HAPPY TO BE ME

ยามสวมชุดราตรีเฉิดฉายอยู่บนเวที ท่ามกลางสปอตไลต์ที่สาดส่อง “มารีญา พูลเลิศลาภ” สาวงามเจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 เธอดูงามสง่าดุจนางพญา สมกับเป็นสาวงามจากเอเชียเพียงหนึ่งเดียวที่ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายบนเวทีมิสยูนิเวิร์สได้สำเร็จ ทว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีเพียงผืนฟ้าและท้องทะเลเป็นเพื่อน ออร่าความน่ารักสดใสของมารีญาก็ยังจับใจ ยิ่งได้ทำความรู้จักยิ่งชวนให้ตกหลุมรัก

เพื่อเอาใจแฟนคลับของมารีญา นิตยสาร Power ฉบับนี้ ไม่เพียงจัดเต็มให้แฟนๆ ได้ชมภาพแฟชั่นสวยๆ ของมารีญากันอย่างจุใจ จนอาจทำให้หลายคนแทบอยากเก็บกระเป๋าไปตามรอยมารีญากันถึงโซเนวา คีรี เกาะกูด หนึ่งในรีสอร์ทในฝันและหรูหรามากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย แต่ยังมาพร้อมบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะชวนมารีญาคุยทุกเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้

“มารีญาเคยร่วมงานกับนิตยสาร Power มาก่อนนะคะ แต่เป็นแฟชั่นเซ็ตในเล่ม นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นปก รู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ บรรยากาศในการทำงานครั้งนี้สนุกสนานมาก เพราะนอกจากจะคุ้นเคยกับทีมงานเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ตั้งแต่พี่เดียร์ (ธนนนท์ ธนากรกานต์) ช่างภาพ พี่สัญชัย (สัญชัย จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล) สไตลิสต์ และ พี่ฟ้า (สุรปรีย์ อชิรกุล) ช่างแต่งหน้า ยังประทับใจสถานที่ถ่ายทำมากๆ เพราะนอกจากตัวรีสอร์ทจะสวย เป็นธรรมชาติ ชวนให้คิดถึงตอนอยู่ที่สวีเดน คอนเซ็ปต์ของรีสอร์ทยังน่าสนใจเน้นเรื่องการอนุรักษ์โลก ซึ่งมารีญาคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถึงเวลาแล้วที่คนทั้งโลกต้องเริ่มตระหนักว่าโลกเราไม่ไหวแล้วจริงๆ เราควรหันมาใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน” มารีญาบอกเล่าถึงเบื้องหลังการทำงานอย่างออกรส โดยไม่มีวี่แววของความเหนื่อยล้าปรากฏให้เห็นแม้ด้วยคิวงานที่รัดตัวจะทำให้วันนี้เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อนั่งสปีดโบ๊ตจากฝั่งมาที่เกาะ เพื่อตามมาสมทบกับทีมงานที่มาปักหลักล่วงหน้า

“มารีญาเป็นคนลุยๆ อยู่แล้วค่ะ แค่นี้สบายมาก การทำงานครั้งนี้มารีญาไม่ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ เพราะออกกำลังกาย ดูแลรูปร่างเป็นประจำอยู่แล้ว แค่เตรียมพลังมาเยอะๆ (หัวเราะ) ถึงอากาศจะร้อนแต่พอได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีอาหารอร่อยๆ ก็หายเหนื่อย ถ้าครั้งหน้ายกกองถ่ายมาอีก ก็เรียกมารีญาได้นะคะ” สาวสวยหยอดคำหวานพร้อมโปรยยิ้มก่อนจะอัพเดตถึงผลงานที่แฟนๆ จะได้เห็นมากขึ้น

“จากนี้ มารีญาคงมีผลงานในวงการให้ได้เห็นมากขึ้น ทั้งงานพรีเซ็นเตอร์ เดินแบบ ส่วนงานแสดงคงต้องรอโอกาส รอบทที่ใช่ ส่วนตัวมารีญาอยากรับบทบาทที่ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้หญิงให้มีความมั่นใจ ซึ่งมารีญาคิดว่าสำคัญ โดยเฉพาะในประเทศไทย เรามีผู้บริหารหญิงเก่งๆ เยอะก็จริงแต่ก็ยังมีผู้หญิงอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังขาดความมั่นใจ ขาดโรลโมเดลที่เป็นแบบอย่าง”

นอกจากจะมุ่งมั่นหาประสบการณ์ในวงการบันเทิงแล้ว อีกหนึ่งความฝันและความตั้งใจที่เจ้าตัวบอกว่าไม่เพียงจะทำให้สำเร็จ แต่ยังเฉลยว่าเป็นแรงผลักดันให้เธอตัดสินใจมาประกวดนางงามด้วย นั่นคือ การส่งเสริมเรื่องทีมบิลดิ้ง หรือการทำงานเป็นทีมเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ให้เกิดขึ้นในเด็กไทย

“มารีญาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาประกวดนางงาม ทั้งที่ตอนอายุ 18 ปี มีหมอดูทักว่าจะได้ไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ก็ไม่เคยคิดจะประกวด จนกระทั่งเรียนจบปริญญาโท มารีญาคิดว่ามารีญาพร้อมแล้วจึงมาประกวด โดยมีความหวังลึกๆ ว่าถ้าได้ตำแหน่ง อาจช่วยให้เสียงของมารีญาที่อยากจะรณรงค์เรื่องของทีมบิลดิ้งดังขึ้น มีคนสนใจมากขึ้น ซึ่งมาถึงวันนี้ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ” มารีญาบอกเล่าถึงความฝันที่ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสุข พร้อมแย้มถึงแผนการเรียนต่อปริญญาเอกว่าด้วยความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องพักเรื่องเรียนต่อไว้ก่อน แต่เธอตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่าอย่างน้อยภายในปีนี้ ต้องเริ่มต้นศึกษาต่อด้านจิตวิทยาที่สนใจ โดยอาจจะเริ่มจากคอร์สสั้นๆ ก่อน

ในฐานะที่เป็นสาวเก่งมากความสามารถผ่านมาแล้วหลายบทบาท ทั้งนางแบบ นางงามนักร้อง เลยทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า สำหรับมารีญา บทบาทไหนที่เป็นมารีญามากที่สุด คำถามนี้สาวสวยไม่ต้องคิดนาน เธอตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความพร้อมรับมงไปเลยว่า “บทบาทที่ใช่สำหรับมารีญาที่สุด คือการเป็น “มารีญา พูลเลิศลาภ” ในวันนี้ เป็นตัวของตัวเอง เห็นความสำคัญในสิ่งที่ตัวเองเป็น และอยากสนับสนุนให้ทุกคนมั่นใจในตัวเองค่ะ”