Fashion InsiderFlashFlash 119Highlight 119Number 119

Fashion Insider: Italian Master

By 8 January 2018 No Comments

ITALIAN MASTER

คนรักแฟชั่นไม่มีใครไม่รู้จัก Mr. Giorgio Armani แล้วอะไรที่ทำให้อาณาจักรแฟชั่น
และสินค้าของเขาเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ เชิญพบกับอีกหนึ่งเรื่องราวของแบรนด์ Emporio Armani
ตัวแทนของความร่วมสมัยของผู้คนยุคใหม่จาก Armani Group

STORY
TAWAN KONKAEW

PHOTOGRAPHY
COURTESY OF BRANDS

ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1980 แบรนด์แฟชั่นที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกนั้นต้องยกให้ Armani ที่ทุกคนต่างควานหาชุดสูทไหล่กว้างคัตติ้งคมกริบ เหมือนกับที่ตัวละครเอกจากภาพยนตร์ American Gigolo สวมใส่ แต่ทว่าอะไรคือความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้นักออกแบบคนนี้ ที่พาให้แบรนด์ของเขายังเป็นที่นิยมและสวมใส่ได้จริงในยุคดิจิตอลแบบสี่จุดศูนย์

Mr. Giorgio Armani เกิดเมื่อปีค.ศ. 1934 ในเมือง Piacenza ทางตอนเหนือของอิตาลี ก่อนที่จะมาเป็นดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกนั้น เขาเคยเข้ารับราชการทหารที่โรงพยาบาลทหารเมือง Verona ที่นั่นเองเขามีโอกาสได้ชมการแสดงอันแปลกตา ณ อัฒจันทร์กลางแจ้ง  Arena di Verona ซึ่งจุดประกายความฝันในงานสายแฟชั่นของเขาขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงและทำให้คนทั่วโลกรู้จักอาณาจักรแฟชั่นแห่งนี้ คือ Emporio Armani

Armani ได้เริ่มทำงานที่ห้างสรรพสินค้า La Rinascente ในฐานะคนจัดวินโดว์ดิสเพลย์ ในปีค.ศ. 1957 แล้วจึงย้ายมาเป็นพนักงานขายในแผนกเสื้อผ้าผู้ชาย ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าทำงานที่บริษัท Nino Cerruti ในฐานะผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ จะเห็นได้ว่า Armani ผ่านประสบการณ์การทำงานในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่จุดที่เล็กที่สุด มาจนถึงตำแหน่งดีไซเนอร์ ด้วยความเข้าใจในระบบอย่างลึกซึ้งและเข้าใจถึงธรรมชาติของลูกค้านั่นเอง ทำให้ในปีค.ศ. 1975 เขาได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัท Giorgio Armani S.p.A. ในมิลาน เพื่อจัดจำหน่ายเสื้อผ้าผู้ชายภายใต้ชื่อของเขา และไลน์เสื้อผ้าผู้หญิงในปีถัดมา

ความสำเร็จอีกขั้นของเขา คือการขยายจากธุรกิจแฟชั่นไปยังโลกน้ำหอม ด้วยการจับมือกับบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ในฝรั่งเศส L’Oréal เปิดตัวน้ำหอม พร้อมกันนั้นก็ได้ออกไลน์แฟชั่นต่างๆ ตามมาอีกมากมาย ทั้ง Emporio Armani, Armani Junior, Armani Jeans และ Emporio Underwear ยังไม่นับรวมถึงบทบาทสำคัญในการแต่งตัวและสนับสนุนให้ดาราฮอลลีวู้ดแถวหน้าได้สวมใส่ชุดของเขาด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ยุคทองของ Armani คือช่วงทศวรรษนี้จริงๆ แต่นักธุรกิจและนักออกแบบระดับเขาไม่เคยหยุดนิ่งกับความสำเร็จ และยังคงมุ่งไปข้างหน้าเสมอด้วยการบุกตลาดเอเชียผ่านประเทศญี่ปุ่นในช่วงปีค.ศ. 1988 และตลาดระดับกลางค่อนบนของสหรัฐอเมริกา ด้วยการออกไลน์ A/X Armani Exchange ที่มุ่งเน้นไปยังผู้บริโภคกลุ่มกว้างซึ่งต้องการเสื้อผ้าที่มีดีไซน์ แต่สวมใส่สบายและราคาสมเหตุสมผล

ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเพื่อจะเน้นย้ำให้เห็นโครงสร้างทางธุรกิจของบริษัทที่มียอดขายมากกว่า 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ว่าผ่านระยะเวลาและการบ่มเพาะมานานแค่ไหน แม้ว่าจุดสูงสุดของแบรนด์คือ Armani Privé ไลน์เสื้อผ้าชั้นสูงระดับ Haute Couture ก่อนจะไล่ลงมาเป็น Giorgio Armani ไลน์แฟชั่นชื่อเดียวกับเจ้าของแบรนด์ เน้นย้ำที่ดีไซน์โก้หรูและมาตรฐานระดับอิตาเลียนที่แท้จริง

อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงและทำให้คนทั่วโลกรู้จักอาณาจักรแฟชั่นแห่งนี้มากที่สุด คือ Emporio Armani ไลน์เสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับชายและหญิง ที่สร้างสรรค์ไปจนถึงเครื่องหนัง รองเท้า เครื่องประดับ และนาฬิกายอดฮิต Emporio Armani เน้นไปที่เทรนด์แฟชั่นสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการดีเทลที่ไม่เหมือนใคร แต่คงไว้ด้วยฝีมือการตัดเย็บและคัตติ้งสุดเนี้ยบตามแบบฉบับ Armani อีกทั้งยังมีจุดยืนในการออกแบบเสื้อผ้าที่ปรับเปลี่ยนง่าย เคลื่อนไหวสะดวก เพื่อหนุ่มสาวที่มีกิจกรรมหลากหลายในหนึ่งวัน ซึ่ง Emporio Armani ถือเป็นหนึ่งในสามไลน์หลักที่ Mr. Armani ยังคงออกแบบและควบคุมการออกแบบด้วยตัวเองทุกคอลเลคชั่น ต่างจากไลน์ที่รองๆ ลงมา ซึ่งออกแบบโดยทีมงานเฉพาะของแต่ละแบรนด์กันไป

Emporio Armani ถือเป็นหนึ่งในสามไลน์หลักที่ Mr. Armani ยังคงออกแบบและควบคุมการออกแบบด้วยตัวเอง ทุกคอลเลคชั่น

ร่ายยาวมาถึงจุดนี้ อยากจะแนะนำคอลเลคชั่นล่าสุดของ Emporio Armani ให้เลือกชมกันสักหน่อย เริ่มที่ฝ่ายผู้หญิงที่ Mr. Armani ได้แรงบันดาลใจมาจากพลังและชีวิตของผู้หญิงในเมืองใหญ่ ด้วยชุดสูทที่ไม่เน้นช่วงไหล่ชัดเจน กางเกงขายาว กระโปรงกรอมเท้า ในโทนสีเทาหลากเฉด แต่เพิ่มความอ่อนหวานและเย้ายวนด้วยสีแดงสด สีชมพูฟูเชีย แล้วตัดสลับกลับมาที่ลายตารางขาวดำเรียบโก้อีกรอบ เหมือนกับจะเล่าถึงความคิดและมิติอันหลากหลายของผู้หญิง ที่สามารถเข้มแข็งและอ่อนไหวในเวลาเดียวกัน อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ การมองไปในอนาคตของแบรนด์ ด้วยการสร้างสรรค์ขนสัตว์เทียมเพื่อลดการใช้ขนสัตว์แท้ลง แต่ก็คิดค้นและวิจัยจนได้คุณภาพของขนสัตว์ที่ยอดเยี่ยมจนเหมือนกับขนสัตว์ที่หายากจริงๆ

ด้านผู้ชาย Mr. Armani ได้ย้อนกลับไปที่ช่วงทศวรรษ 1920 ยุคสมัยแห่งความสนุกสนานและสง่างามในมหานครนิวยอร์ก เหล่าชายหนุ่มมาดเนี้ยบในชุดสูทสีเทาหลากเฉด จับคู่มากับกางเกงขายาวทรงตรง แต่เน้นความสำคัญที่วัสดุ อย่างผ้าไหมซาติน ผ้าวูล และผ้ากำมะหยี่สุดหรู ผสมผสานกับลวดลายกราฟิกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงสร้างของตึกและกระจกในงานสถาปัตยกรรมช่วงนั้น

สัมผัสความสง่างามไร้กาลเวลา ที่มาพร้อมกับมาตรฐานการตัดเย็บที่เหนือชั้นตามแบบอิตาเลียนแท้ๆ แต่ก็แฝงด้วยไอเดียและลูกเล่นที่ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วว่าเหมาะกับยุคสมัย แล้วคุณจะตกหลุมรักแบรนด์นี้อย่างไม่รู้ตัว

Leave a Reply