Happening

SPOTLIGHT
MAHANAKHON ชวนคุณสนุกไปกับ “โชค”
ผ่านไอเทมจากคอลเลคชั่น The Joy Luck

PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS โชค แฟชั่น และชีวิตของคนรุ่นใหม่ "โชค" คำสั้นๆ ที่เราต่างคุ้นชินกันมาเนิ่นนาน เป็นได้ทั้งเรื่องของความเชื่อและสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่มักมาพร้อมโชคชะตา จังหวะ หรือโอกาส โชคจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความบังเอิญ หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต MAHANAKHON แบรนด์ไลฟ์สไตล์สตรีตแวร์สัญชาติไทยของคนรุ่นใหม่ จึงหยิบยกความเชื่อนี้มาสร้างสรรค์เป็นไอเทมใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “THE JOY LUCK” ถ่ายทอดเรื่องราวไลฟ์สไตล์ของคนเมืองผสมผสานความเชื่อในแบบร่วมสมัย ผ่านเสื้อยืดพิมพ์ลายสุดเก๋ และกระเป๋าดีไซน์เรียบเท่ ชวนให้คุณสนุกไปกับ “โชค” ที่กำหนดได้ด้วยตัวเอง และสร้าง “โชค” ให้เกิดขึ้นในแบบที่อยากเป็น เสื้อยืด Oversize พิมพ์ลายซิกเนเจอร์ “THE JOY LUCK” ชาวสตรีตที่ชื่นชอบสไตล์การแต่งตัวแนวโอเวอร์ไซซ์ต้องไม่พลาดไอเทมนี้ เสื้อยืดผลิตจากผ้าคอตตอน 100% เนื้อผ้านุ่ม ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ด้านหลังโดดเด่นสะดุดตาด้วยฟอนต์ “กรุงเทพมหานคร” ซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์ “มหานคร” ผสมผสานลวดลายจากคอลเลคชั่น THE JOY LUCK ที่ชวนให้คุณสนุกไปกับการแต่งตัวมากยิ่งขึ้น มีให้เลือก 3 สไตล์ 2 โทนสี ได้แก่ ขาวและดำ โดนใจสายสตรีตแน่นอน SACOCHE BAG พิมพ์ลายมหานคร เติมเต็มคาแรกเตอร์ให้ไม่ซ้ำใคร ด้วยกระเป๋าสะพายข้างสีดำ พิมพ์ลาย “มหานคร” มีช่องแยกจัดเก็บสัมภาระเป็นระเบียบ แมตช์เข้าได้กับหลากสไตล์ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ดำและน้ำเงิน ผลิตจากผ้าริปสต็อป ขนาด 24 x 16 เซนติเมตร ตกแต่งด้วยสายเชือกกลมทอลาย ความยาว 108 เซนติเมตร ยึดติดกับตัวกระเป๋าด้วยอะไหล่ตัว D สำหรับด้านหน้าประกอบด้วย 2 ช่องซิป ขณะที่ด้านหลังมีช่องใส่ของผ้าตาข่ายสีดำ TOTE BAG ใบใหญ่จุของได้เยอะ แม้จะมาในโทนสีธรรมชาติ ดีไซน์เรียบง่าย เสริมกิมมิกเล็กน้อยด้วยลายฟอนต์ “มหานคร” ยิ่งทำให้ Tote Bag ดูเท่แบบไม่ต้องพยายาม ผลิตจากผ้าแคนวาส ขนาด 51 x 34 เซนติเมตร น้ำหนักเบา ด้านในมีช่องขนาดเล็กทำให้แยกจัดเก็บสัมภาระเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะแต่งสตรีตสไตล์ลุคไหน กระเป๋าใบนี้ก็เอาอยู่ทุกสถานการณ์ สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเทมคู่ใจชิ้นใหม่ กระเป๋า MAHANAKHON จากคอลเลคชั่น “THE JOY LUCK” ก็นับเป็นตัวเลือกที่ดีในการหยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับการแต่งตัวให้สนุกได้ทุกวัน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมจับจองเป็นเจ้าของไอเทมสตรีตแวร์เท่ๆ ได้แล้ววันนี้ที่ mahanakhonshop_bkk: Facebook / Instagram / Line สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ King Power Contact Centre โทร.1631
Editor
10 September 2021
Happening

HAPPENING
“จิ้งจอกสาว” เลสเตอร์ ซิตี้
สร้างประวัติศาสตร์บทใหม่
เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกของสโมสร

ในวันนี้ เชื่อว่าคนไทยเกือบทั้งประเทศรู้จักและคุ้นเคยกับสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีกที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการฟุตบอล แชมป์เอฟเอคัพทีมล่าสุด รวมไปถึงทีมฟุตบอลเล็กๆ ที่มีเจ้าของเป็นคนไทยที่กำลังก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลก แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่า ในขณะที่สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กำลังเดินหน้าไขว่คว้าความสำเร็จอย่างไม่หยุดหย่อน สโมสรฟุตบอลหญิงเลสเตอร์ ซิตี้ ก็กำลังสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ไปพร้อมๆ กัน สโมสรฟุตบอลหญิงเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 ในฐานะสโมสรฟุตบอลหญิงอิสระ โดยเริ่มลงเล่นในลีกระดับสมัครเล่น จนกระทั่งได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในศึก FA Women's Championship หรือดิวิชั่น 2 ของฟุตบอลหญิงของอังกฤษ ในฤดูกาล 2018-19 ก่อนที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะเข้ามาบริหารและเปลี่ยนสถานะเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2020กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตั้งเป้าที่จะพัฒนาทีมฟุตบอลหญิงของเมืองเลสเตอร์อย่างยั่งยืน โดยถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงในระยะยาว ทั้งทีมระดับอาชีพ ระดับภูมิภาค ไปจนถึงระดับรากหญ้า ต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ได้กล่าวถึงการเข้ามาบริหารสโมสรฟุตบอลหญิงเลสเตอร์ ซิตี้ ว่า “นี่คือวันที่ผมภาคภูมิใจมาก กับการได้สร้างทีมฟุตบอลหญิงให้เกิดขึ้นในสโมสรแห่งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจมานาน และวันนี้สิ่งนั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้ว” สโมสรฟุตบอลหญิงเลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้มีการจัดการระบบต่างๆ รวมถึงเสริมทัพนักเตะใหม่หลายคน ในขณะที่ผู้จัดการคนเก่าอย่าง Jonathan Morgan ยังคงรับหน้าที่คุมทีมต่อไป โดยมีเป้าหมายที่จะเลื่อนชั้นไปเล่นในลีกสูงสุดให้ได้ ซึ่ง “จิ้งจอกสาว” ออกสตาร์ตอย่างร้อนแรง ด้วยสถิติ ชนะ 6 เสมอ 2 และแพ้ 1 ใน 9 เกมแรก ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจ่าฝูงของลีกในเดือน ธันวาคม 2020 ต่อมาในเดือนมกราคม 2021 เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อทีมได้ย้ายเข้าไปใช้สนามฝึกซ้อม Belvoir Drive สนามซ้อมเดิมของทีมชาย ที่มีมาตรฐานระดับพรีเมียร์ลีก มีเครื่องไม้เครื่องมือ ตลอดจนอุปกรณ์การฝึกซ้อมที่สมบูรณ์แบบ นับเป็นอีกหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวที่จะพัฒนาทีมฟุตบอลหญิงเลสเตอร์ ซิตี้ ให้ก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงมากขึ้นทีม “จิ้งจอกสาว” ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง คว้าชัยชนะติดต่อกัน 12 นัด นับเป็นสถิติสูงสุดของลีก เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2021 ด้วยการเอาชนะทีมลอนดอน ซิตี้ ไลออนเนสเซส 2 ประตูต่อ 0 ซึ่งในวันนั้นนอกจากจะเป็นวันที่พวกเธอคว้าแชมป์ลีกอย่างเป็นทางการทั้งที่ยังเหลือเกมการแข่งขันอีก 2 นัดแล้ว ยังเป็นวันคล้ายวันเกิดของ วิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย Jonathan Morgan พาเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมหญิง ปิดฤดูกาล 2020-21 ใน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยชัยชนะนัดสุดท้ายเหนือ ชาร์ลตัน ทีมหญิง 4 ประตูต่อ 0 คว้าแชมป์ FA Women's Championship โดยทำไป 50 คะแนน จากการลงเล่น 20…
Editor
8 September 2021
Happening

HAPPENING
เปิดแล้ว! คิง เพาเวอร์ และ ไทย เทสต์ ฮับ
1 กันยายนนี้ ย้ำสุขอนามัย และความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า

ร้านค้าปลอดอากร คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศูนย์อาหารสตรีตฟู้ด ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และมหานคร คิวบ์ เปิดให้บริการอีกครั้ง ด้วยความมั่นใจ ภายใต้มาตรการด้านสุขอนามัย KING POWER CARE POWER สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวในวิถีใหม่ในรูปแบบ SAFETY SHOPPING & SAFETY SERVICES เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการให้บริการ ตามประกาศจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้ผ่อนคลายล็อกดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อนุญาตให้สามารถเปิดกิจการหรือจัดกิจกรรม ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในฐานะผู้ประกอบการที่ให้บริการธุรกิจท่องเที่ยวชั้นนำ ได้มีความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการร้านค้าปลอดอากร คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศูนย์อาหาร ไทย เทสต์ ฮับ ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวดโดยแนวทางสำคัญในการเปิดให้บริการ คือ การเน้นย้ำมาตรการ KING POWER CARE POWER ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มาใช้บริการด้วยแนวคิด ‘SAFETY SHOPPING AND SAFETY SERVICES’ สำหรับทุกธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ โดยเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัย D-M-H-T-T ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุดในทุกมิติ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นสำหรับลูกค้า พันธมิตรธุรกิจ และพนักงาน โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตาม และตระหนักรู้ตามมาตรการป้องกันโควิดตามที่ภาครัฐกำหนดขึ้นมาเป็นข้อปฏิบัติสำหรับองค์กร ซึ่งร้านค้าปลอดอากร คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ เป็นต้นไป รวมถึงร้านค้าปลอดอากร คิง เพาเวอร์ พัทยา และภูเก็ต เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 - 19.00 น. เช่นกัน สำหรับศูนย์อาหารไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เริ่มเปิดให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ตั้งแต่เวลา 11.00 - 19.00 น. และสามารถสั่งเดลิเวอรีได้ตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 น. ในส่วนของไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ เปิดให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้าน และบริการสั่งเดลิเวอรีได้ตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 น. นอกจากนี้ยังเตรียมมอบประสบการณ์ช้อปสุดคุ้มต้อนรับการกลับมาเปิดให้บริการตลอดเดือนกันยายนนี้ โดย คิง เพาเวอร์ จัดแคมเปญ ‘คุ้มทุกวัน ช้อปได้ทุกวัน’ สำหรับสินค้าโฮม เดลิเวอรี (Home Delivery) ในราคาดิวตี้ ฟรี  โดยไม่ต้องมีไฟลต์บินที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และพัทยา สำหรับลูกค้าที่ช้อปที่สาขารางน้ำ ครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ รับทันทีคูปองรับประทานอาหารที่ ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มูลค่า 300 บาท…
Editor
1 September 2021
Happening

SPOTLIGHT
คลิปหอมติดมาสก์ pastel Clever Mask Clip ดีไซน์ใหม่! สดใสกว่าที่เคย

PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS พกพาความหอมสดชื่นของ pastel Clever Mask Clip ติดตัวไปได้ทุกที่ หลังจากปลุกกระแสความสดชื่นให้กับมาสก์มาตลอด 2 เดือน วันนี้ pastel Clever Mask Clip ยังคงสร้างความสดใสอย่างต่อเนื่อง ด้วยดีไซน์ใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสิ่งที่มองเห็น สัมผัส และความรู้สึก ด้วย Movement ของ Wave Surface Design Pattern ผิวสัมผัสลายคลื่นที่นอกจากจะให้ความสวยงามและทันสมัยแล้ว ยังช่วยให้จับถนัดมือมากขึ้นอีกด้วยpastel Personal Card วางใจได้ ปลอดภัยชัวร์ ด้านตัวเจลที่ให้กลิ่นหอม ผ่านการคิดค้นส่วนประกอบ กระบวนการการผลิต และบรรจุภัณฑ์จากโรงงานที่ได้รับมาตรฐานการผลิตเครื่องสำอาง จึงปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน ส่วนตัวคลิป ผลิตจากพลาสติก Food Grade ผสม Nano Zinc ที่มีคุณสมบัติยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรีย และผ่านการตรวจสอบแล้วว่าวัสดุที่ใช้ปราศจากการปนเปื้อนของสารปรอทและสารตะกั่ว สำหรับวิธีการทำความสะอาดก็ง่าย เพียงใช้กระดาษทิชชูชุบน้ำเช็ดส่วนที่เป็นพลาสติกคลิปpastel พร้อมแล้วที่จะให้คุณพกพาความหอมสดชื่นของ Clever Mask Clip ดีไซน์ใหม่ ติดตัวไปได้ทุกที่ มีให้เลือก 5 กลิ่นหอม 1 ซองมีจำนวน 2 คลิป ราคาซองละ 50 บาท สามารถสั่งซื้อทางช่องทางออนไลน์ pastelcreative: Facebook / Instagram / Line หรือติดตามกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.pastelcreative-x8.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ King Power Contact Centre โทร.1631
Editor
1 September 2021
Happening

Happening
อร่อยพร้อมเสิร์ฟอาหารโรงแรมแบบ “เดลิเวอรี”
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบ “เดลิเวอรี” เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับอาหารจานโปรดได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน มีหลากหลายเมนูให้เลือกรับประทาน ตั้งแต่ ขนมอบ พาสต้า พิซซ่า อาหารไทย อาหารนานาชาติ ไปจนถึงข้าวกล่องญี่ปุ่น และเมนูโอมากาเสะใส่กล่องระดับพรีเมียม โดยสามารถเลือกและสั่งอาหารพร้อมชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ของโรงแรมฯ หรือใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี ได้แก่ Robinhood (โรบินฮู้ด) และ LINE MAN (ไลน์แมน) นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารแบบใส่กล่อง “Takeaway” มาให้คุณเลือกรับด้วยตนเองได้ที่จุด Drive Thru สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องลงจากรถ สั่งอาหารออนไลน์ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 - 19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2680 9999 เริ่มต้นเช้าวันใหม่กับขนมอบจากเตา “THE JUNCTION” ชวนมาสัมผัสกลิ่นความหอมละมุมของขนมอบยามเช้า สดใหม่ เนื้อนุ่มหอมฉ่ำเนย พร้อมเสิร์ฟ 12 เมนู ได้แก่ ครัวซองต์เนย ครัวซองต์ช็อกโกแลต ครัวซองต์รัมเรซิ่น เดนิชอัลมอนด์ เดนิชชินนาม่อน เดนิชช็อกโกแลตคาราเมล เดนิชครีมชีส เดนิชแคนเบอร์รี่ เดนิชคาราเมลนัท เดนิชสับปะรด เดนิชบลูเบอร์รี่ และเดนิชราสเบอร์รี่ ราคา 55 บาทต่อชิ้น บริการสั่งขนมอบออนไลน์ Takeaway l LINE MAN รับออร์เดอร์ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 - 19.00 น. คลิกสั่งเลย! เติมเต็มช่วงเวลาพิเศษให้กับครอบครัว “CUISINE UNPLUGGED” หากใครกำลังมองหามื้ออาหารแสนอร่อย ขอแนะนำ พิซซ่าและพาสต้าโฮมเมด รังสรรค์จากแป้งนำเข้าประเทศอิตาลีที่ผ่านการบ่มนานถึง 72 ชั่วโมง จึงได้พิซซ่าที่กรอบและหนึบเล็กน้อย เสิร์ฟสดใหม่ทุกวัน สำหรับพิซซ่ามีให้เลือก 8 หน้า ได้แก่ มาร์เกริต้า ซีส ฮาวายเอี้ยน พาร์ม่าแฮม ไก่ติกก้า ซีฟู้ด แซลมอนรมควัน และปูอัด ขณะที่พาสต้านำเสนอ 4 เมนูให้ลิ้มลอง ได้แก่ เพนน่าอาราเบียตต้า สปาเกตตี้โบโลเนส สปาเก็ตตี้ซีฟู้ดและซอสมะเขือเทศ และพาสต้าโอลิโอ้ นอกจากนี้ยังมีอาหารไทยอย่าง ต้มข่าไก่เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย ราคาพิซซ่าเริ่มต้นที่ 169 บาท บริการสั่งอาหารออนไลน์ Takeaway l LINE MAN l Robinhood รับออร์เดอร์ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 - 19.00 น. คลิกสั่งเลย! อร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ต้อง “TENSHINO” สัมผัสประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ได้ที่บ้าน อิ่มอร่อยไปกับเมนูข้าวกล่องญี่ปุ่น (ดงบุริ) ที่มีให้เลือกถึง 8 หน้า ได้แก่ หน้ากุ้งทอด หน้าปลาไหลย่าง หน้าสเต๊กเนื้อ หน้าหมูย่างมิโสะ หน้าหมูอิเบริโค หน้าปลาแซลมอนย่างเกลือ หน้าแซลมอนย่างเทอริยากิ หน้าไก่ย่าง ตบท้ายความอร่อยด้วยสลัดซีฟู้ด ราคาเริ่มต้นที่ 190 บาท…
Editor
23 August 2021
Happening

Happening
คิง เพาเวอร์ เสริมทัพให้บริการ
KING POWER CHAT TO SHOP

คิง เพาเวอร์ ปรับแผนเสริมทัพเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางให้บริการ “KING POWER CHAT TO SHOP อยู่ที่ไหนก็ช้อปฟิน ไม่ต้องมีไฟลต์บิน” รับประสบการณ์ซื้อสินค้าโฮม เดลิเวอรี ในราคาดิวตี้ ฟรี พร้อมโปรโมชั่นพิเศษจาก คิง เพาเวอร์ ได้ในระหว่างอยู่บ้านอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า “จากแนวทางการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการใช้ชีวิต รวมถึงรูปแบบการช้อปปิ้งของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป เป็นสาเหตุทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวและหารูปแบบใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ซึ่งทาง คิง เพาเวอร์ ก็ให้มีการเปิดช่องทาง ‘KING POWER CALL TO SHOP ช้อปง่าย ช้อปคุ้ม ส่งไว’ ที่หมายเลข 0 2338 7870 โดยมีลูกค้าให้ความสนใจ โทร. สอบถามสินค้าจาก คิง เพาเวอร์ อย่างต่อเนื่อง ไปเมื่อไม่นานมานี้และเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแบบ Service Beyond Expectation ที่ไร้ขีดจำกัด คิง เพาเวอร์ จึงเพิ่มช่องทางให้บริการรูปแบบใหม่ล่าสุดภายใต้บริการ ‘KING POWER CHAT TO SHOP อยู่ที่ไหนก็ช้อปฟิน ไม่ต้องมีไฟลต์บิน’ เป็นช่องทางให้บริการจาก คิง เพาเวอร์ ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าจาก คิง เพาเวอร์ ได้ง่ายๆ จากที่บ้านเหมือนมาช้อปด้วยตัวเอง ผ่านช่องทาง LINE Application เพียงเพิ่มเพื่อน LINE: @KP_ChatToShop หรือ LINE: @Kingpowerofficial เพื่อสอบถามสินค้าโฮม เดลิเวอรี โดยไม่ต้องมีไฟลต์บิน เสมือนมี Personal Shopper ส่วนตัว ให้บริการแนะนำและช่วยเลือกซื้อสินค้าอย่างใกล้ชิด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมจัดส่งสินค้าภายใน 7 วัน โดยให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น. จากการเพิ่มช่องทางของ คิง เพาเวอร์ ทั้ง 2 ช่องทางนี้ ถือเป็นการสร้าง ‘โอกาส’ ในการเข้าถึงลูกค้าแบบคนต่อคน หรือเป็นการทำการตลาดแบบ One to One Marketing ซึ่งเป็นหนึ่งใน Personalised Marketing ที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ในส่วนของลูกค้าที่เป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ อยู่แล้ว ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้กับ คิง เพาเวอร์ ได้อีกด้วย”สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ ‘KING POWER CHAT TO SHOP อยู่ที่ไหนก็ช้อปฟิน ไม่ต้องมี ไฟลต์บิน’ และบริการ ‘KING POWER CALL TO SHOP ช้อปง่าย ช้อปคุ้ม ส่งไว’ ที่หมายเลข 0 2338 7870 ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ สามารถรับความคุ้มค่าจากสินค้าแผนกน้ำหอม…
Editor
20 August 2021
Happening

ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์
เสิร์ฟเมนูสุดคุ้มทุกวันจันทร์ เพียง 99 บาท

อร่อยเต็มอิ่มกับโปรโมชั่น “One Price Monday” ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ (Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE) ศูนย์รวมสตรีตฟู้ดระดับตำนานใจกลางย่านสาทร นำเสนอความอร่อยจากร้านระดับตำนานและมิชลินแนะนำ กับโปรโมชั่น “One Price Monday” เมนูสุดคุ้มเต็มอิ่มทุกวันจันทร์ ในราคาเพียง 99 บาท ตลอดเดือนสิงหาคมและกันยายนนี้ (จนถึงวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564) ผ่านบริการ Self Pick-up พร้อมสั่งอาหารล่วงหน้าได้ที่แอปพลิเคชัน Line @MahanakhonCUBE ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น.สำหรับเมนูสุดคุ้ม “One Price Monday” ทุกวันจันทร์ในราคา 99 บาท ได้แก่ ยำมาม่าหมูสับไข่ดาว จากร้านเผ็ด เผ็ด เฮ่! (ราคาปกติ 160 บาท) ผัดไทยไฟทะลุ พร้อมไข่เป็ดดาวไล่ทุ่ง จากร้านผัดไทยไฟทะลุ (ราคาปกติ 130 บาท) สุกี้ทะเล จากร้านสุกี้เมาเวอริค (ราคาปกติ 120 บาท) ข้าวหมูอบ พร้อมเกี๊ยวน้ำหมูย่าง จากร้านบุญเลิศ (ราคาปกติ 110 บาท) ชุดเกาเหลาเลือดหมู พร้อมข้าวสวย จากร้านก๋วยจั๋บนายเอ็ก (ราคาปกติ 105 บาท) ปาท่องโก๋ 1 ชุด พร้อมเครื่องดื่ม 2 แก้ว จากร้านชุมพลปาท่องโก๋ (ราคาปกติ 125 บาท) ข้าวเหนียวมะม่วง พร้อมขนมวุ้นใบเตยกะทิ จากร้านป้าหงษ์ขนมไทย (ราคาปกติ 140 บาท) นอกจากนี้ ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ ขอนำเสนอเมนูความอร่อยใหม่ จากร้านผัดไทยไฟทะลุ กับเมนูผัดไทยไฟทะลุไก่ย่าง เส้นผัดไทยเหนียวนุ่มซอสซึมเข้าเส้น เสิร์ฟพร้อมไก่ย่างชิ้นโต (ราคา 190 บาท) และแซ่บซี้ดไปกับความอร่อยในเมนูสไตล์อีสานจากร้านเผ็ด เผ็ด เฮ่! กับลาบเป็ดนครพนม (ราคา 220 บาท) ยำแหนมข้าวทอด (ราคา 185 บาท) และต้มกระดูกเป็ดมะนาวดอง (ราคา 140 บาท) รวมถึงเมนูสตรีตฟู้ดระดับตำนานอีกหลากหลายร้าน ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยถึงบ้านผ่าน 3 แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีเจ้าดังอย่าง โรบินฮู้ด (Robinhood) ไลน์แมน (LINE MAN) แกร็บฟู้ด (Grab Food) และบริการ Self Pick-up ที่ให้คุณสามารถสั่งอาหารได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. รับอาหารได้ที่จุดบริการชั้น 1 มหานคร คิวบ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ King Power Contact Centre 1631
Editor
20 August 2021
Happening

King Power Chat to Shop
แค่แชทก็ได้ช้อปกับ คิง เพาเวอร์

King Power Chat to Shop (คิง เพาเวอร์ แชททูช้อป) บริการใหม่ล่าสุดจาก คิง เพาเวอร์ ที่แค่แชท ก็ช้อปได้ ไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหน ก็ช้อปฟิน แบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน สะดวก ปลอดภัย ไร้สัมผัส พร้อมจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้านคุณ ผ่านผู้ช่วยช้อปส่วนตัวที่ให้คุณสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการได้ง่ายๆ เพียง 4 ขั้นตอนขั้นตอนที่ 1: แชทอยู่ ก็ช้อปได้ เพียง Add LINE@: @KP_ChatToShop จากนั้นกด Add Friend  ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น.หรือ Add LINE สแกนผ่าน QR Codeขั้นตอนที่ 2: ลงทะเบียนก่อนช้อป ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านลิงก์ หรือ QR Code ที่ได้รับ และแจ้งรายการสินค้าที่คุณต้องการกับผู้ช่วยช้อปส่วนตัวของคุณได้เลย ขั้นตอนที่ 3: เช็กสินค้า พร้อมรับข้อเสนอดีๆ ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวจะทำการเช็กสินค้าที่คุณต้องการ แจ้งราคา พร้อมกับแนะนำโปรโมชั่นสุดคุ้มให้คุณทราบ ขั้นตอนที่ 4: ชำระค่าสินค้า และการจัดส่ง เมื่อชำระค่าสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สินค้าจะถูกจัดส่งถึงบ้านคุณ (ระยะเวลาการจัดส่ง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 5 - 7 วัน สำหรับต่างจังหวัด 7 - 9 วัน) เลือกชำระค่าสินค้าผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ชำระผ่านบัตรเครดิตหรือการโอนเงิน ชำระผ่าน Cash Card (แคชการ์ด) หรือ Gift Card (กิฟต์การ์ด) ชำระผ่าน Smart Purse (สมาร์ตเพิร์ส), Birthday e-Purse (เบิร์ทเดย์อีเพิร์ส) หรือ Carat (กะรัต) เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ King Power Contact Centre 1631
Editor
14 August 2021
Happening

Spotlight
5 แบรนด์สินค้าภูมิปัญญาของคนไทย
เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

PHOTOGRAPHY: COURTESY OF BRANDS พาไปทำความรู้จักกับ 5 แบรนด์สินค้าไทย ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ในปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น นิยมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกหรือสมุนไพรของไทยสำหรับอุปโภคและบริโภค จึงทำให้ชาวบ้านในชุมชนต่างๆ เริ่มเกิดไอเดียในการผลิตสินค้าออกมาจำหน่าย โดยใช้วัถุดิบใกล้ตัวจากแหล่งที่อยู่อาศัย จึงเกิดแบรนด์สินค้าภูมิปัญญาของคนไทยขึ้นมามากมาย  หลายแบรนด์ได้รับการสนับสนุนจากโครงการของ King Power Thai Power สำหรับโอกาสในการผลักดันสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และในวันนี้ Power จะพาไปทำความรู้จักกับ 5 แบรนด์สินค้าไทยที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ 1. PHUTAWAN (ภูตะวัน) จากเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เห็นเสน่ห์ในตัวของสบู่ก้อนเมื่อ 20 ปีก่อน จนเกิดเป็นแนวคิดที่อยากทำสบู่เป็นของตัวเอง โดยมุ่งมั่นศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง และนำมาผสานกับภูมิปัญญาของคนไทยในด้านของสมุนไพร พร้อมเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ จนได้สบู่ก้อนที่คิดว่าดีที่สุดภายใต้แบรนด์ “ภูตะวัน” ด้วยความใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทางแบรนด์จึงมุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าออร์แกนิกที่ดี พร้อมสนับสนุนเกษตรกรให้มีกำลังใจและมีรายได้ ปลอดภัยจากสารเคมี พร้อมส่งต่อวัตถุดิบจากผู้ผลิตที่มีหัวใจออแกนิก สู่ผู้บริโภคอย่างปลอดภัย ปัจจุบันแบรนด์ภูตะวันมีสินค้าหลากหลายประเภท แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่น่าจับตามองคือ  กลุ่มสินค้าที่มีน้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนประกอบ เช่น โลชั่นบำรุงผิว เจลอาบน้ำ ยาสีฟัน แฮร์เซรั่ม น้ำมันมะพร้าวที่ช่วยบำรุงผิวและผมที่แห้งของคนเอเชียได้ดี สนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาไทย แบรนด์ PHUTAWAN คลิก 2. BIJA HERBAL (พีชะ เฮอร์เบิล) เมื่อสาวนักเดินทางผู้สนใจศาสตร์อายุรเวท (Ayurveda) ของอินเดีย และชอบดูแลตัวเองด้วยพืชพรรณที่หาได้จากห้องครัว สะสมประสบการณ์จนเกิดไอเดียพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์นักเดินทาง โดยเริ่มต้นด้วยผงล้างหน้าจากแป้งข้าว เพราะสามารถพกติดตัวได้ง่าย น้ำหนักเบาเหมาะสำหรับนักเดินทาง แพ็กเกจที่เน้นขนาดกะทัดรัด แต่ใช้ได้นานถึง 2-3 เดือน ตอบโจทย์ผู้ชื่นชอบสินค้าจากธรรมชาติ เพราะคัดสรรผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์และธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพืชพรรณไทยโดยเฉพาะข้าวไทย สินค้าส่วนใหญ่ของ BIJA HERBAL มีความเป็นธรรมชาติ 100% เลี่ยงสารเคมี ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีน้ำหอม เพราะใช้เอสเซนเชียล ออยล์สร้างกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้กลุ่มคนที่รักสุขภาพและคนที่สนใจผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ให้ความสนใจป็นพิเศษ ปัจจุบันได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกไปอีกหลายอย่าง มีทั้งลิปมัน เซรั่ม วิตามินซีแบบผง เอสเซนส์น้ำตบ ผงแต้มสิว ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง และแฮนด์ครีม สนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาไทย แบรนด์ BIJA HERBAL คลิก 3. NATURE LIFE HERB (เนเจอร์ไลฟ์เฮิร์บ) จากอดีตดีไซเนอร์สาวที่มีความห่วงใยคุณแม่ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ทำให้การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จึงต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก ผนวกกับการที่เธอได้คลุกคลีกับสมุนไพรมาตั้งแต่เด็ก จึงจุดประกายความคิด เริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับสบู่เพื่อสุขภาพ โดยเลือกใช้ขมิ้นชันพันธุ์แดงสยาม มาพัฒนาเป็นสบู่ขมิ้นผสมน้ำผึ้ง ตอบโจทย์ผู้มีผิวแพ้ง่าย ซึ่งปัจจุบันคือสินค้าขายดีอันดับ 1 ของแบรนด์ โดยส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาจากแปลงเกษตรอินทรีย์ที่ดูแลกันเองในครอบครัว มีทั้งแปลงขมิ้นชันพันธุ์แดงสยาม มะกรูด ว่านหางจระเข้พันธุ์พิเศษ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ที่ไม่มีในสวนสมุนไพรก็จะนำเข้ามาจากชุมชน ซึ่งถือเป็นการกระจายรายได้ให้ชุมชนต่างๆ อีกทางหนึ่ง จุดเด่นของ Nature Life Herb คือ มอบกลิ่นแท้จากธรรมชาติของทุกส่วนผสมให้กับผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของผิว ของเส้นผม นอกจากนี้ยังได้พัฒนาสินค้าสปา ก้านไม้หอมระเหยขึ้นมา เพื่อช่วยในการนอนหลับได้ง่ายขึ้น และผ่อนคลายอีกด้วย ซึ่งกลิ่นที่ขายดีคือกลิ่น Secret Garden ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่าที่สดชื่น มีสมุนไพรที่ผสมผสานกันแล้วดีต่อการหายใจ สนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาไทย แบรนด์ NATURE LIFE HERB…
Editor
12 August 2021
Happening

Power Exclusive:
สมเด็จพระพันปีหลวง
กับพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกร
แรงบันดาลใจแห่งผ้าไทยในระดับสากล

กว่า 40 ปี ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงอนุรักษ์และส่งเสริมการใช้ผ้าไหมไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เสริม ตลอดจนเพื่อธำรงรักษาและฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมแบบไทยโบราณที่กำลังจะเสื่อมสูญไปตามกาลเวลาให้กลับมาแพร่หลาย นับเป็นพระราชกรณียกิจเพื่อราษฎรที่ปัจจุบันผลิดอกออกผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนสมดั่งพระราชปณิธานในทุกมิติคนไทยส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ทางภาคอีสานนั้นมีเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก ในขณะเดียวกันการทอผ้าก็เป็นภูมิปัญญาและสิ่งที่ชาวบ้านคุ้นเคย แต่ละถิ่นพื้นที่จะมีลวดลายและความงามที่เป็นเอกลักษณ์ ขาดเพียงผู้สนับสนุน ส่งเสริม และเปิดโอกาสให้ช่างทอผ้าชาวบ้านเหล่านั้นได้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ ในพระบรมราชินูปถัมภ์” จึงจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในระยะยาว “แม้แต่ผ้าถูเรือนก็อย่าได้ละเลย” มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ นั้นได้วางรากฐานสำคัญในการต่อยอดผ้าไทยให้ก้าวไกลไปสู่ระดับสากล ด้วยการแนะนำให้ปรับการทอให้มีขนาดที่เป็นมาตรฐานมากขึ้น มีการให้ความรู้เทคนิคการทอผ้าใหม่ๆ การทดลองที่อาจนำไปสู่การสร้างลวดลายที่แตกต่างไปจากเดิมได้ รวมไปถึงการลงพื้นที่เพื่อรวบรวมเก็บตัวอย่างลายผ้าทอในแต่ละท้องถิ่นทุกชิ้นอย่างเห็นคุณค่าด้วยแรงบันดาลใจอันเปี่ยมล้น ทั้งจากโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และจากการที่พระองค์ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยในโอกาสต่างๆ เป็นประจำ จนทำให้ชื่อเสียงของผ้าไทยขจรขจายไปทั่วโลก ทำให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธานของพระอัยยิกาในการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ตลอดจนพัฒนางานผ้าไทยให้ร่วมสมัยและมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น ทรงนำความรู้และประสบการณ์จากการตามเสด็จ การศึกษางานผ้าทั้งในและต่างประเทศด้วยพระองค์เอง รวบรวมให้เกิดเป็นองค์ความรู้ที่มีประโยชน์ต่อการต่อยอดงานศิลป์อันล้ำค่าของแผ่นดินนี้ต่อไปตลอดเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงนำ “SIRIVANNAVARI BANGKOK” แบรนด์ไทย ภายใต้การสร้างสรรค์โดยดีไซเนอร์ไทย และมีผ้าไทยเป็นส่วนประกอบสำคัญ อวดความงดงามบนรันเวย์ของแฟชั่นวีกระดับโลกมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง รวมไปถึงทรงฉลองพระองค์ชุดไทยเสด็จทรงงานอยู่เสมอ ซึ่งถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงมุมมองใหม่ๆ โดยเฉพาะความเป็นสากลที่ใช้ได้ดีในหลายโอกาสของผ้าไทยนั่นเองทั้งนี้ เมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงออกแบบลายผ้ามัดหมี่ ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” เพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ช่างทอผ้า เพื่อเป็นการจุดประกายความคิดในการพัฒนาลวดลายผ้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย สามารถก้าวสู่ระดับสากลเพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืนนอกจากนั้นยังทรงมีพระราชดำริให้จัดทำหนังสือ “Thai Textiles Trend Book Spring/Summer 2022” โดยทรงเป็นบรรณาธิการด้วยพระองค์เอง ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และทีมที่ปรึกษา เป็นเทรนด์บุ๊กที่ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานผ้าไทยและเทรนด์แฟชั่นระดับโลกเอาไว้ ดังจะเป็นประโยชน์แก่นักออกแบบ ช่างทอผ้า ชุมชน และผู้ประกอบอาชีพทุกสาขา ในการศึกษาแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทยในอีก 2 ปีข้างหน้าอีกด้วย นับได้ว่าการก่อตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และศูนย์ศิลปาชีพกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ รวมไปถึงโครงการตามแนวพระดำริต่างๆ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ได้สืบสานการอนุรักษ์ผ้าไทย มิเพียงมีส่วนสำคัญยิ่งในการสร้างชื่อเสียงให้วงการแฟชั่นไทยเท่านั้น แต่ยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่า สร้างงานสร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พสกนิกรชาวไทย ควบคู่ไปกับการต่อลมหายใจให้กับศิลปะอันเป็นสมบัติของชาติได้อย่างแท้จริงขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก facebook.com/HRH-Princess-Sirivannavari-Nariratana-Rajakanya https://www.thaitextile.org/ facebook.com/sacict/ facebook.com/qsmtthailand/
Editor
12 August 2021