สิ่งที่ทำให้โรคร้ายที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสอย่างโควิด-19 นั้นรับมือได้ยากเป็นพิเศษก็คือ “เรามองมันไม่เห็น” แต่ด้วยองค์ความรู้ทางการแพทย์ทำให้เราสามารถเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ที่บ่งบอกว่าเราอาจติดเชื้อได้ เช่น อุณหภูมิของร่างกาย อาการไอ จาม ประสาทรับรส เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ทันท่วงที รวมไปถึงช่วยแบ่งเบาภาระของบุคคลากรทางการแพทย์ได้อีกทางหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็มีโควิด-19 บางสายพันธุ์ที่ไม่แสดง “อาการทางตรง” ที่เกิดจากความเสียหายของปอดให้เห็น พูดง่ายๆ ว่าไม่มีไอ ไม่มีจาม มารู้ตัวอีกทีเชื้อก็ลุกลามจนยากที่จะรักษาแล้ว จุดนี้เองทำให้เราต้องมองหาทางเลือกสำหรับการเฝ้าระวังโควิด-19 ที่ทั้งค่อนข้างแม่นยำและง่ายพอจะทำได้ด้วยตัวเอง ช่วงเวลาไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ Smart Watch หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่ง Gadget จำเป็นแห่งยุค ตามหลัง Smart Phone มาติดๆ เพราะด้วยฟังก์ชันสุดล้ำที่ทำอะไรได้มากกว่าแค่บอกเวลา ไม่ว่าจะใช้เป็นโทรศัพท์ ปฏิทิน แผนที่ รีโมตเปลี่ยนเพลง ถ่ายรูป เล่นโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ ที่คอยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ บน Smart Phone ของคุณนั่นเองปัจจุบัน Smart Watch ได้พยายามพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานด้านสุขภาพอย่างจริงจัง นอกเหนือไปจากฟีเจอร์ที่หลายคนคุ้นเคย อย่างการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ ตรวจจับการนอนหลับ ตรวจวัดความเครียด ติดตามรอบประจำเดือน ไปจนถึงฟีเจอร์ตรวจวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) แบบเรียลไทม์ที่มีส่วนช่วยในการเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19 ได้การตรวจวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ทำให้เราสามารถประเมิน “ความปกติ” ของร่างกายในเบื้องต้นได้ โดยปกติระดับออกซิเจนในเลือดจะอยู่ที่ 95 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ซึ่งถ้าระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ นั่นอาจหมายถึงความผิดปกติที่เกิดกับระบบทางเดินหายใจและปอดอันเกิดจาก “ภาวะพร่องออกซิเจน” นี้ แน่นอนว่าโควิด-19 อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุดังกล่าว แต่หลายคนกลับไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็นเลย จึงไม่มีทางรู้ว่าตัวเองกำลังขาดออกซิเจนซึ่งถือว่าอันตรายเลยทีเดียวด้วยเหตุนี้ Smart Watch แบรนด์ดังรุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung Garmin หรือ Fitbit จึงเร่งพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่สามารถตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือดให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยหลักการพื้นฐานสามารถอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ว่า Smart Watch จะปล่อยแสง LED สีแดงหรือสีเขียว และคลื่นอินฟราเรดใส่ข้อมือของคุณ ซึ่งความอิ่มตัวของออกซิเจนในเม็ดเลือดจะส่งผลต่อสีของเม็ดเลือด และสีของเม็ดเลือดก็จะส่งผลต่อการทะลุผ่านของแสงสีแดงและคลื่นอินฟราเรดอีกทีหนึ่ง ถ้าเลือดยังดีอยู่ก็จะมีสีแดงสด แสงก็จะทะลุผ่านได้มาก ทำให้สะท้อนกลับมาได้มากเช่นกัน ตรงนี้เองที่ Smart Watch จะคำนวณให้เรารู้ว่า เลือดของเรามีออกซิเจนอยู่มากหรือน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่บ่งชี้ได้ว่าเราติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ แต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกดีๆ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีบนข้อมือของคุณ การหมั่นมอนิเตอร์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ ทำให้สามารถที่จะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย รู้เท่าทันสถานการณ์ของสุขภาพของตัวเอง รวมไปถึงยังช่วยป้องกันคนใกล้ตัวและสังคมส่วนรวมได้อีกด้วย อยู่ที่ไหนก็ช้อปปลอดภัยได้ทุกวันที่ www.kingpower.com หรือ บริการ King Power Call to Shop กริ๊งเดียวครบ จบทุกการช้อป โทร. 0 2338 7870 หรือ King Power Chat to Shop แค่แชท ก็ได้ช้อป กับ คิง เพาเวอร์ ผ่านผู้ช่วยช้อปแบบส่วนตัว เพียงเพิ่มเพื่อน LINE: @KP_ChatToShop พร้อมจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้านคุณขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก https://www.apple.com/ https://www.samsung.com/ https://www.garmin.com/ https://www.fitbit.com/
Editor17 August 2021