Flash

Louis Vuitton ลักซ์ชัวรีแบรนด์เก่าแก่สัญชาติฝรั่งเศสที่คนรักแฟชั่นทั่วโลกต่างหลงรัก ด้วยครบครันไปทั้งกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า และแอกเซสซอรีมากมาย ซึ่งนอกจากลวดลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของ Louis Vuitton ที่ทุกคนคุ้นเคย รวมไปถึงเรื่องของคุณภาพที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในฐานะแบรนด์แฟชั่นอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว แบรนด์สุดโปรดของใครหลายคนนี้ก็ยังมีเรื่องราวน่าสนใจที่ Power อยากจะเล่าให้ฟังLouis Vuitton ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เกิดที่เมือง Anchay ทางตะวันออกของฝรั่งเศส เมื่อปี 1821 หรือกว่า 200 ปีที่แล้ว ครอบครัวของเขามีอาชีพใช้แรงงานและเป็นช่าง เมื่ออายุได้ 10 ปี แม่ที่เป็นช่างทำหมวกก็เสียชีวิตลงและพ่อก็มีภรรยาใหม่ อีก 3 ปีต่อมาจึงตัดสินใจออกจากบ้านด้วยอยากที่จะสร้างชีวิตใหม่ โดยมีจุดหมายคือมหานครปารีส ว่ากันว่า Louis Vuitton เดินเท้าไปปารีส เพราะใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าจะไปถึง อันที่จริงเขาก็หางานทำไปเรื่อยระหว่างทางนั่นเอง ที่ปารีสเขาได้ฝึกงานกับ Monsieur Marechal ผู้ช่ำชองในการผลิตหีบบรรจุของ โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักคือเหล่าชนชั้นสูงที่ชอบเดินทางไปพักยังสถานที่ไกลๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง ปลอดภัย และหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของเขาก็คือ Eugénie de Montijo จักรพรรดินีองค์สุดท้ายของฝรั่งเศส นั่นจึงทำให้ชื่อของ Louis Vuitton เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างประสบการณ์ในวงการทำให้ Louis Vuitton มีไอเดียและมองเห็นลู่ทางในการต่อยอดธุรกิจ เขาปรับรูปโฉม “กระเป๋าเดินทาง” ให้มีน้ำหนักเบา เปลี่ยนวัสดุ ตลอดจนพัฒนาฟังก์ชันการใช้งาน กระทั่งปี 1854 จึงตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเองหลังจากที่เคี่ยวกรำฝึกวิชามากว่า 17 ปีเต็ม และร้าน Louis Vuitton ที่ขายกระเป๋าเดินทางอยู่บนถนน Neuve-des-Capucines ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ไม่กี่ปีหลังจากนั้นก็ได้ขยายสาขาไปยังเมืองต่างๆ แม้ว่าจะต้องเจอกับปัญหาน้อยใหญ่หลายครั้งอย่างสงครามและความไม่สงบของบ้านเมือง แต่ก็สามารถกลับมาได้ทุกครั้งหีบและกล่องสำหรับบรรจุสิ่งของยังคงเป็นสินค้าหลักของแบรนด์ Louis Vuitton แน่นอนว่าถึงจะเป็นเมื่อ 100 ปีที่แล้ว อะไรที่ขายดีก็ต้องมีการเลียนแบบ และเพื่อแก้ปัญหานี้แบรนด์จึงได้เพิ่มความซับซ้อนด้วยการใช้แคนวาสลายตารางที่มีชื่อว่า Damier แต่ก็ยังมิวายที่จะถูกก๊อบปี้อีกอยู่ดี จากนั้นไม่นาน Louis Vuitton ก็เสียชีวิต โดยมี Georges Vuitton ลูกชายเป็นผู้สานต่อทุกๆ อย่างที่ผู้เป็นพ่อได้สร้างขึ้นมา รวมไปถึงการขยับขยายไปสู่ไลน์การผลิตใหม่ๆ อย่างกระเป๋าแฟชั่น และการประดิษฐ์ลวดลายโมโนแกรมที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Louis Vuitton จวบจนวันนี้ เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 Louis Vuitton ยังไปต่อ เพราะหลังจากผลิตกระเป๋าถือที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแบรนด์หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Steamer Bag, Alma Bag และ Speedy Bag ซึ่งมีลูกค้าประจำอย่าง Audrey Hepburn และ Coco Chanel ทางแบรนด์ก็ยังไม่หยุดแสวงหาสิ่งใหม่แม้จะมีอายุเกินร้อยปีเข้าไปแล้ว ทั้งการพัฒนาในส่วนของเสื้อผ้าและเครื่องประดับ รวมไปถึงการคอลแลบกับอาร์ทิสต์สายอื่นๆ เป็นแบรนด์แรกๆ ของวงการแฟชั่นอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Louis Vuitton คือหนึ่งในแบรนด์ที่มีคนรักมากที่สุดในโลกไม่ว่ายุคสมัยใดพบกับ Louis Vuitton ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอดจนร้านค้าปลอดภาษีแบรนด์ดังจากทั่วโลกอีกมากมาย พร้อมมอบความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งให้กับนักเดินทาง ด้วย King Power Click & Collect บริการพิเศษที่ให้คุณช้อป…

เริ่มต้นปี 2022 ได้ไม่เท่าไร “LOEWE x Spirited Away” แคปซูลคอลเลคชั่นจากความร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ดัง LOEWE และ Studio Ghibli จากญี่ปุ่น ก็ทำให้บรรดาแฟนๆ ทั้งวงการแฟชั่นและอานิเมะต้องใจละลายกับความคิวต์นี้ไปตามๆ กัน ที่สำคัญนี่ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงท่าทีการเปลี่ยนแปลงของ LOEWE จากการเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกระเป๋าคุณภาพสูง สู่แฟชั่นไอเทมที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมร่วมสมัยได้อย่างชัดเจนอีกด้วย วันนี้ Power จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ LOEWE ให้มากขึ้น รวมไปถึงมูฟเมนต์สำคัญๆ ที่ทำให้พวกเขากลายเป็นแบรนด์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ปัจจุบัน LOEWE ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นที่เก่าแก่ที่สุดในเครือ LVMH แรกเริ่มเดิมทีแฟชั่นเฮาส์แบรนด์หรูจากสเปนนี้ เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มช่างฝีมือในกรุงมาดริดเมื่อปี 1846 แต่จุดเริ่มต้นของชื่อที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ เกิดขึ้นในปี 1876 เมื่อ Heinrich Loewe Rösberg เข้ามาร่วมทีม จากนั้น LOEWE ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเป็นผู้ผลิตเครื่องหนังที่ราชวงศ์สเปนให้ความไว้วางใจในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 อีกด้วย ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 LOEWE เริ่มให้ความสนใจในธุรกิจเสื้อผ้าพร้อมใส่มากขึ้น โดยยังคงความประณีตและคุณภาพ อันเป็นหัวใจของแบรนด์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นราวปี 1975 กระเป๋ารุ่น Amazona ก็ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางเสรีภาพของผู้คนที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสเปน Amazona ประกอบขึ้นจากแผ่นหนังคุณภาพสูง 61 ชิ้น เย็บด้วยมือโดยช่างผู้เชี่ยวชาญถึง 4 คน ผ่านการออกแบบรูปทรงกระเป๋าให้เรียบง่าย สามารถใช้งานได้หลากหลาย มีน้ำหนักเบา เพื่อความคล่องตัวสำหรับให้คุณสาวๆ นำติดตัวไปด้วยได้ตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเองจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในปี 2013 กับการมาถึงของ Jonathan Anderson ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ไฟแรงเจ้าของแบรนด์  JW Anderson ที่เข้ามารับหน้าที่เป็นครีเอทิฟไดเรกเตอร์คนล่าสุดของ LOEWE อันเป็นความตั้งใจของแบรนด์ที่จะแสวงหาและพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อ Jonathan Anderson ได้เนรมิตกระเป๋ารุ่น Puzzle Bag ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Amazona ใบเก่าขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีดีไซน์ที่ซับซ้อนและทันสมัยขึ้น แน่นอนว่าได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นภาพจำของ LOEWE ไปในที่สุด Jonathan Anderson มองว่า การที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งจะยังคงได้รับความสนใจในปัจจุบัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถือกำเนิดมานานเท่าไรแล้วก็ตาม สิ่งๆ นั้นจะต้องสะท้อนให้เห็นทั้งอดีตและปัจจุบัน สามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันได้ หากศิลปะเป็นเรื่องของปฏิกิริยาที่มีต่อห้วงขณะนั้นๆ แฟชั่นก็เช่นกันนอกจากการผสมผสานโลกของแฟชั่นกับวัฒนธรรมแล้ว LOEWE ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการเดินหน้าค้นคว้า วิจัย และใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบที่มีต่อโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ การผลิต แพ็กเกจจิง ไปจนถึงการบริหารจัดการร้านค้า อย่างที่ในปี 2019 กับคอลเลคชั่น Eye/LOEWE/Nature ที่ความพยายามของพวกเขาสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 25% และยังคงไม่หยุดพัฒนาบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่แบรนด์เก่าแก่จากศตวรรษก่อนสามารถที่จะครองใจของผู้คนมากมายในวันนี้ได้ การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นพ็อปคัลเชอร์จากอีกซีกโลก การทำลายกำแพงเรื่องเพศในแฟชั่น ไปจนถึงการให้ความสำคัญกับสังคมส่วนรวมโดยไม่ละทิ้งคุณภาพของแบรนด์ สิ่งเหล่านี้ล้วนบอกให้เรารู้ว่า ความโด่งดังของ LOEWE ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และการโน้มเอียงเข้าหาความมีชีวิตชีวาของโลกสมัยใหม่นั้น ดูจะไปด้วยกันได้ดีกับความหรูหราคลาสสิกอย่างที่สุดพบกับ LOEWE ได้แล้ววันนี้ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอดจนร้านค้าปลอดภาษีแบรนด์ดังจากทั่วโลกอีกมากมาย พร้อมมอบความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งให้กับนักเดินทาง ด้วย King Power Click & Collect บริการพิเศษที่ให้คุณช้อป ดิวตี้…