่งเป็นรายละเอียดหลักของคอลเลคชั่น Ethnic Rock ในปี ค.ศ. 2009 มาดัดแปลงให้เป็นเสื้อแขนกุดเสริมสะโพกสีงาช้างที่ตกแต่งด้วยชายพู่ระย้ายาว ทำให้ดูเป็นทรวดทรงนาฬิกาทราย หรือเอกลักษณ์งานปักฝีมือประณีตบนผ้าบุหงาที่เริ่มมาตั้งแต่คอลเลคชั่น Napoleonic ในปี ค.ศ. 2015 นั้น ก็นำมาอยู่ในคอลเลคชั่นนี้ด้วย โดยปักในลวดลายใหม่แบบ 3 มิติ ซึ่งเป็นลายดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์
ก่อนจะปิดท้ายโชว์ด้วยพาเหรดชุดราตรีสุดตระการตาที่สร้างสรรค์ด้วยเทคนิคระดับ Haute Couture อันสะท้อนพระอัจฉริยภาพและงานปักชั้นเยี่ยมจาก SIRIVANNAVARI Atelier and Academy ที่ได้นำเสนองานปักหลายรูปแบบบนเสื้อผ้าหลากสไตล์ อาทิ การปักขนนกเป็นชายระบายสองเฉดสีขาวและดำบนชุดราตรียาวสีขาว หรือชุดราตรีไหล่เดี่ยวหางปลายาว ตัดเย็บจากผ้าบุหงาสีดำปักเลื่อมและเพิ่มความอลังการด้วยการจับเดรปรูปริบบิ้นขนาดโอเวอร์ไซส์ และปิดท้ายด้วยชุดแต่งงานตามธรรมเนียมห้องเสื้อชั้นสูง ด้วยชุดราตรียาวเข้ารูปไหล่ปาดผ้าบุหงาสีชมพูอ่อนสลับขาวจับเดรปและปักเลื่อม สง่างามด้วยผ้าคลุมสีขาวเข้ากับชุด
คอลเลคชั่นเสื้อผ้าทรงออกแบบประจำฤดูกาลสปริง-ซัมเมอร์ 2020 ประกอบด้วยจำนวนเสื้อผ้าทั้งสิ้น 67 ลุค แบ่งเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรีของแบรนด์ SIRIVANNAVARI 59 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษของแบรนด์ S’HOMME 8 ลุค
เครื่องประดับนับเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่สำคัญที่จะร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 15 ปีของแบรนด์ SIRIVANNAVARI โดยเครื่องประดับทั้งหมดเป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของงานจิวเวลรีดีไซน์ที่โดดเด่นมานำเสนอ อาทิ สร้อยสังวาลย์ และห่วงคล้องหู โดยในคอลเลคชั่นล่าสุดนี้จะเน้นรูปทรงของเครื่องประดับที่มีความอ่อนช้อย พลิ้วไหว ดูมีชีวิตแทรกซึมอยู่ในทุกชิ้นงาน อีกทั้งยังมีสัญลักษณ์ของแบรนด์อย่างใบโคลเวอร์ เหรียญ หัวใจ ผึ้ง ม้า นกฮัมมิ่งเบิร์ด ดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ ประกายแสงของพระอาทิตย์ ภาพวาดฝีพระหัตถ์และนกยูง มาทำให้ดูเป็นแฟชั่นมากขึ้น แต่มีกลิ่นอายของยุคกรีกโรมันด้วยดีเทลสีทองทั้งด้านและเงา ไปจนถึงสีเงินวินเทจและยังแฝงไว้ซึ่งความสง่างาม
สำหรับคอลเลคชั่นสุภาพบุรุษ สปริง-ซัมเมอร์ 2020 ของ S’HOMME นั้น มีความโก้หรูสไตล์แมสคิวลีน และได้ดึงเอาเอกลักษณ์ จิตวิญญาณ และไลฟ์สไตล์ของผู้ชายตามแบบฉบับของ S’HOMME มารวบรวมและนำเสนอในคอลเลคชั่นนี้
สำหรับคอลเลคชั่นสุภาพบุรุษ สปริง-ซัมเมอร์ 2020 ของ S’HOMME นั้น มีความโก้หรูสไตล์แมสคิวลีน และได้ดึงเอาเอกลักษณ์ จิตวิญญาณ และไลฟ์สไตล์ของผู้ชายตามแบบฉบับของ S’HOMME มารวบรวมและนำเสนอในคอลเลคชั่นนี้เช่นกัน โดยองค์ดีไซเนอร์ทรงนำเอาโครงเสื้อแบบคลาสสิกมาดัดแปลง ซึ่งใช้เทคนิคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดเย็บแบบ Deconstructed ทำให้ได้สไตล์ที่ดูโมเดิร์นและแปลกตามากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากการนำเอาโครงของเสื้อโค้ตยาวจากคอลเลคชั่น Horse, Helen, Henry ในปี ค.ศ. 2018 มาตีความใหม่ แล้วผสมผสานผ้า 2 ชนิด คือผ้าคอตตอเน่สีชมพู และผ้าวูลลายทางสีน้ำตาลเข้าด้วยกัน โดยนำมาตัดต่อเข้ากับซิปแบบไบเกอร์ ทำให้ได้โค้ตยาวรูปทรงใหม่ซึ่งดูโก้และโมเดิร์นเมื่อใส่คู่กับกางเกงคร็อปลายทางและเสื้อเชิ้ตทักซิโด้
ในขณะที่หนุ่มอารมณ์ศิลปินน่าจะชื่นชอบเสื้อแจ็กเก็ตนอติคัลสีน้ำเงินโคบอลต์ที่ดูเท่และโดดเด่นด้วยแพตเทิร์นแขนเสื้อแบบใหม่และรายละเอียดการประดับซิป และแน่นอนว่าเดนิมคืออีกหนึ่งดีเอ็นเอของ S’HOMME ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยในซีซั่นนี้นำเสนอเสื้อผ้าเดนิมหลากหลายแบบ ทั้งกางเกงเดนิมสลิมฟิตแบบคร็อปที่เข้ากับเสื้อเชิ้ตผ้าไหมลายกราฟิกทรงออกแบบ หรือจะเป็นเสื้อเดนิมตัดต่อแบบแพตช์เวิร์ก และประดับด้วยแผ่นป้ายเดนิมรูปหัวใจปักตัวอักษร ‘S’
สำหรับคอลเลคชั่นรองเท้า ก็นำเสนอทั้งรองเท้าหนังผูกเชือก รองเท้าโลเฟอร์ตัดเย็บจากหนังกลับ และรองเท้าหนังสาน ส่วนคอลเลคชั่นกระเป๋านำเสนอกระเป๋าคลัตช์ 2 สี ใบแรกตัดเย็บจากหนังลูกวัวสีดำสานลายตาราง และใบที่ 2 ตัดเย็บจากหนังลูกวัวพิเศษจากอิตาลีสีน้ำตาลลาเต้
ผู้สนใจ สามารถชมคอลเลคชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลสปริง-ซัมเมอร์ 2020 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ