VERSATILITY ดึงดูดทุกสายตาด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นสุภาพบุรุษอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านเรือนเวลาสุดโปรดที่บ่งบอกความเป็นตัวตน PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS BVLGARI การกลับมาของไอคอนมือรางวัลอย่าง Bvlgari ในปี 2020 สร้างความแปลกใหม่ครั้งใหญ่ให้กับ Bvlgari Aluminium ด้วยการใช้อลูมิเนียมและยางวัสดุที่มักไม่เข้าพวกในยามที่นึกถึงเรือนเวลาหรู แต่กลับนำมาผสมผสานกันจนได้เรือนเวลาแบบสปอร์ตที่ทั้งให้น้ำหนักเบาสบายในยามสวมใส่ อีกทั้งยังดึงดูดสะกดทุกสายตาด้วยจิตวิญญาณของความเป็นอิตาเลียนโดยแท้ จากสไตล์ขอบหน้าปัดอันโดดเด่นด้วยการสลักตราประทับ Bvlgari บนกรอบยางแบบหนา มาพร้อมสายรัดยางที่มีข้อต่ออะลูมิเนียมตรงกลาง สอดแบบหัวเข็มขัด องค์ประกอบต่างๆ บนหน้าปัดถูกออกแบบให้รู้สึกถึงความแข็งแรง ด้วยตัวเลขตำแหน่งที่ 12 และ 6 นาฬิกา ที่มีขนาดใหญ่และหนาเช่นเดียวกับเครื่องหมายบอกชั่วโมงสีดำที่เด่นชัด ตัดกับหน้าปัดเรืองแสงโทนสีอบอุ่นอย่างออฟไวท์หรือเบจ ทำให้ไม่ดูแข็งกร้าวจนเกินไปนัก มีกลไลการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ และอัพเกรดระดับการกันน้ำได้ถึง 100 เมตร OMEGA หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในสแตนเลสสตีลและสีน้ำเงินของ OMEGA Seamaster Diver 300M แบบดั้งเดิม เราเชื่อว่าคุณจะเปิดใจให้กับโครโนกราฟคอลเลคชั่นใหม่เรือนนี้ได้ไม่ยาก ด้วยยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกอันเรียบหรูแต่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยปุ่มกดเซรามิกสีน้ำเงินที่ดูมีสไตล์เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสีของหน้าปัด โครโนกราฟสแตนเลสสตีลเรือนนี้มีขนาด 44 มิลลิเมตร มาพร้อมขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินและสเกลดำน้ำอีนาเมลสีขาว หน้าปัดสีเทาตกแต่งด้วยเลเซอร์ลวดลายคลื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Diver 300M ในส่วนของสายสแตนเลสสตีลขัดเงาได้รับการติดตั้งด้วยสิทธิบัตรระบบปรับความยาวสายแบบ rack-and-pusher ด้วยปุ่มกดและเลื่อนของชิ้นส่วนพับล็อค สำหรับให้เรือนเวลายืดหยุ่นกับการใช้งานในกิจกรรมใต้น้ำได้ ฝาหลังเรือนเวลาเป็นกระจกแซฟไฟร์ ทำให้สามารถยลโฉมกลไก OMEGA Master Chronometer Calibre 9900 ที่ติดตั้งอยู่ภายในได้ คำว่า ‘ไร้ที่ติ’ จึงไม่น่าจะเกินจริงไปสำหรับเรือนเวลาเรือนนี้ IWC IWC ยังคงสร้างความประทับใจได้อย่างไม่สิ้นสุด ด้วยดีไซน์สไตล์คลาสสิกอันโดดเด่นเหนือกาลเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของตระกูล PORTUGIESER ที่เน้นหน้าปัดเรียบหรู กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ Calibre 89361 มาพร้อมฟังก์ชั่นการจับเวลาแบบ Flyback Chronograph ที่สามารถเริ่มต้นจับเวลาใหม่ได้โดยกดปุ่มรีเซ็ตขณะจับเวลา และสามารถจับเวลาได้นานถึง 12 ชั่วโมง โดยแสดงบนหน้าปัดภายในผ่านตัวเรือนแซฟไฟร์ทรงโดมป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน PORTUGIESER CHRONOGRAPH CLASSIC เรือนนี้มาพร้อมตัวเรือนทอง 18K ขนาด 42 มิลลิเมตร หน้าปัดชุบเงินและสายหนังจระเข้สีน้ำตาล ผู้ที่ชื่นชอบสไตล์คลาสสิกที่มาพร้อมฟังก์ชั่นครบครันจึงไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง ELEGANCE คุณค่าที่คุณคู่ควร เมื่อเรือนเวลาหรูเป็นเสมือนตัวแทนแห่งความเลอค่าน่าค้นหาในตัวหญิงสาว CHOPARD เมื่อทุกความโดดเด่นถูกผนวกเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ Chopard Happy Fish เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจอันเลอค่าที่เผยให้เห็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ของมหาสมุทรอันกว้างไกล ผ่านความงดงามของตัวปลาสีทองอันโดดเด่นที่แหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลสีเทอควอยซ์ บนหน้าปัดของเรือนเวลาโรสโกลด์ 18k ขนาด 36 มิลลิเมตร ล้อไปกับประกายเพชรเจียระไนหลากหลายขนาดที่นำมาประดับบนตัวเรือน เกิดเป็นความงามราวภาพวาด มาพร้อมสายรัดหนังจระเข้สีน้ำเงินมันวาว กลไกไขลานอัตโนมัติ ถือได้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น เพราะมีเพียงคนพิเศษแค่ 25 คนในโลกเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง JAEGER LECOULTRE หนึ่งในเรือนเวลาโปรดของคนรัก Jaeger-LeCoultre คงขาด Master Ultra Thin Moon ไปไม่ได้ ด้วยความโดดเด่นของสัดส่วนและความเรียบง่ายแต่หรูหรา ของตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาดกำลังพอเหมาะที่ 34 มิลลิเมตร ประดับเพชรเจียระไนชั้นยอดที่รายรอบขอบหน้าปัดสีเงิน เติมเสน่ห์บนหน้าปัดด้วยความซับซ้อนอันเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือระยะการเปลี่ยนตำแหน่งของดวงจันทร์ในรูรับแสงที่ 6 นาฬิกา ที่หมุนรอบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ได้ภาพเสมือนข้างขึ้นข้างแรมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจเพียงแค่เหลือบมอง เคลื่อนไหวด้วยกลไกอัตโนมัติ กันน้ำได้ที่ระดับ 5 บาร์ มาพร้อมสายรัดหนังจระเข้สีน้ำเงิน เพิ่มความงามสง่าให้กับคุณสุภาพสตรีได้อย่างแท้จริง VACHERON CONSTANTIN บริสุทธิ์และสง่างามเหนือกาลเวลา…
Editor15 October 2020