Lifestyle

LIFESTYLE
ชวนชาวโลกสัมผัสภูมิปัญญาไทย
เสน่ห์แห่งท้องถิ่นที่ดังไกลสู่สากล

ประเทศไทย หนึ่งในจุดหมายในฝันของนักเดินทางทั่วโลก ด้วยมีแหล่งท่องเที่ยวกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค หลากรสชาติหลายอารมณ์ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการท่องเที่ยว ทว่านอกเหนือไปจากความงดงามของธรรมชาติที่ดีต่อใจแล้ว เสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงใหลประทับใจไม่แพ้กันเมื่อได้ไปเยือน ก็คือความงดงามของภูมิปัญญาในแต่ละท้องถิ่นของไทย อัตลักษณ์ชุมชนที่สะท้อนให้เห็นผ่านงานฝีมือ และผลิตภัณฑ์พื้นบ้านไทยที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ Power จะพาไปรู้จักกับแบรนด์ไทยที่โด่งดังเป็นที่รู้จักในเวทีระดับสากล พร้อมกับเรื่องราวในท้องถิ่น วิถีชีวิตชุมชนที่เป็นดั่งวัตถุดิบและแรงบันดาลใจสำคัญในการส่งให้ภูมิปัญญาของชาวไทยออกสู่สายตาชาวโลก เป็น Soft Power ที่ช่วยแนะนำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จัก และดึงดูดให้ผู้คนอยากที่จะมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง JUTATIP ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ จังหวัดขอนแก่น เพ็ญ-จุฑาทิพ ไชยสุระ เจ้าของแบรนด์เครื่องแต่งกายและสิ่งทอ “JUTATIP” ที่ขึ้นชื่อในเรื่องเส้นด้ายปั่นด้วยมือ กระบวนการทอมือ และเทคนิคการย้อมธรรมชาติ ได้นำความชื่นชอบของเธอมาสร้างเป็นธุรกิจของตัวเอง ความสนใจในเรื่องผ้าทอพาเธอไปเจอเส้นทางผ่านการเรียนรู้ในแง่มุมต่างๆ มากมาย ทั้งการออกแบบ เทคนิคการทอ การย้อมสี การบริหารธุรกิจ ฯลฯ ด้วยแนวคิดที่ว่า “เลือกทำธุรกิจกับงานฝีมือ ควรลงลึกให้ถึงแก่นและแหล่งช่างฝีมือ” ภูมิปัญญาผ้าทอมือจากภาคอีสานของไทยจึงตอบโจทย์ในเรื่องนี้ แม้จะเกิดและเติบโตในกรุงเทพฯ แต่จุฑาทิพได้ตัดสินใจลงหลักปักฐานความฝันของเธอที่จังหวัดขอนแก่น ดินแดนที่มีทั้งวัตถุดิบชั้นดีในการทอผ้า รวมถึงแรงบันดาลใจสำคัญอย่าง “ชุมชน” ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน มาวันนี้ JUTATIP เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการสกัดสีจากธรรมชาติ เช่น สีดำจากยูคาลิปตัส สีน้ำตาลจากเปลือกยูคาลิปตัส และสีโอลด์โรสจากดินแดงในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นต้น นอกจากแบรนด์จะช่วยหล่อเลี้ยงให้คนในชุมชนให้มีรายได้แล้ว การที่ผลิตภัณฑ์ของ JUTATIP โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ ยังช่วยสร้างการตระหนักรู้ถึงคุณค่าและการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าทอมือของไทยอีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก JUTATIP 100% Hand Woven Cotton Hat with Natural Dyed SHOP NOW JUTATIP 100% Cotton Coin Purse with Natural Dyed SHOP NOW JUTATIP 100% Hand Woven Cotton Hat with Natural Dyed SHOP NOW NINE TAMARIND ผลิตภัณฑ์มะขามเพชรบูรณ์พันธุ์ศรีชมภู จังหวัดเพชรบูรณ์ “มะขามหวาน” ผลไม้ไทยที่เรารู้จักกันดี โดยเฉพาะมะขามหวานเพชรบูรณ์อันเลื่องชื่อ แต่สำหรับชาวต่างชาติที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับผลไม้ชนิดนี้เท่าใดนัก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าได้ลิ้มลองรสชาติหวานอมเปรี้ยวเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนผลไม้ชนิดไหนแล้วล่ะก็ เป็นต้องหาซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากทุกครั้งไป นั่นจึงทำให้ ชัยวัฒน์ ศรีเทศ ตั้งปณิธานไว้ว่า “ผมอยากให้มะขามหวานเพชรบูรณ์ เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ให้พวกเขาหลงรักมะขามหวาน แบบที่พวกเรายอมรับผลไม้เมืองหนาว อย่างสตรอว์เบอร์รีหรือแอปเปิล” ชัยวัฒน์เป็นคนเพชรบูรณ์โดยกำเนิด ครอบครัวเป็นเจ้าของสวนมะขามหวานพันธุ์สีชมภู ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมของท้องถิ่นนี้เท่านั้น เขาเรียนจบหลักสูตรบริหารธุรกิจ เข้าทำงานในธนาคาร เป็นนักบริหารการเงินฝีมือดี เมื่อได้เล็งเห็นปัญหาของเกษตรกรที่บ้านเกิด จึงตัดสินใจลาออกมาก่อตั้ง บริษัท ไนน์ แทมมะรินด์ จำกัด เพื่อทำการแปรรูปมะขามสดและส่งขายไปตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ใช้ความรู้ความสามารถช่วยแก้ปัญหาให้ครอบครัวและพี่น้องชาวสวนในชุมชน รวมไปถึงพัฒนา Nine Phetchabun Farm ให้เป็นทั้งหน้าร้านขายสินค้าและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดเพชรบูรณ์ เหมาะสำหรับพาครอบครัวไปพักผ่อนในวันสบายๆ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก NINE TAMARIND Seedless Dried Tamarind - Natural Sweet SHOP NOW BORRIBOON งานจักสานด้วยมือ ศิลปะที่ทำด้วยใจ จังหวัดชลบุรี…
Editor
15 June 2022
Lifestyle

LIFESTYLE
เที่ยวท่องล่องตลาดน้ำ สัมผัสเสน่ห์วิถีชีวิตไทย

วิถีชีวิตของคนไทยสมัยก่อนโดยเฉพาะทางภาคกลางของประเทศนั้นผูกพันกับสายน้ำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการเพาะปลูก การคมนาคม และการค้าขาย ยิ่งในสมัยรัตนโกสินทร์ที่มีการขุดคลองเพิ่มอีกหลายสาย ทำให้เกิดการสัญจรทางน้ำ ชุมชนริมน้ำ และแน่นอน “ตลาดน้ำ” ตลาดน้ำ หรือที่แต่เดิมเรียกกันว่า “ตลาดนัด”, “ตลาดเรือ” และ “ตลาดท้องน้ำ” ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งค้าขายทางน้ำตามชื่อเท่านั้น แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของสีสัน ความมีชีวิตชีวา ที่สะท้อนให้เห็นความผูกพันของคนไทยกับสายน้ำได้เป็นอย่างดี อย่างที่ไม่กี่ปีมานี้ที่ตลาดน้ำของไทยได้ไปปรากฏอยู่ในการ์ตูนเรื่อง มิคกี้ เมาส์ ตอน “Our Floating Dreams” จนกลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงอย่างหนัก ตอกย้ำว่าตลาดน้ำคือหนึ่งในเอกลักษณ์ความเป็นไทย จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือน วันนี้ Power ได้รวบรวมตลาดน้ำจากหลากหลายชุมชน โดยเฉพาะบริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางอันอุดมสมบูรณ์ ให้คุณได้ไปสัมผัสเสน่ห์แห่งวิถีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มาพร้อมกับบรรยากาศชิลๆ ของฝาก และของกินท้องถิ่นขึ้นชื่ออีกมากมาย ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี หนึ่งในตลาดน้ำที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของไทย แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมาเป็นเวลายาวนาน ด้วยมนตร์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตของชาวบ้าน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่นำผลผลิตต่างๆ มาขายตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม ของฝาก ของที่ระลึก ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอมดำเนินสะดวกอันเลื่องชื่อ ทั้งยังได้ตื่นตาตื่นใจไปกับกิจกรรมล่องเรือชมริมสองฝั่งคลอง มีโชว์การทำน้ำตาลมะพร้าวที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมและถ่ายภาพได้ รวมไปถึงความคึกคักของผู้คนที่แวะเวียนมาสัมผัสบรรยากาศของชีวิตและสายน้ำกันอย่างไม่ขาดสาย รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดน้ำโบราณนับร้อยปีที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จนปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บรรดาร้านขายของที่เรียงรายอยู่สองฝั่งคลองมาในบรรยากาศย้อนยุคเรือนไม้ริมน้ำสุดคลาสสิก ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังมีบริการล่องเรือชมวิว ชมวิถีชีวิตริมคลองอัมพวา โดยมีไฮไลต์อันเป็นเอกลักษณ์คือหิ่งห้อยที่ส่องแสงอยู่รายรอบต้นลำพูในตอนค่ำ นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาพักค้างแรมกันที่นี่เพื่อที่จะได้เก็บบรรยากาศได้ครบทุกช่วงเวลาของวัน รวมทั้งในละแวกใกล้ๆ ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างอุทยานฯ ร.2, วัดบางกุ้ง อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์ปรกโพธิ์ หนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ และอาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก คริสตศิลป์ที่มีความงดงามให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระนครศรีอยุธยา  เมืองมรดกโลกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของไทย นั่นจึงเป็นที่มาของ “ตลาดน้ำอโยธยา” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด สามารถไปเที่ยวชมได้ง่าย สะดวก เป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย การแสดงพื้นบ้าน การละเล่น ของกินของใช้ และทัศนียภาพอันงดงาม สามารถเลือกซื้อหาของฝากจากร้านค้ากว่า 249 ร้าน ที่ตั้งอยู่เรียงรายอย่างงดงามรอบตลาดน้ำ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา จังหวัดชลบุรี สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒนธรรมไทยแห่งใหม่กลางใจเมืองพัทยา ที่ได้จำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่ผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ครอบคลุมทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ สะท้อนเอกลักษณ์ตามวิถีชีวิตแต่ละภาค ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมืออย่างไม้แกะสลัก เครื่องเงิน เฟอร์นิเจอร์หวาย เครื่องประดับ ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมแพรวา และผ้าบาติก เป็นต้น รวมไปถึงเรือนไทยที่สร้างสรรค์ขึ้นตามเอกลักษณ์ และกิจกรรมการแสดงทางวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ตลาดน้ำขวัญเรียม กรุงเทพมหานคร ตลาดน้ำกลางกรุงริมคลองแสนแสบในบรรยากาศสบายร่มรื่นแห่งนี้ แน่นอนว่าที่มาของชื่อมาจากพระ-นางในนิยายอมตะของไทยเรื่องแผลเก่านั่นเอง ที่นี่ถือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอย่างดีสำหรับครอบครัวในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีอาหารคาวหวานให้เลือกชิมมากมาย จุดเด่นของตลาดคือสะพานรูปโครงเรือที่เชื่อมระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ นอกจากนี้ ยังสามารถนั่งเรือล่องไปในลำคลอง ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยภาคต่าง ๆ จากเยาวชนที่หมุนเวียนกันบนเวทีได้อีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ตลาดโบราณบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตลาดเก่าแก่ริมคลองสำโรง ชุมชนใหญ่ในอดีตในฐานะตลาดขนส่งสินค้าและผู้โดยสารจากภาคตะวันออกชายฝั่งทะเลเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ตลาดโบราณบางพลีถือเป็นสถานที่สำคัญประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง โดดเด่นด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทั้งยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่ดีงามมากมาย นอกจากจะได้เลือกซื้ออาหารขนมหวานและของฝากแล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมแวะกราบขอพรหลวงพ่อโตที่วัดบางพลีใหญ่ใน และปิดทองหัวใจพระที่วัดบางพลีใหญ่กลางอีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก   ตลาดน้ำท่าคา จังหวัดสมุทรสงคราม…
Editor
13 June 2022
Beauty

BEAUTY BAR
5 คุชชั่นกันน้ำ เพื่อผิวสุขภาพดีสไตล์ยูนิเซ็กซ์

สวย-หล่อ สู้ฝน กับคุชชั่นกันน้ำ เพื่อผิวที่ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ ไอเทมสไตล์ยูนิเซ็กซ์ที่ใครๆ ก็ช้อปได้ ไม่ว่าจะเลือกช้อปทางไหนก็สะดวกสบายแบบ 360 องศา สวย-หล่อ สู้ฝน กับคุชชั่นกันน้ำ เพื่อผิวที่ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ ไอเทมสไตล์ยูนิเซ็กซ์ที่ใครๆ ก็ช้อปได้ ไม่ว่าจะเลือกช้อปทางไหนก็สะดวกสบายแบบ 360 องศา VALENTINO GO-CUSHION ON-THE-MOVE LIGHT-LASTING™ WEAR CUSHION FOUNDATION SPF 50+ / PA+++ คุชชั่นเนื้อกึ่งแมตต์ สัมผัสบางเบา มอบความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้การปกปิดเพื่อผิวดูเรียบเนียนอย่างสมบูรณ์แบบ ติดทนนานตลอดวัน พร้อมป้องกันรังสี UV ด้วยค่า SPF 50+/PA+++ YVES SAINT LAURENT LE CUSHION ENCRE DE PEAU คุชชั่นที่ไม่เพียงแค่ให้การปกปิด แต่ยังให้ความชุ่มชื้นยาวนาน พร้อมเคลือบผิวให้เปล่งปลั่งเป็นประกาย มอบผิวหน้าที่เรียบเนียนตลอดวันแม้ต้องเผชิญกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ปกป้องแสงแดดด้วย SPF 50+/PA+++ ในแพ็กเกจจิงหนังสีดำอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ YVES SAINT LAURENT LE CUSHION ENCRE DE PEAU คุชชั่นที่ไม่เพียงแค่ให้การปกปิด แต่ยังให้ความชุ่มชื้นยาวนาน พร้อมเคลือบผิวให้เปล่งปลั่งเป็นประกาย มอบผิวหน้าที่เรียบเนียนตลอดวันแม้ต้องเผชิญกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ปกป้องแสงแดดด้วย SPF 50+/PA+++ ในแพ็กเกจจิงหนังสีดำอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ GUCCI CUSHION DE BEAUTÉ COMPACT CUSHION FOUNDATION SHOP NOW คุชชั่นน้ำหนักเบาที่เข้ากับผิวได้อย่างเรียบเนียนและลงตัว พร้อมให้ความกระจ่างใสด้วยเอกลักษณ์ ผสานผงแร่ที่ช่วยสะท้อนแสงบนผิว ให้ผิวเปล่งประกายอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ปกป้องผิวด้วย SPF 22 ต่อต้านมลภาวะและป้องกันแสงสีฟ้า GIORGIO ARMANI MY ARMANI TO GO CUSHION FOUNDATION SHOP NOW คุชชั่นที่มอบการปกปิดริ้วรอย พร้อมอัปความสว่างใส ให้ผิวดูโกลว์สวยอย่างเป็นธรรมชาติและรู้สึกสบายราวกับไม่ได้รองพื้น พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานกว่า 18 ชั่วโมง เพื่อผิวเรียบเนียน เปล่งประกาย พร้อมให้คุณสนุกกับการเลือกเคสกว่า 4 แบบในสไตล์ของตัวคุณเอง GIORGIO ARMANI MY ARMANI TO GO CUSHION FOUNDATION SHOP NOW คุชชั่นที่มอบการปกปิดริ้วรอย พร้อมอัปความสว่างใส ให้ผิวดูโกลว์สวยอย่างเป็นธรรมชาติและรู้สึกสบายราวกับไม่ได้รองพื้น พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานกว่า 18 ชั่วโมง เพื่อผิวเรียบเนียน เปล่งประกาย พร้อมให้คุณสนุกกับการเลือกเคสกว่า 4 แบบในสไตล์ของตัวคุณเอง LANEIGE NEO CUSHION MATTE SHOP NOW คุชชั่นสูตรเนื้อแมตต์ ปกปิดขั้นสุดแต่สัมผัสบางเบาไร้น้ำหนัก อำพรางทุกริ้วรอยและจุดด่างดำ เบลอรูขุมขน ให้ผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ แม้ท่ามกลางอากาศร้อนชื้น ด้วยสูตรควบคุมความมันและการผลิตน้ำมันส่วนเกิน กันน้ำกันเหงื่อ ตลอด 24 ชั่วโมงKING POWER…
Editor
13 June 2022
Lifestyle

LIFESTYLE
วิมเบิลดัน
โอลด์แฟชั่น กฎระเบียบ
และความเก๋บนคอร์ตหญ้า

The Wimbledon Championships คือการแข่งขันเทนนิสประจำปีที่เก่าแก่และทรงเกียรติที่สุดของโลก จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมืองวิมเบิลดันทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอนเมื่อปี 1877 โดยปกติแล้วการแข่งขันจะจัดกันช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงต้นเดือนกรกฎาคมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ สำหรับการแข่งขันครั้งที่ 135 ในปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน ถึง 10 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้The Wimbledon Championships ของอังกฤษขึ้นชื่อมากเรื่องประเพณีนิยมจนได้นิคเนมว่า The Vatican Tennis เป็นการแข่งขันเทนนิสที่มีความเป๊ะตามธรรมเนียมทุกอย่าง นี่คือการแข่งขันเทนนิสระดับโลกรายการเดียวที่ยังคงแข่งกันบนสนามหญ้าจริง ในขณะที่การแข่งขันเทนนิสระดับ Grand Slam ที่เหลืออีก 3 รายการอย่าง Australian Open, French Open และ US Open เลิกใช้สนามหญ้ากันหมดแล้ว การเฟ้นคัดสรรคนที่จะมาทำหน้าที่ Ball Boy/Girl ก็เฮี้ยบมาก ของว่างที่เสิร์ฟจะต้องเป็นสตรอว์เบอร์รีท็อปด้วยครีมเท่านั้น แต่กฎเหล็กเรื่องแฟชั่นสีขาวล้วน (All White) ของนักกีฬาที่มีมาตั้งแต่สมัยยุควิกตอเรียนเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจทุกปี เหตุผลเรื่องสีขาวในตอนโน้นคือเป็นสีสุภาพ ใส่แล้วไม่ค่อยร้อน เวลาเหงื่อออกก็เห็นไม่ชัด ถ้าเฉไฉเป็นเฉดอื่นอย่างครีมหรือออฟไวต์ก็อดสิทธิ์ลงแข่ง ซึ่งกฎเหล็ก All White ยังใช้กับแอกเซสซอรีต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสายคาดผม ผ้าโพกหัว หมวก สายรัดข้อมือ ถุงเท้า รองเท้า ไปจนถึงกางเกงในที่ไม่อนุญาตให้ติดขอบลูกไม้ พักหลังแม้จะมีการอนุโลมเรื่องพวกนี้อยู่บ้างแต่ยังจัดว่าจี๊ดมากอยู่ คือมีการยอมให้มีสีอื่นแซมได้ตามชายขอบเสื้อผ้า อย่างคอเสื้อ ขอบกระโปรง กางเกง แต่ขอบที่ว่าต้องไม่กว้างเกิน 1 ซม. และสีที่แซมมาต้องไม่ใช่สีประจำของแบรนด์สินค้าใดๆ พลาสเตอร์หรือสายพยุงข้อเข่า/แขนอาจจะไม่ต้องสีขาว แต่ก็ไม่ควรฉูดฉาด ทั้งนี้ทั้งนั้นนักกีฬาตัวจี๊ดที่คิดว่ากฎมีไว้ให้แหก ก็ยังมีมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ อาทิ Roger Federer ที่ถูกตัดสิทธิ์ลงแข่งในปี 2013 เพียงเพราะรองเท้าขาวของเขามีพื้นรองเท้าสีส้ม Venus Williams เองก็เคยต้องเปลี่ยนชุดในช่วงครึ่งหลังของการแข่งขันในปี 2017 เพราะสายบราสีชมพูโผล่ออกมาชัดไปหน่อย ส่วน Andre Agassi ที่บอยคอตต์ Wimbledon มาตลอด เพราะว่าชอบชุดเทนนิสสีสด แต่ท้ายสุดก็ยอมศิโรราบและร่วมลงแข่ง Wimbledon ในปี 1992 คว้าตำแหน่ง Grand Slam ครั้งแรกไปอย่างสวยงาม แต่สายกีฬาอย่างเราที่ไม่ต้องคิดมากเรื่องกฎเหล็ก All White ของ Wimbledon ก็ช้อปชุดกีฬาได้แบบชิลๆ Power อาสาจัดให้แบบชิคๆ กันไปเลย ADIDAS Aerordy WB Jacket SHOP NOW ADIDAS Fast Allover Print Tee SHOP NOW ADIDAS SPORT EYEWEAR Zonyk Aero Midcut SHOP NOW ADIDAS X9000L2 Shoes SHOP NOW SHOP NOW V-WORKOUT Shorts VWO2021 SHOP NOW ADIDAS Future Icon…
Editor
9 June 2022
Happening

HAPPENING
คิง เพาเวอร์
ร่วมเผยแพร่การท่องเที่ยวไทยในงาน
THAILAND TRAVEL MART PLUS (TTM+)

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเยี่ยมชมบูธของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายในงาน THAILAND TRAVEL MART PLUS (TTM+) จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานธุรกิจท่องเที่ยวภาคเอกชน เพื่อสร้างการรับรู้การท่องเที่ยวไทยสำหรับตลาดต่างประเทศในปี 2565 โดยมีผู้บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภวัต เลิศวัตรกานต์ ผู้อำนวยการส่วนงานร้านอาหารและโรงละคร, สมหวัง วุฒิวงกต ผู้อำนวยการส่วนงานปฏิบัติการร้านค้าปลอดอากร คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต และพัชรพล ธีระสุนทรปราสาท ผู้จัดการฝ่าย Tour Agent - F.I.T. Chinese ให้การต้อนรับ ณ ห้องอังสนา บอลรูม โรงแรมอังสนา ลากูนา ภูเก็ต ทั้งนี้ภายในงานดังกล่าว กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ร่วมออกบูธภายใต้แนวคิด Visit Thailand Year 2022, Amazing New Chapters ด้วยการแนะนำโครงการ กิจกรรม บริการ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของกลุ่มบริษัทฯ พร้อมด้วยการตอกย้ำความเป็น Shopping Destination ของประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ช้อปผ่านแคมเปญ KING POWER CLICK & COLLECT อยู่ไหนก็ช้อปได้ 24 ชั่วโมง ผ่าน www.kingpower.com หรือ King Power Application สามารถช้อปสินค้า ดิวตี้ ฟรี (Duty Free) ที่อำนวยความสะดวกการช้อปปิ้งสินค้า และรับของง่ายขึ้นที่สนามบินทั้งขาเข้า-ขาออก สามารถให้บริการได้เหนือชั้นไม่แพ้ดิวตี้ ฟรี อื่นๆ ในแถบภูมิภาคเอเชีย
Editor
9 June 2022
Happening

HAPPENING
คิง เพาเวอร์
เดินเครื่องมอบประสบการณ์ช้อปปิ้ง 360 องศา

คิง เพาเวอร์ ส่งแคมเปญ “MID YEAR SALE 360 องศา SHOP AND WANDER” เดินหน้ามอบประสบการณ์ช้อปปิ้ง 360 องศา อัปเดตโปรแกรมเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวให้สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ หลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มขับเคลื่อนอีกครั้ง พร้อมตอกย้ำแนวคิด มีไฟลต์ หรือไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปกับ คิง เพาเวอร์ ได้อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย นับเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นความท้าทายครั้งใหม่ของธุรกิจท่องเที่ยว ที่ต้องปรับตัวและปรับรูปแบบการให้บริการเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของการดำเนินชีวิตหลังโควิด-19 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในวิถีใหม่ ที่ต้องคำนึงถึงความสะดวกของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก่อนการเดินทาง ระหว่างการท่องเที่ยว จนถึงการเดินทางกลับ ดังนั้น การพัฒนาแพลตฟอร์มขึ้นมารองรับการให้บริการเป็นสิ่งจำเป็น โดย คิง เพาเวอร์ มีแผนพัฒนาด้วยการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาระบบการบริหารจัดการธุรกิจ วางเป้าหมายบูรณาการโปรแกรมการช้อปปิ้งให้สามารถสร้างประสบการณ์ความคุ้มค่า ความสะดวกรวดเร็วในการมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวครบวงจรให้กับนักเดินทาง ซึ่งปัจจุบัน คิง เพาเวอร์ ได้พัฒนาปรับปรุงให้การช้อปปิ้งกับ คิง เพาเวอร์ ง่ายและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งกับลูกค้าที่มีไฟลต์บินและไม่มีไฟลต์บินภายใต้แนวคิด King Power The Infinite Shopping Beyond Boundaries ที่สุดแนวคิดของการช้อปปิ้งไร้ขีดจำกัด ด้วย 4 ประสบการณ์ช้อป ดังนี้อัปเกรดใหม่สำหรับฟีเจอร์ KING POWER LINE OFFICIAL ACCOUNT (@kingpower) ให้สามารถเป็น Marketing Tool สำคัญที่ใช้สื่อสารกับลูกค้า จากที่ให้ LINE ทำหน้าที่ของ Promotion Hub เพียงอย่างเดียว ปรับให้ตอบสนองการใช้งานได้หลายมิติ เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่เป็น Total CRM Solution Hub ตอบโจทย์ในเรื่องต่างๆ ได้แก่ สิทธิประโยชน์เพื่อสมาชิก (King Power Member), โปรโมชั่น (Promotion), เลือกบริการช้อปปิ้ง (Shop Now), ค้นหาร้านค้า (Store Directory), ช่องทางการสื่อสารระหว่าง คิง เพาเวอร์ กับลูกค้า (Need Assistance) และการค้นหาสินค้า บริการ (Quick Search) ซึ่งการใช้งานของ LINE ฟีเจอร์ใหม่นี้ คาดว่าจะตอบสนองการสร้างประสบการณ์แบบเฉพาะเจาะจงกับลูกค้าแบบ 1on1 ทั้งกับลูกค้าคนไทยและต่างชาติที่เป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ และใช้ LINE อยู่แล้วกว่า 12 ล้านราย การช้อปผ่าน คิง เพาเวอร์ ในระบบออนไลน์ อยู่ไหนก็ช้อปได้ 24 ชั่วโมงผ่าน www.kingpower.com หรือ King Power Application สามารถช้อปได้ทั้งสินค้า ดิวตี้ ฟรี (Duty Free) สำหรับผู้มีไฟลต์บินด้วยบริการ KING POWER CLICK & COLLECT ที่อำนวยความสะดวกการช้อปปิ้งสินค้าได้ถึง 2…
Editor
8 June 2022
Lifestyle

LIFESTYLE
Pride Parades Around the World
ทำความรู้จักกับ Pride Month
เดือนแห่งความภาคภูมิใจ
ของความหลากหลายทางเพศทั่วโลก

เมื่อเข้าสู่เดือนมิถุนายน สีรุ้งก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว นั่นก็เป็นเพราะว่า นี่คือช่วงเวลาของความภาคภูมิใจ การแสดงออกซึ่งการยอมรับในเพศสภาพของตนเอง และของคนทุกๆ คนบนโลก แต่กว่าที่จะมาเป็น Pride Month ในวันนี้ ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด ความรุนแรง และความไม่เข้าใจกันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ Stonewall Riots ย้อนกลับไปในยุคซิกซ์ตีส์ ช่วงเวลาที่โลกยังมองว่าความหลากหลายทางเพศเป็นสิ่งที่ผิด การเปิดเผยตนเองในที่สาธารณะของ LGBT ถือเป็นเรื่องรุนแรงจนอาจถูกจับกุมได้เลยทีเดียว ในขณะที่การเรียกร้องให้ได้มาซึ่งความเท่าเทียมเรื่องเพศวิถีนั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลาย และมักจะถูกปัดตกจากผู้มีอำนาจอยู่เสมอ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน 1969 ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา Stonewall Inn ร้านอาหารกึ่งบาร์เพียงแห่งเดียวในเมืองที่ต้อนรับทุกเพศ ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมและใช้ความรุนแรง ทว่าในวันนั้นความอดทนได้มาถึงจุดสิ้นสุด เมื่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไม่ยอมอ่อนข้ออย่างที่ก่อนหน้านี้ทำมาโดยตลอด จึงเกิดการปะทะขึ้น กลายเป็นจลาจลที่เป็นดั่งตัวจุดชนวนครั้งสำคัญที่นำไปสู่ข้อเรียกร้องให้เกิดการตระหนักในความหลากหลายทางเพศ พร้อมๆ กับสิทธิ์ต่างๆ ที่มนุษย์ไม่ว่าเพศไหนก็ควรจะได้รับอย่างเท่าเทียม Pride Month 28 มิถุนายน 1970 หรือหนึ่งปีให้หลังจากเหตุการณ์จลาจลในวันนั้น ได้มีการเดินขบวนจากสโตนวอลล์ไปยังเซ็นทรัลพาร์กเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นไพรด์พาเหรดเกย์ครั้งแรกของสหรัฐอเมริกา พร้อมๆ กับประโยคอันทรงพลังที่ว่า “Say it loud, gay is proud.” (คำว่าเกย์ใช้เรียกกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเรียกในเวลานั้น) ถัดมาอีก 30 ปี ต้อนรับสหัสวรรษใหม่ บิล คลินตัน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็น “เดือนแห่งความภูมิใจของชาวเกย์และเลสเบี้ยน” (Gay & Lesbian Pride Month) และในอีก 9 ปีต่อมา ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็น “เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาวหลากหลายทางเพศ” (LGBT Pride Month) เพื่อตอกย้ำให้เห็นและตระหนักรู้ถึง “ความหลากหลาย” ให้มากกว่าเดิม แล้วทั่วโลกก็ได้จัด LGBT Pride ขึ้นในเดือนมิถุนายนเพื่อแสดงออกถึงจุดยืนนี้อย่างแพร่หลาย ประเทศไทยเองก็มีการจัดงานที่ภูเก็ตและกรุงเทพฯ ในขณะที่เมืองต่างๆ ในโลกก็จะเลือกวันจัดงานตั้งแต่ช่วงเดือนเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนตุลาคมตามความเหมาะสมของสภาพอากาศนั่นเอง Pride Parades Around the World ไพรด์พาเหรดคือการออกมาเดินขบวนกันเพื่อสนับสนุนและเฉลิมฉลองการยอมรับในตนเอง ความภาคภูมิใจในเพศของตนเอง ตลอดจนการเรียกร้องสิทธิทางกฎหมายต่างๆ โดยมีสัญลักษณ์อันโดดเด่นเป็นธงสีรุ้งที่ถูกโบกสะบัดอย่างสง่างาม ซึ่งสี 6 สีบนผืนธงนั้นมีความหมายแทนมิติต่างๆ ของมนุษย์ ได้แก่ สีแดง – ชีวิต, สีส้ม – การเยียวยา, สีเหลือง – แสงอาทิตย์ (ความหวัง), สีเขียว – ธรรมชาติ, สีฟ้า – ศิลปะ และสีม่วง – จิตวิญญาณ นอกจากนั้นไพรด์พาเหรดยังเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมมากมายที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวน เวทีสัมมนา ปาร์ตี้ ฉายหนัง คอนเสิร์ต ฯลฯ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน หรือในอนาคตอันใกล้นี้กำลังแพลนจะไปยังที่ใดในโลก ถ้าพร้อมแล้วก็คว้าธงสีรุ้งแล้วออกไปเฉลิมฉลองกันได้เลย Paris Pride Parade – France มุ่งหน้าสู่มหานครปารีสในแถบเมืองเก่าอย่าง Le Marais กับสัปดาห์แห่งการเฉลิมฉลองและความภาคภูมิใจ ผู้คนราวครึ่งล้านถูกดึงดูดมาที่นี่ทุกสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายนเพื่อร่วมกิจกรรมมากมาย หากยังไม่หนำใจเชิญที่ดิสนีย์แลนด์ปารีส คุณจะได้พบกับ Magical Pride สุดอลังการ รายละเอียดเพิ่มเติม…
Editor
8 June 2022
Beauty

BEAUTY BAR
5 น้ำหอมที่ให้บรรยากาศของเรนนี่ซีซั่น

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในเสน่ห์ของกลิ่นฝน ต้นไม้ ใบหญ้า หรือดินหอมๆ ในวันฝนตกแล้วล่ะก็ เราได้รวบรวมน้ำหอมหลากหลายแบรนด์ดังที่มาพร้อมกลิ่นของหน้าฝน พร้อมให้คุณช้อปสบายได้ทุกช่องทางแบบ 360 องศา ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในเสน่ห์ ของกลิ่นฝน ต้นไม้ ใบหญ้า หรือดินหอมๆ ในวันฝนตกแล้วล่ะก็ เราได้รวบรวมน้ำหอม หลากหลายแบรนด์ดัง ที่มาพร้อมกลิ่นของหน้าฝน พร้อมให้คุณช้อปสบายได้ทุกช่องทางแบบ 360 องศา MAISON MARGIELA REPLICA SPRINGTIME IN A PARK EDT SHOP NOW น้ำหอมที่ช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ในสวนหลังบ้าน เพลิดเพลินไปกับกลิ่นใบไม้ ใบหญ้า พร้อมด้วยกลิ่นดอกไม้บานสะพรั่งที่มอบความหอม ความสดชื่น จากกลิ่นอายของฟลอรัลฟรุตตี้ อบอวลด้วยความหวานที่ผสานกลิ่นมัสก์ กลายเป็นกลิ่นหอมสมบูรณ์แบบที่สามารถใช้ได้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย DIPTYQUE EAU MOHÉLI EAU DE TOILETTE SHOP NOW กลิ่นหอมแมกไม้จัดจ้าน ผสานกลิ่นไม้อ่อนๆ ถ่ายทอดอารมณ์เสมือนอยู่บนเกาะ Mohéli ในหมู่เกาะ Comoros พร้อมด้วยกลิ่นดอกกระดังงา ดอกไม้สีเหลืองรูปร่างคล้ายดวงดาวที่เบ่งบานไปตามแนวพรรณไม้นานาชนิด ผสานกลิ่นพริกไทยสีชมพู ขิง และหญ้าแฝก กลายเป็นกลิ่นหอมของธรรมชาติที่คุณอาจไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน DIPTYQUE EAU MOHÉLI EAU DE TOILETTE SHOP NOW กลิ่นหอมแมกไม้จัดจ้าน ผสานกลิ่นไม้อ่อนๆ ถ่ายทอดอารมณ์เสมือนอยู่บนเกาะ Mohéli ในหมู่เกาะ Comoros พร้อมด้วยกลิ่นดอกกระดังงา ดอกไม้สีเหลืองรูปร่างคล้ายดวงดาวที่เบ่งบานไปตามแนวพรรณไม้นานาชนิด ผสานกลิ่นพริกไทยสีชมพู ขิง และหญ้าแฝก กลายเป็นกลิ่นหอมของธรรมชาติที่คุณอาจไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ATELIER COLOGNE CLÉMENTINE CALIFORNIA SHOP NOW น้ำหอมกลิ่นแนวซีตรัส ความหอมสดชื่นดั่งต้องมนตร์สะกด กลิ่นส้มคลีเมนไทน์จากแคลิฟอร์เนีย และแฝกหอมจากแหล่งเก็บเกี่ยวชั้นนำของโลกอย่างประเทศเฮติ ท้าแดดท้าฝน ให้กลิ่นกายหอม ไม่เหม็นอับ ฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาได้ตลอดทั้งวัน CHLOÉ ATELIER DES FLEURS CEDRUS EAU DE PARFUM SHOP NOW น้ำหอมที่เผยความเป็นตัวคุณ โดยการรวบรวมนักปรุงน้ำหอมชื่อดังที่รังสรรค์ขึ้นมา ภายใต้กลิ่นหอมโทนวู้ดดี้ บัลซัม และสโมกกี้ เผยกลิ่นนุ่มนวล สง่างาม พร้อมกลิ่นมัสก์อบอุ่นชัดเจน ชุบชีวิตให้สดใสโลดแล่นอีกครั้ง ท่ามกลางกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ เผยเอกลักษณ์ความหอมที่หรูหรามีระดับอย่างไร้ขอบเขต CHLOÉ ATELIER DES FLEURS CEDRUS EAU DE PARFUM SHOP NOW น้ำหอมที่เผยความเป็นตัวคุณ โดยการรวบรวมนักปรุงน้ำหอมชื่อดังที่รังสรรค์ขึ้นมา ภายใต้กลิ่นหอมโทนวู้ดดี้ บัลซัม และสโมกกี้ เผยกลิ่นนุ่มนวล สง่างาม พร้อมกลิ่นมัสก์อบอุ่นชัดเจน ชุบชีวิตให้สดใสโลดแล่นอีกครั้ง ท่ามกลางกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ เผยเอกลักษณ์ความหอมที่หรูหรามีระดับอย่างไร้ขอบเขต BVLGARI ALLEGRA RIVA SOLARE EDP SHOP NOW น้ำหอมระดับ Hi-End กลิ่นซิตรัสที่ส่องประกายระยิบระยับ เปิดตัวด้วยกลิ่นเบอร์กาม็อตของ Calabrian ผสานเนโรลีที่สดชื่นด้วยกลิ่นดอกไม้สีเขียวและสีขาว ปลดปล่อยความเย้ายวนของแสงแดดและท้องทะเล…
Editor
6 June 2022
BeautyBeauty TrendTrend

BEAUTY TREND
สวยทั้งเรา สวยทั้งโลก
กับบิวตี้โปรดักต์รักษ์ (เพื่อนร่วม) โลก
รับ World Environment Day

ทุกๆ วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันที่ได้รับการประกาศจากองค์การสหประชาชาติให้เป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day)” อันเนื่องมาจากการที่โลกของเราเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ทางด้านสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด อีกทั้งยังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงได้มีการจัดการประชุมร่วมกันระหว่างประเทศต่างๆ สลับสับเปลี่ยนกันไป โดยในแต่ละปีจะมีประเทศเจ้าภาพและธีมหลักของงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนานาชาติสมาชิก ในปีนี้ถือเป็นวันครบรอบ 50 ปี นับจากการก่อตั้งในปี 1972 ของ UNEP (The United Nations Environment Programme) จึงมีแนวทางให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมที่ยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการรณรงค์วันสิ่งแวดล้อมโลกในธีม #OnlyOneEarth เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายและทางเลือกต่างๆ เพื่อให้มีชีวิตที่สะอาดขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ เน้นความจำเป็นในการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนร่วมกับธรรมชาติ เพราะ ‘โลกใบนี้เป็นเพียงบ้านหลังเดียว’ ของเรา และเราต้องปกป้องทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้อย่างดีที่สุด โดยเจ้าภาพในปีนี้ก็คือ ประเทศสวีเดน โดยแนวคิดนี้ใช่ว่าจะตื่นตัวเฉพาะองค์กรของทางภาครัฐเท่านั้น หากแต่ได้เกิดระลอกคลื่นแห่งการตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในแวดวงของความสวยความงามที่เราต่างเห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องนี้มาได้สักพักแล้ว ด้วยการให้ความใส่ใจในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ทั้งในแง่ของส่วนผสม วัตถุดิบ รวมไปถึงแพ็กเกจจิงต่างๆ เพื่อช่วย ‘รักษ์โลก’ กันมากขึ้น และวันนี้ Power จะพาไปทำความรู้จักกับบิวตี้แบรนด์สุดยูนีคที่มาพร้อมความงามอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเนรมิตทุกความสวยงามให้เบ่งบานตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอก L:A BRUKET แบรนด์ความงามสุดสร้างสรรค์จากประเทศสวีเดน โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวออร์แกนิกอันมีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ โดยแบรนด์นี้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2008 ที่เมืองวาร์เบิร์ก (Varberg) บนชายฝั่งตะวันตกของประเทศสวีเดน ด้วยปรัชญาอันเรียบง่ายที่ว่า “นวัตกรรมขับเคลื่อนโดยธรรมชาติไม่ใช่จากสารเคมี” ด้วยแนวคิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกต่างๆ ที่เหมาะสำหรับผิว เส้นผมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายในบ้าน ที่ปราศจากการใช้สี สารเคมีและน้ำหอม ทำให้ L:A Bruket ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในยุโรป อเมริกาและเอเชีย นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมีความพิถีพิถัน และสนับสนุนวิสัยทัศน์ของความงามอย่างเรียบง่ายครบในทุกมิติ L:A Bruket จึงเต็มไปด้วยอุดมการณ์ที่มาพร้อมความอ่อนน้อมและสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมสอดแทรกความมีอารมณ์ขันได้อย่างมีเอกลักษณ์ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์เลยทีเดียว L:A BRUKET 159 LEMONGRASS SHOP NOW แฮนด์ครีมออร์แกนิกจากสวีเดน บำรุงผิวมือให้ความชุ่มชื้นด้วยเชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าวและเมโดว์โฟมที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและสัญญาณแห่งวัย ทั้งยังจัดการการระคายเคืองของผิวที่แห้งแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ WE ARE FEEL GOOD INC. แบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับผิวกายจากแดนจิงโจ้ ที่ทั้งรักผิวและรักษ์โลกไปพร้อมๆ กัน ด้วยการพัฒนาจากแพทย์ผิวหนังและนักเล่นเซิร์ฟมืออาชีพ โดยผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองจาก TGA (Therapeutic Goods Administration) ที่ไม่เพียงเป็นมิตรต่อผิวคุณ แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะปราศจากวัตถุกันเสีย ไม่มีส่วนผสมของ OXYBENZONE, OCTINOXATE, PABA และ PARABEN FREE อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการฟอกขาวของปะการังที่ส่งผลให้ระบบนิเวศเสียสมดุลได้ รวมถึงไม่มีการใช้กลูเตน ไม่ใช้การทดลองกับสัตว์ มั่นใจได้ว่าอ่อนโยนแม้กับผิวที่บอบบาง แต่ยังคงประสิทธิภาพและการปกป้องได้สูงสุด ทั้งยังกันน้ำได้นานถึง 4 ชั่วโมง ให้คุณได้สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างสบายผิว WE ARE FEEL GOOD INC. SENSITIVE SUNSCREEN LOTION SPF 50+ SHOP NOW โลชั่นกันแดดจากออสเตรเลีย สูตรอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ปราศจากสารกันเสีย, PARABEN, PABA, OXYBENZONE และ OCTINOXATE อุดมไปด้วยวิตามินอี, ว่านหางจระเข้ และสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว และช่วยบำรุงผิวให้สุขภาพดีขึ้น…
Editor
2 June 2022
Happening

SPOTLIGHT
SWATCH CLEAR
คอลเลคชั่นที่คลีนที่สุด
และบ่งบอกความเคลียร์ในสไตล์คุณ

SWATCH ชวนคุณมา RESET. GO CLEAR. เผยตัวตนและเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความเรียบง่ายอย่างมีสไตล์ไปกับ Swatch CLEAR คอลเลคชั่นล่าสุดจาก Swatch ที่ชวนคุณมาเปิดรับสิ่งดีๆ เผยตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเผยโฉมนาฬิกาทั้ง 4 โมเดล ในดีไซน์สุดคลีนแบบไม่ซ้ำใคร ปี 1985 ถือเป็นครั้งแรกที่ Swatch ได้เปิดตัวนาฬิกาในลุคโดดเด่นที่มากับดีไซน์โปร่งใสสุดไอคอนิกในโมเดล GENT กลับมาในปี 2022 นี้ พร้อมเฉลิมฉลองให้กับการเริ่มสิ่งใหม่ๆ ไปกับนาฬิกาในหลากหลายโมเดล ไม่ว่าจะเป็นโมเดลสุดฮิตอย่าง BIG BOLD, SKIN, GENT และ NEW GENT จากคอลเลคชั่น Swatch CLEAR ที่เผยให้เห็นถึงความมินิมัลอันแสนเรียบง่าย แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน รวม DNA ทั้งหมดของ Swatch เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งหน้าปัดที่โชว์กลไก พร้อมลูกเล่นเข็มชั่วโมง นาที และวินาที ที่มาในแม่สี สีแดง น้ำเงิน เหลือง เพิ่มความโดดเด่นด้วยสายพลาสติกใสที่ทำจากนวัตกรรมวัสดุไบโอซอร์สพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตได้อย่างสมบูรณ์แบบเริ่มกันที่ CLEARLY BOLD กับโมเดล BIG BOLD ที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยสายซิลิโคนกึ่งโปร่งแสง สีขาว ตัวเรือนทำจากพลาสติก และยังมากับบักเกิลอะลูมิเนียมสีเงิน บ่งบอกความเคลียร์สุดเท่ในสไตล์คุณและสำหรับอีก 3 เรือน ก็พิเศษไม่แพ้กัน มาพร้อมกับสายและบักเกิลพลาสติกเงา แบบโปร่งใสสุดชิค หน้าปัดโชว์กลไก ตัวเรือนทำจากไบโอซอร์สพลาสติก ที่ประกอบไปด้วย CLEARLY SKIN ในโมเดล SKIN ที่สามารถสัมผัสได้ถึงความบาง ให้ความรู้สึกเบา สบายเมื่อสวมใส่ CLEARLY GENT ในโมเดล GENT ในสไตล์สุดมินิมัล และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับ CLEARLY NEW GENT ในโมเดล NEW GENT ในลุคที่เรียบง่าย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น 4 ไอเทมสุดคลีนที่จะพาคุณตั้งต้นใหม่ พร้อมเปิดรับสิ่งดีๆ เข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ติดตามข่าวสารและรายละเอียดการวางจำหน่ายเพิ่มเติมได้ที่ LINE OA @swatch_th Facebook: SWATCHTHAILAND Instagram: @SWATCH_TH #Swatch_TH #SwatchGoClear
Editor
2 June 2022